รอนกำลังรู้สึกเสียใจอย่างรุนแรง
แม้เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นจะกลับมาฝึกเวทแปลงร่างอย่างปกติ แต่ภายในใจของเขายังคงปั่นป่วนจากคำพูดที่ไม่เหมาะสมเมื่อครู่
"จะเหนือกว่าเดม่อนงั้นเหรอ? สมองฉันคิดอะไรอยู่ถึงพูดอะไรแบบนั้นออกมา?"
เขากับเดม่อนห่างกันตั้ง 4 ชั้นปี อีกฝ่ายคือรุ่นพี่สลิธีรินปีสี่!
ต่อให้เดม่อนหยุดพัฒนาตัวเองั้แ่ตอนนี้ เขาก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 ปีถึงจะตามระดับการดวลของอีกฝ่ายทัน
โชคดีที่เดม่อนไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจใด ๆ กับคำพูดของเขาเลย
ในความเป็จริงแล้ว สำหรับเดม่อน เื่นี้ไม่มีอะไรสำคัญเลยแม้แต่น้อย
เพราะเขารู้จักนิสัยของรอนดี
หลายครั้งสิ่งที่ฟังดูแย่ในคำพูดของรอน จริง ๆ แล้วมาจากความไม่มั่นใจในตัวเอง
เพราะพื้นฐานครอบครัว รอนจึงมีนิสัยขี้ระแวงและมักใช้การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น เพื่อปกปิดความรู้สึกด้อยค่า
สำหรับคนธรรมดาที่มีแค่ความกล้าแบบเขา การยอมรับข้อบกพร่องตัวเองไม่ใช่เื่ง่าย
เขาเคยเสียสละเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในบททดสอบปลายภาคแรก และก็เคยบ่นไม่หยุดตอนถูกฮอร์ครักซ์ครอบงำเพราะรู้สึกว่าพยายามเท่าไรก็ไร้ผล
เขาเคยโกรธที่เฮอร์ไมโอนี่แนะนำเขา และในขณะเดียวกันก็แอบหลงรักเธออยู่ในใจ
แต่กับเดม่อน รอนยังไม่เคยแสดงด้านนั้นออกมาเลย หรือบางที... อาจจะไม่มีวันแสดงออกมา
กับคนแบบนี้ ถ้าคุณแค่เก่งกว่าเขานิดหน่อย เขาจะไม่ยอมรับ
แต่ถ้าคุณเหนือกว่าเขาในทุกด้านจนห่างชั้นกันสุดขีด เขาจะโทษตัวเองทั้งหมด
อย่างตอนนี้ แค่เดม่อนละเลยคำพูดท้ายประโยคของเขา แล้วมองเขาแวบเดียว รอนก็รู้สึกผิดเต็มอกแล้ว
ไม่ไกลนัก เฮอร์ไมโอนี่เองก็สังเกตเห็นเหตุการณ์ แต่เธอแค่ฮึดฮัดเบา ๆ แล้วหันกลับไปตั้งใจแปลงไม้ขีดไฟต่อ
พอหมดคาบเรียน รอนกับเนวิลก็สามารถแปลงไม้ขีดไฟให้กลายเป็สีเงินได้บ้าง แม้ยังไม่ถึงขั้นเป็เข็มเงินจริง ๆ
แต่ก็ถือว่าเป็ผลลัพธ์ที่ดีมากแล้ว นอกจากพวกเขา ก็มีแค่เฮอร์ไมโอนี่เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนไม้ขีดให้กลายเป็สีเงินได้พร้อมปลายเริ่มแหลมเล็กน้อย
ส่วนแฮร์รี่ ภายใต้คำแนะนำของเดม่อน สามารถสร้างเข็มเงินได้สำเร็จ แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านั่นคือเข็มเงินจริง ๆ
จากสีหน้าพอใจของศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็รู้แล้วว่า พวกเขาทำได้ดีแค่ไหน
มักกอนนากัลถึงกับกล่าวชมว่า
“แม้เทียบกับนักเรียนทั้งหมดที่ฉันเคยสอน พวกเธอก็ถือเป็กลุ่มที่โดดเด่นกลุ่มหนึ่ง”
คำชมนี้ทำเอาเด็ก ๆ หน้าแดงด้วยความตื่นเต้น
แต่เฮอร์ไมโอนี่ พอคิดถึงเข็มเงินที่สมบูรณ์แบบที่เดม่อนแสดงให้ดูมาก่อนหน้านั้น รอยยิ้มของเธอก็ค่อย ๆ หายไป
พอหมดคาบ เธอก็เดินออกจากห้องเป็คนแรก
แฮร์รี่มองตามหลังเธอด้วยสีหน้าเสียดาย ทั้งที่พวกเขาเริ่มต้นมิตรภาพกันอย่างยอดเยี่ยมบนรถไฟ ทำไมเฮอร์ไมโอนี่ถึงต้องแข่งกับเดม่อนตลอดเวลาด้วยนะ?
ส่วนรอน กำลังบ่นพึมพำกับตัวเองเกี่ยวกับการบ้านของศาสตราจารย์มักกอนนากัล เธอสั่งเรียงความแปลงร่างยาว 2 ฟุต ซึ่งยาวกว่าของอาจารย์อีกสองวิชารวมกันเสียอีก
แต่เขายังบ่นไม่ทันจบ ก็เงียบไปทันที เพราะมักกอนนากัลเดินมาหาเดม่อนแล้ว
แฮร์รี่กับเพื่อน ๆ ก็เริ่มรู้ตัวว่า... เหตุการณ์ซ้ำรอยจากคาถาน่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
“เธอพอมีเวลาสักหน่อยไหม เดม่อน? ฉันอยากคุยด้วยหน่อย”
“แน่นอนครับ ศาสตราจารย์”
เดม่อนกล่าวลาผองเพื่อน แล้วเดินตามมักกอนนากัลไปยังห้องทำงานของเธอ
ห้องนี้ตั้งอยู่ที่มุมทางเดินชั้นสอง เป็ห้องเล็กๆ ที่มีเตาผิงใหญ่ที่กำลังลุกไหม้ และหน้าต่างที่มองเห็นสนามควิดดิช ซึ่งมีประตูลับที่นำไปสู่ห้องนอนที่มีพื้นเป็กรวด
ทั้งสองนั่งลงในห้อง และศาสตราจารย์มักกอนนากัลนำขนมคุกกี้มาให้ พร้อมกับเสิร์ฟชาร้อนๆ ให้เดม่อน
เมื่อเห็นเดม่อนใช้มนต์ลอยคุกกี้ขึ้นมาโดยไม่ใช้มือ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็รู้สึกงุนงง นี่เป็วิธีการทานขนมใหม่หรือไง?
หลังจากคิดสักพัก ท่านจึงพูดขึ้น:
“เดม่อน ั้แ่แรกที่พบเห็นนาย ฉันก็รู้แล้วว่านายมีพร์ในวิชาแปลงร่าง
ฉันคิดว่าพร์นี้จะเป็ความเสียหายอย่างมากหากไม่ได้รับการแนะนำที่ถูกต้องเพื่อพัฒนา”
“ถ้านายยอมรับ ฉันอยากจะให้การบ้านพิเศษกับนายหลังชั้นเรียนทุกครั้ง เพื่อช่วยให้นายเรียนรู้วิชาแปลงร่างได้ดีขึ้น
เพราะถ้าให้สอนตามความก้าวหน้าของเพื่อนๆ คนอื่นๆ คงจะทำให้เวลาเรียนของนายเป็การเสียเวลาไปเปล่าๆ ฉันไม่แน่ใจว่านายคิดยังไงบ้าง?”
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลมองดูสีหน้าของเดม่อนอย่างละเอียด ท่านตั้งใจไว้แล้วว่า ถ้าเดม่อนมีการตอบรับที่ไม่เต็มใจ ท่านก็จะมีแผนสำรอง ให้นายไม่ต้องทำการบ้านแปลงร่างเหมือนคนอื่นๆ
“ผมยินดีครับ ศาสตราจารย์” เดม่อนตอบทันทีอย่างมั่นใจ
การตอบรับนี้ทำให้ศาสตราจารย์มักกอนนากัลรู้สึกดีขึ้น เดม่อนไม่ทำให้เธอผิดหวังเลย
“แต่ผมมีเื่หนึ่งอยากขอความช่วยเหลือจากท่านครับ”
“พูดมาเลย” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลปรับแว่นตาแล้วตอบอย่างจริงจัง ดูเหมือนว่าไม่ว่าสิ่งที่เดม่อนจะขอ เธอก็ยินดีช่วยเหลือ
แต่ท่าทีของเธอนั้นมาจากการที่เชื่อมั่นในตัวเดม่อน เธอรู้ว่าเขาจะไม่ขออะไรที่ยากเกินไป
“ผมอยากสมัครสมาชิก ‘วันนี้กับการแปลงร่าง’ ครับ แต่ผมหาวิธีสมัครไม่ได้เลย”
เมื่อศาสตราจารย์แม็คกอนนากัลได้ยินคำขอนั้น ก็ยิ้มออกมาทันที
“แค่เปิดเรียนมาหนึ่งอาทิตย์ นายก็รู้จัก ‘วันนี้กับแปลงร่าง’ แล้วเหรอ? เจอนี่ในห้องสมุดหรือไง?”
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลรู้สึกยินดี เพราะเข้าใจแล้วว่าเดม่อนจะยังคงเดินต่อไปในเส้นทางการศึกษาวิชาแปลงร่าง ไม่ว่าจะมีการเชิญหรือไม่
“นายหาวิธีสมัครไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก เพราะมันเป็วารสารวิชาการที่มุ่งเน้นการพัฒนาใหม่ๆ ของวิชาแปลงร่าง
เนื้อหาที่เผยแพร่ในนี้สำหรับนักเรียนปีต่ำเกินไป มันยากเกินไปสำหรับพวกเขาเลยทำให้วารสารนี้เฉพาะสำหรับผู้ที่มีความสามารถหรือพร์ในแปลงร่าง”
“สำหรับนักเวทผู้ใหญ่ นี่ไม่ใช่ความลับ นายแค่ขอที่อยู่สมัครสมาชิกจากพวกเขา แล้วส่งจดหมายผ่านนกฮูกไป นายก็จะสามารถรับสมัครสมาชิกได้”
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลส่งกระดาษที่มีที่อยู่ให้เดม่อน แล้วพูดต่อว่า:
“กลับมาที่เื่ที่คุยกัน เมื่อนายยอมรับข้อเสนอของฉัน ั้แ่นี้ไป ฉันจะให้การบ้านพิเศษกับนาย”
“ขอเตือนล่วงหน้า ถ้านายไม่ตั้งใจทำ หรือไม่สามารถทำตามที่ฉันขอได้ ฉันจะหยุดการสอนนี้ทันที และจะไม่ทำการสอนให้กับนายอีก”
“ครับ ศาสตราจารย์” เดม่อนตอบด้วยความเคารพ
ถึงแม้ว่าเขาจะมีการบ้านพิเศษจากศาสตราจารย์ฟลิตวิแล้ว แต่ถ้าเพิ่มวิชาแปลงร่างก็ยังพอรับไหว เขาเชื่อว่าสามารถทำได้
สำหรับหลังจากนี้จะมีการบ้านเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ค่อยว่ากันตอนนั้น
(จบบท)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้