“ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นเลยนะ วางใจเถอะ ฉันก็แค่เห็นว่าญาญ่ายังเด็ก แต่กลับอยู่คนเดียวในสถานที่หนาวเย็นแบบนี้ ทุกวันก็ต้องต้อนรับคนมากมายด้วยความยากลำบาก ฉันคิดว่ามันน่าเ็ปมากเลย มาสิ อันนี้ให้เธอ ฉันไม่มีข้อเสนออะไรให้ญาญ่าทั้งนั้นแหละ แบบนี้วางใจได้หรือยัง”
เย่เทียนเซี่ยแกะเปลือกอมยิ้มออกแล้วยื่นมันไปด้านหน้าจนแทบจะติดกับจมูกเล็กๆของญาญ่า จมูกของญาญ่าขยับฟุดฟิดอย่างชัดเจน สองตาของเธอเปล่งประกายวาววับออกมาอย่างแปลกประหลาดทันที........ เพราะว่ากลิ่นที่ลอยเข้าไปในจมูกก็คือกลิ่นที่เธอไม่เคยได้ััมาก่อน มันเป็กลิ่นหอมหวานที่หอมยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น!
ญาญ่าที่เคยมีท่าทีปฏิเสธเป็พัลวันในที่สุดก็ไม่อาจต้านทานความเย้ายวนใจของกลิ่นหอมนั้นได้ เธอกลืนน้ำลายลงไปเล็กน้อยแล้วรับอมยิ้มมาจากมือของเย่เทียนเซี่ย เธอลองใช้มือแตะๆมันก่อนจากนั้นก็เอามันมาวางไว้ใกล้จมูกแล้วดมมันไปมา ทันใดนั้นน้ำลายหยดเล็กๆก็ไหลออกมาจากปากน้อยๆของเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้
ญาญ่าสูดน้ำลายกลับไปแล้วกลืนมันลงคอ เธอพยายามอดทนต่อความ้าอยากจะพุ่งเข้าไปกินมันและถามเย่เทียนเซี่ยออกมาอย่างระวัง “พี่ชาย.......... พี่บอกเองนะว่าไม่ได้เสนอข้อเสนออะไรให้ญาญ่าทั้งนั้น ดังนั้นนี่ไม่นับว่าเป็การติดสินบน ไม่นับๆ”
“อืม แน่นอนว่าไม่นับ เพราะฉันชอบญาญ่า ดังนั้นก็เลยให้ญาญ่ากินไง” เย่เทียนเซี่ยพูดออกไปพร้อมกับยิ้มตาหยี........ ถ้าแม้แต่เด็กแปดเก้าขวบอย่างเธอฉันยังจัดการไม่ได้......... แล้วฉันจะไปจัดการเด็ก 12-13 ขวบอย่างกั่วกัวได้ยังไง!
ในที่สุดญาญ่าก็ลองเอาอมยิ้มเข้าไปในปาก อมยิ้มในศตวรรษที่ 23 ไม่ใช่อมยิ้มธรรมดาๆที่ทำขึ้นมาอย่างง่ายๆ ด้านในของมันเต็มไปด้วยส่วนประกอบจากธรรมชาติมากมายที่กระตุ้นต่อมรับรสชาติซึ่งเป็สิ่งที่ประชาชนในโลกนี้ต้องไม่เคยััมาก่อนอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่ออมยิ้มเข้าไปในปาก ใบหน้าของญาญ่าจึงมีความสุขราวกับจะลอยขึ้นไปบนฟ้าอย่างไรอย่างนั้น...........
“อร่อยมากๆ อร่อยมากๆๆๆ!”
กร๊อบ........ ลูกอมลูกกลมๆ้าของอมยิ้มถูกญาญ่ากัดเข้าไปคำใหญ่ เธอหลับตาแน่น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหลงใหล เธอเคี้ยวมันไปด้วยพร้อมกับเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
“อั๊ยหยา!! อมยิ้มไม่ได้กินอย่างนั้นนะ ไม่ได้กินอย่างนั้น!” เมื่อมองเห็นญาญ่ากัดอมยิ้มเข้าไปเต็มคำแล้วเคี้ยวงุบงับเหมือนกินผักกาดกั่วกัวที่เหมือนโดนแย่งของของตัวเองไปก็ลอยไปอยู่ตรงหน้าของญาญ่าแล้วะโออกมาพร้อมกับโบกมือน้อยๆวุ่นวายไปหมด “ฮึ้ย........ อมยิ้มต้องค่อยๆเลียเอาสิ ไม่ได้กินอย่างนี้ซักหน่อย! ฮือ....... นายท่าน เธอทำเสียของหมดแล้ว นั่นมันเป็อมยิ้มของกั่วกัวนะ!”
แต่ทว่าเสียงของเธอต่อให้ดังกว่านี้อีกสัก 100 เท่าญาญ่าก็ไม่มีวันได้ยิน
“.............” เย่เทียนเซี่ย
อมยิ้มแท่งนึงที่กัวกัวใช้เวลากินกว่าชั่วโมงครึ่งกลับหายไปด้วยน้ำมือของญาญ่าในเวลาแค่ครึ่งนาที
ญาญาดูดกลืนรสชาติหอมหวานสุดท้ายลงไป เธอเลียมุมปากไปมาแล้วจากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยดวงตาที่เป็ประกาย “พี่ชาย มันอร่อยมากเลย มันเป็สิ่งที่อร่อยที่สุดเท่าที่ญาญ่าเคยกินมาเลย........ พี่ชาย ไอสิ่งที่เรียกว่าอมยิ้มนี่พี่ยังมีอีกหรือเปล่า?”
ฟุบ........ เย่เทียนเซี่ยรีบหยิบอมยิ้มรสส้มขึ้นมาทันทีแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “มีอยู่แล้ว ฉันยังมีอีกอันที่อร่อยกว่าอันนั้นอีกนะ”
“อา....... ให้ข้าๆ ข้าอยากกิน” ญาญ่ารีบยื่นมือออกมาอย่างกระตือรือร้น ร่างของเธอโยกไหวไปมาจนเกือบจะตกลงมาจากมนุษย์หิมะ
เย่เทียนเซี่ยเก็บอมยิ้มกลับไปเสียงดัง “ฟุบ” จากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วพูดออกมา “อันนี้ให้ญาญ่ากินไม่ได้ เพราะอันนี้ฉันจะให้น้องสาวของฉันกิน เธอชอบกินอมยิ้มมากเลย”
“แต่ว่า......... ข้าอยากกิน......... ให้ข้ากินได้ไหม ญาญ่าจะจดจำพี่ชายตลอดไปเลย” แววตาที่ญาญ่าแสดงออกมานั้นช่างน่าสงสาร เธอมองมาที่เย่เทียนเซี่ยด้วยความหวังอย่างน่าสงสาร......... ที่มากกว่านั้นก็คือเธอยังจ้องเขม็งไปที่อมยิ้มในมือของเย่เทียนเซี่ยด้วย
เย่เทียนเซี่ยที่ฝึกปรือต่อกรกับสายตาของกั่วกัวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเป็เวลานานมีภูมิคุ้มกันต่อสายตาแบบนี้แล้วไม่น้อย เขายกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาที่ข้อมือจากนั้นก็พูดขึ้นมา “ญาญ่า ฉันต้องกลับไปแล้วนะ.............. พรุ่งนี้จะมาเล่นกับเธอใหม่นะ”
“อ๊าๆๆ..........รอเดี๋ยว..........”
ตุ๊บ........... ญาญ่าะโลงมาจากมนุษย์หิมะลงสู่พื้นหิมะเบื้องล่าง เธอครุ่นคิดอยู่สักพักจากนั้นก็ปล่อยเสียงร้องไห้ออกมา “ฮือๆ............พี่ชาย..........ท่านรังแกข้า..........”
เย่เทียนเซี่ยอุ้มญาญ่าขึ้นมาจากพื้นหิมะ ร่างของเธอเล็กและเบามาก เย่เทียนเซี่ยใช้มือของเขาโอบกอดเธอเอาไว้แล้ววางเธอลงไปบนตัวของมนุษย์หิมะก่อนจะพูดออกมาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย “เดิมทีแล้วอมยิ้มทั้งสองแท่งนี้คือของที่ฉันจะเอาไปให้น้องสาวที่บ้านกิน เพราะฉันชอบญาญ่าถึงให้ญาญ่ากินไปอันนึงไง อีกอันนี่ให้ญาญ่าไม่ได้จริงๆ”
ญาญ่าสะอื้นแล้วพูดออกมาด้วยดวงตาแดงก่ำ “งั้นข้า.........ข้าจะให้พี่ชายเข้าไปในถ้ำหมาป่าหิมะถ้าพี่ชายให้ข้ากิน ไม่ได้ๆ ฮือ.........”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่เทียนเซี่ยเปลี่ยนเป็รอยยิ้มที่งดงามทันที “ถ้าญาญ่าอยากกินจริงๆล่ะก็ งั้นฉันจะให้ญาญ่ากินก็ได้......... แต่ว่าญาญ่าบอกเองนะว่าจะให้ฉันเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
ญาญ่ารับอมยิ้มในมือของเย่เทียนเซี่ยมาแล้วถือมันไว้ในมืออย่างระมัดระวัง เธอปาดน้ำตาทิ้งแล้วเม้มปากแน่น “หึ คนไม่ดี”
“............” เย่เทียนเซี่ย
ญาญ่าถืออมยิ้มเอาไว้ในมือหนึ่งก็โบกไปมาท่ามกลางความว่างเปล่า เย่เทียนเซี่ยได้ยินเสียงแตกหักดังสนั่น ผนังน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ทางเหนือแตกออกกลายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที ด้านหลังผนังน้ำแข็งนั้นมีทางเดินที่กลายเป็น้ำแข็งปรากฏขึ้นมาตรงหน้าแทน
ปากทางเข้าถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง
“งั้นฉันเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งแล้วนะ ญาญ่า เดี๋ยววันหลังจะมาเล่นด้วยใหม่นะ” เป้าหมายของเย่เทียนเซี่ยสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เขาไม่ได้รั้งรออยู่ตรงนั้นต่อไปเพราะเขาเกรงว่าถ้าเขาอยู่กับเด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนั้นนานกว่านี้ล่ะก็ไอคิวของเขาคงจะถูกดึงกลับไปอยู่ระดับเด็กอายุแปดเก้าขวบอีกครั้ง
หลังจากที่เย่เทียนเซี่ยเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งแล้วญาญ่าก็โบกมือครั้งนึง เศษน้ำแข็งมากมายที่กระจายอยู่บนพื้นก็ลอยขึ้นมาแล้วก่อเกิดเป็ผนังน้ำแข็งปิดผนึกทางเข้าถ้ำหมาป่าน้ำแข็งอีกครั้ง
“ฮือ....... พี่ชายเป็คนดีมากเลย พี่สาวเทพธิดาผู้สร้างโลกน่าจะไม่ว่าอะไรข้าหรอกมั้ง” ญาญ่าถืออมยิ้มเอาไว้ในมือแล้วพูดออกมาเสียงเบา ก่อนหน้านี้เธอเรียนรู้การแกะกระดาษห่อมาจากเย่เทียนเซี่ยแล้ว ครั้งนี้ญาญ่าฉลาดขึ้นมานิดหน่อย เธอไม่ได้กัดมันจนแตกแต่ใช้ลิ้นเล็กๆเลียชิมรสหวานบนอมยิ้มทีละน้อยๆ......... แล้วทันใดนั้นเธอก็พบว่าการกินแบบนี้ไม่เพียงแต่จะกินได้นานยิ่งขึ้น แม้แต่รสชาติเองก็ยิ่งทำให้เธอหลงใหลมากยิ่งขึ้นไปด้วย
ถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง โลกน้ำแข็ง
ด้านในนี้ไม่มีหิมะเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแค่น้ำแข็งอย่างเดียวเท่านั้น บนล่างซ้ายขวาล้วนเป็ผนังน้ำแข็ง ใต้เท้าของเขาก็เป็น้ำแข็งลื่นๆเช่นเดียวกัน หลังจากที่เย่เทียนเซี่ยลองเดินดูเป็ระยะทางสั้นๆ ในที่สุดเขาก็เอารองเท้าลุยหิมะสีดำที่เขาซื้อมาจากญาญ่าเป็เงิน 1,000 เหรียญทองออกมา
เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว......... รองเท้าผ้าที่ดูเก่ากึ๊กสุดๆถูกสวมลงบนเท้าของเย่เทียนเซี่ย ความรู้สึกลื่นๆใต้เท้าของเขาหายไป เมื่อเดินไปข้างหน้าสามสี่ก้าวเขาก็เดินได้อย่างสบายๆเหมือนเดินไปบนถนนขรุขระเท่านั้น
ก็นับว่าคุ้มค่าเงินล่ะนะ.......... เย่เทียนเซี่ยปลอบตัวเองเสียงเบาแล้วเดินลึกเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง
โลกน้ำแข็งนั้นเงียบสงัดจนไม่ได้ยินเสียงใดๆ หลังจากเดินเข้ามาไม่ไกลนักประมาณหนึ่งนาทีได้ดวงตาของเย่เทียนเซี่ยก็ต้องเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิมเมื่อโลกน้ำแข็งที่กว้างใหญ่กว่าเดิมปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา
ขณะเดียวกันนั้นความหนาวเย็นที่เสียงแทงไปถึงกระดูกก็พุ่งเข้ามาจู่โจมร่างกายของเขา
ถ้าบอกว่าความหนาวเย็นก่อนหน้านี้สามารถทนได้ ความเย็นในตอนนี้ก็เริ่มล้ำเส้นความอดทนที่คนธรรมดาจะสามรถอดทนได้แล้ว แม้แต่เย่เทียนเซี่ยที่มีภูมิต้านทานความหวานมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปยังเริ่มรู้สึกถึงความหนาวจับใจนี้เช่นกัน
-15,-15,-15,-15……
ตัวเลขความเสียหายลอยขึ้นมาจากหัวของเขาอย่างต่อเนื่อง ถ้ำหมาป่าน้ำแข็งที่อยู่ตรงหน้าไม่รู้ว่ามันยังต้องไปอีกยาวไหลเท่าไร แต่ตอนนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
ตรงหน้าของเย่เทียนเซี่ยคือแผ่นน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ราวกับลานสเก็ตสุดหรู ้าของพื้นน้ำแข็งนั้นมีหมาป่าสีขาวราวหิมะไม่กี่ตัวกำลังเดินเตร็ดเตร่กระจายอยู่ทั่ว เมื่อพวกมันเห็นเย่เทียนเซี่ยเดินเข้ามาพวกมันก็เห่าออกมาเสียงดังแล้วพุ่งมาทางเย่เทียนเซี่ย
หมาป่าหิมะ : เลเวล 25
พลังชีวิต : 1,600
มันคือหมาป่าหายากที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพแววล้อมอันหนาวเหน็บ มันมีนิสัยอ่อนโยนมากกว่าหมาป่าธรรมดา มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแววล้อมได้อย่างแข็งแกร่ง ขนของมันสามารถนำไปทำเป็เสื้อผ้ากันหนาวได้
พร์ : ไม่หวาดกลัวความหนาวเย็น สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดายเมื่ออยู่ภายใต้อากาศอันหนาวเย็น
ทักษะ : ไม่มี
จุดอ่อน : หวาดกลัวการโจมตีด้วยธาตุไฟและธาตุดิน
หมาป่าสามตัวพุ่งเข้ามาหาเย่เทียนเซี่ยในเวลาเดียวกัน เย่เทียนเซี่นเรียกห้วงเวลาแห่งโชคชะตาออกมา เมื่อเขาเคลื่อนไหวหลบหลีกการโจมตีอย่างรวดเร็ว ร่างแข็งๆก็ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วไปเล็กน้อย..........
การคุมคามจากความหนาวเหน็บทำให้มือเท้าและร่างของเขาเย็นเฉียบ ประสาทััของเขาเองก็เกิดความชาขึ้นมาเล็กน้อย การเคลื่อนไหวของเขาก็แข็งเกร็งไปนิดๆเช่นกัน ความแข็งแกร่งของเขามาจากพร์อันน่ากลัวของเขา แต่สภาพแวดล้อมเช่นนี้กลับทำลายพร์ของเขาลงไปอย่างน่ากลัว เขารู้ได้เลยว่าถ้าร่างกายของเขาสูญเสียความคล่องตัว เส้นทางด้านหน้าของเขาจะต้องยากลำบากอย่างแน่นอน
เย่เทียนเซี่ยสูดหายใจเข้าลึกขับไล่ความรู้สึกไม่สบายออกไปจากร่างกายและการเคลื่อนไหวของเขา เขาเคลื่อนไหวหลบหลีกการพุ่งเข้าโจมตีของหมาป่าสามตัวแล้วหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ฟาดัสะบั้นใส่หมาป่าหิมะตัวหนึ่งแล้วจึงก้าวไปด้านหน้าอีกก้าวแล้วปลดปล่อยการโจมตีออกไปอีกครั้ง หลังจากปลดปล่อยการโจมตีออกไปแล้วเย่เทียนเซี่ยก็หมุนตัวกลับแล้วพุ่งไปหาหมาป่าหิมะอีกสองตัว ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นพวกมันก็ถูกฆ่าตายจนล้มลงไปกองกับพื้นทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
นอกจากหมาป่าหิมะสามตัวนั้นพื้นที่ว่างเปล่าด้านหน้าก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตตัวอื่นอีก ภายใต้สภาวะอันหนาวเหน็บเช่นนี้ระดับความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตของแหวนแห่งชีวิตจึงถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว เย่เทียนเซี่ยดื่มน้ำยาฟื้นฟูขวดเล็กลงไป จากนั้นเขาก็ก้มลงไปแล้วเรียกใช้ทักษะ “เก็บรวบรวม” ขึ้นมา
“ติ๊ง! ท่านได้รับ ‘หนังหมาป่าหิมะ’ 1 แผ่น”
“ติ๊ง! ท่านได้รับ ‘หนังหมาป่าหิมะ’ 1 แผ่น”
หนังหมาป่าหิมะ : ิัของหมาป่าหิมะมีความสามารถอันแข็งแกร่งในการป้องกันอากาศหนาว สามารถนำไปทำเป็เสื้อผ้ากันความหนาวได้
เมื่อเดินต่อไปด้านหน้าเย่เทียนเซี่ยก็พบเพียงทางน้ำแข็งอันกว้างขวาง ความกว้างของมันประมาณร้อยเมตรได้ ้าของถ้ำน้ำแข็งมีแท่งน้ำแข็งจำนวนมากงอกออกมาซึ่งบางอันก็ยาวจนแทบจะจรดลงบนพื้นแล้ว
ติ๊ง!
ความรู้สึกอันตรายลอยขึ้นมาบนหัวของเขาทันที เย่เทียนเซี่ยขยับวูบทันทีโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง ตามมาด้วยการะโไปด้านหน้าท่ามกลางความว่างเปล่าอย่างรวดเร็วแล้วม้วนตัวก่อนจะสไลด์แล้วหยุดลงบนพื้น ทันทีที่เขาหยุดตัวลงเสียงแตกหักดังสนั่นก็ดังมาจากตำแหน่งด้านหน้า ตรงตำแหน่งที่เขาเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วินาทีมีแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ตกลงมาอย่างพอดิบพอดี เนื่องจากแท่งน้ำแข็งมีความแหลมคมมากมันจึงฝังลงไปในพื้นน้ำแข็งโดยไม่แตกออกและไม่ล้มลง
ถ้าเย่เทียนเซี่ยถูกแท่งน้ำแข็งชิ้นนั้นหล่นใส่เขาคงจะตายทันทีโดยไม่ต้องสงสัย
ท่ามกลางลานน้ำแข็งอันเงียบสงัดแห่งนี้แท้จริงแล้วมีอันตรายใหญ่หลวงซุกซ่อนอยู่ภายใน