ตอนที่แก่นสยบฟ้าถูกปลดปล่อย บริเวณนั้นได้กลายเป็เวทีสำหรับหลงอวี้แต่เพียงผู้เดียว!
หลังจากที่ความเร็วของฮวาชิงลดลง หลงอวี้เร่งเร้าพลังของรองเท้าเหมันต์คลั่ง และใช้วิชาวายุก้าวพริบตาอ้อมไปด้านหลังของฮวาชิงด้วยความเร็วสูงสุด
“ตาย!”
หลงอวี้ตะคอกอย่างดุดัน ชกไปหนึ่งหมัด ถุงมือิญญาล่องลอยได้ปรากฏหมอกดำขึ้น!
“หลบ!”
ฮวาชิงััได้ถึงพลังหมัดที่ส่งมาจากด้านหลัง จึงคิดจะหลบเลี่ยง ทว่าการเคลื่อนไหวภายใต้การกดทับจากแก่นสยบฟ้า ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในดินโคลนก็ไม่ปาน การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าลงไปมาก
วินาทีต่อมา หลงอวี้ก็ชกใส่กระดูกสันหลังของฮวาชิงเต็มๆ พละกำลังมหาศาลมากกว่าหนึ่งแสนชั่งปะทุออก ทำให้อีกฝ่ายกระเด็นไปในพริบตาเดียว!
กระบี่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งตกลงพื้นเสียงดังเคร้ง เมื่อไม่มีลมปราณของฮวาชิงคอยหนุนแล้ว น้ำแข็งบนตัวกระบี่ก็ได้ละลายหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงกระบี่เล่มหนึ่งเท่านั้น
“กระบี่ดีนี่
หลงอวี้เก็บกระบี่ขึ้นมา แสยะยิ้มบางๆ กระบี่เล่มนี้เป็ประโยชน์กับเขาในตอนนี้อย่างมาก หากไม่มีอาวุธชั้นดีแบบนี้ละก็ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะจัดการกับเ้าถานเจียนที่ถึกทนอย่างกับเต่าได้อย่างไร
“ใบไม้เด็ดบุปผา!”
ฮวาอวิ๋นเมื่อเห็นพี่ชายของตัวเองถูกซัดจนปลิวไป ก็ทั้งใและโกรธแค้น เปลี่ยนตัวเองเป็ใบไม้ดอกไม้ ไล่ตามหลงอวี้ไป ใบไม้ที่แหลมคมดุจใบมีดนับร้อยพันเล่มนั้นโถมกระหน่ำหลงอวี้อย่างไร้ความปรานี
เพียงแต่ ต่อให้เป็วิชาใบไม้เด็ดบุปผา แต่เมื่ออยู่ภายใต้แก่นสยบฟ้าก็ถูกลดความเร็วไม่น้อยเลยเ
หลงอวี้ตวัดกระบี่ในมือ ฟันใบไม้เ่าั้จนแหลกละเอียด แล้วใช้วิชาวายุก้าวพริบตา ทำให้ตัวเบาดุจสายลม ประจันหน้ากับฮวาอวิ๋นตรงๆ
ฉัวะ!
กระบี่ตรงเข้าใส่คอหอยของฮวาอวิ๋นอย่างแม่นยำ นางเบิกตาโตด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
“เป็ไปได้... อย่างไร... เ้าเพิ่งจะขั้นเจ็ดเองนี่...”
“ข้าบอกั้แ่แรกแล้วว่าคนที่จะตายน่ะ ไม่ใช่ข้า”
หลงอวี้พูดอย่างเฉยชา ดึงกระบี่ออก ร่างกายผอมบางของฮวาอวิ๋นพลันทรุดลงกับพื้น หัวใจหยุดเต้นและสิ้นลมไปในที่สุด
“เสี่ยวอวิ๋น!”
ฮวาชิงที่ถูกหลงอวี้ชกกระเด็นจนาเ็หนักกว่าเดิมนั้น พอเห็นภาพที่เกิดขึ้นก็ะโด้วยความเ็ป ดวงตาเป็ฉายแววโกรธแค้นชิงชัง จ้องหลงอวี้เขม็ง
“ข้า! จะ! ฆ่า! เ้า!”
“น่าเสียดาย เ้าคงไม่มีโอกาสนั้น”
หลงอวี้กระแทกเสียง เปลี่ยนตัวเองให้เบาดุจสายลม เคลื่อนตัวไปอยู่ด้านหลังของฮวาชิงในพริบตา ก่อนจะแทงกระบี่ไปข้างหน้าอย่างไม่รีรอ!
ฉัวะ!
ฮวาชิงยังไม่ทันได้ใช้วิชาป้องกัน ก็ถูกกระบี่แทงทะลุท้องน้อย ตันเถียนถูกลมปราณที่หลงอวี้อัดลงไปในกระบี่ะเิทิ้ง
ฮวาชิงล้มหน้ากระแทกพื้น ตอนนี้ศัตรูเหลือแค่ถานเจียนเพียงคนเดียว
แก่นสยบฟ้าที่ถูกใช้งาน สามารถสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งได้ในพริบตา!
หลงอวี้มองไปทางถานเจียน เห็นแววตาตื่นตระหนกและหวาดกลัวในดวงตาของเขา
ไอ้หลงอวี้นี่เมื่อก่อนเป็แค่สวะตัวหนึ่ง ทว่าตอนนี้มันกลับเปลี่ยนไปจนน่ากลัว ไม่เพียงเท่านี้ มันยังบรรลุจินตภาพถึงขั้นต่อไปได้แล้ว พร์ที่น่าสะพรึงถึงเพียงนี้ ทำให้ถานเจียนไม่อาจจินตนาการได้
“หลงอวี้ เ้าหยุดเถอะ พวกเราเป็ศิษย์ลัทธิเดียวกัน ไม่จำเป็ต้องสู้ให้ตายกันไปข้างหรอก!”
ถานเจียนกระทืบเท้าข้างหนึ่งลง พลันมีกำแพงศิลาปรากฏขึ้น พูดพลางมองหลงอวี้อย่างเยือกเย็น
“ตอนนี้เ้ายอมเรียกชื่อข้าแล้วเหรอ ก่อนหน้านี้เ้าเอาแต่เรียกข้าว่า สวะ ไม่ใช่หรือไร?”
หลงอวี้หัวเราะดูแคลน เมื่อเผชิญกับอันตรายที่คุกคามถึงชีวิต ใดๆ ล้วนสามารถปล่อยวางได้ เช่น ถานเจียนในตอนนี้ที่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีที่ยึดมั่นมาโดยตลอด หาทางประนีประนอมกับหลงอวี้
แต่หลงอวี้จะยอมยกโทษให้มันได้อย่างไร?
หากไม่กำจัดไอ้เต่าหัวหดนี่เสียั้แ่ตอนนี้ ภายภาคหน้ามันต้องกลายเป็ปัญหาใหญ่อีกแน่!
หลงอวี้ไม่เคยทิ้งปัญหาใดๆ ไว้ให้ตัวเองต้องลำบากทีหลัง
“เ้า ต้องตาย”
หลงอวี้ชี้กระบี่ไปทางถานเจียน สีหน้าเ็าไร้เมตตา
ถานเจียนใจหายวูบ เห็นแววตาเ็าของหลงอวี้แล้วพลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี
เื่ที่เกิดขึ้นย่อมอยู่ในสายตาของหลิงหานและเฟิงเหยาที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น
“เป็ไปได้อย่างไร? ไอ้สวะนั่น...”
เฟิงเหยากัดฟันกรอด คิดไม่ถึงว่า หลงอวี้จะเอาชีวิตรอดจากการกลุ้มรุมของยอดฝีมือวรยุทธ์ขั้นแปดถึงสามคนได้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังสวนกลับและฆ่าได้ถึงสองคนอีก!
ยิ่งกว่านั้น แม้แต่ถานเจียนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีมาโดยตลอดก็ยังยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อขอความเมตตา!
หรือก่อนหน้านี้ยอดฝีมือทั้งสามคนนั้นต่อสู้กันรุนแรงจนาเ็สาหัสมากเกินไป? ไม่อย่างนั้นลำพังแค่หลงอวี้ที่เพิ่งขึ้นมาขั้นเจ็ดได้เพียงคนเดียว ย่อมไม่มีทางเอาชนะยอดฝีมือขั้นแปดสามคนพร้อมกันได้แน่
“ไม่ได้ หากไม่รีบใช้โอกาสนี้กำจัดมันทิ้งั้แ่ตอนนี้ วันหน้ามันต้องกลายเป็ปัญหาใหญ่แน่!”
ตาของเฟิงเหยาฉายแววอำมหิต แต่นางก้าวเท้าได้ไม่ทันไร หลิงหานที่อยู่ใกล้ๆ ก็ไล่ตามทันที
“ฮ่าๆ ศิษย์น้องเฟิงเหยา คู่ต่อสู้ของเ้าคือข้าต่างหาก!”
หลิงหานขวางหน้าเฟิงเหยาไว้ พร้อมกับหัวเราะร่วน จากนั้นก็ชกหมัดออกไปข้างหนึ่ง รั้งตัวเฟิงเหยาไว้ไม่ให้ไปต่อ!
หลิงหานเองก็ไม่คิดว่าเ้าศิษย์น้องหลงอวี้จะร้ายกาจขนาดนี้ ดูท่าการมอบโสมระดับสูงให้เขาไปจะเป็ทางเลือกที่ถูกต้อง
หลงอวี้ในตอนนี้ แม้จะมีวรยุทธ์เพียงขั้นเจ็ด แต่กลับสังหารยอดฝีมือขั้นแปดได้ถึงสองคน!
“ใครเป็ศิษย์น้องเ้า?”
เฟิงเหยาที่ถูกหลิงหานรั้งไว้พลันรู้สึกไร้พลัง แม้นางจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลิงหานแล้วกลับทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้!
ฝีมือของทั้งสองนั้นใกล้เคียงกัน หากคิดจะตัดสินผลแพ้ชนะคงใช้เวลาไม่น้อย ต่างฝ่ายต่างสลัดกันไม่หลุด
ตอนแรกเป็เฟิงเหยาสกัดไม่ให้หลิงหานไปช่วยหลงอวี้ แต่ตอนนี้หลิงหานกลับเป็ฝ่ายสกัดไม่ให้เฟิงเหยาไปสังหารหลงอวี้แทน
ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ของหลงอวี้ได้
หลงอวี้ ก้าวไปทีละก้าว
ถานเจียนรวบรวมลมปราณ สร้างกำแพงศิลาขึ้น แต่เขารู้สึกว่าลมปราณภายในตัวถูกเผาผลาญอย่างรวดเร็ว เขาสู้ต่อได้อีกไม่นานแล้ว
เขาชิงโสมโบราณระดับสูงมา จากนั้นก็ถูกฮวาอวิ๋นและฮวาชิงตามฆ่า ระหว่างทางจึงรีบกลืนโสมอย่างรีบร้อน จึงยังไม่สามารถดูดกลืนพลังฟ้าดินที่อยู่ภายในนั้นได้หมด
ระหว่างการเดินทาง เขายังไม่ได้พักผ่อนเลย ตอนนี้เขาหมดทางหนีแล้ว ทำให้เจ็บแค้นสุดขีด!
เขามองดูหลงอวี้ค่อยๆ ก้าวเข้ามาทีละก้าว รีบคิดหาทางเอาชีวิตรอด เขาไม่ใช่พวกที่ปล่อยวางไม่ได้อยู่แล้ว เพื่อเอาชีวิตรอด ต่อให้ต้องทิ้งเกียรติต้องยอมเสียหน้าชั่วคราวก็ไม่มีปัญหา!
“หลงอวี้…ก่อนหน้านี้น้องสาวของข้า ‘ถานเยว่’ ทำตัวไม่ดีใส่เ้า เป็ความผิดของนาง กลับไปข้าจะอบรมสั่งสอนนางอย่างเข้มงวดแน่นอน!”
ถานเจียนพูดอย่างเคร่งขรึม
“เห็นแก่ที่เรามาจากลัทธิเดียวกัน เ้าวางกระบี่ในมือลงเถิด”
ระหว่างที่พูด ถานเจียนก็รู้สึกคับแค้นใจไปด้วย เพียงแต่ ตอนนี้เขาใช้ลมปราณจนหมดแล้ว จึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนไว้เท่านั้น!
คำพูดของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนมากว่า ถานเจียนได้ยอมร้องขอความเมตตาจากหลงอวี้!
หลิงหานไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลงอวี้จะสามารถบีบคั้นลูกศิษย์ระดับสูงอันดับหนึ่งของลัทธิสยบฟ้าได้ถึงขั้นนี้! แต่ตอนนี้สิ่งที่หลิงหานเป็ห่วงคือ เมื่อเผชิญหน้ากับถานเจียนที่ยอมลดตัวลงขอความเมตตาเช่นนี้ หลงอวี้จะใจอ่อนปล่อยมันไปทั้งอย่างนี้หรือเปล่า?
หลิงหานไม่ได้พูดอะไร เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่า หลงอวี้เป็คนแบบไหนกันแน่!
“จะให้ข้าวางกระบี่ในมือลง ย่อมได้ แต่มีเงื่อนไขอยู่หนึ่งข้อ”
หลงอวี้หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเสนอเงื่อนไข
“เงื่อนไขอะไร?”
ถานเจียนเอ่ยถามอย่างไม่รู้ตัว
“ง่ายมาก...”
หลงอวี้พูดออกมาสั้นๆ คำเดียว จากนั้นก็ก้าวพริบตาออกไปหนึ่งก้าว เคลื่อนตัวไปอยู่ด้านหลังของถานเจียนพร้อมถือกระบี่ไว้ในมือ
ลมปราณอัดแน่นทั่วคมกระบี่ ก่อนจะแทงทะลุชุดเกราะของถานเจียน!
ถานเจียนที่กำลังตั้งใจฟังเงื่อนไขที่หลงอวี้จะเสนอ ย่อมคาดไม่ถึงอยู่แล้วว่าหลงอวี้จะลงมือเช่นนี้
วินาทีต่อมา กระบี่ที่อัดแน่นไว้ด้วยลมปราณก็ได้แทงทะลุหน้าอกของถานเจียนไปอย่างง่ายดาย!
“เ้า...”
ถานเจียนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ทำได้แค่เบิกตาโต พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ไอ้เต่าที่จัดการยากตัวนี้ ในที่สุดก็ตายด้วยกระบี่ของหลงอวี้
“แม้แต่ตอนที่เ้าร้องขอชีวิต ดวงตาของเ้าก็ยังเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าจะโง่ยอมไว้ชีวิตเ้า เพื่อให้กลับมาสร้างปัญหาในภายหลัง?”
หลงอวี้หัวเราะเ็า ดึงกระบี่ออกจากหลังของถานเจียน
กระบี่เล่มนี้เป็ยุทธภัณฑ์ระดับล่างชิ้นหนึ่ง น่าเสียดายที่หลงอวี้ไม่ได้ฝึกกระบี่ จึงแสดงอานุภาพออกมาได้ไม่มากนัก ได้แต่ใช้คมของมันในการสังหารแทน
เขาเงยหน้าขึ้น เห็นหลิงหานกำลังวิ่งมาทางนี้ด้วยสีหน้ายินดี
ส่วนเฟิงเหยานั้น พอเห็นถานเจียนถูกหลงอวี้แทงตายในกระบี่เดียว ก็รู้ตัวทันทีว่านางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงอวี้และหลิงหาน จึงใช้วิชาท่าร่างหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ศิษย์น้อง ในที่สุดเ้าก็เลื่อนขั้นแล้ว!”
หลิงหานหัวเราะพร้อมกับก้าวเข้ามาหา
“เป็เพราะศิษย์พี่ช่วยไว้แท้ๆ”
หลงอวี้ตอบกลับ หากไม่ใช่เพราะหลิงหานคอยถ่วงเวลาไว้ให้ละก็ เขาไม่มีทางก้าวขึ้นสู่วรยุทธ์ขั้นเจ็ดได้ราบรื่นขนาดนี้แน่
“คิดไม่ถึงเลยว่าวิทยายุทธ์ประเภทฝึกกายจะทรงพลังขนาดนี้ ดูท่ากลับไปข้าต้องลองบ้างแล้วล่ะ”
หลิงหานพูดพลางหัวเราะ ตบไหล่หลงอวี้ไปหนึ่งที
“วิทยายุทธ์แต่ละวิชาล้วนมีประโยชน์ในแบบของมันเอง”
หลงอวี้ส่ายหน้า
“อันที่จริงเมื่อครู่นี้ หากถานเจียนยังมีพลังสู้ต่อละก็ ผู้ที่จะพ่ายแพ้ในท้ายที่สุดต้องเป็ข้าแน่ ลมปราณในตัวข้าถูกผลาญเสียเกลี้ยง เพราะวิชาฝึกกายนั้นเผาผลาญลมปราณมากเหลือเกิน”
ม่านเหล็กพิชิตมารนั้น แม้จะมีพลังป้องกันสูง แต่ก็เผาผลาญลมปราณมากกว่าวิชาอื่นหลายเท่า
ถ้าเทียบเื่ประโยชน์ใช้สอยละก็ มันเทียบกับวิทยายุทธ์สายป้องกันอย่างวิชาศิลาผู้พิทักษ์ไม่ได้เลย เพียงแต่ม่านเหล็กพิชิตมารนั้นสามารถป้องกันได้ทั้งตัว ป้องกันการโจมตีจากวิชาอย่างใบไม้เด็ดบุปผาได้ดีกว่าก็เท่านั้น
“จริงสิศิษย์น้อง ตอนที่เฟิงเหยาจากไปเมื่อครู่ นางได้ฝากคำพูดถึงเ้าด้วย”
หลิงหานกลับมามีสีหน้าจริงจังอีกครั้ง
“ฮวาอวิ๋นกับฮวาชิงที่เป็ศิษย์ของสำนักน้ำแข็งเยือกยังมีพี่ใหญ่อีกคนหนึ่ง นามว่า ‘ฮวาปู๋เซี่ย’! เ้าเป็คนฆ่าสองคนนั้น ต่อไปต้องโดนฮวาปู๋เซี่ยตามล้างแค้นแน่!”
“ฮวาปู๋เซี่ย? มันมีพลังระดับไหน?”
หลงอวี้ชะงักไป
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ เพียงแต่ ฮวาปู๋เซี่ยดูเหมือนจะเป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับหนึ่งของสำนักน้ำแข็งเยือก!”
หลิงหานพูดเสียงเครียด
ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับหนึ่ง!
หลงอวี้อดนึกถึงชายหนุ่มลึกลับแห่งลัทธิสยบฟ้า ‘ปู้สิง’ ไม่ได้ เพราะเขาก็เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับหนึ่งของลัทธิสยบฟ้าเช่นกัน!
เมื่อเป็เช่นนี้ หลงอวี้ก็พลันรู้สึกกดดัน
ตัวเขาตอนนี้ หากต้องเผชิญหน้ากับเฟิงอวิ๋นก็ยังพอมั่นใจอยู่บ้าง แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับปู้สิงละก็ เขาย่อมไม่มีทางชนะแน่
ระดับวรยุทธ์ของอีกฝ่ายไปถึงจุดที่ลึกล้ำเกิดหยั่งถึง ถึงขั้นทำให้ผู้คุมกฎต้องยอมถอยได้
“เฟิงเหยาจะต้องนำข่าวที่ข้าสังหารฮวาอวิ๋นและฮวาชิงกลับไปฟ้องไอ้ฮวาปู๋เซี่ยนั่นแน่ คิดจะยืมดาบฆ่าคน!”
หลงอวี้กระแทกเสียงในใจอย่างเ็า!
“แต่ว่าศิษย์น้อง เ้าไม่ต้องเป็ห่วงมากขนาดนั้น ไม่ว่าไอ้ฮวาปู๋เซี่ยนั่นจะโอหังขนาดไหน ก็ไม่มีทางมาฆ่าคนถึงลัทธิเราอยู่แล้ว”
หลิงหานเห็นสีหน้าของหลงอวี้ ก็คิดว่าเขาเสียขวัญ จึงพูดปลอบใจ
“ด้วยพร์ของเ้า ขอเพียงตั้งใจฝึกฝนในลัทธิต่อไป การก้าวข้ามฮวาปู๋เซี่ยก็คงไม่ใช่เื่ยากนักหรอก”
หลงอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อย ศิษย์พี่คนนี้ช่าง...
เพียงแต่คำพูดของหลิงหาน มีบางส่วนที่หลงอวี้เห็นด้วย
การก้าวข้ามฮวาปู๋เซี่ยสำหรับเขาเป็เื่ที่ไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดขึ้น ด้วยความสามารถของสัญลักษณ์ัปรภพ เขาเชื่อว่าวันนั้นอยู่อีกไม่ไกลแน่นอน!
“จริงสิ เมื่อกี้ข้าได้ยินเื่น่าสนใจมาเื่หนึ่ง ได้ยินว่าในป่าโสมโบราณปีนี้ มีโสมโบราณชั้นยอดงอกขึ้นมาหนึ่งต้น”
คำพูดของหลิงหาน ราวกับกำลังเล่าเื่ทั่วไป เพราะสำหรับเขา การปรากฏของโสมโบราณชั้นยอดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่แล้ว
แต่พอหลงอวี้ได้ยิน กลับรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาทันที!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้