ูเี่อันรู้สึกตื่นเต้นตลอดการเดินทางไปหาถังอวี้หลัน
“ลู่เป๋าเหยียน นายมีแม่แบบคุณน้าถังต้องมีความสุขมากแน่ๆ”
นี่เป็จุดที่เธออิจฉาเขามากที่สุด
ั้แ่แต่งงานกันมา ูเี่อันยังคงเรียกคุณน้าถังดังเดิม ถึงแม้ว่าคุณน้าถังจะบอกให้เปลี่ยนวิธีเรียกเธอหลายครั้งแล้วก็ตาม
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วแล้วพูดเตือนเธอ “ูเี่อัน พวกเราแต่งงานกันแล้ว เพราะฉะนั้นแม่ฉันก็คือแม่เธอ”
ั้แ่แม่เธอเสียไป สำหรับเธอแล้วความรักของแม่เป็สิ่งที่มีค่าที่สุด ที่เขาพูดแบบนี้หมายความว่า...เขายอมแบ่งความรักของแม่เขาให้เธออย่างนั้นเหรอ
“ลู่เป๋าเหยียน นายทำฉันซึ้งเลยนะเนี่ย...ถึงแม้จะแค่สองปี แต่รับรองว่าฉันจะปฏิบัติตัวและดูแลแม่นายเหมือนกับแม่ของตัวเองเลย” เธอพูดอย่างจริงใจ “ขอบคุณมาก!”
“...” ลู่เป๋าเหยียนแค่อยากให้เธอเปลี่ยนวิธีเรียกแม่เขาเท่านั้น เธอดันตีความไปซะไกล เื่แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว?
ท่าทางดีใจเสียจนเขาทำใจเถียงกลับไม่ลง
ถังอวี้หลันรอูเี่อันมาตลอดเช้า เธอโบกมือใหู้เี่อันอย่างดีใจ “เจี่ยนอัน เข้ามาเร็วลูก”
ูเี่อันเดินไปหาถังอวี้หลัน เธอเม้มปากเล็กน้อยแล้วจึงเริ่มเรียกอย่างเป็ทางการ
“แม่คะ หนูมาแล้วค่ะ”
ถังอวี้หลันรอคำว่า “แม่” คำนี้มานานแสนนาน เมื่อได้ยินครั้งแรก เธอถึงกับสงสัยหูตัวเองว่าได้ยินผิดหรือเปล่า เธอจ้องูเี่อันตาโต นึกอยากจะย้อนเวลากลับไปเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้า เพื่อจะได้มีโอกาสฟังคำนั้นอีกครั้ง
ูเี่อันถูกจ้องเสียจนทำอะไรไม่ถูก “เป็อะไรหรือเปล่าคะแม่”
คราวนี้ถังอวี้หลันได้ยินเต็มสองหู เธอเข้าไปกอดูเี่อันเต็มแรง “เด็กดี”
ูเี่อันยิ้ม เธอกอดถังอวี้หลันกลับเบาๆ
อ้อมกอดของแม่ที่ไม่ได้ััมานาน บนโลกนี้คงมีเพียงแต่ถังอวี้หลันเท่านั้น ที่สามารถทำให้เธอได้รู้สึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของแม่ได้อีกครั้ง
ถังอวี้หลันตื่นเต้นมากจนลืมลูกชายตัวเองไปเสียสนิท “เป๋าเหยียนล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอจ๊ะ”
“เขาอยู่ข้างหลังค่ะ”
ูเี่อันพูดจบ ลู่เป๋าเหยียนก็เดินเข้าประตูมา ถังอวี้หลันพูดอย่างดีใจ
“เดี๋ยววันนี้แม่ลงครัวทำข้าวเที่ยงให้ทานเอง เจี่ยนอัน ฝีมือทำอาหารที่ฉันมี ได้มาจากแม่หนูทั้งนั้นเลยรู้ไหมจ๊ะ”
ูเี่อันพยักหน้าอย่างคาดหวัง “ค่ะ”
“เป๋าเหยียนได้บอกหนูหรือเปล่าว่าที่นี่คือบ้านเก่าของพวกเรา” ถังอวี้หลันมองไปรอบๆ บ้าน “เป๋าเหยียนอยู่ที่นี่มาั้แ่เกิด จนกระทั่งเกิดเื่นั้นขึ้น พวกเราถึงจำเป็ต้องย้ายไปต่างประเทศ...”
เราทุกคนล้วนมีเื่เศร้าในใจ เื่น่าเศร้าของถังอวี้หลันคือเหตุการณ์เมื่อสิบสี่ปีที่แล้ว ูเี่อันไม่อยากให้ถังอวี้หลันนึกถึงความทรงจำนั้นอีก จึงยิ้มถามไปว่า
“จริงเหรอคะ ตอนเด็กเขาพักห้องไหนคะ”
ถังอวี้หลันจับมือูเี่อันไปวางบนมือลู่เป๋าเหยียน “เป๋าเหยียน พาหนูเจี่ยนอันไปดูสิ ระหว่างนั้นแม่จะได้ไปเตรียมอาหารให้พวกลูกไง”
ูเี่อันรู้สึกไม่ค่อยเหมาะ คิดจะดึงมือออก แต่เหมือนลู่เป๋าเหยียนรู้ทันเธออย่างนั้นแหละ เขารีบจับมือเธอแน่นขึ้น
“อยู่ชั้นสอง ตามฉันมา”
มือของเขาไม่ได้หยาบกร้านเหมือนผู้ชายคนอื่น ยามที่มืออันอบอุ่นของเขากุมมือเธอ เธอมักจะรู้สึกปลอดภัย
แตู่เี่อันรู้ดีว่า มือคู่นี้คงไม่สามารถจูงมือเธอไปได้ตลอดชีวิต
พอขึ้นมาชั้นบน เธอก็เนียนปล่อยมือออกจากมือลู่เป๋าเหยียน เธอเดินสำรวจไปมาในห้องนอนสมัยเด็กของเขาและสรุปได้ว่า
“ลู่เป๋าเหยียน ที่แท้นายน่าเบื่อแบบนี้ั้แ่เด็กเลยสินะ”
ห้องนอนใหญ่โตขนาดนี้ แต่นอกจากเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานแล้ว มีเพียงชั้นหนังสือที่มีหนังสือวางอยู่เต็มไปหมด อย่าว่าแต่โมเดลฟิกเกอร์หรือของเล่นอย่างอื่นเลย แม้ว่านิตยสารการ์ตูนที่เด็กผู้ชายปกติทั่วไปนิยมอ่านสักเล่มก็ไม่มี
ลู่เป๋าเหยียนอดยิ้มไม่ได้ “ห้องเธอสมัยเด็กก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้เท่าไร”
ั้แ่เด็กูเี่อันไม่สนใจพวกตุ๊กตาหรือของเล่นนุ่มนิ่มแม้แต่น้อย งานอดิเรกเพียงอย่างเดียวของเธอคือการอ่านการ์ตูนและเก็บสะสมนิยายสืบสวน แม่และคุณน้าถังบ่นเธอประจำว่า ห้องเธอไม่เหมือนห้องเด็กสาวเท่าที่ควร ตอนนั้นลู่เป๋าเหยียนก็อยู่ด้วย เธอยังจำได้ดีว่าในตอนนั้นเขาทำสายตาแปลกๆ ใส่เธอ
เธอยืดอกเถียงกลับไปอย่างมั่นใจว่า “นั่นเพราะว่างานอดิเรกฉันตอนเด็กค่อนข้างจะ...พิเศษ”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้ว “เธอไม่เหมือนคนอื่นเรียกว่าพิเศษ ส่วนฉันไม่เหมือนคนอื่นเรียกน่าเบื่อ?”
“อะแฮ่ม...” ูเี่อันลูบจมูกอย่างเสียเซลฟ์นิดๆ เธอรีบเบนความสนใจไปยังกล่องที่วางอยู่้าชั้นวางหนังสือทันที
“ข้างในนั้นเก็บของเล่นสมัยเด็กของนายไว้หรือเปล่า” พูดจบเธอก็ทำท่าจะไปหยิบลงมา
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตามองอย่างอันตราย ของในกล่องนั่นจะใหู้เี่อันเห็นไม่ได้เด็ดขาด!
เพราะขายาวกว่า เขาเดินสองสามก้าวก็มาถึงข้างกายูเี่อัน เขาจับมือเธอไว้แล้วลากเธอออกมา
“โอ๊ย...” ูเี่อันเสียหลัก เธอล้มหน้าทิ่มลงไปในอ้อมอกของลู่เป๋าเหยียน
คราวนี้เธอ ‘ล้มหน้าทิ่ม’ จริงๆ ปากของเธอแนบชิดกับหน้าอกลู่เป๋าเหยียนพอดิบพอดี
ลู่เป๋าเหยียนวันนี้สวมเสื้อเชิ้ตเนื้อผ้าบางเบา ทำให้รู้สึกได้ถึงริมฝีปากอันเธอนุ่มนิ่มได้อย่างชัดเจน ใจเขาถึงกับเต้นผิดจังหวะ ความรู้สึกแปลกๆ ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในใจ
เขาอยากจะ...กอดเธอไว้อย่างนี้
หน้าของูเี่อันร้อนจนแดงก่ำ เธอขืนตัวเพื่อจะยืนให้ตรงแล้วถลึงตามองคนผิดอย่างเคืองๆ
“ลู่เป๋าเหยียน!”
“ูเี่อัน อย่าแตะต้องของของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต มันไม่มีมารยาท”
คำพูดเดียวของเขาปิดปากูเี่อันได้สำเร็จ
ูเี่อันพูดกลับอย่างไม่พอใจ “ไม่ดูก็ได้” พูดจบเธอก็เดินฟึดฟัดออกจากห้องไป
เมื่อเห็นเธอเดินออกไปแล้ว ลู่เป๋าเหยียนถึงหยิบกล่องอันนั้นลงมาแล้วเปิดออก สิ่งที่อยู่ด้านในคือภาพถ่ายหนึ่งใบที่ดูมีอายุ แต่ถูกเก็บรักษาคงสภาพเดิมไว้เป็อย่างดี
ูเี่อันเดินมาที่ห้องครัว เห็นถังอวี้หลันกำลังหันผักอยู่พอดี เธอจึงม้วนแขนเสื้อขึ้น พูดด้วยเสียงอ่อนโยน
“หนูช่วยนะคะแม่”
ยังไม่ทันที่ถังอวี้หลันจะตอบรับ เธอก็หยิบมันฝรั่งขึ้นมาเริ่มลงมือหั่น
ถังอวี้หลันยิ้ม แล้วจึงนึกอะไรขึ้นมาได้ “เดี๋ยวแม่ขึ้นไปหยิบของข้างบนหน่อยนะจ๊ะ”
ขณะที่กำลังเดินผ่านห้องของลูกชาย ถังอวี้หลันก็เห็นเขากำลังยืนมองรูปถ่ายในมือ
‘คงเป็รูปของพ่อตอนยังมีชีวิตอยู่สินะ’ ถังอวี้หลันถอนหายใจ แล้วจึงเดินเข้าห้องไป
“เป๋าเหยียน”
ลู่เป๋าเหยียนได้ยินเสียงแม่เรียกตน จึงรีบเก็บรูปเข้าไปในกล่อง
“มีอะไรหรือเปล่าครับแม่”
ถังอวี้หลันจับให้ลูกชายนั่งลง “วันนี้ที่ลูกกลับมา เพราะเจี่ยนอันบอกให้มาด้วยใช่หรือเปล่า แม่บอกแล้วว่าเจี่ยนอันเป็เด็กดีกว่าที่ลูกคิด อย่างน้อยเธอก็คิดจะมาเยี่ยมคนแก่คนนี้” ถังอวี้หลันยิ้มอย่างภูมิใจ “รับปากกับแม่สิ ว่าจะดูแลเธออย่างดีไปตลอด”
“ครับ แม่วางใจได้ ถ้าผมยังอยู่ เธอจะไม่มีวันได้รับอันตรายใดๆ” สายตาคมดุจเหยี่ยวของเขาสะท้อนความมั่นใจออกมาเต็มเปี่ยม
ถังอวี้หลันพยักหน้าแล้วตีมือลูกชายเบาๆ “งั้นแม่ไปหยิบของที่ห้องก่อนนะ”
ลู่เป๋าเหยียนเดินไปส่งแม่ที่หน้าประตูแล้วจึงหันกลับเข้าห้องมา เขามองรูปภาพที่เก็บเอาไว้เป็สิบกว่าปีใบนั้นอีกครั้ง แล้วจึงปิดกล่องเก็บเข้าที่เดิม เสร็จแล้วจึงเดินกลับลงไปชั้นล่าง
ูเี่อันยังคงหั่นผักอยู่ในห้องครัว เมื่อถังอวี้หลันหยิบของที่้าเสร็จ ก็จูงลู่เป๋าเหยียนให้เดินเข้ามาพร้อมกัน แต่ทั้งสองคนถึงกับต้องชะงัก
ไม่ว่าจะเป็ผักหรือเนื้อ ูเี่อันได้หั่นอย่างสวยงามและเรียงใส่จานอย่างเป็ระเบียบ โดยเฉพาะมันฝรั่งที่ทุกชิ้นเธอหั่นได้บางขนาดเท่าๆ กัน ฝีมือการใช้มีดของเธอเหนือชั้นกว่าเชฟมืออาชีพเสียอีก
“เจี่ยนอัน...” ถังอวี้หลันถามอย่างอึ้งๆ “หนูเคยเรียนการใช้มีดมาเหรอลูก”
“แม่ครับ” ลู่เป๋าเหยียนช่วยเตือนความจำแม่ “เธอเป็แพทย์นิติเวช”
ขนาดคนเธอยังผ่าได้อย่างสวยงาม นับประสาอะไรกับมันฝรั่ง?
ถังอวี้หลันถึงกับกระจ่าง “เจี่ยนอัน แม่ได้ยินมาว่าในงานเลี้ยงวันก่อน ยัยหนูตระกูลเฉินดูถูกที่หนูเป็แพทย์นิติเวชใช่ไหม ฮึ วันหลังแม่จะพาเธอมาชมฝีมือการใช้มีดของหนู รับรองคราวหน้าถ้าเธอเจอหนูอีก จะต้องกลัวจนตัวสั่นร้องเรียกหนูว่าอาซ้อเลยล่ะ”
ูเี่อันเหงื่อตก ท่าทางแม่สามีเธอก็ไม่ใช่คนที่ใครควรจะมาหาเื่ด้วย...
ถังอวี้หลันถามลู่เป๋าเหยียนอีกว่า “เป๋าเหยียน คืนนี้ลูกไม่ติดธุระอะไรใช่ไหม”
ลู่เป๋าเหยียนตอบไปตามจริง “ครับ”
ถังอวี้หลันยิ้มอย่างพอใจ เธอเดินไปหาูเี่อัน
“เจี่ยนอัน ถ้างั้นคืนนี้พวกหนูค้างที่นี่ดีไหมจ๊ะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ”
ลู่เป๋าเหยียนสบโอกาสที่แม่เขาไม่รู้ตัว รีบหรี่ตาส่งสัญญาณใหู้เี่อันหาข้ออ้างปฏิเสธไป
ูเี่อันดีใจมาก เธอไม่เห็นว่าจะมีปัญหาตรงไหน จึงมองลู่เป๋าเหยียนด้วยสายตาแปลกๆ แล้วพยักหน้าตอบรับไป
“ได้สิคะ สองวันนี้หนูไม่มีธุระอะไรพอดีเลยค่ะ” เธออยากอยู่กับถังอวี้หลันนานๆ
เื่ราวมาถึงจุดนี้แล้ว ลู่เป๋าเหยียนจะทำอะไรได้ เอาเถอะ ถึงเวลาคนที่เดือดร้อนคงไม่ใช่เขา
ถังอวี้หลันยิ้มอย่างดีใจ เธอผูกผ้ากันเปื้อนและเริ่มลงมือทำอาหาร
ซุปซี่โครงหมู มันฝรั่งตุ๋นเนื้อวัว ปลากะพงนึ่ง กุยช่ายผัดไข่ คะน้าน้ำมันหอย กับข้าวทั้งหมดใกล้จะเสร็จดีแล้ว ถังอวี้หลันจึงใหู้เี่อันลองชิมรสชาติ
“ลองชิมดูว่ารสชาติคล้ายที่แม่หนูทำไหม กับข้าวพวกนี้เป็ของถนัดแม่หนูทั้งนั้น”
เมื่อก่อนเธอชอบกินมันฝรั่งตุ๋นเนื้อวัวฝีมือแม่ที่สุด หลังลองชิมดูก็พบว่ารสชาติเหมือนที่แม่เธอทำทุกอย่าง
เธอยิ้มน้ำตาซึม “เหมือนมากค่ะ”
ถังอวี้หลันยิ้มอย่างดีใจ “งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะจ้ะ”
ูเี่อันนั่งลงแล้วจึงเริ่มตักซุปส่งให้ถังอวี้หลัน และตักให้ลู่เป๋าเหยียนเป็คนต่อไปอย่างมีมารยาท
“ลองชิมซุปก่อนสิ”
ลู่เป๋าเหยียนมองภรรยาเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แต่เห็นแม่เขากำลังยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวลูกสะใภ้เสียขนาดนั้น จึงได้แต่ยิ้มกลับไป “ขอบคุณ”
“ไม่เป็ไร” วันนี้เธออารมณ์ดีเป็พิเศษ กับข้าวบนโต๊ะทุกอย่างในวันนี้ช่างเลิศรส ั้แ่แม่จากไป มื้อนี้เป็มื้อที่อร่อยที่สุดที่เธอกินมา
หลังจบมื้ออาหาร คนรับใช้ก็ยกผลไม้ออกมา ถังอวี้หลันมองพวกเธอสองคนด้วยสีหน้าจริงจัง
“เจี่ยนอัน เป๋าเหยียน มีเื่หนึ่งที่แม่ต้องปรึกษากับพวกลูกอย่างจริงจังเสียที”
“พวกลูกวางแผนจะมีลูกเมื่อไร นี่แม่คิดชื่อหลานสาวหลายชายเอาไว้ได้หลายชื่อแล้วนะ”
พรืด! ได้ยินดังนั้นูเี่อันถึงกับพ่นน้ำที่เพิ่งดื่มออกมาโดยไม่รู้ตัว