“ตำแหน่งาามาร? ท่านาามารทำข้าน้อยใจริงๆ ข้าไม่เคยกล้าคิดขึ้นรับตำแหน่งาามารเลย”
เมื่อได้ยินว่าตำแหน่งาามารทิศใต้กำลังว่างอยู่ เหลยป้าเทียนถึงกับตัวสั่นเทิ้ม คุกเข่าลงตรงหน้าาามารตะวันตกทันที
“ลุกขึ้นเถอะ เ้ากับข้าได้รู้จักกันก็ดีมากแล้ว ข้าเพียงบอกความในใจออกไปเท่านั้น เมื่อมองดูหุบเขาสุขาวดีแล้ว ข้าคิดว่าเ้าเหมาะกับตำแหน่งาามารทิศใต้มากที่สุด”
าามารตะวันตกหัวเราะเสียงดัง คำของเขามีทั้งจริงและเท็จ แต่ดูไม่ออกเลย
“เื่นี้เ้าจดจำไว้ กลับไปบอกเ้าเหนือว่า ข้าคิดว่าเขาเป็คนฉลาด ต้องเข้าใจข้อดีข้อเสียได้อย่างแน่นอน
“ขอรับ ขอรับ ข้าน้อยมิบังอาจ! มิบังอาจ!”
เหลยป้าเทียนลุกขึ้น แต่ร่างของเขายังสั่นอยู่ หากกล่าวถึงการแสดง เหลยป้าเทียนเรียกได้ว่าเป็อัจฉริยะ น่าตะลึงที่ไม่มีใครจับผิดเขาได้เลย
“ท่านาามาร ข้าน้อยขอตัวก่อน พวกเรายังมุ่งหน้าไปยังสุสานตามนัดหมายเดิม แล้วข้าจะไปชักชวนาามารทิศเหนือเอง”
เหลยป้าเทียนคารวะาามารตะวันตกอีกครั้ง จากนั้นเขาจึงถอยหลังออกไปจากห้อง เรียกได้ว่าทำตามมารยาทได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง
กระทั่งเขาถอยหลังออกไปจากโรงเตี๊ยมแล้ว เสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนจึงเข้าไปในห้อง
“เตรียมการเรียบร้อยแล้ว”
“เื่การแสดง ข้าเลื่อมใสท่านาามารตะวันตกยิ่งนัก”
เริ่นเสี้ยวเทียนยกนิ้วโป้งให้าามารตะวันตกด้วยความชื่นชม หลายวันมานี้เขาได้เห็นกับตาตัวเอง มีเพียงคำว่า ‘เลื่อมใส’ เท่านั้น
“ฮ่าๆ แน่นอนอยู่แล้ว พวกเ้าเตรียมการอย่างไรแล้วบ้าง”
“เกือบพร้อมแล้ว สามารถดำเนินการได้ทุกเมื่อ” เสิ่นเสวียนพยักหน้าพลางกล่าว
“ได้ ในเมื่อเป็เช่นนี้ พวกเราออกเดินทางกันคืนนี้เลย ถ้าเดินเท้าเข้าไป พรุ่งนี้เช้าก็น่าจะถึง”
าามารตะวันตก เสิ่นเสวียน และเริ่นเสี้ยวเทียนเป็หนึ่งเดียวกันได้อย่างลงตัว าามารตะวันตกรับผิดชอบปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาอยู่ที่นี่ ส่วนเสิ่นเสวียนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยจะออกไปเตรียมตัว ที่เรียกว่าเตรียมตัวก็คือเตรียมหาอาหาร สุราเอย เนื้อเอย ห้ามขาดแม้แต่อย่างเดียว ส่วนเริ่นเสี้ยวเทียนบอกว่าตนเองมีธุระจึงออกไปข้างนอกอีกครั้ง กระทั่งตกดึกจึงกลับมา
ตอนกลางคืนทั่วทั้งเมืองเงียบสงบ
จวนาามารทิศเหนือยังคงสว่างไสวไปด้วยแสงไฟจากตะเกียง ตอนนี้เหลยป้าเทียนและาามารทิศเหนือกำลังหารือเื่สุสานกันอยู่
พวกของาามารตะวันตกค่อยๆ ออกมาจากโรงเตี๊ยมในยามราตรี พวกเขานั่งอยู่บนพรมวิเศษมุ่งหน้าไปทางสุสาน
ณ จวนาามารทิศเหนือ าามารทิศเหนือนั่งอยู่้า ส่วนเหลยป้าเทียนนั่งในตำแหน่งรองลงมา
“พวกเขาออกเดินทางกันแล้ว”
าามารทิศเหนือกล่าวขึ้น ในเมืองนี้ หากเขา้าสืบค้นเื่ใดแล้ว ใครก็หลบไม่พ้นสายตาของเขา
“น่าจะไปยังสุสานกันแล้ว ท่านาามาร พวกเราจะออกเดินทางกันเมื่อไร”
เหลยป้าเทียนกล่าวกับาามารทิศเหนือ หลายวันมานี้เขาต้องเทียวไปเทียวมา สร้างประโยชน์ให้าามารทิศเหนือไม่น้อย แม้าามารทิศเหนือกับาามารตะวันตกจะไม่ได้เจอหน้ากัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนคลี่คลายลงไปมากแล้ว
ต้นเหตุเกิดขึ้นเพราะเขา และจบลงที่เขา ทำให้าามารทิศเหนือพึงพอใจเหลยป้าเทียนเป็อย่างมาก
“ไม่รีบ พรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทาง ใช่แล้ว กริชนิลนาคาเป็อย่างไรบ้าง” าามารทิศเหนือถามเหลยป้าเทียน
“ตอบกลับท่านาามาร ข้าน้อยฝึกใช้จนเคยชินแล้ว สามารถแสดงอานุภาพได้ถึงเจ็ดส่วน”
“อานุภาพเจ็ดส่วนยังไม่เพียงพอ ตอนที่าามารตะวันตกใช้กริชนิลนาคาเล่มนี้ เขาเคยสังหารผู้แข็งแกร่งในระดับเดียวกันตายไปแล้วหลายคน จำไว้ว่ากริชนิลนาคาเล่มนี้ห้ามเปิดเผยออกมาเด็ดขาด หากเปิดเผยออกมาแสดงว่าจะต้องมีคนตาย มันจะได้ผลสูงสุดก็ต่อเมื่อไม่ทันได้ระวังตัว”
“หากข้าเดาไม่ผิด เมื่อใดที่สุสานปิดลง เมื่อนั้นคือวันที่พวกเราจะโดนล้อมสังหาร” าามารทิศเหนือมีสีหน้าเคร่งขรึม แม้เขาจะเลื่อนขั้นเป็ขั้นจักรพรรดิแล้ว แต่เขายังไม่มั่นใจว่าจะเอาชีวิตรอดจากการล้อมสังหารครั้งต่อไปได้
ครั้งก่อนเพราะตนเองทะลวงเลื่อนขั้นอย่างกะทันหัน รวมกับเหลยป้าเทียนเข้ามาช่วยไว้จึงทำให้อีกฝ่ายล่าถอยออกไปได้ แต่ไม้ตายเหล่านี้ถูกเปิดเผยออกไปแล้ว คิดจะเอาชนะให้ได้อีกครั้งคงเป็เื่ยาก
“ท่านาามารวางใจได้ ครั้งนี้แม้ต้องตายข้าก็จะปกป้องท่านาามารให้ได้”
เหลยป้าเทียนทำท่าทางจงรักภักดี ใครเห็นก็ต้องเชื่ออย่างนั้น
“หากสู้ไม่ได้จริงๆ เ้าต้องหนีไป เื่นี้ไม่เกี่ยวกับเ้าเลย”
าามารทิศเหนือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวราวกับสั่งเสีย
“ท่านาามารไม่ต้องกล่าวอะไรแล้ว หากพวกเขาคิดสังหารท่านาามารต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
เหลยป้าเทียนกล่าวออกมาทันทีเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ
เมื่อออกจากเมืองไปแล้ว ทุกคนที่นั่งอยู่บนพรมวิเศษขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้าไปยังเขตกู่ซวี
เสิ่นเสี่ยวเม่ยเหมือนกับก่อนหน้านี้ นางนั่งฝึกฝนอยู่ภายในกระโจมบนพรมวิเศษ เริ่นเสี้ยวเทียน เสิ่นเสวียน และาามารตะวันตกต่างก็เข้าไปในกระโจมเช่นกัน แต่พวกเขากำลังดื่มสุรากันอยู่ และคิดว่าจะดื่มกันทั้งคืน
ไม่รู้เลยว่าท้องของพวกเขาทำมาจากอะไร เหมือนกับกินเท่าไรก็ไม่เมา
าามารตะวันตกชื่นชอบการดื่มสุรามากที่สุด ส่วนเสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนทำหน้าที่เป็สหายร่วมทาง ไม่อย่างนั้นคงเข้าไปฝึกฝนตั้งนานแล้ว
ส่วนเสิ่นเลี่ยน หลังจากที่เข้าไปฝึกฝนในมิติครั้งก่อน เขายังไม่กลับออกมาเลย
หุ่นเชิดทั้งสองเป็คู่ซ้อมให้โดยไม่ปริปากบ่น การฝึกฝนในระดับนี้ไม่รู้ว่ามีคนอิจฉามากแค่ไหน
เขตกู่ซวีตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาสุขาวดี แม่น้ำเจ็ดสายที่ไหลผ่านในหุบเขาสุขาวดีต่างไหลมากันในทะเลสาบภายในเขตกู่ซวี กลายเป็ทะเลสาบธรรมชาติที่กว้างใหญ่
ที่นี่คือสถานที่ที่ไอพลังหลิงชี่ภายในหุบเขาสุขาวดีเข้ามารวมตัวกัน และที่นี่ยังเป็สถานที่แห่งชีวิตภายในหุบเขาสุขาวดีอีกด้วย
ภายในหุบเขาสุขาวดีมีสี่าามารผู้ยิ่งใหญ่ปกครองอาณาเขตทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก มีเพียงในเขตกู่ซวีเท่านั้นที่ไม่มีใครกล้าเรียกตนเองว่าาา เพราะอำนาจของที่นี่ซับซ้อนเป็อย่างมาก ผู้แข็งแกร่งไม่ได้มีเพียงคนเดียว แม้พลังของพวกเขาแต่ละคนมิอาจเทียบเท่าาามารได้ แต่เมื่อรวมพลังกันแล้วหาใช่สิ่งที่าามารจะรับมือได้
แต่เป็เพราะสี่าามารผู้ยิ่งใหญ่ต่างร่วมมือกันอยู่ ส่วนคนเหล่านี้เหมือนเม็ดทรายแตกระแหง สุดท้ายแล้วจึงไม่มีความก้าวหน้าใดๆ
สุสานใหญ่เปิดออกกลายเป็เื่คึกคักในหุบเขาสุขาวดี ผู้คนมหาศาลเข้ามารวมตัวกันที่นี่ แม้ไม่ใช่คนในหุบเขาสุขาวดีก็อยากเข้าไปรับส่วนแบ่งบ้าง อัจฉริยะมากมายทั่วแคว้นชิงหยุนต่างเดินทางมาที่นี่เพื่อแสวงหาโอกาสและโชค
ตกกลางคืน หลายคนต่างกำลังกินอาหาร ส่วนพรมวิเศษก็มุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เหาะไปเหนือเขตกู่ซวีอย่างรวดเร็ว
“ดูนั่น พวกเราถึงแล้ว”
าามารตะวันตกเดินออกมาจากกระโจม ยืนมองลงไปจากพรมวิเศษ
ทะเลสาบสีฟ้าขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ไอพลังหลิงชี่มากมายนับไม่ถ้วนรวมตัวเข้าด้วยกัน รอบๆ คือเทือกเขาสูงตระหง่าน มีไอพลังยิ่งใหญ่แอบซ่อนอยู่มากมาย
“มองจาก้าลงไป ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจริงๆ!”
เริ่นเสี้ยวเทียนมองลงไปด้านล่างด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มใจ แม้เขาจะเหาะได้เหมือนกัน แต่ยังไม่เคยเหาะได้สูงขนาดนี้มาก่อน
ความสูงระดับนี้สำหรับเสิ่นเสวียนไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร เสิ่นเสี่ยวเม่ยเดินออกมาจากกระโจม สิ่งที่เห็นทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นมาก
“สี่เซี่ยงขั้นราชัน จี๋เล่อน้อย ดูเหมือนด้านล่างมีคนแอบซ่อนอยู่ไม่น้อย!”
าามารตะวันตกััเล็กน้อยพลางหัวเราะเสียงดัง คนเหล่านี้ต่างมีชื่อเสียงในหุบเขาสุขาวดี แม้จะด้อยกว่าาามารอยู่เล็กน้อย แต่พวกเขาล้วนไม่ธรรมดา
“พวกเราลงไปกันเถอะ จะได้สังเกตสภาพแวดล้อมล่วงหน้า”
าามารตะวันตกควบคุมพรมวิเศษให้เหาะลงไปอย่างช้าๆ เขาไม่ได้ตั้งใจเก็บซ่อนพลัง ทำให้ผู้แข็งแกร่งเบื้องล่างรับรู้ได้อย่างชัดเจน พลังที่แข็งแกร่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้าดึงดูดสายตาคนส่วนใหญ่ไปทันที
“นี่ไม่ใช่พาหนะของาามารตะวันตกหรอกหรือ หรือเขาไม่ได้เป็อะไรไป”
ภายในค่ายแห่งหนึ่งด้านล่าง บุรุษวัยกลางคนร่างสูงสี่คนจากสำนักจตุรเทพนั่งอยู่ด้วยกัน สี่คนนี้คือสี่เซี่ยงแห่งสำนักจตุรเทพ พลังของแต่ละคนอยู่ในขั้นราชันระดับสูง เมื่อทั้งสี่คนรวมพลังกัน แม้แต่าามารยังต้องหลบหลีกไป
“ดูเหมือนข่าวลือจะเป็เท็จ พวกเรามารอดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก” บุรุษวัยกลางคนที่เป็ผู้นำกล่าวเสียงเรียบ แต่แววตากลับฮึกเหิมขึ้นมาอย่างรุนแรง เขากังวลอยู่ว่าสี่าามารผู้ยิ่งใหญ่จะตายไปทั้งหมดแล้ว ทำให้เขามิอาจหาคู่ต่อสู้ได้ ตอนนี้าามารตะวันตกมาถึงแล้ว นับว่าเป็ไปตามความ้าของเขาพอดี
“เอ๋? พาเด็กๆ มาหลายคนเลย”
บนยอดเขาลูกหนึ่งในเขตกู่ซวี บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งมองพรมวิเศษบนท้องฟ้าพลางกล่าวเสียงเรียบ