หมอกเลือนรางปกคลุมรอบด้าน มหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ณ ขอบฟ้าสุดแสนห่างไกล หน้าผารกร้างแห่งหนึ่งเกิดลำแสงพวยพุ่งนับหมื่นสาย คล้ายกับมีสัญญาณไฟแห่งหนึ่งกลางมหาสมุทรวันสิ้นโลก สถานพำนักของคุนเผิงสร้างขึ้นบนหน้าผารกร้างที่แห้งแล้งแห่งนี้
จ้านอู๋มิ่งและคนอื่นๆ แล่นเรือเหาะมาตลอดทาง ไม่มีผู้ใดหาญกล้าเผชิญหน้าด้วย ถึงแม้น่านน้ำมหาสมุทรแถบนี้สะกดข่มฐานบ่มเพาะไว้ แต่ข่าวสารยังคงส่งต่อถึงกันรวดเร็วยิ่ง ราชันวายุ หนานกงเฉิงเสียชีวิต ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยดับสูญ ทั้งคู่ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชันปีศาจที่ปั่นป่วนโลกผู้นี้
เหตุผลที่ทุกคนต่างเกรงกลัวจ้านอู๋มิ่ง ไม่ใช่เพราะว่าเขาชื่นชอบการเข่นฆ่า เขาไม่เคยฆ่าผู้บริสุทธิ์มาก่อน แต่ทุกคนหวาดกลัวจ้านอู๋มิ่งที่มีวิธีการสร้างกำไรเงินทองด้วยเหตุผลอันถูกต้อง
ในสายตาคนขี้โกงผู้นี้ แหวนจักรวาลของท่านก็คือแหวนจักรวาลของเขา ไม่เคยทราบคำว่า "เกรงใจ" เขียนอย่างไร
“ในที่สุดก็เห็นสถานพำนักของคุนเผิงแล้ว!” จ้านอู๋มิ่งยืนบนหัวเรือ พึมพำขึ้น
“ผนึกสถานพำนักดูเหมือนกำลังจะเปิด ลำแสงล้วนพวยพุ่งออกมาแล้ว” ตู้เยว่ิเห็นด้วย
“ข้าััได้ถึงเจตจำนงของคุนเผิงแล้ว” จ้านอู๋มิ่งหลับตาลง รู้สึกถึงพลังธาตุวารีไร้สิ้นสุดที่แทรกซึมอยู่ทุกตารางนิ้วของอากาศ สิ่งนี้ทำให้จ้านอู๋มิ่งประหลาดใจยิ่งนัก สถานที่นี้กลับมีพลังธาตุเบาบางดำรงอยู่ ไม่แปลกใจที่ปีนั้นคุนเผิงสามารถทะลวงข้อจำกัดของเทพเ้าา บรรลุขอบเขตสำเร็จเหนือล้ำเทพเ้าา น่านน้ำมหาสมุทรแถบนี้มีความพิเศษบางอย่างอยู่จริงๆ
ทุกคนประหลาดใจอยู่บ้าง แต่พวกเขาไม่สามารถััได้ เพียงแต่รู้สึกว่าสถานที่นี้เปี่ยมพลังเหนือธรรมชาติและค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ สำหรับจ้านอู๋มิ่ง เวลานี้พวกเขาไม่มีความไม่พอใจหลงเหลืออีกต่อไปแล้ว ในสายตาของพวกเขา ตำแหน่งของจ้านอู๋มิ่งเหนือล้ำกว่าตำแหน่งของราชันสัตว์ร้าย เฉวียนหรูเซินไปแล้ว ถึงแม้เฉวียนหรูเซินจะเคยแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่เว้นระยะห่างไกลกับพวกเขามาก พวกเขาได้แต่แหงนหน้าขึ้นมองเท่านั้น ส่วนจ้านอู๋มิ่งกลับแตกต่าง จ้านอู๋มิ่งสามารถปล่อยตัวทำเื่ที่ตนเองชื่นชอบร่วมกับพวกเขา ปล้นชิงด้วยกัน เป็สหายเคียงบ่าเคียงไหล่ ไล่เข่นฆ่า สังหารศัตรูด้วยกัน สำหรับจ้านอู๋มิ่ง พวกเขามีแต่ความเชื่อมั่นเท่านั้น
ครั้งนี้ จ้านอู๋มิ่งยังทำให้พวกเขาได้โชคลาภก้อนใหญ่ แต่ละคนล้วนได้รับแหวนจักรวาลคนละสองวง ควรทราบว่า ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานยากจนขัดสนที่สุด เื่ที่สร้างเงินทองพิเศษได้รวดเร็วเช่นนี้ พวกเขาย่อมมีความสุขที่สุด ครั้งนี้สามารถ่ชิงแหวนจักรวาลมากมายเช่นนี้ ล้วนอาศัยพลังต่อสู้ไร้เทียมทานของจ้านอู๋มิ่ง แต่จ้านอู๋มิ่งกลับไม่ได้ยึดไว้เองคนเดียว แต่แบ่งปันให้ศิษย์พี่น้องทุกคนด้วยจิตใจอันกว้างขวาง ทำให้ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานล้วนรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก
“ครึกครื้นยิ่งนัก!” จ้านอู๋มิ่งยืนอยู่บนเรือเหาะที่บินเร็วมาก มองดูน่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงเบื้องล่าง
ยามนี้น่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงเรียกได้ว่ามีคนดีคนชั่วปะปนวุ่นวาย เกิดการต่อสู้ขึ้นทุกแห่งหน หลายคนเป็ศัตรูกันอยู่ก่อนแล้ว เจอกันในสถานที่แห่งนี้หนทางคับแคบ จึงถือโอกาสนี้ต่อสู้กัน พิสูจน์ความสูงต่ำของฝีมือสักครั้ง ผู้คนยิ่งมากขึ้นเพราะก่อนหน้านี้ได้พบสมบัติแปลกๆ ในน่านน้ำมหาสมุทรแถบนี้ ทำให้ทุกคนอิจฉาตาร้อน จึงเริ่มต่อสู้แย่งชิงกันขึ้นมา
ยิ่งเข้าใกล้สถานพำนักของคุนเผิง อันตรายใต้มหาสมุทรก็ยิ่งมากขึ้น สัตว์อสูรในมหาสมุทรสามารถเห็นได้ทุกแห่งหน ชนเผ่าสมุทรเผ่าต่างๆ ยืนหยัดเตรียมพร้อม รออยู่ในแนวรบ
น่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงยามนี้วุ่นวายสับสนจนเป็โจ๊กหม้อหนึ่ง!
“ตูมมม…” นกสีเขียวตัวหนึ่งกระพือปีกร่อนถลาผ่านท้องฟ้า ศีรษะหัวหนึ่งแยกหลุดจากร่างกาย หญ้าจิติญญาสีแดงเพลิงต้นหนึ่งลอยออกไป
“นกกระจอกเกล็ดเขียว เ้าบังอาจฆ่าหลานข้า!” เสียงคำรามโกรธแค้นเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากบนมหาสมุทร
“อสูรเฒ่าหลง ถ้าจะโทษก็ต้องโทษหลานเ้าที่ไม่รู้จักดีชั่ว ถึงกับกล้าแย่งรากจิติญญาเก้าเปลวเพลิงกับข้า!” นกสีเขียวตัวนั้นถลาร่อนเป็วงกลมสวยงามบนท้องฟ้ารอบหนึ่ง เก็บหญ้าจิติญญาสีแดงเพลิงไปก่อนที่เงาร่างสีดำจะกระโจนเข้ามา อวดกรงเล็บนกกับชายหน้าดำร่างใหญ่อย่างหยิ่งผยองคราหนึ่ง
“ตัวประหลาดเฒ่าในเทือกเขาหมื่นสัตว์อสูรก็เคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน!” ตู้เยว่ิตบปากคราหนึ่ง จ้องมองนกสีเขียวที่กระพือปีกบินขึ้นสูงอย่างใ
“ประเสริฐแล้ว นกตัวนี้ค่อนข้างน่าสนใจ” จ้านอู๋มิ่งมองดูท่าทางอวดกรงเล็บของนกนั้น กลับเป็การชูนิ้วกลางขึ้นมานิ้วหนึ่ง
“ศิษย์น้อง อย่าได้ไปตอแยสัตว์อสูรจิติญญาแห่งเทือกเขาหมื่นสัตว์อสูรอย่างเด็ดขาด สัตว์อสูรจิติญญาเหล่านี้ร่างกายแข็งแกร่งทรงพลังโดยธรรมชาติ ถึงแม้ฐานบ่มเพาะจะถูกสะกดข่มในน่านน้ำมหาสมุทรแถบนี้ แต่พลังต่อสู้ของพวกมันก็แข็งแกร่งกว่าสิบราชันมากมายนักเช่นกัน” ตู้เยว่ิพอเห็นจ้านอู๋มิ่งจ้องมองนกตัวนั้น ไม่สนใจรากจิติญญาเก้าเปลวเพลิงอันใดอีกแล้ว รีบหันมาดึงเขาไว้แล้วพูดเตือน เกรงว่าพอจ้านอู๋มิ่งเห็นสมบัติวิเศษเข้า ก็คิดจะทำการค้าที่ไม่ต้องลงทุนขึ้นมา
จ้านอู๋มิ่งทราบดีแก่ใจเช่นกันว่านกสีเขียวเมื่อครู่นี้คือสัตว์อสูรระดับหก ขาดอีกนิดเดียวก็สามารถแปลงร่างได้แล้ว จ้านอู๋มิ่งอาศัยอยู่ใกล้ป่าสัตว์อสูรั้แ่ยังเด็ก รู้สึกเคารพยำเกรงเทือกเขาหมื่นสัตว์อสูรตลอดมา สัตว์อสูรที่นั่นไม่เคยเป็ฝ่ายริเริ่มกล้ำกรายสถานที่อยู่ของมนุษย์ก่อน แต่เทือกเขาสัตว์อสูรแห่งนั้นดำรงอยู่เป็เวลายาวนานมากแล้ว สัตว์อสูรระดับสูงสุดในเทือกเขาสัตว์อสูรแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ในระดับเดียวกันมากมายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์อสูรที่มีสายเือันเป็พร์ นกกระจอกเกล็ดเขียวเมื่อครู่นี้ก็คือนกจิติญญาที่มีสายเืของวิหคชิงหลวน[1]าตัวหนึ่ง และอสูรเฒ่าหลงผู้นั้นก็คือตัวประหลาดเฒ่าของตระกูลซ่อนเร้นตระกูลหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าสถานพำนักของคุนเผิงจะชักนำตัวประหลาดเฒ่าเหล่านี้ทั้งหมดออกมาแล้ว
สัตว์อสูรในเทือกเขาหมื่นสัตว์อสูรจะมาเยือนสถานที่นี้ย่อมเป็เื่ปกติ กล่าวถึงที่สุดแล้วคุนเผิงเป็ราชันแห่งสัตว์อสูรนับหมื่นแสน ในยุคสมัยา คุนเผิงได้ชื่อว่าเป็แม่ทัพของหมื่นสัตว์อสูร เป็ผู้ริเริ่มสร้างอารยธรรมชนเผ่าปีศาจ ปีศาจดังกล่าวเป็สัตว์อสูรอีกรูปแบบหนึ่ง เฉพาะสัตว์อสูรหลังจากแปลงร่างแล้วเท่านั้นจึงมีคุณสมบัติที่จะเรียกว่าปีศาจได้
ในแผ่นดินพั่วเหยียน สัตว์อสูรที่แปลงร่างได้ล้วนสมควรได้รับการเคารพจากใต้หล้า พวกมันต้องผ่านความทุกข์ยากแสนสาหัสมากมายนับไม่ถ้วน จึงจะสามารถแปลงร่างเป็ปีศาจได้ ผู้คนในแผ่นดินพั่วเหยียน ขนานนามว่าสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์
“ตูมมม…” ทันใดนั้นน้ำในมหาสมุทรก็ะเิออก แผ่นหลังกว้างขวางเหมือนูเาปรากฏออกมา จากนั้นหางขนาดใหญ่มหึมาเหมือนสันเขาก็สะบัดฟาดขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ตูมมม…” นกกระจอกเกล็ดเขียวที่กำลังพึงพอใจถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างกายพุ่งพรวด กางปีกออกจนกลายเป็ก้อนเมฆสีเขียว กระแทกใส่หางที่สะบัดขึ้นกลางอากาศอย่างหนักหน่วง
แรงกระแทกอันมหาศาลก่อตัวเป็กำแพงน้ำขึ้นในมหาสมุทร สาดซัดถล่มทลายไปทุกทิศทาง
แม้ว่านกกระจอกเกล็ดเขียวจะขยายร่างใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังคงไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลของหางปลาตัวใหญ่นั้นได้ ร่างกายถูกสะบัดกระเด็นออกไปตรงๆ สมุนไพรสีแดงที่เพิ่งเก็บได้ก็ตกลงในปากขนาดใหญ่มหึมาราวกับวังน้ำวนสีดำนั้น
“เ้าแห่งปลาวาฬ ข้ากับเ้ายังไม่จบ!” เสียงร้องโกรธเคืองจากนกกระจอกเกล็ดเขียวดังมาจากฟากฟ้า
และปลาวาฬที่อ้าปากกลืนกินสมุนไพรสีแดงเข้าไปตัวนั้น ก็รีบดำดิ่งลึกลงในมหาสมุทรหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว รอจนนกกระจอกเกล็ดเขียวบินลงมาจากท้องฟ้า บนผิวมหาสมุทรเหลือเพียงกระแสน้ำวนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเล็กลงเรื่อยๆ ไหลเลยจะมีเงาร่างของปลาวาฬอยู่อีก
“นกกระจอกเกล็ดเขียว อย่าหนี!” แส้ยาวเส้นหนึ่งในมือของอสูรเฒ่าหลงฟาดเข้าหานกกระจอกเกล็ดเขียว ราวกับจะฟาดท้องฟ้าให้แหลกสลายก็ปาน
“ข้าไม่คิดจะพัวพันกับเ้า!” นกกระจอกเกล็ดเขียวขุ่นข้องหงุดหงิดแทบตายแล้ว คว้าหญ้าจิติญญามาอย่างยากเย็นแสนเข็ญ กลับถูกเ้าอสูรปลาวาฬเฒ่าในน่านน้ำมหาสมุทรวันสิ้นโลกกลายร่างเดิมแล้วแย่งชิงไป
“ไฉนจึงมีตัวประหลาดเฒ่ามากมายเช่นนี้?” จ้านอู๋มิ่งลอบใจนพูดไม่ออก ปลาวาฬปีศาจเมื่อครู่นี้กลับเป็สัตว์ประหลาดระดับเจ็ด เพื่อจัดการกับนกกระจอกเกล็ดเขียวด้วยความได้เปรียบด้านความเร็ว ถึงกับกลายเป็ร่างเดิม
ถึงแม้น่านน้ำมหาสมุทรแถบนี้จะสะกดข่มฐานบ่มเพาะ แต่ไม่ได้จำกัดขนาดใหญ่เล็กของร่างกาย เ้าแห่งปลาวาฬที่กลายร่างเดิม ลำตัวมีขนาดใหญ่มหึมาร่วมพันวา แม้ราชันแห่งมหาสมุทรชนิดนี้ ต่อให้ไม่มีสติปัญญา แค่ความแข็งแกร่งทางกายภาพเพียงอย่างเดียว แค่แกว่งหางคราหนึ่ง ผู้ใดจะเป็คู่ต่อสู้ได้? โดยเฉพาะฝูงชนราชันาขั้นต้น ผู้ใดจะสามารถไปสู้กับมันได้?
“ข้าประเมินสิ่งมีชีวิตของใต้หล้าต่ำไป!” จ้านอู๋มิ่งถอนหายใจยาวอย่างหงุดหงิด ดวงตาของเขาจดจ่ออยู่กับโลกของมนุษย์ตลอดมา กลับลืมไปว่าที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ ไม่ใช่โลกของมนุษย์บนแผ่นดินใหญ่ แต่เป็สัตว์อสูรทั้งบนบกและอากาศ ตลอดจนสัตว์อสูรทะเลสุดหยั่งคาดเ่าั้ในมหาสมุทรวันสิ้นโลก
“ไม่ได้การ ฝูงสัตว์อสูรในมหาสมุทรมาแล้ว!” จ้านอู๋มิ่งพูดเบาๆ สั่งศิษย์พี่น้องทุกคนออกเรือเดินทางเหาะขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกัน
“ซ่าา…ซ่าา…” น้ำทะเลเดือดพล่านแล้ว ปลาน้อยเกล็ดเงินส่องแสงนับไม่ถ้วนบินขึ้นไปบนท้องฟ้า เหมือนลูกศรแหลมคมมากมายนับไม่ถ้วน
“ปัง ปัง…” ปลาน้อยชนิดนี้กลับมีปีก ทะยานคราเดียวกลับสามารถบินได้สูงถึงหนึ่งร้อยวา จากนั้นกระแทกใส่ก้นเรือเหาะอย่างรุนแรง ถึงกับฝังตัวกับลำตัวเรือ
ทุกคนล้วนใ เรือเหาะนี้เป็อาวุธจิติญญาระดับกลาง วัสดุที่ใช้แข็งแกร่งมาก แต่ภายใต้การโจมตีของปลาน้อยเหล่านี้ กลับเปราะบางถึงเพียงนี้ นี่ยังเหาะสูงขึ้นกว่าร้อยวากลางอากาศแล้ว ถ้าอยู่บนผิวน้ำ เกรงว่าต้องถูกพวกมันชนจนพังพินาศแล้ว
“อ๊าก…อ๊าก…” เสียงร้องอนาถดังขึ้นทั่วมหาสมุทร เรือเหาะเ่าั้ที่บินค่อนข้างต่ำเหมือนเช่นกระดาษถูกทะลวงกลายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย คนบนเรือบางคนก็ถูกครีบบินของปลาเงินน้อยตัดเป็สองท่อน บางคนถูกทะลวงเป็โพรงใหญ่…เืย้อมน่านน้ำมหาสมุทรบริเวณนี้เป็สีแดงทันที
“ปลาบินมีดเงินปีศาจ!” ในดวงตาจ้านอู๋มิ่งฉายแววความโลภวูบ ปลาบินมีดเงินปีศาจชนิดนี้ ร่างกายแข็งแกร่งเหมือนศิลาทอง หัวแหลมกลมเหมือนกระสวยเงิน และเป็สัตว์อสูรที่อาศัยอยู่รวมเป็กลุ่ม ถึงแม้พวกมันตัวเล็ก แต่ดุร้ายสุดเปรียบปาน ไม่ว่าพวกมันปรากฏตัวในน่านน้ำมหาสมุทรบริเวณใด แทบจะไม่มีสัตว์อสูรใดกล้าไปตอแยมัน
ปลาบินมีดเงินปีศาจปรากฏตัวขึ้นในสถานที่ใด จะต้องมีหินจิติญญาคุณสมบัติศิลาทองอย่างแน่นอน เพราะปลาบินมีดเงินปีศาจเป็สัตว์อสูรที่มีธาตุแห่งชีวิตเพียงชนิดเดียว ครีบปีกคู่หนึ่งสามารถตัดอาวุธจิติญญาระดับต่ำขาดออกอย่างง่ายดาย คมเฉียบสุดเปรียบปาน อาหารของพวกมันก็คือหินศิลาทองจิติญญาเป็หลัก สิ่งนี้จึงได้สร้างร่างกายของพวกมันให้แข็งแกร่งดั่งศิลาทอง
พอจ้านอู๋มิ่งเห็นปลาบินมีดเงินปีศาจ ก็นึกถึงหินศิลาทองจิติญญาขึ้นมาทันที หินจิติญญาชนิดนี้หายากมาก ตอนนี้น่านน้ำมหาสมุทรบริเวณนี้ล้วนเต็มไปด้วยธาตุวารี กลับยังมีหินศิลาทองจิติญญาดำรงอยู่ จะต้องเป็สถานที่ซึ่งมีสิ่งของแปลกพิสดารอย่างแน่นอน กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของจ้านอู๋มิ่งขึ้นมาอย่างมาก
ปลาบินมีดเงินปีศาจทะยานบนผิวน้ำ มุ่งสู่มหาสมุทรอันไกลโพ้น จ้านอู๋มิ่งเหลือบมองปลาตัวเล็กๆ ที่ฝังตัวอยู่บนเรือเหาะพร้อมกับกระดิกหางคราหนึ่ง สูดหายใจลึกๆ คราหนึ่งกล่าวว่า “พวกเ้าล่วงหน้าไปก่อน รอข้าที่นอกสถานพำนักของคุนเผิง ข้าไปครู่เดียวก็กลับมา” พูดจบไม่รอให้ตู้เยว่ิและคนอื่นๆ แสดงปฏิกิริยาใด ก็ะโลงจากเรือเหาะ
รอจนตู้เยว่ิและคนอื่นๆ มีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา จ้านอู๋มิ่งได้แล่นเรือเหาะของเขาเองไล่ตามปลาบินมีดเงินปีศาจไปไกลแล้ว ทุกคนมองหน้ากัน ไม่ทราบว่าจ้านอู๋มิ่งกระทำเื่ใดที่ไหนอีก คิดๆ แล้ว ตู้เยว่ิยังคงปฏิบัติตามคำสั่งของจ้านอู๋มิ่ง พาทุกคนเดินทางไปที่สถานพำนักของคุนเผิง
พวกเขาเชื่อว่า จ้านอู๋มิ่งมีความสามารถในการป้องกันตัวเอง ในน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนี้ คนที่สามารถสังหารจ้านอู๋มิ่งได้มีไม่มาก และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นใน่เวลาก่อนหน้านี้ ทำให้ทุกคนล้วนเข้าใจแล้วว่า อย่าเข้าไปวุ่นวายกับจ้านอู๋มิ่งดีที่สุด มิฉะนั้นจะไม่ได้อะไรเลย
จ้านอู๋มิ่งไล่ติดตามปลาบินมีดเงินปีศาจไปตลอดทาง ปลาชนิดนี้รวดเร็วอย่างยิ่ง ดุจดั่งเหินบินก็ไม่ปาน ทุกครั้งที่ะโแฉลบบนผิวน้ำมหาสมุทร ไม่ว่าเจอนกสัตว์ร้ายหรือเรือเหาะ ล้วนเจาะทะลุได้โดยตรง แทบไร้สิ่งกีดขวาง ทุกแห่งที่ปลาบินมีดเงินปีศาจผ่าน สัตว์อสูรทะเลอื่นๆ ทั้งหมดล้วนหลีกหนีจนห่างไกล ไม่มีสัตว์อสูรชนิดใดในมหาสมุทรที่้าเผชิญหน้ากับพวกมันตรงๆ
ปลาบินมีดเงินปีศาจก็มุ่งหน้าไปทางสถานพำนักของคุนเผิงเช่นกัน เพียงแต่เบี่ยงไปทางด้านข้างด้านหนึ่ง ไม่ได้มุ่งหน้าไปทางสถานพำนักของคุนเผิงโดยตรง
การไล่ตามครั้งนี้ กลับไล่ตามเป็เวลาถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน เดิมนั่นคือสถานพำนักของคุนเผิงบนผารกร้างที่แสนแห้งแล้ง ยามนี้กลายเป็แผ่นดินกว้างขวางแห่งหนึ่งแล้ว แนวชายฝั่งไร้ที่สิ้นสุดปกคลุมไปด้วยม่านแสงกึ่งโปร่งใสชั้นหนึ่ง นี่ก็คือผนึกของสถานพำนักของคุนเผิงแล้ว
เวลานี้ ม่านแสงกึ่งโปร่งใสนี้เบาบางอย่างยิ่ง มีแสงเจิดจ้าออกมาจากสถานพำนักเป็บางครั้ง คล้ายดั่งมีสมบัติเทพยดาพลิกพลิ้วโลดแล่นไปมาอยู่ภายในสถานพำนักแห่งนี้
[1] นกวิเศษตระกูลหงส์
