บทที่ 195 เจรจา
“ใต้เท้าฉู่! นี่ไม่เหมาะกระมัง? แม้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะมาจากตระกูลฉู่ แต่เขากลับปลอมตัวเป็คนอื่น มีเจตนาชั่วร้าย เขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา ซ้ำยังทำร้ายลูกชายของข้า คิดจะมาขโมยว่าที่เ้าสาว!”
“ตอนนี้ แม้แต่ฉู่เจิ้นหนานก็ถูกเขารังแก พฤติกรรมของเขาหยิ่งยโสราวกับปีศาจในวัยละอ่อน นี่เป็ความผิดร้ายแรง ให้ตระกูลเสวี่ยของเราลงโทษเขาก็คงไม่เกินไปกระมัง?”
เมื่อเห็นว่าผู้าุโทุกคนในตระกูลเสวี่ยถูกห้ามและไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เสวี่ยจิงหงจึงพูดขึ้นทันที บอกกับฉุ่เจียงเป็นัยๆ ว่าเ้าเมืองชุยเสวี่ยเกลียดฉู่อวิ๋นมาก ้าฆ่าเขาทันที
“งูหนูอยู่เต็มรัง มีสุนัขเฒ่าะโเข้ามาอีกตัวแล้ว! ใหญ่รังแกเล็ก!”
ฉู่อวิ๋นพูดอย่างเ็า เช็ดเืออกจากมุมปาก ระงับรณทระนงไว้ชั่วคราว และใช้โอกาสนี้เปิดใช้งานิญญากระบี่บาป์เพื่อฟื้นฟูพลังปราณ
“ผู้นำเสวี่ย ท่านไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น”
ในขณะเดียวกัน ฉู่เจียงก็ยืนขึ้น ยืนกรานไม่ยอมให้ใครทำอะไรและพูดอย่างถือสิทธิ์ “ชายคนนี้ย่อมมีความผิด แต่เขามีสายเืของตระกูลฉู่ แม้ว่าจะมหันต์ แต่ก็ยังไม่ถึงคราวให้คนนอกมาลงโทษเขา”
เมื่อได้เช่นนั้น ทุกคนก็ตกตะลึงทันที เดิมทีพวกเขาคิดว่าคนจากเชื้อสายหลักกำลังเข้าข้างฉู่อวิ๋น
แต่ที่แท้เขาเพียง้าใช้สิทธิ์ของตนเริ่มการไต่สวน ้าใช้อำนาจตัดสินเป็ตายอยู่ในกำมือตน
“ควับ!”
ทันใดนั้น รัศมีอันทรงพลังก็เบ่งบาน นี่คือพลังของผู้แข็งแกร่งในขั้นพื้นพิภพ ทรงพลังและเดือดพล่าน
มองเห็นฉู่เจียงยืนขึ้น พุ่งข้ามความว่างเปล่า ทั้งร่างของเขาราวกับเตาหลอมขนาดใหญ่ มีพลังมหาศาล ะโไปข้างๆ ฉู่เจิ้นหนาน จากนั้นเอื้อมมือออกไปตบเขาหนึ่งที
“เวิ้ง—”
ฉับพลัน ฉู่เจิ้นหนานรับรู้ได้ถึงพลังปราณอันทรงพลังกำลังเข้าสู่ร่างกายของเขา ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย พลังและเืเริ่มไหลเวียนอีกครั้ง ร่างกายเริ่มขยับได้
“ขอบคุณใต้เท้า” จิ้งจอกเฒ่าขอบคุณเขาด้วยน้ำเสียงแ่เบา รู้ว่าเป็ฉู่เจียงที่ช่วยเขาต่อต้านการถูกปราม
แต่ฉู่เจิ้นหนานไม่ได้พอใจนัก เขากลับขมวดคิ้วและไม่กล้าพูดเต็มเสียง เพราะการที่ถูกฉู่อวิ๋นทำให้อับอายในวันนี้ จะทำให้เขาเสียชื่อ ชื่อเสียงป่นปี้ไปหมดแล้ว
สิ่งนี้ทำให้เขาทนไม่ไหว ความ้าฆ่าฉู่อวิ๋นที่ปะทุอยู่ในใจมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉู่เจียงสูดลมหายใจอย่างเ็า ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว พูดกับฉู่อวิ๋น “เ้าคือฉู่อวิ๋น? ลูกชายของฉู่ซานเหอน่ะหรือ?”
เมื่อได้ยินชื่อบิดา ฉู่อวิ๋นก็สะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นแววตาของเขาก็สว่างวาบและตอบว่า “ถูกต้อง! ข้าคือฉู่อวิ๋น บิดาชื่อฉู่ซานเหอ ทายาทของตระกูลย่อยฉู่ เชื้อสายไป๋หยาง”
“อืม...แววตาของเ้ากับคนคนนั้นคล้ายกันมาก ทั้งมุ่งมั่นและเปี่ยมด้วยพลัง”
ฉู่เจียงพึมพำด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยราวกับรู้สึกเสียใจ ฉู่อวิ๋นงุนงง หรือว่าที่ทูตจากเชื้อสายหลักคนนี้รู้จักบิดาของเขา?
แต่ครู่ต่อมา ฉู่เจียงก็หลับตาและถอนหายใจ ก่อนจะหันกลับมามองอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง
“ข้าพอจะรู้เื่ของเ้ามาบ้าง กระบี่ในมือเ้าคือกระบี่โบราณที่สามารถปรามคนในตระกูลได้ใช่หรือไม่?” ฉู่เจียงพูดน้ำเสียงจริงจัง มีเพียงฉู่อวิ๋นเท่านั้นที่ได้ยิน เพราะมันเกี่ยวข้องกับเื่ใหญ่
อันที่จริง เหตุผลที่ฉู่เจียงยังไม่ทำอะไรฉู่อวิ๋น ต่อให้อีกฝ่ายจะทำให้ฉู่เจิ้นหนานต้องอับอาย เพราะ้าวิเคราะห์กระบี่ชื่อยวน เพื่อดูว่ามันมีพลังทางิญญาจริงๆ ตามข่าวลือหรือไม่
ในขณะเดียวกัน ทูตจากเชื้อสายหลักคนนี้ก็อยากให้ฉู่เจิ้นหนานได้รับบทเรียนเพื่อแก้แค้น เพราะเ้าจิ้งจอกเฒ่าผู้นี้เคยปิดบังเขา ทั้งยังหมกเม็ดรวบรวมของหมั้นจากสามตระกูล จนเกือบทำให้เขาต้องใช้องครักษ์เทวัญฆ่าคน
ผลก็คือ หลังจากรบจบ ฉู่เจียงก็ได้รู้ว่าข่าวลือนั้นเป็เื่จริง
“เกี่ยวอะไรกับเ้า?” แต่ฉู่อวิ๋นยังคงหยาบคาย ไม่ได้มองฉู่เจียงในแง่ดี ทำให้เขาขมวดคิ้ว
“อารมณ์ดื้อรั้นนี้ก็เหมือนกับคนคนนั้นทุกประการ! สมกับที่เป็พ่อลูก” ฉู่เจียงพึมพำกับตัวเองโดยไม่ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะรู้ว่าคำถามเมื่อครู่เป็คำถามที่ไร้สาระ
จากนั้นเขาก็เปลี่ยนหัวข้ออีกครั้ง ดวงตาเป็ประกาย เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ช่างเป็ลูกหลานสายย่อยที่ดีจริงๆ ไม่เพียงได้รับอาวุธแปลกๆ จากบรรพบุรุษเท่านั้น แต่ยังกลืนกินิญญาศักดิ์สิทธิ์ได้อีกด้วย ทักษะกระบี่ของเขานั้นเหนือธรรมดา”
“และด้วยการฝึกฝนระดับเก้าขอบเขตควบแน่นพลังปราณ กลับสามารถท้าทายขั้นมหาสมุทรระดับสูงได้ และยังกล้ามาแข่งขันกับขั้นพื้นพิภพ พร์และความกล้าหาญช่างโดดเด่นจริงๆ”
“กวาดมองไปทั่วเมืองหลวงของราชวงศ์เซี่ยตะวันออก มีอัจฉริยะเช่นเ้าเพียงไม่กี่คนเท่านั้น”
ทันทีที่คำพูดชื่นชมของฉู่เจียงหลุดออกมา ผู้ชมที่ตกตะลึงอยู่ก็รู้สึกตัว เมื่อนึกถึงอดีต ต่างก็หวาดกลัวจนตัวสั่นเทา แม้แต่เ้าสำนักและผู้นำตระกูลเล็กๆ บางส่วนก็ยังหวั่นวิตก หลั่งเหงื่อเย็นเยียบโดยไม่รู้ตัว
แม้แต่คนที่ต่อสู้อยู่กลางอากาศก็หยุดทันทีและกลับมาที่พื้นเพื่อรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ช่างเป็คำพูดที่ปลุกให้ตื่นจากฝัน! ฉู่อวิ๋นก็คืออวิ๋นชู อวิ๋นชูก็คือซิวหลัวหน้าผีในตอนนี้ ความสำเร็จของสามร่างนี้ช่างน่าอัศจรรย์!”
“ฉู่อวิ๋นอยู่ที่ระดับเก้าขอบเขตควบแน่นพลังปราณ… ์! นี่… คิดๆ ไปแล้วก็น่ากลัวมากนะ”
ทุกคนตกตะลึง หลังจากรู้ความจริงที่น่าใ ก็รู้สึกเหมือนหัวจะะเิ ลำคอตีบตัน
ฉู่อวิ๋นผู้นี้ปลอมตัวเป็คนป่า แรกเริ่มเขาได้รับชัยชนะจากการประชันห้าั เอาชนะโม่ซิวได้ จากนั้นก็เอาชนะอัจฉริยะร่วมรุ่นอย่างเสวี่ยหานเฟย ถัดมาก็ต่อสู้กับเสวี่ยจิงหงอย่างไม่เกรงกลัวแรงกดดัน และแม้กระทั่งต่อสู้กับฉู่เจิ้นหนาน ใช้พลังอันลึกลับลบหลู่เขา ช่างเป็ตำนานจริงๆ
และฉู่อวิ๋นก็เป็เพียงนักรบระดับเก้าในขอบเขตควบแน่นพลังปราณ ยังไม่ได้ควบแน่นของเหลวแก่นแท้แม้แต่หยดเดียว
โรคจิต คนบ้า มารปีศาจ คนคลั่งกระบี่! นี่คือคำที่ทุกคนใช้ประเมินฉู่อวิ๋นในยามนี้
“ไอ้สารเลวนี่มีอะไรดี?!!” แม้ว่าเสวี่ยหานเฟยจะแค้นเพียงใด แต่เขาก็ยังรับรู้ได้ถึงความสำเร็จของฉู่อวิ๋น รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง
จริงๆ แล้วในขณะนี้ คุณชายชุยเสวี่ยในสายตาของหลายๆ คนตกต่ำลงเรื่อยๆ
เมื่อเทียบกับฉู่อวิ๋นแล้ว ชื่ออัจฉริยะที่ใช้เรียกเขามีอะไรพิเศษ? นี่เรียกว่าการตัดสิน
“ผู้ชายคนนี้... หลอกใช้ข้ามานานแล้วจริงๆ ด้วย! อวิ๋นชู? ฉู่อวิ๋น? ที่แท้เขาหลอกใช้ข้า…”
“เดิมทีมีงานมงคลคู่มันคงจะดีที่สุดสิ! ทำไมกัน?!”
ในเวลาเดียวกัน เสวี่ยหรูเยียนก็มีความรู้สึกผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก นางสับสนมึนงง ั้แ่ฉู่อวิ๋นเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง จนถึงตอนนี้ นางเพิ่งกลับมาได้สติ
ดังคำพูดที่ว่า รักเกินหยั่งชังเกินแค้น เสวี่ยหรูเยียนรู้สึกอึดอัดมากยิ่งขึ้น นางรู้สึกว่าไข่มุกในมือหลุดลอยไปไกล แต่ยังคงผูกพันกับฉู่อวิ๋นอยู่บ้าง
จะวิเศษเพียงใดถ้าอัจฉริยะเช่นนี้ได้มาเป็สามีของนาง?
แต่เสวี่ยหรูเยียนก็รู้ว่าสิ่งนี้ไม่มีทางเป็ไปได้ เพราะนางตัดสัมพันธ์กับฉู่อวิ๋นต่อหน้าผู้คนแล้ว จึงมานึกเสียใจเอาตอนนี้
ครู่หนึ่ง ทั้งลานเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย และต่างก็อุทาน
ในที่สุด หัวข้อต่างๆ ก็เป็ไปในทิศทางเดียวกัน
“ฉู่อวิ๋นผู้นี้มีความสามารถมาก อนาคตย่อมสดใส แต่เขาไม่ลังเลที่จะยอมตกอยู่ในอันตรายเพื่อทำลายงานแต่งงาน หรือที่ฉู่เจิ้นหนานบังคับให้แต่งงานคือเื่จริง?” หลายคนมีคำถามนี้
เสียงอื้ออึงรอบๆ ดังเข้ามาในหูของฉู่อวิ๋น แต่เขาเพิกเฉยและหันมาถามฉู่เจียงแทน “พูดชมกันเยอะแยะถึงเพียงนั้น้าอะไร? ข้าไม่หลงกลนี้หรอกนะ!”
“อย่างไรเสีย ไม่ว่าวันนี้จะเป็อย่างไร ข้าก็จะพาฉู่ซินเหยาไป!”
“ตึง!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้ฟังทั้งหลายก็อุทานออกมาอีกครั้ง ชายหนุ่มคนนี้ฟ้าไม่ขลาดดินไม่กลัวจริงๆ ตอนนี้แม้เขาจะมีปัญหา กลับกล้าทำตัวเช่นนี้ต่อหน้าคนอย่างฉู่เจียง
หญิงงามหน้าศาลเ้า สวมชุดวิวาห์สีแดงสดใส ร่างกายของนางสั่นเทา น้ำตาไหลหลั่ง ะเืใจอย่างยิ่ง!
“ใต้เท้าฉู่! เด็กคนนี้ไม่เคารพผู้าุโ มีนิสัยแข็งกร้าว หากท่านปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ จะมีปัญหาตามมาไม่รู้จบ!” ในเวลานี้ อาการาเ็ของฉู่เจิ้นหนานฟื้นตัวใกล้สมบูรณ์แล้ว
ดวงตาของเขาเป็ประกายและก้าวไปข้างหน้า เขา้าให้ฉู่เจียงฆ่าฉู่อวิ๋น แต่ก็ทำไม่ได้
“ข้าได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องให้เ้าเปลืองน้ำลาย” ฉู่เจียงพูดอย่างเ็า ทำให้ใบหน้าของฉู่เจิ้นหนานเข้มขึ้น แต่ก็ทำได้เพียงหลีกทางเท่านั้น
ฉู่เจียงถอนหายใจ น้ำเสียงของเขาอ่อนลง และพูดกับฉู่อวิ๋น “เ้าหนู ข้าเห็นแก่ตระกูลที่ตกต่ำขึ้นๆ ลงๆ ของเ้า ข้ามีทางเลือกให้เ้า”
“ขอเพียงเ้ามอบกระบี่โบราณเล่มนั้นมา และสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเชื้อสายหลักของตระกูลฉู่ตลอดไป ทุกสิ่งที่เ้าทำลงไปในวันนี้ รวมถึงความผิดทั้งหมดในอดีตจะไม่เคยมีอยู่! ว่าอย่างไร?”
คำพูดของฉู่เจียงดังฟังชัด ทุกประโยคทรงพลัง และให้คำมั่นสัญญาอย่างแท้จริง
อันที่จริง เขารู้สึกเสียดายพร์ของฉู่อวิ๋น หากคิดย้อนไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ฉู่อวิ๋นยังเป็เพียงคนไร้ประโยชน์ที่ปลุกิญญายุทธ์เศษเดนขึ้นมา แต่ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เขากลับก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ช่างน่ากลัวจริงๆ
หากให้เวลา การฝึกฝนของเด็กหนุ่มคนนี้จะไปถึงระดับใด? ขั้นราชันย์ไม่ได้เป็เพียงภาพลวงตาอีก มันจะทำให้คนทั้งแคว้นตกตะลึง และจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน
นี่เป็ประโยชน์ต่อตระกูลฉู่อย่างยิ่ง ไม่มีผลเสียใดๆ
“หากสามารถโน้มน้าวให้เ้าหนุ่มคนนี้เข้าร่วมเชื้อสายหลักได้ ย่อมเป็ความสำเร็จ เหล่าปรมารย์ทั้งหลายต้องให้รางวัลข้าอย่างงามแน่นอน” ฉู่เจียงคิดในใจ ดวงตาของเขาสั่นไหว ดีดลูกคิดคำนวณอยู่ในหัว
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ทุกคนในจัตุรัสก็เงียบลง อยากรู้คำตอบของฉู่อวิ๋น
อันที่จริง ฉู่อวิ๋นเองก็แอบลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเขาเห็นผู้หญิงที่ตนห่วงใยจากไกลๆ ดวงตาของเขาก็มุ่งมั่น
“ข้าจะรับไว้พิจารณา แต่ข้ามีเงื่อนไข!” น้ำเสียงของฉู่อวิ๋นดูจริงจัง ทำให้ฉู่เจียงขมวดคิ้ว แต่เขาก็ยังพูดว่า “เชิญกล่าว”
ฉู่อวิ๋นยืดตัวตรงและเอ่ยโดยไม่ลังเล “ข้า้าพาฉู่ซินเหยาออกไป! ไม่อาจปฏิบัติต่อนางเหมือนนางเป็สิ่งของ จับนางแต่งงานกับใครก็ได้ตามใจชอบ!"
พูดจบก็เกิดความปั่นป่วนไปทั่วศาลเ้า ชายหนุ่มคนนี้ช่างดื้อดึงจริงๆ ตอนนี้เขามีทางรอดอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ก็ยังกล้ามาต่อรองเพื่อผู้หญิงคนเดียว
ฉู่ซินเหยากลับใจสั่นสะท้าน นางรู้ว่าฉู่เจียงยื่นข้อเสนอสุดท้ายให้ฉู่อวิ๋น การแต่งงานไม่อาจเลี่ยงได้ พูดออกไปเช่นนั้น ฉู่อวิ๋นขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ!
ไม่ผิดคาด หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่อวิ๋น ฉู่เจียงก็หน้าตึงทันที พูดอย่างเ็าว่า “อย่าคิดว่าตัวเองมีพร์หน่อยแล้วจะมาทำอวดดี เ้ายังเด็ก หากข้าจะฆ่าเ้า คำพูดเดียวก็ปลิดชีพเ้าได้”
“อีกอย่าง เหตุใดเ้าถึงได้หมกมุ่นกับฉู่ซินเหยาขนาดนี้ นางไม่เป็วรยุทธ์ ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วย่อมถูกนำไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์! และการแต่งงานในวันนี้ระหว่างตระกูลฉู่และเสวี่ย ก็เป็ข้อสรุปที่ตกลงกันมาแล้ว”
“เมื่อเื่ของเ้าคลี่คลายลง นางก็จะแต่งงานกับคุณชายชุยเสวี่ยในศาลเ้า ข้าไม่มีทางยอมรับเงื่อนไขของเ้าอย่างเด็ดขาด!”
อันที่จริง ฉู่เจียงมีหน้าที่คอยช่วยสนับสนุนการแต่งงาน เขาไม่สามารถทำผิดพลาดได้
อย่างที่กล่าวไป แม้ว่าเขาจะยอมรับเงื่อนไขของฉู่อวิ๋น ให้พาฉู่ซินเหยาไปได้ แต่ในอนาคต ผู้คนในตระกูลหลักย่อมต้องนำนางมาเร่ขายอีก และวิธีการก็จะรุนแรงมากขึ้น จนถึงตอนนั้นฉู่อวิ๋นก็ไม่อาจทำอะไรได้
นี่เป็ปัญหาที่ไม่อาจเจรจา
หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เจียง เสวี่ยหานเฟยซึ่งเดิมคิดว่าการแต่งงานจะล้มเหลวก็ได้สติขึ้นมาทันที มองไปที่ฉู่ซินเหยาที่หน้าประตูศาลเ้าจากไกลๆ ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
ในตอนนี้ ฉู่ซินเหยายังคงดูเหมือนสตรีแสนโดดเดี่ยวที่รอวันแต่งงาน รายล้อมไปด้วยสาวใช้หลายคน ยืนอยู่หน้าศาลเ้าด้วยสีหน้าเศร้าโศก
นางรับรู้ได้ว่า การตัดสินใจของฉู่อวิ๋นสอดคล้องกับหัวใจของนาง
“รีบตกลงสิ! ไม่เช่นนั้นเ้าจะต้องตายนะ พี่ไม่อยากเห็นเ้าตาย… อวิ๋นเอ๋อร์…” ฉู่ซินเหยาร้องไห้จนดวงตาที่คู่งามเปลี่ยนเป็สีแดง หัวใจค่อยๆ แตกสลาย
และในยามนี้ ฉู่อวิ๋นโบกกระบี่ชื่อยวน ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ พูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องเจรจากันแล้ว!"
“คิดว่าคำพูดหวานๆ ไม่กี่คำ จะทำให้ข้ารักตัวกลัวตาย ปล่อยให้คนที่ข้ารักทนทุกข์ตามลำพังหรือ?”
“ถ้าอย่างนั้น ข้า ฉู่อวิ๋น ขอบอกเ้าไว้ตรงนี้!”
“ต่อให้ถามอีกพันครั้ง หมื่นครั้ง คำตอบของข้าก็ยังเหมือนเดิม!!!”
“ข้า ฉู่อวิ๋น จะไม่มีวันยอมแพ้ต่อฉู่ซินเหยา!”
คำพูดนั้น เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางลานจัตุรัส จับใจและะเืใจอย่างยิ่ง
ทันทีที่พูดจบ คนงามก็หลั่งน้ำตา
ผู้ชมทั้งหมดซาบซึ้งใจอย่างมาก รู้สึกกระทบหัวใจอย่างแรง ทุกคนรู้ว่าคำพูดของฉู่อวิ๋นหมายความถึงอะไร
“ประเสริฐ!”
ในเวลาเดียวกัน ฉู่เจียงก็โกรธจัดทันที ขมวดคิ้ว แสดงสีหน้าเข้มงวด และสะบัดแขนเสื้อ
“ช่างเป็เด็กที่ดื้อรั้นนัก! ให้หนทางแต่เ้ากลับไม่ยอมเดิน หยิ่งยโสยิ่งนัก โอหังเหลือเกิน! ในเมื่อรินสุรายินดีเ้าไม่ดื่ม เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายให้เ้าดื่มสุราลงทัณฑ์!”
“องครักษ์เทวัญฟังคำสั่ง! เตรียมใช้กฎตระกูล!”