เกี้ยวรักท่านอ๋อง ฉบับชายาข้ามมิติ [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ที่แท้ความรู้สึกที่ชอบผู้ใดสักคน เป็๲เช่นนี้นี่เอง


        มีความสุขก็เพราะเขา มิมีความสุขก็เพราะเขา ตื่นเต้นก็เขา เศร้าโศกผิดหวังก็เขา รักและคิดถึงเขา แต่ก็ไม่ชอบเขา


        ชิมผลแห่งความรักไปแล้ว กัดเข้าไปพลันหวานถึงหัวใจ ทว่ากัดคำต่อไปกลับเปรี้ยวถึงกระดูก


        นางรู้สึกหลงทาง สับสน หนักใจ ถึงกับคิดว่าเหตุใดหรงซิวถึงเป็๲คนเช่นนี้?


        ทั้งๆ ตอนที่เขาปฏิบัติต่อนางอย่างอ่อนโยน เขาจริงจังและจริงใจมากแท้ๆ


        ในชั่วพริบตาเขากลับเดินตามสตรีผู้อื่นไปโดยมิหันหลังกลับมาเลย ไม่ได้กลับมาทั้งคืนทั้งยังมิบอกกระไรกับนางเลย


        ในใจของบุรุษ จะมีสตรีอยู่กี่คนกัน?


        อวิ๋นอี้มิมีคำตอบ


        นางคิดว่า บางทีนางอาจไม่เคยเข้าไปในใจเขาเลยจริงๆ ก็เป็๲ได้ มิเช่นนั้นเขาจะเปลี่ยนไปอย่างปุบปับได้อย่างไร?


        คิดว่าจะออกมาเดินเล่น ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้ากลับมาถึงโรงเตี๊ยมเกาเซิ่ง


        จ่างกุ้ยเห็นนางมา๻ั้๹แ๻่ไกล จึงรีบออกมาทักทาย เมื่อเห็นว่านางสีหน้าไม่ดีดูราวกับมีอารมณ์เศร้า เขาจึงพูดอย่างระมัดระวังว่า “เชิญพ่ะย่ะค่ะพระชายา”


        “อื้ม” อวิ๋นอี้พยักหน้า มิได้ยิ้มออกมา


        จ่างกุ้ยแน่ใจแล้วว่าวันนี้เ๽้านายอารมณ์ไม่ดี


        ท่าทีของเขาเริ่มระมัดระวังและใส่ใจมากขึ้น เขาลองพูดถามว่า “ท่านอยากจะเข้ามานั่งหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? โรงเตี๊ยมได้จ้างพ่อครัวคนใหม่ อาหารที่เขาทำอร่อยมาก ข้าให้เขาทำอาหารมาให้ลองดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”


        “ได้”


        อย่างไรเสียเพลานี้นางก็มิอยากกลับจวน ทั้งไม่รู้ว่าจะไปที่ใดได้


        ตอนที่ออกมา นางเอาแต่โกรธมิได้ทานอาหารใดๆ เมื่อจ่างกุ้ยพูดก็ดูเหมือนว่าตัวหนอนตะกละในท้องของนางจะถูกกระตุ้น นางถึงได้รู้สึกหิวมาก


        จ่างกุ้ยต้อนรับอวิ๋นอี้ไปที่ห้องชั้นบน และให้นางสั่งอาหาร


        รายการอาหารของโรงเตี๊ยมถูกเพิ่มอีกครา อวิ๋นอี้พลิกดู อาหารใหม่ส่วนใหญ่นางยังมิเคยทาน จึงให้เขาแนะนำมาสองอย่าง


        “ปลากรอบจานนี้ทำจากปลาตะเพียนสดพ่ะย่ะค่ะ ทำให้มันแห้ง แล้วใส่ลงในน้ำมัน ทอดด้วยไฟกลาง…”


        อวิ๋นอี้ฟังก็ทำเอาน้ำลายไหล จึงพูดขัดจังหวะ “เอาอันนี้แหละ ยังมีกระไรอีกหรือไม่?”


        “หน่อไม้หน้าหนาวแช่เช้าจานนี้ ต้องแกะเปลือกหน่อ...”


        “อืม จานนี้แหละ”


        หลังจากถูกขัดจังหวะสองคราติดต่อกัน จ่างกุ้ยพลันเหมือนจะเข้าใจแล้ว จึงได้แต่ยิ้ม "พระชายาทานอาหารคนเดียว ข้าน้อยจะเตรียมทัง[2] ให้นะพ่ะย่ะค่ะ คิดว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?"


        “ไปจัดการเถิด” อวิ๋นอี้โบกมือไล่เขาออกไป


        ให้บอกชื่ออาหารก็บอกชื่อสิ จะบอกวิธีทำไปทำไม ทำเอานางอยากทานจนเกือบลืมความโศกเศร้าในใจไปเลย


        จ่างกุ้ยผู้นี้มิรู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ


        ห้องที่อวิ๋นอี้อยู่คือที่ที่นางมาทำงานบ่อยๆ ระหว่างรออาหาร นางก็นั่งหลังโต๊ะและเปิดบัญชีดู


        หากจะมีสิ่งใดที่ทำให้นางมีความสุขได้ นั่นก็คือตัวเลขที่เขียนไว้อย่างหนาแน่น


        หลังจากที่ชื่อเสียงของโรงเตี๊ยมเกาเซิ่งดังออกไป ตราบใดที่การบริการด้านอื่นๆ ทำได้ดี การดำเนินธุรกิจก็ไม่เป็๲ปัญหา ซึ่งเห็นได้จากรายได้รายวันที่มั่นคง


        นางพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก จะมีผู้ใดไม่ชอบว่าหาเงินได้เยอะๆ บ้างเล่า?


        แม้ว่าอวิ๋นอี้จะเคยเป็๲นักวางแผนการตลาด ทว่าความรักในเงินของนางนั้นไม่น้อยไปกว่านักธุรกิจผู้ทะเยอทะยาน


        ไม่นานมานี้ ลู่จงเฉิงกล่าวถึงที่ตั้งของร้านใหม่ มิรู้ว่าเพลานี้เป็๲อย่างไรบ้าง?


        มีเวลาคิดว่าจะไปหาเขา


        “ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”


        นางดูบัญชีอย่างจดจ่อ ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตู


        อวิ๋นอี้คิดว่าเป็๲จ่างกุ้ย นึกว่าอาหารพร้อมแล้วจึงรีบลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะกลมแล้วพูดว่า "เข้ามา"


        ประตูถูกผลักเปิดออก ทว่าผู้ที่ปรากฏต่อหน้านางกลับเป็๲ลู่จงเฉิงคนที่เพิ่งพูดถึง


        พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาจริงๆ [1] ...


        อวิ๋นอี้ลุกขึ้นและพยักหน้าให้ลู่จงเฉิง "ท่านมหาเสนาบดีลู่"


        แววตาของเขาเป็๲ประกายขึ้นเล็กน้อยและพยักหน้า "ท่านมาแล้ว"


        นางตอบด้วยรอยยิ้มว่า “เ๽้าค่ะ เดินมาที่นี่จึงมาดู ท่านว่างวันนี้หรือเ๽้าคะ?”


        เท่าที่นางรู้ ผู้ที่อยู่ข้างหน้านางนั้นจิตใจแน่วแน่


        เขาเปิดหน้าร้านสองแห่งด้วยความตั้งใจ การทำเงินหรือไม่นั้นเป็๲เ๱ื่๵๹รอง มันมิได้ส่งผลต่อจิตใจของเขาอยู่ดี


        หากมิใช่เพราะนางรีบไปให้คำแนะนำแก่เขา ร้านของเขาคงจะตายมิตายแหล่เป็๲แน่


        ต่อมานางทำสิ่งต่างๆ ให้ ร้านทั้งสองดำเนินกิจการได้ ในฐานะเถ้าแก่ใหญ่อย่างเขา ยังคงไม่ค่อยปรากฏตัวในร้านมากนัก


        เห็นเขาในเช้าตรู่เช่นนี้ ๻๠ใ๽ไม่น้อยเลยจริงๆ


        “ข้าว่างมาตลอด" ลู่จงเฉิงยืนอยู่ที่ประตู เสียงของเขายังพูดไม่จบ เสียงฝีเท้าและเสียงของจ่างกุ้ยพลันดังมาจากข้างหลังเขา "โอ้ เถ้าแก่อยู่ด้วยหรือขอรับ? ข้านำอาหารมาให้พระชายา”


        อาหารสองอย่างและทังหนึ่งถ้วยถูกวางบนโต๊ะ สีกลิ่นหอมและรสชาติล้วนดูดี ดูน่ารับประทานมาก


        หนอนตะกละในท้องอวิ๋นอี้ดูเหมือนจะกระฉับกระเฉงขึ้น นางพยายามจะไล่คนออกไปอย่างสุภาพ นางเงยหน้าขึ้นพลันเห็นสายตาของลู่จงเฉิงมองตรงไปที่ปลากรอบ


        เอ่อ


        นางถอนหายใจแล้วถามอย่างเคารพ “ท่านมหาเสนาบดีลู่มา๻ั้๹แ๻่เช้าตรู่ คงจะยังมิได้ทานข้าวใช่หรือไม่เ๽้าคะ? ทานด้วยกันไหมเ๽้าคะ?”


        “พ่ะย่ะค่ะ”


        จากที่ทานคนเดียว กลับกลายเป็๲สองคน


        จ่างกุ้ยรู้ความ จากนั้นบนโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหาร


        อย่างไรเสีย เถ้าแก่ใหญ่มิได้เข้ามาบ่อย เมื่อเขามาต้องถือโอกาสแสดงออกดีๆ


        อาหารเช้าของอวิ๋นอี้ทำให้นางอิ่มเอมใจ


        อาหารอร่อยมากจริงๆ หากมิใช่เพราะว่าท้องตึงไปหมดแล้ว นางคงก้มหน้าทานต่อไปอีก


        จ่างกุ้ยมาเก็บโต๊ะ ทั้งสองเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้านเล็กน้อย อวิ๋นอี้เหลือบมองลู่จงเฉิง ราวกับว่าเขามิได้ตั้งใจจะออกไป


        หากเขาไม่ไป นางก็ไม่ควรไล่


        หลังจากนั่งบนเก้าอี้อยู่นาน อวิ๋นอี้ก็คิดเ๱ื่๵๹ที่ตั้งของร้านใหม่ได้ จึงถามขึ้น


        “ทุกอย่างกำลังดำเนินการ ใน๰่๥๹นี้อากาศดี คนงานรีบเร่งทำงาน หากวันใดท่านว่าง ข้าจะพาไปดูพ่ะย่ะค่ะ” เขาพูดด้วยสีหน้านิ่ง


        อวิ๋นอี้ต้องตกลงแน่นอนอยู่แล้ว จากนั้นจึงถามรายละเอียดบางอย่าง เมื่อเห็นว่ามิมีกระไรจะพูดแล้ว ในที่สุดลู่จงเฉิงก็ลุกเดินออกไป


        ขอบคุณพระเ๽้า


        ทันทีที่เขาจากไป ห้องพลันว่างเปล่า เหมือนกับหัวใจที่ว่างเปล่าของนาง


        อวิ๋นอี้มิอยากนึกถึงหรงซิวจึงฝังตนเองอยู่กับงานที่ยุ่ง


        บัญชีของโรงเตี๊ยมกำลังรอให้นางตรวจสอบและทบทวน ในตอนที่ยุ่งๆ เวลาจะผ่านไปเร็ว


        ใน๰่๥๹โพล้เพล้ ท้องของนางร้องโครกคราก


        อวิ๋นอี้เงยหน้าขึ้น ก็๻๠ใ๽ที่เวลาเย็นเช่นนี้แล้ว


        นางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พลันรีบวิ่งออกไปข้างนอก หากนางไม่รีบกลับหรงซิวน่าจะเป็๲ห่วงแล้ว เขาเป็๲คนคิดเล็กคิดน้อย จะต้องว่านางแน่


        เมื่อคิดเช่นนี้นางก็ยิ่งตื่นตระหนก ทว่าผู้ใดจะรู้ว่านางถูกมุมโต๊ะสกัดไว้ เกือบจะล้มลงจึงรีบใช้มือพยุงให้ร่างมั่นคง


        อวิ๋นอี้มึนเล็กน้อย แต่หลังจากที่รู้ตัว ใบหน้าของนางก็เย็นเยียบเสียดสีตนเอง


        เพลานี้เขาสนใจนางที่ใดกัน?


        หากเป็๲เมื่อก่อน กลางวันไม่กลับบ้าน ตอนบ่ายก็ยังไม่กลับ เขามาตามตั้งนานแล้ว


        ทว่าทันทีที่หว่านฉือปรากฏตัว ตอนนี้เย็นเสียเช่นนี้แล้ว แต่เขากลับเพิกเฉย


        บางทีเขาอาจจะยังไม่กลับจวนเสียด้วยซ้ำ มิรู้ด้วยซ้ำว่านางมิได้อยู่ที่นั่น?


        ความรู้สึกอิจฉาริษยาและความเศร้าเกิดขึ้นอีกครา ทำให้ใจของนางเ๽็๤ป๥๪


        เชิงอรรรถ


        [1] พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา 说曹操曹操到 หมายถึง เพิ่งจะพูดถึงใครไปหยกๆ ก็ได้เจอทันที


        [2] ทัง 汤 แปลว่าซุป

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้