ตระกูลหลินในยามเช้าคึกคักเป็พิเศษ เนื่องจากมีการเรียกประชุมกันขึ้นมา ทำให้ทุกคนในตระกูลหลินมุ่งหน้าไปยังลานฝึกที่กลางคฤหาสน์ของตระกูล
“ได้ยินมาว่า ในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ลุงใหญ่และลุงสามที่กลับมา แต่ผู้าุโก็มาด้วย ดูเหมือนว่าจะเล็งไปที่ตำแหน่งของผู้นำตระกูล”
“ฮ่าๆ ถึงแม้ว่าผู้นำตระกูลจะแข็งแกร่ง แต่บุตรชายโหลยโท่ยของเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ตอนที่คนของนิกายหยุนไห่ส่งเขากลับมา ตระกูลหลินของพวกเราขายขี้หน้ามาก ตัวลุงใหญ่เองก็ไม่ค่อยพอใจกับผู้นำตระกูลสักเท่าไร แล้วครั้งจะไม่ถือโอกาสโจมตีได้ยังไง ไม่แน่ว่าตำแหน่งผู้นำตระกูลหลินอาจจะถูกเปลี่ยนมือ”
ระหว่างเดินทางมา คนตระกูลหลินก็พากันซุบซิบนินทาเป็การใหญ่ ดูเหมือนทุกคนจะรู้ว่าการประชุมของตระกูลหลินในวันนี้พิเศษกว่าครั้งไหนๆ
ทันใดนั้นหลินเฟิงและหลินไห่ก็ปรากฏตัวขึ้นมา พวกเขาเดินบนถนนเพื่อไปยังลานฝึก เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงปลอดภัยดี ในดวงตาของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะปรากฏร่องรอยของความแปลกใจขึ้นมา มีบางคนที่คิดว่าทำไมไอ้ขยะนี่ถึงยังไม่ตาย แต่ด้วยฐานะของหลินไห่แล้ว ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าพูดในสิ่งที่คิดออกมา
“ไอ้ขยะนี่มันโชคดีจริงๆ ที่ยังไม่ตาย” จู่ๆ ก็มีเสียงแหลมดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ทำให้ทุกคนดวงตาเป็ประกาย เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าใครบางคนที่มีท่าทางไม่ธรรมดากำลังเดินมาทางนี้
คนที่เปิดปากพูดคือเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าหลินหยุน ซึ่งเป็บุตรชายของหลินเฮ่าหลันลุงสามแห่งตระกูลหลิน หลินหยุนกับหลินเฟิงมีอายุ 15 ปีเท่ากัน แต่อีกฝ่ายกลับเป็ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตนักรบลมปราณขั้นที่ 6
“ที่แท้ก็เป็หลินหยุนนี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่กล้าพูดแบบนี้” เมื่อฝูงชนเห็นลุงสามหลินเฮ่าหลันและลุงใหญ่หลินป้าต้าวเดินมาด้วยกัน ก็รู้ได้ทันทีว่ามีเจตนาไม่ดีแน่ๆ
“เ้าลองพูดอีกทีสิ!” ดวงตาของหลินไห่ฉายแววเ็าขึ้นมา ขณะที่มองไปยังหลินหยุน ทำให้ดวงตาของหลินหยุนปรากฏความกลัวออกมา และไม่กล้าที่จะสบตากับหลินไห่
“น้องรอง เ้าในฐานะผู้นำตระกูลนับวันยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ นะ กระทั่งรุ่นลูกก็ยังข่มเหงได้” หลินป้าต้าวกล่าวเสียดสีออกมาด้วยน้ำเสียงเ็า
“ฮึ ถึงอย่างไร ข้าหลินไห่ก็ยังเป็ผู้นำตระกูลอยู่ดี หลินหยุนต่างหากที่ไม่ได้รับการสั่งสอน ถึงได้ไร้ซึ่งคุณธรรมเช่นนี้” หลินไห่ตอบกลับอย่างเ็า
“พี่สองท่านช่างอวดบารมีเสียจริงนะ ข้าอยากจะเห็นนักว่า ท่านจะอวดอ้างบารมีของผู้นำตระกูลไปได้อีกนานแค่ไหนเชียว” หลินเฮ่าหลันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “เ้าบุตรชายขยะของท่าน ถูกคนของนิกายหยุนไห่หามกลับมายังตระกูลหลิน นำพาความอับอายมาสู่ตระกูล จะไม่ให้ผู้คนพูดถึงได้อย่างไร”
“ข้าจะอวดอ้างบารมีไปได้นานแค่ไหนอย่างนั้นหรือ? หลินเฮ่าหลัน เ้าหมายความว่าข้าจะอยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูลได้อีกไม่นาน หรือเ้าอยากจะมาแทนที่ข้า นี่เ้าคิดว่าตนเองมีคุณสมบัติพอเหรอ?” หลินไห่ก้าวเท้าไปข้างหน้าแล้วปลดปล่อยกลิ่นอายอันเย็นเยียบออกมา หลินหยุนที่ยืนอยู่ข้างๆ หลินเฮ่าหลันพลันรู้สึกว่าร่างกายกำลังถูกแช่แข็ง เขารีบหลบไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของหลินเฮ่าหลันทันที
“มีคุณสมบัติพอหรือไม่นั้น มันขึ้นอยู่กับท่านผู้าุโ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับท่าน หลินไห่” สีหน้าของหลินเฮ่าหลันเคร่งขรึมขึ้นมา เขาคาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้หลินไห่จะเปลี่ยนท่าทีมาเผด็จการแบบนี้
“ในเมื่อเ้ายอมรับแบบนี้ งั้นก็ดี! ตอนนี้ ข้า หลินไห่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำตระกูล ในเมื่อลูกชายของเ้ากล้าสาปแช่งลูกชายของข้าต่อหน้าข้า ข้าควรจะลงโทษอย่างไรดี”
หลินไห่ไม่มีทีท่าจะยอมถอยเลยสักนิด ความเย็นก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิในอากาศก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งน้ำค้างสีขาวก็ยังปรากฏขึ้น
“เขาคู่ควรที่จะเป็ผู้นำตระกูลจริงๆ เพราะเพียงแค่ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงอำนาจออกมา ก็สามารถกดข่มลุงสามได้ก่อนแล้ว” สายตาของฝูงชนล้วนมองมาทางนี้ ในใจลอบยกย่องเล็กน้อย พวกเขายังคิดอีกว่าหลินไห่อาจเปิดฉากจัดการลุงใหญ่และลุงสาม
“หลินไห่ เ้าคิดว่าข้าจะกลัวเ้าอย่างนั้นหรือ” วันนี้หลินเฮ่าหลันได้เตรียมตัวมาก่อนแล้ว ทันทีที่พูดจบคลื่นความร้อนที่แข็งแกร่งก็พวยพุ่งออกมาต่อต้านความเย็น
“ท่านพ่อมีจิติญญาแห่งน้ำแข็ง ดังนั้นจึงฝึกทักษะน้ำแข็งเป็หลัก ส่วนหลินเฮ่าหลันมีจิติญญาแห่งเปลวเพลิง จึงฝึกทักษะเปลวไฟเป็หลัก น้ำพิชิตไฟ ต่อให้เป็หลินเฮ่าหลันก็ไม่มีทางเป็คู่ต่อสู้ของท่านพ่อได้ ตัวเอกคราวนี้ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เขา”
หลินเฟิงจ้องมองไปยังหลินป้าต้าวที่ยืนอยู่ด้านข้าง เขาเห็นรอยยิ้มเยาะของหลินป้าต้าว ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “น้องรอง การประชุมของตระกูลใกล้จะเริ่มขึ้นแล้วนะ หรือว่าผู้นำตระกูลอย่างเ้าไม่เห็นผู้าุโอยู่ในสายตาเสียแล้วล่ะ”
กลุ่มผู้าุโคือผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในตระกูลหลิน ซึ่งดำรงอยู่เพื่อคอยควบคุมผู้นำตระกูล ดังนั้นหลินป้าต้าวจึงคิดที่จะใช้กลุ่มผู้าุโมากดดันหลินไห่ให้ออกจากตำแหน่ง
“ฮึ” หลินไห่กวาดตามองหลินเฮ่าหลันอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะถอนกลิ่นอายกลับมา แล้วเดินจากไปพร้อมหลินเฟิง
หลินเฮ่าหลันรู้สึกถึงสายตาเหยียดหยามที่หลินไห่จ้องมองมา ในดวงตาของเขาปรากฏแววเ็าขึ้นมา ครั้งนี้บุตรชายขยะของมันโชคดีมากที่ยังไม่ตาย แต่ครั้งหน้ามันจะไม่ง่ายเช่นนี้แน่
ไม่ช้าก็เร็วหลินเหิงบุตรชายคนโตของหลินเฮ่าหลันที่เป็ศิษย์สายนอกผู้โดดเด่นของนิกายหยุนไห่ ก็จะกลายเป็ศิษย์สายใน แม้กระทั่งอาจจะได้เป็ศิษย์หลัก บิดาอาศัยบุตร เมื่อถึงตอนนั้นสถานะของเขาก็เปรียบเสมือนนํ้าขึ้นเรือลอย ต่อให้เป็ผู้นำตระกูลหลินก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้
และหลินเชียนบุตรสาวของหลินป้าต้าวก็เป็ผู้มีพร์เช่นกัน ตอนนี้นางได้เป็ศิษย์สายในของนิกายเฮ่าเยว่แล้ว อนาคตของนางจะมีแต่ความสำเร็จและไร้ซึ่งขีดจำกัด
ในบรรดาสามคนพี่น้อง บุตรชายของหลินไห่มีคุณสมบัติที่ต่ำต้อยที่สุด เขาถูกผู้คนเรียกขานว่า ‘ไอ้ขยะ’ นี่เป็จุดอ่อนที่หลินป้าต้าวและหลินเฮ่าหลันอาศัยโจมตีหลินไห่ ตอนนี้กลุ่มผู้าุโก็มีแนวโน้มที่จะเอนเอียงมาทางพวกเขา และด้วยแนวโน้มนี้ แม้แต่หลินไห่ก็ไม่สามารถขัดขวางได้
ณ ลานฝึกขนาดใหญ่ สมาชิกของตระกูลหลินราวๆ 400 - 500 คนมารวมตัวกันที่นี่ และตรงกลางของลานฝึกมีเวทีหินสีเขียวตั้งอยู่ เวลานี้ผู้ทรงอำนาจของตระกูลหลินได้มาถึงแล้ว
“ท่านผู้าุโทุกท่าน เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้มีคนจากนิกายหยุนไห่มาที่ตระกูลหลินของพวกเรา เดิมทีก็รู้สึกเป็เกียรติอย่างมาก แต่กลับคาดไม่ถึงว่าความจริงแล้วพวกเขาแค่มาส่งขยะใกล้ตายเท่านั้น เื่นี้ทำให้ตระกูลหลินของพวกเราขายหน้ายิ่งนัก ดังนั้นข้าจึงอยากเสนอให้ขับไล่หลินเฟิงออกจากตระกูล เนื่องจากเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็ลูกหลานในตระกูลหลิน”
หลินเฮ่าหลันลุกยืนขึ้นก่อนจะประสานมือไปทางเหล่าผู้าุโที่นั่งอยู่ แล้วเปิดฉากกล่าวโจมตีก่อน
“เ้ากล่าวได้ตรงไปตรงมามาก ช่างพูดได้ตรงประเด็นจริงๆ แต่ข้าผู้เป็ผู้นำของตระกูลยังไม่ทันได้กล่าวอะไร แล้วมันถึงเวลาของน้องสามั้แ่เมื่อไร? เ้าถึงได้ออกท่าออกทางเช่นนี้ ไสหัวกลับไปนั่งที่ของเ้าซะ” แน่นอนว่าหลินไห่รู้จุดประสงค์ของหลินเฮ่าหลันอย่างชัดเจน เขาอยากจะเห็นว่าอีกฝ่ายจะขับไล่ลูกชายของเขาออกจากตระกูลอย่างไร จากนั้นจะแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูลของเขาอย่างไร
“น้องรอง ที่เ้าพูดมามันก็ไม่ถูก ถึงแม้ว่าเ้าจะเป็ผู้นำของตระกูล แต่น้องสามก็เป็หนึ่งในผู้ที่ถือหางเสือของตระกูลหลินนะ เพื่อประโยชน์ของตระกูลหลิน บุตรชายไม่ได้ความของเ้าที่ดีแต่สร้างความอับอายให้กับตระกูลหลินของพวกเรา สมควรที่จะถูกขับออกจากตระกูล” หลินป้าต้าวตั้งใจพูดเสียงดังเพื่อโจมตีหลินไห่
“บุตรชายข้าข้าดูแลเองได้ เื่ในครอบครัวของข้ายังไม่ถึงคราวที่พวกเ้าจะเข้ามาสอด หลินป้าต้าว ข้ารู้ว่าเ้าอยากได้ตำแหน่งของข้ามาโดยตลอด เอาแบบนี้ก็แล้วกัน วันนี้เ้ากับข้ามาประลองกัน ถ้าเ้าชนะข้า ข้าจะให้บุตรชายของข้าออกจากตระกูลหลิน แต่ถ้าเ้าแพ้… ก็เลิกพูดจาเหลวไหลซะ”
หลินไห่ลุกขึ้นยืนและก้าวไปยังเวทีสูงที่อยู่ตรงกลางลานฝึก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา ทางหลินป้าต้าว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากประลอง แต่ทว่าก็จำต้องประลอง
หลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อบิดาของตัวเองทันที นี่มันยกตนข่มท่านชัดๆ!!! ในใจของเขาพลันกระจ่าง ในทวีปนี้ผู้ที่แข็งแกร่งย่อมได้รับความเคารพ มีเพียงแค่ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์พูด เขาอยากจะใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองทำให้ฝ่ายตรงข้ามหุบปาก
“ข้ากลัวว่าเ้าจะแพ้จริงๆ” หลินป้าต้าวได้ยินที่หลินไห่กล่าววาจาไร้สาระดูแคลนตัวเอง ก็พลันโมโหขึ้นมา ร่างของเขาก้าวเข้าไปประจันหน้ากับหลินไห่
เหล่าผู้าุโยังคงนิ่งเงียบ พวกเขาล้วนมีความสุขเมื่อเห็นสถานการณ์เป็แบบนี้ ถ้าหากว่าหลินไห่แพ้ให้หลินป้าต้าว ทั้งยังมีบุตรชายเป็ขยะผู้หนึ่ง ตำแหน่งผู้นำตระกูลหลินคงได้เปลี่ยนมืออย่างแน่นอน
“ข้าอยากจะเห็นนักว่า เ้าอาศัยอะไรถึงได้เย่อหยิ่งแบบนี้” หลินป้าต้าวหัวเราะเยาะ แต่หลินไห่กลับไม่สนใจคำพูดไร้สาระของเขา น้ำแข็งพลันปกคลุมบนเวที ผู้คนนับร้อยในตระกูลหลินต่างรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่เสียดแทงไปถึงกระดูก
นี่เป็พลังของจิติญญาแห่งนักรบ
จิติญญาของหลินไห่ก็คือจิติญญาแห่งน้ำแข็ง เมื่อปล่อยพลังออกมา จะทำให้ศัตรูที่อยู่รอบๆ ถูกความหนาวเย็นกัดกร่อน
“เขตแดนน้ำแข็งพันลี้” หลินป้าต้าวที่เพิ่งปลดปล่อยจิติญญาของตัวเอง กลับได้ยินเสียงของหลินไห่ะโออกมา ทันใดนั้นเสียงแกรกๆ ก็ดังขึ้นโดยมีหลินไห่เป็จุดศูนย์กลาง น้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่บนเวทีพลันแพร่กระจายออกไปรอบๆ ไม่นานเวทีทั้งหมดก็ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาว ส่วนหลินป้าต้าวตอนนี้ได้กลายเป็ประติมากรรมน้ำแข็ง และถูกผนึกไว้ในก้อนน้ำแข็ง
“ตูม!” เกิดเสียงะเิดังขึ้น เมื่อก้อนน้ำแข็งพลันแตกกระจาย พวกเขาเห็นร่างของหลินป้าต้าวกระเด็นออกมาพร้อมกระอักเืเป็ฝอย ไม่นานร่างของเขาก็ร่วงลงพื้นอย่างจัง
เหล่าผู้าุโต่างลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นฉากที่น่าตกตะลึงตรงหน้า ไม่น่าเชื่อว่าเพียงกระบวนท่าเดียว หลินป้าต้าวก็แพ้ง่ายๆ เช่นนี้
“เขตแดนน้ำแข็งพันลี้ ที่แท้หลินไห่ก็บรรลุทักษะเขตแดนน้ำแข็งขั้นที่แปดแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะแข็งแกร่งเช่นนี้” สายตาของผู้าุโเปล่งประกาย หลินไห่มีจิติญญาแห่งน้ำแข็ง ประกอบกับทักษะเขตแดนน้ำแข็งที่ทรงพลัง ทำให้สามารถแช่แข็งหลินป้าต้าวได้ในพริบตา จากนั้นก็ใช้กระบวนท่าสังหาร
ด้วยกระบวนท่าต่อเนื่องเช่นนี้ ทำให้หลินป้าต้าวไม่มีเวลาตอบสนอง ถ้าเพียงหลินไห่ช้ากว่านี้อีกครึ่งก้าว เกรงว่าเื่คงไม่ง่ายดายแบบนี้แน่
สายตาของคนในตระกูลหลินฉายแววทึมทื่อ นี่เป็ครั้งแรกที่พวกเขาเห็นถึงความร้ายกาจของหลินไห่ เขาทรงพลังกว่าลุงใหญ่หลินป้าต้าวมาก
หลินป้าต้าวกระอักเืออกมาและจ้องมองหลินไห่ด้วยความรู้สึกเกลียดชัง แต่หลินไห่กลับไม่สนใจ เขาเดาได้ว่าการที่หลินเฟิงได้รับาเ็สาหัส จะต้องเกี่ยวข้องกับพี่น้องทั้งสองคนอย่างแน่นอน ในเมื่อพวกมัน้าสังหารบุตรชายของเขา แล้วหลินไห่ยังต้องสนใจความรู้สึกของพี่น้องอยู่อีกหรือ
“ท่านผู้าุโทุกท่าน เชิญประชุมต่อเถิด” หลินไห่สอดแขนเข้ากับแขนเสื้อ ก่อนจะเดินกลับไปยังที่นั่งของตัวเองราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หึๆ หลินไห่ ในฐานะผู้นำตระกูล การที่เ้าพัฒนาไปได้อีกหนึ่งขั้นนับว่าเป็แบบอย่างที่ดีมาก ข้าเชื่อว่าพวกเด็กๆ ในตระกูลหลินจะต้องตั้งใจฝึกฝนหนักอย่างแน่นอน เอาล่ะ จุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว ทุกคนแยกย้ายได้” ผู้าุโสูงสุดยิ้มเล็กน้อย ตอนนี้ไม่มีความหมายที่จะประชุมต่อ
“ท่านผู้าุโสูงสุด ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวลาไปก่อน” หลินเฟิงลุกขึ้นยืนแล้วประสานมือไปทางผู้าุโสูงสุด
“หลินไห่ ข้าอยากจะเห็นนักว่าเ้าจะปกป้องไอ้ขยะนี่ไปได้นานสักเท่าไร” เมื่อหลินเฮ่าหลันเห็นเป้าหมายไม่บรรลุผล จึงพูดเสียดสีขึ้นมาอย่างเ็า
“ใช่ ไอ้ขยะอย่างเ้า นับว่าเป็ความอัปยศของตระกูลหลิน” หลินหยุนรีบพูดเสริมขึ้นมา แต่เมื่อเห็นหลินไห่ปรายตามอง ก็รีบหุบปากลงทันที
“เสี่ยวเฟิง พวกเราไปกันเถอะ” หลินไห่ไม่อยากสนใจอีกฝ่ายอีก แต่หลินเฟิงกลับไม่เดินตามมา มิหนำซ้ำยังก้าวเท้าไปทางหลินหยุน ฉากนี้ทำให้ผู้คนมีสีหน้าสับสน ไม่รู้ว่าหลินเฟยคิดจะทำอะไรกันแน่
หลินไห่มองบุตรชายของตนเองด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นหลินเฟิงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของหลินหยุน จากนั้นก็มองหน้าหลินหยุนแล้วพูดว่า “หลินหยุน เ้าเรียกข้าว่าไอ้ขยะทุกคำ ข้าอยากถามว่า ถ้าหากวันหนึ่งเ้าค้นพบว่าตัวเองแย่ยิ่งกว่าข้า เ้าจะหาทางออกให้ตัวเองอย่างไร?”
“เ้าฝันอยู่หรือเปล่า ไอ้ขยะอย่างเ้าเนี่ยนะจะสามารถเทียบข้าได้” หลินหยุนคิดไม่ถึงว่า ‘ไอ้ขยะหลินเฟิง’ จะกล้าพูดแบบนี้กับเขา จึงอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย
แววตาของหลินเฟิงเปล่งประกาย จากนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “หลินหยุน ข้าหลินเฟิงขอท้าประลองกับเ้า”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้