“โครม!”
เสียงวัตถุหนักหล่นลงบนพื้น เยี่ยนชียังไม่ทันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถูกดินโคลนที่เย็นเฉียบกระเด็นใส่จนเปรอะเต็มหน้า
เมื่อเช็ดหน้าเสร็จ เขาก็เห็นเสิ่นม่านกำลังจับหนิงโม่กดไว้บนโคลน จากนั้นคว้าโคลนมาปาดบนหน้าและเสื้อผ้าของเขา
เยี่ยนชีะโเสียงดังด้วยความใ “แม่นางเสิ่น อย่า!”
เ้านายของเขาไม่เพียงแค่เลือกกิน ทั้งยังรักความสะอาดอีกด้วย! เสิ่นม่านปาดโคลนลงบนหน้าเขา เช่นนั้นก็เท่ากับฆ่าเขาทั้งเป็ไม่ใช่หรือ?
จบสิ้นแล้ว!
เขาปิดตาไม่อยากมอง เ้านายเขาต้องะเิความโมโห ทำให้ใครบางคนเืสาดกระเซ็น
ส่วนใครบางคนที่เป็ผู้ร้ายกำลังเอามือเท้าสะเอวอย่างมีชัย “อย่าอะไร? ข้าล้มจนสภาพเป็เช่นนี้ พวกเ้าอย่าคิดว่าจะหนีรอด!”
หนิงโม่ที่ถูกทับจนเปื้อนโคลนไปทั้งตัว พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นคางพร้อมเหนียงสองชั้นที่ขาวเนียนละเอียด เ้าของเหนียงสองชั้นผู้นั้นกำลังทำลอยหน้าลอยตาใส่เขาอย่างภาคภูมิใจ
ทั้งยังไม่ลืมใช้โคลนเขียนอักษร ‘王’’ ไว้บนหน้าผากของเขาด้วยท่าทีอิ่มอกอิ่มใจ
“เป็อย่างไร? หล่อเหลาหรือไม่?”
แสงอาทิตย์เริ่มส่องสว่าง ดวงตาของหญิงสาวที่ทั้งดำขลับและเป็ประกายกำลังเผยความแพรวพราวด้วยเล่ห์เหลี่ยมราวจิ้งจอก
ใน่เวลาที่หนาวเย็นผิดปกติ จู่ๆ หนิงโม่ก็รู้สึกราวกับว่าซอกหนึ่งในหัวใจกำลังถูกกรงเล็บแมวข่วนจนจั๊กจี้ ลมหายใจติดขัด ใบหน้าของเขาแดงระเรื่ออย่างผิดปกติ ดูแล้วผิดสังเกตยิ่งนัก
สิ่งที่ประหลาดยิ่งกว่าคือ ท้องน้อยของเขากำลังมีความเร่าร้อนที่พุ่งทวี เขาวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย
หนิงโม่อ้าปากและนอนจมลงไปบนโคลน ดวงตาเริ่มพร่ามัว
เยี่ยนชีรีบวิ่งตาลีตาเหลือกเข้าไปหา เมื่อเห็นสีหน้าผิดปกติของหนิงโม่ เขาก็ใจนแทบจะกัดลิ้น
“แม่… แม่นางเสิ่น เขาเป็อะไรไป?”
เสิ่นม่านเองก็ใจึงรีบคว้ามือของเขาแล้วเรียกระบบออกมาตรวจ หัวใจกำลังขาดเืหรือ?
แย่แล้ว
นางถึงกับทำอะไรไม่ถูก จากนั้นชี้นิ้วสั่งเยี่ยนชี “อย่ามัวแต่ตะลึงสิ รีบทำการผายปอดให้เขาเร็ว”
เยี่ยนชี “ผาย ผายปอดคืออะไร?”
เสิ่นม่านหมดคำจะพูด นางผลักเยี่ยนชีออกและประกบริมฝีปากกับหนิงโม่ทันใด
เยี่ยนชี “!”
โอ้โฮ แม่นางเสิ่นหลงเสน่ห์รูปโฉมงดงามของเ้านายเขาจริงๆ ด้วย ถึงกับยอมให้ชื่อเสียงของตนเสื่อมเสียเพื่อบังคับให้เ้านายยินยอม?!
ขาดสติ หลงจนขาดสติไปแล้ว…
เยี่ยนชีทำปากจึ๊และหันศีรษะไปอีกทาง
ความอ่อนนุ่มที่ส่งผ่านจากการััที่ริมฝีปาก ั์ตาดำขลับค่อยๆ ลืมขึ้นมา รูปม่านตาหดเล็กลง ชั่วพริบตานั้นกลายเป็แววตาที่ถูกบีบคั้น
หนิงโม่ลุกพรวดขึ้นจากทุ่งนา ทำเอาเสิ่นม่านสะดุ้งจนเด้งกลับไปนั่งบนทุ่งนาเช่นกัน
เขากัดฟันกรอด “เสิ่นม่านเหนียง เ้าฉวยโอกาสล่วงเกินข้าอีกแล้วนะ!”
เสิ่นม่านเช็ดโคลนบนใบหน้าและเลียริมฝีปาก พร้อมกับพูดอย่างใจเย็น
“ล่วงเกินอะไรกัน? เ้าหัวใจขาดเืต่างหาก ถ้าไม่ได้ข้าช่วยไว้ทัน ตอนนี้เ้าคงไม่รอด!”
ผายลม! เขาไม่เคยเห็นใครที่หน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!
จูบก็จูบไปสิ ยังจะมาอ้างหัวใจขาดเือะไรอีก? คิดว่าเขาเป็คนโง่หรือ? การจูบจะรักษาโรคได้อย่างไรกัน?
หนิงโม่กัดฟันด้วยความโกรธ “เ้าคิดว่าข้าซื่อบื้อหรือ?”
เสิ่นม่านถามกลับ “เมื่อครู่เ้ารู้สึกว่าตัวร้อนผ่าว วิงเวียนศีรษะและหายใจไม่คล่องใช่หรือไม่?”
ใครบางคนชะงักไปชั่วขณะ “หืม?”
“หืมอะไรเล่า? โรคหัวใจขาดเืก็มีอาการเช่นนี้? หายใจไม่คล่อง ร้อนผ่าวไปทั่วร่าง หัวใจราวกับมีคนกระชากไป ทรมานกับการเต้นในทุกจังหวะ ข้าทำการผายปอดให้เ้า เพราะว่าข้าเป็ผู้มีจิตใจดีงาม ไม่ได้คิดจะเอาเปรียบเ้าแม้แต่น้อย เข้าใจหรือยัง?”
หนิงโม่ “...” แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแปลกชอบกล
เสิ่นม่านเพิกเฉยต่อความสับสนของเขา “ผู้มีความอ่อนโยนย่อมเห็นความอ่อนโยน ผู้มีปัญญาย่อมเห็นความรู้ หากเ้ามีจิตใจสูงส่งก็คงไม่กล่าวหาผู้มีพระคุณของเ้าเช่นนี้ แล้วยังคิดว่าข้าเป็จอมราคะ วางใจได้ ในเมื่อเ้ามีคนที่ชอบแล้ว ข้าก็ไม่มีทางฝืนเด็ดแตงที่ยังไม่สุกหรอก”
หลังจากพูดจบ หญิงสาวบางคนคงรู้สึกละอายใจหรือรู้สึกอะไรอย่างอื่น จึงลุกขึ้นและตบก้น
เยี่ยนชีที่กลัวว่าใต้หล้านี้ยังวุ่นวายไม่พอ เขาเดินเข้ามาและจ้องมองหนิงโม่อย่างจริงจัง จากนั้นพึมพำเสียงค่อย “เ้านาย ท่านไม่บริสุทธิ์แล้ว”
หนิงโม่ “ไปตายซะ”
ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความคับแค้นและเขินอาย จากนั้นคว้าโคลนที่เย็นเฉียบปนเศษหิมะขึ้นมาด้วยความโมโหและขว้างไปที่ใบหน้าของเสิ่นม่าน อีกฝ่ายกรีดร้องเพราะความเย็น จากนั้นะโเด้ง
หนิงโม่ลุกขึ้นพร้อมกับโคลนทั้งตัว ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างผิดปกติ จากนั้นแสร้งทำเป็ขึงขัง
“เ้าจูบข้า ข้าปาโคลนใส่หน้าเ้า ถือว่าหายกัน”
มั่วนิ่ม!
เสิ่นม่านสติกระเจิง “เ้ากำลังแทนคุณด้วยการแก้แค้นต่างหาก!”
นางพุ่งเข้าไปอีกครั้งเพื่อจะจับตัวเขา แต่ครั้งนี้หนิงโม่รู้ทันและะโขึ้นบนเกวียน
ในจังหวะนั้นทั้งสองก็ต่อสู้กันขึ้นมา มีเพียงเยี่ยนชีที่จ้องมองอย่างตะลึง ผ่านไปนานชั่วครู่จึงเกาศีรษะ
เ้านายเขา… เป็โรครักความสะอาดไม่ใช่หรือ?
แล้วไหนล่ะที่รักสะอาด ไหนล่ะความโกรธเกรี้ยว?
นอกจากนี้ เหตุใดวันนี้ดูเ้านายกับแม่นางเสิ่นแล้ว กลับรู้สึกว่าสองคนนี้มีรัศมีเข้าคู่กันอย่างน่าประหลาด?
เขาคิดไปเองหรือไม่?
ในขณะที่เยี่ยนชีกำลังสงสัยก็ได้ยินเสิ่นม่านะโ “ตั้งรับ!”
ทันใดนั้น วัตถุหนึ่งก็ลอยมาตามเสียงลมพัดหวิว เขายกมือขึ้นตั้งรับ
“เผละ!” โคลนสาดใส่เต็มตัวเขา
ถัดจากนั้น ก้อนโคลนอีกหนึ่งก้อนก็ถูกโยนมา ครั้งนี้โดยหนิงโม่
การโจมตีของทั้งคู่เข้าเป้าเต็มๆ ทำเอาเยี่ยนชีถึงกับงงเป็ไก่ตาแตก แต่ก็หัวเราะไปตามน้ำ
ในใจเยี่ยนชี: ใครก็ได้เอาเด็กผีสองคนนี้ไปเก็บที ขอร้องล่ะ…
ท้องฟ้าสว่างบ่งบอกเวลา ตอนนี้คนที่มารับเต้าหู้ที่โรงงานสกุลเสิ่น ก็เห็นทั้งสามคนในสภาพเปื้อนโคลนและหนาวสั่นปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าประตูบ้านสกุลเสิ่น ไม่ว่าใครเห็นภาพนี้ต่างก็พากันสะดุ้งใ
คังต้าลี่ถาม “เ้านาย พวกท่านไปตกโคลนที่ใดมาหรือ?” เหตุใดจึงตัวเปื้อนโคลนเต็มไปหมด?
เสิ่นม่านโบกมือ นางรีบพุ่งกลับเข้าห้องของตนโดยไม่พูดจา จากนั้นจัดการถอดชุดที่เปื้อนโคลนออกมา
ตอนแรกคิดว่าทั้งสามคนเล่นปาโคลนใส่กัน คงต้องเป็หวัดหรือไข้ขึ้นอะไรทำนองนั้นแน่ ใครจะรู้ว่าพวกเขาทั้งสามไม่ได้เป็อะไร กลับกลายเป็ต้าเป่าที่อยู่ห้องปีกตะวันตกที่ไม่สบายแทน
เสี่ยวตงเป็คนแรกที่พบว่าน้องชายเป็ไข้ จึงรีบวิ่งไปหาท่านอา เสิ่นม่านอุ้มลูกน้อยและวิ่งไปหาหมอประจำหมู่บ้านทันที
หมอประจําหมู่บ้านตรวจชีพจรและบอกว่าเป็ไปได้ว่า่นี้อากาศหนาวเกินไป เวลานอนเด็กๆ อาจจะห่มผ้าไม่ดี จากนั้นออกใบสั่งยาลดไข้ให้ไม่กี่ชุดกลับไปต้มดื่มก็พอ
เสิ่นม่านไม่วางใจจึงแอบให้ระบบช่วยลดไข้ให้ลูก รอจนเขาฟื้นขึ้นมา จิตใจที่ตุ้มๆ ต่อมๆ จึงคลายกังวลลงไป
บนเตียงนั้น ต้าเป่านอนอยู่นิ่งๆ เสิ่นม่านยกยาที่ต้มเสร็จมาป้อนให้เขาดื่ม
เด็กน้อยดื่มยาขมจนเกินรับไหวอย่างว่าง่าย เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเสิ่นม่านก็ป้อนลูกอมน้ำผึ้งให้เขาหนึ่งเม็ด ต้าเป่ายิ้มตาพริ้ม
“ท่านแม่ หวานเหลือเกิน”
เสิ่นม่านลูบผมของลูกชายอย่างรักใคร่ นางเพิ่งนึกได้ว่า่นี้ความสนใจของนางไปอยู่ที่ร้านค้าจนหมด เด็กน้อยทั้งสามเป็เด็กดีจึงไม่เคยมาหาเวลาที่นางยุ่ง
ต้าเป่าลูบฝ่ามือของเสิ่นม่านเบาๆ และพึมพำอย่างคิดถึง
“ท่านแม่ นานแล้วที่ท่านไม่ได้ใกล้ชิดข้าเช่นนี้ ข้าคิดถึงท่านมาก”
เสิ่นม่านหลุบตาลง พลันรู้สึกแสบจมูกขึ้นมา
-----
