คำว่า ‘หย่วนเกอ’ ทำเอากระดูกเจียงหงหย่วนอ่อนระทวยไปเสียหมด!
ดูเหมือนการเก็บกวาดสตรีกลุ่มนี้จะชนะใจภรรยาตัวน้อย
เจียงหงหย่วนที่กำลังโมโหสงบลงทันทีเมื่อเจอกับหลินหวั่นชิว รัศมีน่ากลัวทั่วร่างหายไป สีหน้าอ่อนโยนลง
“เ้ายังไม่แข็งแรงดี เหตุใดจึงยกน้ำหนักเช่นนี้ออกมา หงหนิงตายไปแล้วหรือ งานใช้แรงงานถึงปล่อยให้เขาเป็คนทำ!” เจียงหงหย่วนรู้สึกหวานชื่นในใจ ทว่าคำพูดกลับไม่น่าฟังนัก
แต่หลินหวั่นชิวพอจะเข้าใจเขามากขึ้นแล้ว บุรุษผู้นี้ชอบทำตัวแย่ ทั้งที่เป็ห่วงนางแต่กลับพูดเหมือนเอาพริกชี้ฟ้าฟาดใส่
ทว่าคนอื่นรอบๆ ฟังแล้วไม่คิดเช่นนั้น ทุกคนต่างใที่พบว่าสำหรับเจียงหงหย่วนแล้ว ภรรยาสำคัญกว่าน้องชาย
อันที่จริง เมื่อก่อนทุกคนกลัวเจียงหงหย่วนเพียงเพราะหน้าตาของเขาน่ากลัว อีกทั้งครอบครัวยังอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่ค่อยไปมาหาสู่กับผู้คนในหมู่บ้าน
รวมกับเจียงหงหนิงเมื่อถูกคนรังแกก็ไม่กล้าฟ้องผู้ใดเพราะกลัวว่าจะนำปัญหามาให้เจียงหงหย่วน เจียงหงหย่วนจึงไม่เคยมีเื่กับผู้ใดในหมู่บ้านเช่นกัน
ทุกคนกลัวหน้าตาของเจียงหงหย่วน แต่ไม่ได้หวาดกลัวนิสัยของเขา
ทว่าตอนนี้ ทุกคนได้ประจักษ์นิสัยเวลาโมโหของเจียงหงหย่วนแล้ว
ในหมู่บ้าน บรรดาบุรุษทั้งหลายจะลงไม้ลงมือกับแค่ภรรยาตัวเอง ปกติไม่มีบุรุษใดลงมือกับสตรีอื่นข้างนอก
แต่เจียงหงหย่วนไม่เหมือนกัน เขาไม่สนว่าเป็บุรุษหรือสตรี หากกล้าหาเื่ภรรยาเขา เขาจะไม่มัวพูดพร่ำทำเพลง ลงมือจัดการทันที
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทุกคนคิดกระไรบางอย่าง วันหน้าต้องไตร่ตรองให้ดี มีเื่กับผู้ใดย่อมได้หากไม่ใช่ภรรยานายพรานเจียง
มิน่าเล่า หลังแต่งเข้าบ้านตระกูลเจียง หลินหวั่นชิวที่เคยเป็เหมือนกระต่ายตอนอยู่บ้านตระกูลหลินถึงได้กล้าแยกเขี้ยวยิงฟันโต้เถียงกับผู้อื่น
มีนายพรานเจียงปกป้องเช่นนี้ หากเป็พวกเขาคงกล้าทำเช่นกัน!
เจียงหงหย่วนล้างมือ หันไปมองพวกคนที่ยังไม่แยกย้ายตาขวาง “อย่างไรกัน? ทุกท่านจะอยู่รอกินข้าวหรือ?”
ดวงตาเขาเบิกโพลง แม้แต่แผลเป็บนหน้ายังสั่นไปด้วย ทุกคนได้สติทันที รีบเดินหนีกระจัดกระจายกันไป
โดยเฉพาะพวกคนพูดจาผสมโรงที่รีบวิ่งหนีปัสสาวะราด
กลัวหนีช้าแล้วจะโดนโยนลงบ่อมูล
หลังจากที่หลินซย่าจื้อกลับไปก็ไข้ขึ้นสูง เห็นชัดว่าใไม่เบา
หลินฟาไฉกับเหล่าสวี่ซื่อ (เป็ญาติกับสวี่ซื่อสองพี่น้อง) ช่วยดูแลหลินซย่าจื้อไปด้วย พร้อมด่าทอหลินหวั่นชิวไปด้วย ทั้งบ้านตระกูลหลินถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศกดดันหดหู่ ทุกคนมีสีหน้าเศร้าหมอง เว้นก็แต่โจวเอ้อร์เหนิงที่แอบดีใจ
โจวเอ้อร์เหนิงเสียดายด้วยซ้ำ พลางคิดในใจว่าเหตุใดนายพรานเจียงไม่ฆ่าหลินซย่าจื้อให้ตายไปเสีย?
หากฆ่าหลินซย่าจื้อตาย เจียงหงหย่วนต้องชดใช้ด้วยชีวิตเช่นกัน ถ้าเช่นนั้น…หลินหวั่นชิวต้องกลับมาอยู่บ้านแม่ใช่หรือไม่?
ถึงเวลานั้นเขาจะได้…
แค่นึกถึงหน้าอกกับบั้นท้ายนูนกลม รวมถึงใบหน้ายั่วเย้าของหลินหวั่นชิว โจวเอ้อร์เหนิงก็ร้อนรุ่มไปทั้งใจ
ฝั่งบ้านตระกูลเจียง เจียงหงหนิงเล่าเื่ราวทั้งหมดที่เกิดใน่สองสามวันมานี้ให้เจียงหงหย่วนฟัง ไม่ลืมที่จะชมหลินหวั่นชิวขณะเล่าไปด้วย เงยหน้าที่เหมือนเปิดร้านขายผักดองขึ้นอวดเสื้อผ้ากับรองเท้าที่หลินหวั่นชิวทำให้
ทำเอาเจียงหงหย่วนอิจฉา…อยากโยนน้องชายน่ารำคาญผู้นี้ออกไปเสีย
“พวกเขารังแกเ้าจนเป็นิสัยแล้วน่ะสิ!” เจียงหงหย่วนชำเลืองตาถามเจียงหงหนิง
เจียงหงป๋อเห็นดังนั้นรู้ได้ทันทีเจียงหงหนิงว่ากำลังจะโดนดี ใช้มือปิดปากกระแอมเตือนเขา
น่าเสียดาย…
เจียงหงหนิงไม่รู้เื่ พลั้งปากพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “ใช่น่ะสิขอรับ พวกเขาคอยแย่งหญ้าจูเฉ่าจากข้าเป็ประจำ แย่งไปแล้วยังทุบตีอีก…ข้า…”
เจียงหงหนิงผู้น่าสงสาร ในที่สุดก็เริ่มรู้ตัวหลังจากที่เห็นแววตาเจียงหงหย่วนเย็นลงเรื่อยๆ เขาอยากตบปากตัวเองเสียจริง
“เจียงหงหนิง เ้าเก่งนัก โดนรังแกแต่ไม่รู้จักฟ้อง คิดว่าข้าตายไปแล้วหรือ!” เจียงหงหย่วนไม่สบอารมณ์ คำพูดคำจายิ่งรุนแรง
ทั้งที่คำว่า ‘หย่วนเกอ’ จากหลินหวั่นชิวเมื่อครู่ทำให้ใจเขาอ่อนยวบลงแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับโมโหเหลือเกิน เหล่าซานมีรองเท้ากับเสื้อผ้าใหม่ เหล่าเอ้อร์ย่อมมีเช่นกัน แต่เขา…ในใจภรรยาตัวน้อยไม่มีเขา!
ยิ่งมองเ้าเด็กนี่ก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา!
“ข้า…ข้ากลัวจะสร้างปัญหาให้ต้าเกอ ปกติต้าเกอลำบากมากพอแล้ว” เนื่องจากเจียงหงหย่วนขุดคุ้ยเื่อดีตจากคำพูดของเขา ตอนนี้เจียงหงหนิงจึงขาดความมั่นใจที่จะพูด
“เ้ากลัวจะสร้างปัญหาให้ข้า? แต่หากข้ารู้เร็วกว่านี้จะได้จัดการพวกเขา พวกเขาจะได้ไม่กล้ารังแกเ้าและไม่ทำให้พี่สะใภ้เ้าโดนคนรุมด่าเช่นนี้เพียงเพราะเห็นว่าข้าไม่อยู่!”
เจียงหงหย่วนโมโหมากจริงๆ แค่นึกถึงภาพที่คนพวกนั้นรังแกภรรยาตัวน้อย ใจเขาก็แหลกละเอียดเสียแล้ว
อยากฆ่าคนพวกนั้นเสียให้หมด!
“ข้าผิดไปแล้วต้าเกอ…พี่สะใภ้สอนข้าแล้วว่าหากวันหน้าโดนรังแกต้องบอกนาง” เจียงหงหนิงบีบชายเสื้อ จ้องปลายเท้าอย่างประหม่าพร้อมกับพูดเสียงต่ำ
“ไม่ใช่บอกพี่สะใภ้เ้า แต่ต้องบอกข้า!” เ้าเด็กนี่ ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็คนหนุนหลังบ้านนี้หรือไร?
ขืนบอกภรรยาตัวน้อย จะให้นางบุกตะลุยโจมตีข้าศึกหรือ?
ให้นางโดนรังแกอีก?
เจียงหงหย่วนแค่นึกถึงฉากนั้นก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“ท่านอย่าทำให้หงหนิงกลัว รีบไปอาบน้ำเถิด อาบเสร็จแล้วมาลองเสื้อผ้า ข้าทำเสื้อผ้าไว้ให้ท่านสองชุด” หลินหวั่นชิวเดินเข้ามาจากด้านนอก เห็นเขาตำหนิคนได้น่ากลัวมาก ห่วงว่าเจียงหงหนิงจะกลัว รีบช่วยจับแยก
คำพูดของหลินหวั่นชิวเป็เหมือนน้ำเย็นที่ช่วยดับไฟในใจ ที่แท้ภรรยาตัวน้อยก็ไม่ได้ลืมเขา
ไฟโทสะดับมอดลงแล้ว ก่อตัวเป็ฟองสบู่สีชมพู ดีใจจนพูดจาไปถึงไหนก็ไม่รู้ “เหตุใดถึงเร่งนัก เสื้อผ้าเพียงสองชุด วางใจเถิด ข้าใส่เป็น่า”
ปากพูดเช่นนี้ก็จริง แต่การกระทำกลับไม่ชักช้า มุ่งตรงไปยกน้ำที่ห้องครัวเหมือนสายลม…
หลินหวั่นชิวฉีกยิ้มมุมปาก ประสบการณ์ที่ต้องอยู่กับบุรุษจอมวางมาดนี่ช่าง…
“เอาล่ะ พวกเ้าสองคนอ่านหนังสือไปก่อน ข้าจะไปทำกับข้าว”
เจียงหงหนิงรีบพูด “พี่สะใภ้ ข้าจะช่วยท่านจุดไฟ”
“เช่นนั้นจุดไฟไปด้วย ท่องคัมภีร์ตรีอักษรให้ข้าฟังไปด้วย” มีเจียงหงป๋อช่วยสอน อีกทั้งเจียงหงหนิงเองก็ทุ่มเทความตั้งใจ จึงท่องตำราร้อยสกุลได้หมดแล้ว ตอนนี้กำลังหัดท่องคัมภีร์ตรีอักษรอยู่
“ได้ขอรับ! อันคนเราแรกเกิดเดิมที…” เจียงหงหนิงตอบฉะฉาน เริ่มท่องอย่างไหลลื่น
หลินหวั่นชิวทำเนื้อเสือที่เจียงหงหย่วนนำกลับมาไม่เป็ เพราะเสือเป็สัตว์ป่าคุ้มครองในยุคปัจจุบัน กินแล้วอาจติดคุก ด้วยเหตุนี้ ขนาดคนที่ชอบกินของอร่อยเช่นนางจึงไม่เคยลิ้มลองเนื้อเสือ
แน่นอนว่าไม่มีช่องทางให้ซื้อเช่นกัน
หลินหวั่นชิวได้แต่ทำเนื้อเสือเหมือนเนื้อสุนัข ใช้หัวหอม ขิง กระเทียม ฮวาเจียวและเหล้ามาหมัก เนื่องจากเนื้อเสือถูกเจียงหงหย่วนใช้เกลือจำนวนมากหมักเรียบร้อยแล้ว หลินหวั่นชิวจึงไม่ได้เพิ่มเกลืออีก
จากนั้นสิบนาทีนำมาผัดกับพริกแห้งให้ได้กลิ่นหอม เติมน้ำและเปลือกส้มตากแห้งลงไปตุ๋น
น้ำแกงในหม้อเดือดปุดๆ ส่งกลิ่นหอมโชยทันที
เจียงหงหนิงท่องคัมภีร์ตรีอักษรต่อไม่ไหว จ้องไปที่หม้อพร้อมกับกลืนน้ำลายอย่างบ้าคลั่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้