เมื่อซ่งเซิงผิงออกคำสั่ง กลุ่มคนครึ่งอสูรก็กระโจนเข้าไปในค่ายกลใหญ่ทันที
“ค่ายกลนี้ใช้การไม่ได้แล้ว มันเป็เพียงหมอกเท่านั้นเอง เร็วเข้า! รีบไปทีู่เากัน” หนึ่งในกลุ่มคน ะโด้วยความยินดี
“ทางฝั่งข้าก็เหมือนกัน มันเป็แค่หมอก… ฮ่าๆๆ!”
“เหลือกู่ไห่เพียงคนเดียว จับเขาไว้”
“มันหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”
บรรดาคนครึ่งอสูร รีบวิ่งขึ้นูเาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่มุ่งหน้าไปบนูเา ศิษย์สำนักซ่งเจี่ยก็พากันแปลงร่างทันที รอบกายของพวกเขา ตอนนี้เต็มไปด้วยไอสีแดงเข้ม เส้นผมกลายเป็อสรพิษนับร้อย และด้วยพลังที่เพิ่มขึ้น คนเหล่านี้จึงสามารถเร่งความเร็วได้มากกว่าเดิม
เป้าหมายก็คือ จับตัวกู่ไห่ที่เหลือตัวคนเดียว ตามคำสั่งของหัวหน้าสำนัก แต่เพราะคนผู้นั้นอันตรายมาก พวกเขาจึงต้องระมัดระวังตัวให้ดี
บริเวณภายนอก ซ่งเซิงผิงยืนอยู่หน้าค่ายกล เพื่อปกป้องหลี่ชิงเหอ เขาจดจ้องค่ายกลตรงหน้าด้วยแววตาเย็นะเื
“ซ่งเซิงผิง เ้าเข้าไปเร็ว! หากเ้าเข้าไป ต้องจับตัวกู่ไห่ได้แน่” หลี่ชิงเหอเร่ง
ซ่งเซิงผิงส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนเอ่ย “กู่ไห่เล่ห์เหลี่ยมมากมายนัก... รอสักหน่อยเถอะ!”
“เ้าไม่เชื่อข้าอย่างนั้นหรือ?” หลี่ชิงเหอถามเสียงแ่
ซ่งเซิงผิงมิได้สนใจคำพูดเหล่านี้ ยังคงรอคอยอย่างอดทน
กลุ่มคนครึ่งอสูรกว่าแปดร้อยคนมุ่งหน้าไปยังูเา เพียงไม่นานก็เดินทางมาถึง
ท่ามกลางหมอกหนา พวกเขาเอาแต่มองดูรูปปั้นหินสามพันตัวตรงหน้า ด้วยความตื่นเต้น
“รูปปั้นหิน? สิ่งที่หลี่ชิงเหอกล่าว ล้วนเป็เื่จริง?” ดวงตาของคนครึ่งอสูรเป็ประกาย
ฉึก!
ทันใดนั้น กระบี่สีดำก็ได้พุ่งเข้ามาหา
“ท่าจะไม่ดีแล้ว!” สีหน้าของกลุ่มศิษย์สำนักซ่งเจี่ย พลันแปรเปลี่ยน รีบวิ่งหลบหลีกอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม กระบี่สีดำก็ยังคงพุ่งเข้ามา หมายจะทำร้ายพวกเขา
ฟู่!
รอบๆ ตัวกระบี่เล่มนั้น ปรากฏไอสีดำจำนวนมาก มันไหลทะลักเข้าไปในาแ และกลุ่มควันเ่าั้ ก็ก่อตัวขึ้นเป็หัวกะโหลกเล็กๆ
ฟึ่บๆๆๆ!
เ้าหัวกะโหลกเ่าั้ กัดกินเืเนืุ้์อย่างรวดเร็ว
“กู่ไห่?”
“อ๊าก!”
ทันทีที่ได้พบกู่ไห่ ศิษย์ครึ่งอสูรตนนั้นก็ร้องโหยหวนอย่างน่าสังเวช หัวกะโหลกจิ๋วนับไม่ถ้วน แทรกซึมเข้าไปในร่าง ก่อนจะกัดกินเืเนื้อของเขาจนหมดในชั่วพริบตา
แครกๆๆๆ!
เมื่อกู่ไห่เดินจากไปพร้อมกลุ่มควันสีดำ ที่ตรงนั้นก็เหลือเพียงกองกระดูก
จากนั้นเ้าหัวกะโหลกจิ๋วที่กินเืเนืุ้์ ก็กลายสภาพกลับไปเป็ควันสีดำ และลอยเข้าไปในกระบี่เจวี๋ยเซิงตามเดิม พลันพลังทั้งหมดที่ได้รับ ก็พุ่งเข้าสู่ร่างของกู่ไห่ทันที
“อึม!... ช่างรู้สึกดีจริงๆ” กู่ไห่ถอนหายใจ ราวกับว่าตอนนี้ทั่วทุกอณูในร่างกำลังผ่อนคลาย
เสียงร้องโหยหวนของคนครึ่งอสูรเมื่อครู่ ดังก้องไปทั่วสารทิศทันที
นอกค่ายกลใหญ่ สีหน้าของซ่งเซิงผิงเปลี่ยนไป เขาคว้ากระบี่ยาวไว้อย่างเตรียมพร้อม
ภายในกลุ่มหมอก เหล่าคนครึ่งอสูรพลันชะงักอย่างตื่นตระหนก มีเพียงอสรพิษบนศีรษะที่ยังดิ้นพล่านด้วยความหงุดหงิด
“เร็วเข้า! ข้าเห็นกู่ไห่แล้ว เขาฆ่าศิษย์พี่” ทันใดนั้น ก็มีเสียงร้องด้วยความประหลาดใจ
และตอนนั้นเอง กู่ไห่ก็ฟาดฟันกระบี่เข้าใส่ในครั้งเดียว
ตึง!
กระบี่ของทั้งสองปะทะกัน พลันกระบี่เจวี๋ยเซิงก็ตัดกระบี่ยาวของคนผู้นั้นจนหักในชั่วพริบตา ก่อนจะฟันลงไปอีกครั้งเพื่อบั่นศีรษะอีกฝ่าย
ฟึ่บ!
ควันสีดำพุ่งออกไปกัดกินอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊าก!”
ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของชายคนนั้น เพียงเสี้ยววินาที เืเนื้อทั้งหมดก็หายไป เหลือเอาไว้แต่กองกระดูกที่หล่นกระจายเต็มพื้น
เสียงร้องโหยหวนดังกึกก้อง ทำให้คนอื่นๆ ที่ยังอยู่ในค่ายกลต่างตื่นใ
หมอกหนาเข้าปกคลุมอีกครั้ง ทำให้กลุ่มศิษย์ครึ่งอสูรของสำนักซ่งเจี่ย ต้องชะลอความเร็วลง
หนึ่งในกลุ่มคนครึ่งอสูรค่อยๆ เดินนำพรรคพวก เข้าไปใกล้ใจกลางกลุ่มหมอก สายตาของทุกคนพร่ามัวเล็กน้อย เนื่องจากไอหมอกเข้าปกคลุมพื้นที่ มีเพียงกู่ไห่เท่านั้น ที่สามารถเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน
ฉึกๆ!
ด้วยคมกระบี่เดียว กู่ไห่บุกเข้าไปในกลุ่มเล็กที่มีศิษย์ซ่งเจี่ยห้าคน
“นั่นมันกู่ไห่นี่... รีบฆ่ามันเสีย!”
“อ๊าก!”
ตึงๆๆๆๆ!
ศิษย์ห้าคนนั้น ถูกกู่ไห่สังหารสิ้น โชคดีที่แม้เขาจะอยู่ในระดับก่อ์ ขั้นที่เจ็ด แต่กลับได้ฝึกวรยุทธ์ และสามารถะเิพลังออกมาได้เทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำ
อีกทั้งกระบี่เจวี๋ยเซิงในมือ ก็ถือได้ว่าเป็อาวุธศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงสามารถทำลายกระบี่ของอีกฝ่ายได้ ดังนั้น ขอเพียงสามารถสร้างาแบนร่างอสูรเหล่านี้ได้ พวกมันก็จะถูกหัวกะโหลกนับพันกัดกินทันที
“อ๊าก!”
“นี่มันกระบี่อะไรกัน? ไม่…!”
“พลังของเ้าอยู่ในระดับก่อ์มานานแค่ไหน เหตุใดถึงมีพลังมากขนาดนี้?”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันทีที่ควันสีดำปกคลุมร่าง ก่อนจะเงียบไป จากนั้นกองกระดูกก็ปรากฏขึ้น
เสียงร้องโหยหวนยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ศิษย์ซ่งเจี่ยในทุกพื้นที่ ยิ่งระวังตัวมากขึ้น เหล่าอสรพิษบนศีรษะก็กวาดตามองไปรอบด้านด้วยความหวาดระแวง
“กู่ไห่ เ้าออกมาเดี๋ยวนี้ ข้าจะกินหัวใจเ้า!”
“ข้าจะกินเ้า ออกมาเดี๋ยวนี้!”
ท่ามกลางเมฆหมอก เสียงร้องด้วยความเ็ป ยังคงดังสอดประสานกับเสียงด่าทอ กลุ่มคนครึ่งอสูรเริ่มกลัวที่จะเดินต่อไปข้างหน้า จึงเลือกที่จะจับกลุ่มกัน เพื่อเฝ้าระวังภัยทั้งสี่ด้านแทน
กู่ไห่กำกระบี่ของตนไว้มั่น ตอนนี้ตัวเขาสั่นสะท้าน เนื่องจากพลังที่ไหลเข้าสู่ร่างอย่างต่อเนื่อง นี่เป็ความรู้สึกปรีดาจนอยากอธิบาย เขารู้สึกดียิ่ง ที่กำลังจะได้สังหารทุกคนในค่ายกล
ฟู่ๆๆ!
พลังชี่สีดำจำนวนมาก ล้อมรอบกายของกู่ไห่ ราวกับว่าทั้งร่างกำลังถูกรายล้อมด้วยจำนวนคนครึ่งอสูรที่ถูกเขาสังหารไป ควันสีดำยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขาลงมือสังหาร
เขามองดูไหล่ซ้ายของตน ที่มีาแซึ่งถูกฟันด้วยกระบี่ของกลุ่มศิษย์ซ่งเจี่ยในระหว่างการต่อสู้ แต่าแเช่นนี้ กู่ไห่หาได้สนใจไม่ ตอนนี้ เขาเอาแต่เดินรอบรูปปั้นหิน และพยายามปกป้องพวกมันไว้
“ยังมีอีกหรือ?” กู่ไห่เขม้นมองกลุ่มคนราวสิบคน ที่เดินเข้ามาใหม่
“กู่ไห่อยู่นี่ เร็วเข้า... ทางนี้!” ทันใดนั้น ก็มีหนึ่งในกลุ่มร้องบอก เหล่าอสรพิษบนศีรษะก็ดิ้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง
เคร้งๆๆ!
กระบี่ของกู่ไห่ตัดกระบี่ของทุกคน ก่อนจะฟันใส่ร่างพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ฉึกๆ!
พลังกระบี่สายหนึ่ง ซัดโหมเข้าใส่กลุ่มศิษย์ครึ่งอสูรของสำนักซ่งเจี่ย กลุ่มคนทั้งสิบพยายามต่อต้านอย่างสุดกำลัง แต่กระนั้นกู่ไห่ก็แข็งแกร่งเกินไป
ตูม!
ทันใดนั้น หนึ่งในพวกเขาก็ถูกห่อหุ้มด้วยควันสีดำ พริบตา ก็ถูกกะโหลกศีรษะนับไม่ถ้วนกัดกินไปทั้งร่าง จนเหลือเพียงกองกระดูก
“อ๊าก! มันเป็อสูร... อสูร!” คนครึ่งอสูรที่อยู่ข้างๆ ร้องด้วยความประหลาดใจ
“อสูร? พวกเ้าต่างหากที่เป็อสูร ข้าคือผู้สังหารอสูร เพื่อธำรงคุณธรรม” กู่ไห่ะโขึ้น พร้อมวิ่งตรงไปด้านหน้า
“ฆ่ามันเสีย!”
ตูมๆ!
พลัน กระบี่ขนาดใหญ่ก็ฟาดฟันลงไปยังกลุ่มคนครึ่งอสูรอีกครั้ง
“อ๊าก…!”
เสียงร้องโหยหวนดังก้อง กลุ่มคนครึ่งอสูรต่างหนีตายด้วยความพรั่นพรึง
กู่ไห่วิ่งตามออกไป
“อย่าไล่ตามข้าๆ!” ชายครึ่งอสูรร้องอย่างหวาดกลัว
ฉึกๆ!
กู่ไห่ตวัดสายตามองตามร่างศิษย์ที่วิ่งหนีไป ก่อนพุ่งกายไปยังคนเ่าั้ทันที
ขณะนี้ การต่อสู้ภายในค่ายกลใหญ่เริ่มดุเดือดขึ้นทุกที
...
ณ พื้นที่รอบนอกค่ายกล
ดวงตาของซ่งเซิงผิงสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น
“เป็ไปได้อย่างไร? ทั้งๆ ที่ตอนนี้เหลือแค่กู่ไห่เท่านั้น แล้วพวกเขามัวทำอะไรกันอยู่? พวกสวะกลุ่มนี้ ไม่สามารถจัดการกู่ไห่ได้อย่างนั้นหรือ?” ซ่งเซิงผิงกล่าว ใบหน้าถอดสี
“ซ่งเซิงผิง เ้าก็ไปสิ... เร็วเข้า!” หลี่ชิงเหอเอ่ยอย่างร้อนรน
แววตาของซ่งเซิงผิงสั่นไหว ตอนนี้ในใจกำลังนึกลังเล
...
ในค่ายกล
ท้ายที่สุด กู่ไห่ก็ได้พบกับผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำเข้าจนได้
ตูม!
ทั้งสองปะทะกันด้วยความดุดัน กู่ไห่ถอยหลังไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขา จะด้อยกว่าอีกฝ่าย
“ฮ่าๆๆ! ระดับก่อ์ ก็เป็ได้แค่ระดับก่อ์” อสรพิษของศิษย์ระดับแก่นทองคำ คำรามอย่างดุร้าย
ฟึ่บ!
ฉับพลันนั้นเอง กู่ไห่ก็ทะยานร่างเข้ามาอีกครั้ง
“เอาใหม่... ฟันมันเสีย!”
กระบี่กระดูกเหวี่ยงออกไปอีกครา
“ฮึ่ม! วิชากระบี่ซ่งเจี่ย… ทำลาย!” ผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำร้องคำราม
ตูม!
และแล้ว กระบี่ของผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำ ก็ถูกฟันจนหักออกเป็เสี่ยงๆ
“เ้า! นี่มันกระบี่อะไรกัน?” ผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำเอ่ยขึ้นด้วยความพิศวง
ฉึกๆ!
พลังกระบี่ของผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำ เฉือนเข้าที่ขาของกู่ไห่ ขณะที่กระบี่เจวี๋ยเซิง ก็ฝากาแเอาไว้บนแขนของอีกฝ่ายเช่นกัน
กู่ไห่กุมขา ก่อนหันหลังเดินจากไป การเคลื่อนไหวของเขาเริ่มเป็ไปด้วยความยากลำบาก
“อย่าหนีนะ!” ผู้ฝึกตนครึ่งอสูรระดับแก่นทองคำ ตวาดเสียงเย็นขณะไล่ตามอีกฝ่ายไป
ฟึ่บ!
จู่ๆ ควันสีดำก็ปรากฏขึ้น และห่อร่างของผู้ฝึกตนเอาไว้
“อ๊าก!” ผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำร้องโหยหวน
ตุบ!
พริบตา ก็เหลือไว้เพียงกองกระดูกที่ร่วงหล่น
บัดนี้ บนูเามีกองกระดูกกระจัดกระจายมากกว่าสองร้อยกอง สีหน้าของผู้คน ที่เพิ่งพุ่งเข้ามา เปลี่ยนไปทันที
“ไม่! เหตุใดจึงเป็เช่นนี้?” กลุ่มคนครึ่งอสูรร้องอย่างหวาดหวั่น
กู่ไห่กำกระบี่ในมือแน่น ก่อนวิ่งไปรอบๆ
ส่วนคนอื่นๆ ก็พากันล่าถอยจากค่ายกล ด้วยความหวาดผวา เหลือเพียงส่วนน้อยที่ยังคงมุ่งมั่น ตามจับตัวกู่ไห่เช่นเดิม
ภาพที่ศิษย์ครึ่งอสูรของตนวิ่งหนีออกมานั้น ทำให้ซ่งเซิงผิงที่ยืนรออยู่ที่ตีนเขา รู้สึกไม่พอใจเป็อย่างมาก
“เ้าพวกไร้ประโยชน์ มีกำลังคนมากมาย แต่กลับไม่สามารถฆ่ากู่ไห่ได้อย่างนั้นหรือ?” ซ่งเซิงผิงตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว
“ท่านหัวหน้าสำนัก ศิษย์พี่ อาจารย์อา และพวกพ้องของเราตายหมดแล้ว ท่านได้ยินเสียงร้องโหยหวนหรือไม่? ตอนนี้ กระทั่งเสียงร้องก็ไม่มี... หายไปหมดแล้ว” กลุ่มศิษย์ที่เหลือรอด เอ่ยด้วยความสะพรึงกลัว
“ซ่งเซิงผิง เ้ารีบไปเร็วเข้า ยิ่งถ่วงเวลานานเท่าใด ก็ยิ่งไม่เป็ผลดีกับเรา... เร็วเข้า! ค่ายกลใหญ่นั่นใช้การไม่ได้แล้ว อีกทั้งยังเหลือแค่กู่ไห่คนเดียว จะกลัวอะไร? นี่เ้ากำลังกลัวอย่างนั้นหรือ?” หลี่ชิงเหอะโบอก
ตอนนี้ ท่าทีของซ่งเซิงผิงดูสับสน
แครกๆ!
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง
“แย่แล้ว! หินิญญาหมดแล้ว” กู่ไห่ที่กำลังแทงกระบี่ทะลุร่างของหนึ่งในคนครึ่งอสูร พึมพำอย่างกังวล
แครกๆๆ!
หินิญญาทยอยแตกสลายกลายเป็ผุยผง ค่ายกลใหญ่ค่อยๆ เลือนหาย กลุ่มเมฆหมอกที่เคยปกคลุมไปทั่วบริเวณจางลงเรื่อยๆ
กลุ่มคนทั้งที่กำลังหนี และวิ่งเข้ามาหา ต่างพากันหยุดชะงัก เงยหน้าไปบนูเา เพื่อมองดูกู่ไห่ที่ปรากฏกายขึ้น
กู่ไห่กำกระบี่กระดูกของตนมั่น ผมที่เคยดูดี ตอนนี้หลุดลุ่ยไม่เป็ระเบียบ เสื้อผ้าส่วนบนถูกฉีกขาด เผยให้เห็นาแห้าแห่งบนร่าง รอบกายตอนนี้ มีไอพลังสีดำลอยอยู่โดยรอบ ดูแทบไม่ต่างอะไรกับปีศาจ
กู่ไห่เดินไปยืนเคียงข้างรูปปั้นหินสามพันตัว อย่าง้าปกป้อง
รอบๆ บริเวณรูปปั้นหินสามพันตัว มีกองกระดูกสีขาวมากมายกระจายเต็มพื้นที่ ดูน่าขนลุก เหนือโครงกระดูกขาว แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่มีเหลือ
ซ่งเซิงผิง หลี่ชิงเหอ และกลุ่มศิษย์ครึ่งอสูรที่ยังเหลือรอด ต่างเบิกตากว้าง
ศพอยู่ที่ใด? แล้วศพของศิษย์พี่ ศิษย์น้อง และอาจารย์อาที่ร้องโหยหวนก่อนหน้านี้ล่ะ?
ไม่… ไม่มีศพ! มีแค่โครงกระดูกสองร้อยร่างกองอยู่ที่นั่น?
เมื่อมองดูโครงกระดูกเ่าั้ ทุกคนก็เกิดความหวั่นไหวขึ้นในจิตใจ... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
มนุษย์ครึ่งอสูรที่กินคนโดยไม่กะพริบตา แต่พอเห็นพรรคพวกของตนที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อครู่ ทว่ายามนี้กลับไร้ซึ่งเืเนื้อ เหลือเพียงกองกระดูก พลันรู้สึกถึงไอเย็นสายหนึ่ง ที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ฝ่าเท้า ก่อนจะกระจายไปทั่วร่าง
เหล่าผู้ฝึกตนที่กำลังวิ่งขึ้นเขา ต่างนิ่งงัน
แม้แต่ซ่งเซิงผิง ก็ยังรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว เมื่อมองเห็นกู่ไห่ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยพลังชี่สีดำ
“เร็วเข้า... รีบไปเร็ว!” หลี่ชิงเหอเร่ง
“ได้!” ซ่งเซิงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
แม้จะหวั่นใจไม่น้อย แต่ก็รู้ดีว่าอีกฝ่าย ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตน กู่ไห่ย่อมต้องถูกกำจัดแน่
“ฮึ่ม!”
ทันใดนั้น ระลอกคลื่นก็ปรากฏขึ้นในห้วงอากาศ ไม่ไกลจากที่ที่กู่ไห่ยืนอยู่เท่าใดนัก
“หืม?” สีหน้าของกู่ไห่ค่อยๆ แปรเปลี่ยน เป็รอยยิ้มแห่งความสุข
“อะไร? หรือว่าไต้ซือหลิวเหนียนจะกลับมาแล้ว?” ซ่งเซิงผิงชะงักเล็กน้อย
ทันใดนั้น ซ่งเซิงผิงก็ทะยานไปยังบริเวณที่เกิดระลอกคลื่นขึ้นในอากาศ แสดงออกอย่างชัดเจน ว่าทันทีที่ไต้ซือหลิวเหนียนปรากฏกาย เขาก็จะฟันเสียให้ตายด้วยกระบี่เดียว
“ท่าจะไม่ดีแล้ว!” สีหน้าของกู่ไห่เปลี่ยนไปทันที
อีกฝ่ายกำลังจะซุ่มโจมตีไต้ซือหลิวเหนียน!
“เจวี๋ยเซิง… ทำลาย!” กู่ไห่ร้องะโ ก่อนจะทะยานร่างสูง และจู่โจมซ่งเซิงผิงโดยพลัน
กระบี่เล่มนี้ได้รวบรวมพลังทั้งหมดของกู่ไห่เอาไว้ ควันสีดำเคลื่อนเข้าใส่ร่างของซ่งเซิงผิงทันที
ซ่งเซิงผิงเบิกตากว้าง ก่อนจะฟันกระบี่ออกไปต้าน
ตูม!
คลื่นกระบี่และควันกระบี่สีดำได้พุ่งเข้าปะทะกัน ด้วยระดับพลังที่ต่ำกว่า จึงทำให้กู่ไห่ถูกพลังสะท้อนกลับทันที
ตูม!
ร่างของกู่ไห่ลอยกระเด็น ไปกระแทกเข้ากับกระท่อมจนพัง
“พรวด!”
แรงปะทะ ทำให้กู่ไห่ถึงกับกระอักโลหิต
ขณะเดียวกัน บริเวณที่เกิดระลอกคลื่นกลางอากาศ ได้เกิดรอยแตกร้าว และชุดคลุมสีขาวก็กำลังจะโผล่ออกมา
เขากำลังจะออกมาแล้ว!
“ตายเสียเถอะ!” ซ่งเซิงผิงะโกึกก้อง ก่อนจะฟันกระบี่ออกไป
ตูม!
คลื่นกระบี่พุ่งตรงไปยังชุดคลุมสีขาว หมายจะสังหารไต้ซือหลิวเหนียนในทันทีที่อีกฝ่ายก้าวข้ามมิติออกมา ด้วยคมกระบี่เดียว
ไม่กี่อึดใจ ก่อนที่การโจมตีจะถึงตัว จู่ๆ มือขวาของไต้ซือหลิวเหนียนก็โผล่ออกมาจากรอยแยกนั้น แล้วก่อตัวขึ้นเป็ฝ่ามือั์
ตึง!
คลื่นกระบี่หยุดค้างกลางเวหา และถูกจับเอาไว้โดยฝ่ามือใหญ่ของอีกฝ่าย
“อะไรกันนี่?” เมื่อเห็นเช่นนั้น ท่าทีของซ่งเซิงผิงก็เปลี่ยนไปทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้