ชาตินี้ข้าจะไม่ขอเป็นกุลสตรีที่อ่อนหวาน (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องด้วยกัน เฉินไฮว่ชิงนั้นเพราะมีเ๱ื่๵๹บางอย่างติดค้างในใจ จึงอยู่ไม่สุข พลันเริ่มเกาหัวอีกครั้ง น่ากลัวว่าเขาจะไม่ทันระวังแล้วเกาจนหัวล้านไป

        “อาจารย์ วันนี้ท่านทำตัวแปลกๆ นะ” เยว่เยียนเยียนที่เดินอยู่ข้างหน้าหยุดฝีเท้าลงกะทันหัน ลำบากถึงเฉินไฮว่ชิงที่กำลังเกาหัวอยู่ข้างหลัง เกือบจะล้มหัวคะมำลงบนตัวเยว่เยียนเยียน

        เกิดสถานการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ขึ้น เฉินไฮว่ชิงถอยไปข้างหลังสองก้าวด้วยความประหม่า พลางเอ่ยถามเยว่เยียนเยียนขึ้น “แปลก แปลกตรงไหนกัน?” พูดตามตรง ในใจเฉินไฮว่ชิงก็มีความหวั่นกลัวอยู่เล็กน้อย ถึงอย่างไรลูกศิษย์สาวผู้นี้ของเขานั้นดีพร้อมไปทุกอย่าง เพียงแต่อารมณ์ฉุนเฉียวเอาแต่ใจเกินไป ต้องโทษบิดาของนางที่เลี้ยงดูนางให้โตมาเป็๲เช่นนี้เสียได้…

        เฉินไฮว่ชิงยามนี้ในใจมีความลับที่ไม่อาจบอกได้ เมื่อได้ยินเยว่เยียนเยียนพูดอะไรแปลกๆ ก็รู้สึกว่าเป็๞ไปได้มากที่เยว่เยียนเยียนจะพบความลับที่ตนซ่อนเอาไว้แล้ว บางทีวินาทีต่อไปนางอาจฟาดอสนีบาต ไล่ตะเพิดเขาออกไปเลย นึกไม่ถึงว่าการออกเสียงท้ายประโยคของเยว่เยียนเยียนจะยกขึ้นเล็กน้อย แล้วเอ่ยอย่างมีชีวิตชีวา “ฮี่~ น่ามองมาก!” ??? [1]

        ไปเรียนคำพูดแพรวพราวนั่นมาจากไหนกัน? ระหว่างที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ลูกศิษย์ตัวน้อยที่ตนได้เฝ้ามองนางเติบใหญ่ ก็มาถึงวัยที่หยอกล้อกระเซ้าเย้าแหย่แล้วหรือนี่? เป็๲เช่นนั้นไม่ได้การแน่  เยว่เยียนเยียนที่ตนและบิดาของนางรักใคร่เอ็นดูดั่งหัวแก้วหัวแหวนผู้นี้ จะให้ไปเป็๲สะใภ้บ้านใครง่ายๆ ไม่ได้หรอก

        อย่างน้อยๆ ก็ต้องผ่านตนและบิดาของเยว่เยียนเยียนสองด่านนี้ไปให้ได้เสียก่อน…

        นอกเ๱ื่๵๹แล้ว นอกเ๱ื่๵๹แล้ว เฉินไฮว่ชิงบอกกับตัวเองในใจไม่หยุด วันนี้เขามาหาเยว่เยียนเยียน นั่นก็ไม่ได้จะมาพูดเ๱ื่๵๹สำคัญในชีวิตอะไร แค่จะพูดถึง... เ๱ื่๵๹ที่ค่อนข้างสำคัญในยามนี้ เช่น… จะเปลี่ยนสถานการณ์ที่ต้องกินผักกาดขาวต้มน้ำเปล่าที่ไม่อร่อยนักทุกวันนี้อย่างไร?

        “อะแฮ่ม... เยียนเยียนเอ๋ย...” เฉินไฮว่ชิงดึงสติกลับมาอีกครั้ง เขานั่งลงอีกด้านหนึ่ง พร้อมกับเอ่ยขึ้น แต่กลับวกไปวนมาพูดไม่เข้าประเด็นหลักเสียที

        ความจริงแล้วเฉินไฮว่ชิงก็ตัดใจทิ้งหน้าแก่ๆ นี้ไม่ลง เขาไม่อาจเอ่ยปากกับลูกศิษย์ตัวน้อยของตนได้ จึงทำให้เยว่เยียนเยียนยิ้มตาหยีโค้ง นางรินชาส่งไปให้อีกฝ่ายที่โต๊ะ พลางขยับพัดอันน้อยของตนเข้ามาใกล้

        “อาจารย์มาหาข้าวันนี้ มีเ๹ื่๪๫อะไรจะคุยหรือ?”

        เยว่เยียนเยียนนั้น แม้นิสัยจะเย่อหยิ่งเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ในเ๱ื่๵๹ของความเฉลียวฉลาดก็ไล่เลี่ยกับพี่ชายนางไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย พูดง่ายๆ ก็คือนางฉลาดสุดๆ ๻ั้๹แ๻่เล็กนางก็อาศัยอยู่ในโถน้ำผึ้ง [2] เวลาปฏิบัติต่อคนใกล้ชิด นางจึงสังเกตจากสีหน้าและคำพูดได้ดี เฉินไฮว่ชิงเดินเข้ามาในห้องนี้ ไม่ทันได้พูดอะไรมาก สิ่งที่อยู่ในใจก็ถูกเยว่เยียนเยียนมองออกอย่างที่เรียกได้ว่าทะลุปรุโปร่งเลยทีเดียว

        ยามนี้เยว่เยียนเยียนถึงเข้าใจว่าอะไรคือ ‘แปลกประหลาด’ อย่างแท้จริง

        หากมีใครไม่เข้าใจ เช่นนั้นก็มาดูท่าทางของเฉินไฮว่ชิงในตอนนี้ได้เลย แล้วเ๽้าจะเข้าใจว่าคำว่าแปลกประหลาดนั้นเป็๲เช่นไร เยว่เยียนเยียนเองก็ยกถ้วยชาขึ้นมาบ้าง นางเอียงคอมองไปยังเฉินไฮว่ชิงที่เอาแต่อึกๆ อักๆ ไม่ยอมพูดเสียที

        “อืม... ที่อาจารย์มาครั้งนี้ ก็มีเ๹ื่๪๫บางอย่างอยากจะคุยกับเ๯้าจริงๆ เ๯้าคงดูออกหมดแล้วสินะ?” เฉินไฮว่ชิงไม่ได้หยิบถ้วยชาบนโต๊ะ อย่างไรเสียเพื่อลดความอึดอัดของตนลงสักเล็กน้อย เขาจึงยกมือขึ้นเขกหน้าผากของเยว่เยียนเยียนเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม “เยียนเยียนของเรานับวันก็ยิ่งเฉลียวฉลาดจริงๆ เลย!”

        เยว่เยียนเยียนได้ยินเช่นนั้นก็ไม่วายหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเลิกคิ้วแล้วงอนิ้วเคาะลงบนโต๊ะ “ข้าว่านะท่านอาจารย์ ท่านมีเ๱ื่๵๹อะไรก็พูดมาตรงๆ เถิด ไม่จำเป็๲ต้องปิดบังข้าหรอก ศิษย์เองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้นิสัยท่าน...”

        เวิ่นเว้อ

        แน่นอนอยู่แล้วว่า เยว่เยียนเยียนไม่อาจเอ่ยคำนั้นออกมาได้ ถึงอย่างไรตนก็เป็๲ศิษย์ จะมากน้อยก็ต้องไว้หน้าอาจารย์บ้างไม่ใช่หรือ? ดังนั้น เยว่เยียนเยียนจึงข่มกลั้นคำพูดที่อยากจะเอ่ยกระแนะกระแหนเอาไว้ แล้วหลุบตาลงเล่นถ้วยชาใบเล็กในมือของตนอย่างสงบเสงี่ยม แสร้งทำเหมือนว่าไม่มีเ๱ื่๵๹อะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น

        “อ้อ จริงสิ หากท่านอาจารย์มาเพื่อพูดโน้มน้าวให้กับเหยียนเฟยนั่น เ๹ื่๪๫นี้ข้าไม่ยอมหรอกนะ!”

        เยว่เยียนเยียนเอ่ยเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค ทำให้เฉินไฮว่ชิงรู้สึกสับสนงุนงงขึ้นมาเล็กน้อยจริงๆ พูดโน้มน้าวให้เหยียนเฟย? นี่ไปเอาที่ไหนมาพูดอีกล่ะเนี่ย... อ้อ อย่าบอกนะว่าแม่หนูผู้นี้คิดว่าเหยียนเฟยจะกลัวนางไม่พอใจ จึงให้ตนมาช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้เช่นนั้นหรือ?

        เฮ้ นั่นเ๯้าคิดผิดถนัดเลย! เหยียนเฟยผู้นั้นเป็๞ผู้ชายอารมณ์ร้ายอย่างมาก เป็๞ไปได้อย่างไรที่เขาจะมาขออภัยจากเ๯้า

        แน่นอนว่า เฉินไฮว่ชิงไม่กล้าเอ่ยคำพูดนี้ออกไป ถึงอย่างไรเยว่เยียนเยียนที่เผชิญหน้ากับตนอยู่นั้นก็เป็๲หญิงสาวที่ถูกประคบประหงมมา๻ั้๹แ๻่เด็กจนโต นางจะรับความกระทบกระเทือนที่ไม่มีใครปลอบโยนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?

        ดังนั้นเฉินไฮว่ชิงจึงเพียงโบกมือไปมา แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อ้อ ไม่ใช่เ๹ื่๪๫นั้นหรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเ๯้าหมอนั่นไม่คิดจะขออภัยเ๯้าหรอกนะ ที่สำคัญอาจารย์เองก็รู้สึกว่าวันนี้เขาเกินไปหน่อยเหมือนกัน เดิมทีไม่สมควรได้รับการให้อภัย ดังนั้นอาจารย์จะไม่มาพูดโน้มน้าวให้เขาแน่นอน เ๯้าเอาหัวใจของเ๯้าใส่กลับไปในท้องน้อยๆ นั่นได้เลย วางใจได้!”

        เมื่อเอ่ยเช่นนั้นจบ เฉินไฮว่ชิงก็รู้สึกว่าสำนวนการพูดของตนนั้นไม่เลวทีเดียว เมื่อเห็นสีหน้าลำพองใจของเยว่เยียนเยียนแล้ว เฉินไฮว่ชิงก็รู้สึกว่าการกระทำและแผนการของตนนั้นได้สำเร็จไปหนึ่งในสามส่วนแล้ว

        “ที่อาจารย์มาวันนี้น่ะ ประเด็นก็คืออยากจะถามเ๯้าว่า เ๹ื่๪๫ที่จะกลับบ้าน...”

        เกริ่นอยู่เป็๲ครึ่งวัน ในที่สุดก็ควรจะกลับเข้าประเด็นได้แล้ว เมื่อเฉินไฮว่ชิงอ้าปากเอ่ยจบ ปากเล็กของเยว่เยียนเยียนก็บูดเบ้ลงครึ่งหนึ่ง นางเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “กลับบ้านอะไร กลับไปบ้านไหนกัน? ข้าไม่กลับ”

        เฉินไฮว่ชิงรู้ดี เยว่เยียนเยียนนั้นถูกเ๹ื่๪๫นี้ทำร้ายมามากพอแล้ว ดังนั้นนางถึงแสร้งทำเป็๞ว่าตนหนีตามผู้ชายเสเพลไม่เอาไหน แล้วใช้เป็๞ข้ออ้างในการหนีงานแต่ง ทว่าความจริงนางนั้น ไม่ออกประตูใหญ่ ไม่ล่วงประตูสอง [3] นางจะไปมีผู้ชายเสเพลที่ไหนมารักใคร่สนิทสนมกันได้เล่า? เพื่อนเพียงคนเดียวที่สามารถเรียกได้ว่าเป็๞คนพเนจรไม่เอาไหน ก็คงเป็๞อาจารย์อย่างตนผู้นี้นี่เอง

        “สตรีตัวคนเดียวอย่างเ๽้า ออกมาอาศัยอยู่ข้างนอก ครอบครัวย่อมไม่อาจวางใจ ถึงแม้ครั้งก่อนเ๽้าจะเขียนจดหมายส่งให้ที่บ้านแล้ว แต่ว่า... ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่หนทางในระยะยาว เ๽้าว่าถูกหรือไม่?”

        “ข้าบอกแล้วไง ข้าไม่กลับบ้าน” เมื่อเยว่เยียนเยียนโมโหขึ้นมา ไม่ว่าใครก็กล่อมไม่ลง คนในครอบครัวเพียงผู้เดียวที่เอ่ยแค่ไม่กี่คำแล้วนางจะยอมฟังอย่างมีเหตุมีผลนั้น ก็คือพี่ชายฝาแฝดของนางผู้นั้น แต่น่าบังเอิญนัก ยามเมื่อราชโองการของฮ่องเต้ส่งลงมานั้น พี่ชายของนางก็ดันไม่อยู่ที่บ้านพอดี!

        เมื่อเป็๲เช่นนี้ องค์หญิงน้อยที่ไม่มีใครโน้มน้าวนางได้ก็ย่อมเผ่นหนีไปไม่รั้งรอ ทิ้งเอาไว้เพียงจดหมายฉบับหนึ่ง แล้วหนีไปด้วยความเคืองขุ่น

        เฉินไฮว่ชิงรู้ดี เยว่เยียนเยียนเป็๞หญิงสาวที่รักความอิสระ อย่ามองว่านางตัวเล็กๆ เช่นนี้ แท้จริงหัวใจนั้นกว้างใหญ่นัก นางรู้ว่าหลังจากที่ตนหนีไปแล้ว พ่อแม่จะต้องแอบตามหาที่อยู่ของนางอย่างลับๆ ไปทั่วทุกหนแห่งแน่นอน ดังนั้น นางจึงตามหาคนคนหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธตนได้ นั่นก็คือเฉินไฮว่ชิง เพื่อมาเป็๞ข้ออ้างและโล่กำบังให้ตน

        นอกจากนี้เฉินไฮว่ชิงก็ทัศนาจรมาหลายปี เป็๲ผู้ไม่สนใจเ๱ื่๵๹ภายนอกมาตลอด ไม่มีใครรู้ที่อยู่ที่แน่นอนของเขา หากไม่ใช่เพราะเคยมีสัญญาเกี่ยวกับนกหวีดกับเยว่เยียนเยียนมาก่อน น่ากลัวว่ายามนี้เยว่เยียนเยียนคงร่อนเร่พลัดถิ่นอยู่ข้างนอก ขอข้าวประทังชีพอยู่กระมัง

        “แต่หากเ๯้าไม่กลับไป เ๯้าอยู่ที่นี่ จะไม่สร้างความวุ่นวายให้กับทุกคนหรอกหรือ... กลับบ้านไปมันก็ไม่ได้มีอะไรแย่หรอก ใช่หรือไม่เล่า?”

        เฉินไฮว่ชิงเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดแผกแปลกไปตรงไหน นึกไม่ถึงว่าจะเลือกสำนวนพูดผิดไปเช่นนี้ จนไปสะกิดหัวใจของคุณหนูใหญ่เยว่เยียนเยียนเข้า...


        เชิงอรรถ

        [1]  น่ามองมาก / ดูดีมาก (怪好看) 怪 แปลได้หลายความหมาย ในที่นี้เป็๞การเล่นคำในความหมายของคำว่า แปลกประหลาด และ อย่างมาก

        [2] โถน้ำผึ้ง (蜜罐) หรือ Honey pot เป็๲คำศัพท์เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบนอินเทอร์เน็ต หมายถึงระบบที่สร้างขึ้นเพื่อหลอกล่อให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาโจมตีระบบ เพื่อศึกษาหรือวิเคราะห์พฤติกรรมของการโจมตีจากผู้ไม่หวังดีนั้น และนำไปพัฒนาวิธีป้องกันการโจมตีแบบต่างๆ

        [3] ไม่ออกประตูใหญ่ ไม่ล่วงประตูสอง (大门不出二门不迈) หมายถึงไม่เคยออกไปพบปะคบค้ากับผู้อื่นมาก่อน ในสมัยโบราณถือคติว่าหญิงสาวตระกูลสูงที่ยังไม่ออกเรือน จะต้องอยู่ในเรือนไม่ออกมาพบปะกับใครง่ายๆ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้