จุนเช่อได้ยินเสียงซุบซิบนินทาจากคนหลายคน เขาไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจหานรุ่ยผิด และไม่อยากทำลายความรู้สึกระหว่างหานรุ่ยกับจุนห่าว กล่าวกันว่า หลายเื่ที่ปากของหลายคนพูดกันนั้น มักทำเื่ผิดให้กลายเป็ถูกอยู่เสมอ บางเื่ที่ในความจริงแล้ว ไม่ได้มีอะไรเลย ก็อาจถูกเผยแพร่ไปในเชิงเสียหายได้ จุนเช่อจึงกล่าวขึ้นเสียงดังว่า “ท่านผู้นี้......” แต่เนื่องจากเขาไม่รู้ชื่อของเฉินเสาอวี่ จุนเช่อจึงหันไปหาหานรุ่ย
หานรุ่ยกล่าวตอบว่า “เฉินเสาอวี่” หานรุ่ยก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบตัวเขาเช่นกัน แม้ว่าหานรุ่ยจะไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา ทว่าภายในใจของเขารู้สึกเ็ปยิ่งนัก เฉินเสาอวี่้าให้คนอื่นเข้าใจผิดว่า เขาคบชู้และหวังจะทำลายชื่อเสียงของเขา
หลังจากได้ฟังคำตอบ จุนเช่อจึงมองไปรอบ ๆ และเอ่ยขึ้นพลางมองเฉินเสาอวี่ไปด้วยว่า “ท่านมีนามว่า ‘เฉินเสาอวี่’ ใช่ไหม ข้าบอกท่านไปแล้วมิใช่หรือ? ว่า ข้าคือลูกผู้พี่ของหานรุ่ย หาใช่ชายชู้อย่างที่เ้ากล่าวหาไม่ ข้าและน้องชายมาทำธุระที่เมืองอวี้หวา จึงถือโอกาสแวะมาเยี่ยมเยียนลูกผู้น้องที่นี่ และที่ข้าเข้าป่าไปในครั้งนี้ ก็เพราะเพื่อหาโอกาสที่จะบุกทะลวงระดับลมปราณ ลูกผู้น้องจึงอาสาพาข้าไป พวกเราเลยต้องอยู่ในป่าเป็เวลาสามวัน จนข้าบุกทะลวงเลื่อนขั้นได้สำเร็จ พวกเราถึงได้พึ่งกลับมา”
นักพรตระดับกลางที่อยู่ในฝูงชนคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาว่า “พลังปราณของเ้าหนุ่มนี่ยังไม่นิ่ง น่าจะเพิ่งบุกทะลวงขั้นมาจริง ๆ เขาพูดไม่ผิดหรอก ดูเหมือนว่า เ้าเฉินเสาอวี่จะใส่ร้ายลูกพี่ลูกน้องสองคนนี้อย่างไม่เป็ธรรมนะ”
อีกคนหนึ่งจึงกล่าวขึ้นต่อว่า “ในหมู่บ้านของเรา มีใครที่ไม่รู้บ้างว่า เฉินเสาอวี่กำลังสนใจจุนห่าวที่มาจากต่างถิ่นอยู่ เพราะจุนห่าวทั้งรูปงาม อีกทั้งยังมีเงิน ถ้าเฉินเสาอวี่จะรู้สึกพึงพอใจก็คงไม่ใช่เื่แปลก เฉินเสาอวี่มีสายตาที่สูงส่งอยู่ทีเดียว แต่ดันมาดูถูกคนอื่นในหมู่บ้านของเรา แล้วอยากจะปีนให้สูงขึ้นเองเสียได้”
มีอีกคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาว่า “ใช่แล้ว น่าเสียดายที่จุนห่าวเป็คนรักเดียวใจเดียว เขารักเพียงแค่ภรรยาซวงเอ๋อร์ของเขาผู้เดียวเท่านั้น แม้ว่าเฉินเสาอวี่จะตามตอแยเขาเพียงใด เขาก็ไม่สนใจ ดูเหมือนว่า เื่นี้ เฉินเสาอวี่จะตั้งใจหาเื่ก่อน ทำมาบอกว่า ลูกพี่ลูกน้องของหานรุ่ยเป็ชายชู้ ไม่รู้ว่าเฉินเสาอวี่คิดอะไรอยู่ ถึงได้ใส่ร้ายหานรุ่ย เพราะเขามีเป้าหมายที่แอบแฝงอยู่นี่เอง ถึงได้คิดวิธีต่ำช้าเช่นนี้ออกมาได้”
ผู้ที่มามุงดูเหตุการณ์อีกคนกล่าวว่า “เขาคงอยากแต่งงานกับจุนห่าวจนตัวสั่น ไม่ว่าเื่แย่ ๆ แบบไหน เขาก็คิดออกมาได้หมด แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฉินเสาอวี่ที่น่ารักและเฉลียวฉลาดผู้นั้น จะมีจิตใจที่เลวทรามเช่นนี้ คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจเสียจริง”
เมื่อเฉินเสาอวี่ได้ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนโดยรอบ สีหน้าของเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็อับอาย เขาพูดกับจุนเช่อด้วยใบหน้าที่มืดมนว่า “เ้ามันคนหลอกลวง เ้าต้องไม่ใช่ลูกผู้พี่ของหานรุ่ยแน่ พวกเ้าหน้าไม่เหมือนกันเลยสักนิด” เฉินเสาอวี่ยังคงใส่ร้ายหานรุ่ยอีก เพื่อให้จุนห่าวทอดทิ้งหานรุ่ยไป
“ใครบอกเ้าว่า ลูกพี่ลูกน้องจะต้องมีหน้าตาเหมือนกัน? บางคนเป็พี่น้องกันแท้ ๆ แต่หน้าตาไม่เหมือนกันก็มี เ้าช่างหยิ่งผยองยิ่งนัก ที่มาใส่ร้ายลูกผู้น้องของข้า เ้ามันงูพิษ เอาแต่คิดร้ายต่อคนอื่น” จุนเช่อพูดกับเฉินเสาอวี่อย่างไม่เกรงใจ เขากับจุนห่าวเป็พี่น้องกันแท้ ๆ หน้าตายังไม่ค่อยจะเหมือนกันเลย
บัดนี้หานรุ่ยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เวลาของเขามีค่า เขาไม่อยากจะเสียเวลาไปกับเื่ไร้สาระกับเฉินเสาอวี่อีกแล้ว เขาจึงกล่าวกับเฉินเสาอวี่ว่า “ขอทางให้ข้า อย่าให้ข้าต้องลงไม้ลงมือ ข้าไม่ชอบลงมือกับคนที่อ่อนแอกว่าหรอกนะ ถ้าคิดได้แล้วก็หลีกไปซะ”
“นี่เ้าขู่ข้าอย่างนั้นรึ? อยากต่อยก็มาเลยสิ ข้าไม่กลัวเ้าหรอก” เฉินเสาอวี่ประเมินพลังปราณของหายรุ่นไม่ออก เขาจึงคิดว่า หานรุ่ยเป็แค่สามัญชนคนธรรมดา เฉินเสาอวี่ไม่เคยคิดมาก่อนว่า หานรุ่ยจะมีพลังปราณสูงกว่าเขา เพราะเขาคิดมาตลอดว่า หานรุ่ยไม่มีอะไรที่เทียบกับเขาได้เลยสักอย่าง
“ลูกผู้น้อง เ้าอย่าหุนหันพลันแล่นเลย พวกเรากลับบ้านกันเถอะ ใครที่เป็ตัวปัญหา ก็ปล่อยให้คนนั้นจัดการไป” จุนเช่อพูดกับหานรุ่ย เขาเกรงว่า หานรุ่ยจะใช้ลูกไฟ จนทำให้เฉินเสาอวี่กลายเป็เถ้าถ่านเสียจริง ตอนนี้พวกเขาค่อนข้างยุ่ง เื่บางเื่ก็ควรปล่อยไปบ้าง จากนั้นจุนเช่อก็พูดกับเฉินเสาอวี่ว่า “เฉินเสาอวี่ ข้าใช่ลูกผู้น้องของหานรุ่ยหรือไม่ เ้าก็ไปถามจุนห่าวสิ เ้าจะได้รู้เสียที ไม่ต้องมาเซ้าซี้หานรุ่ยเช่นนี้หรอก รู้ไหมว่า เ้ากำลังพยายามทำลายชื่อเสียงของลูกผู้น้องของข้าอยู่ ถ้าอย่างนั้นเ้าก็ไปกับพวกเราเถอะ ไปบ้านลูกผู้น้องด้วยกัน ไปถามจุนห่าวตรง ๆ ให้มันชัดเจน”
จากนั้นเขาก็พูดกับคนที่มามุงดูเหตุการณ์ที่อยู่รอบตัวเขาว่า “หากทุกคนพอมีเวลา ก็ไปกับพวกเราได้ ไปเป็สักขีพยานให้พวกเรา และจะได้รู้สักทีว่า ข้าและลูกผู้น้องของข้าบริสุทธิ์”
