ผ่านไปหลายสัปดาห์ ิเทียนเยว่ฟื้นตื่นขึ้นมา
ทันทีที่ตื่นขึ้นเขาก็ลุกขึ้นทันทีและแผ่จิตััออกไปทุกหนทุกแห่ง ตอนนี้เขาแผ่จิดััได้ถึงหนึ่งแสนลี้แล้วถึงเป็ระยะที่ไกลอย่างยิ่ง
แต่เมื่อแผ่ไปสักพักเขาก็รู้สึกว่ามีคนรู้สึกถึงเขาได้ขึ้นมา ทำให้เขาดึงจิตัักลับมาแทบจะในทันที
'ไม่ได้การคงต้องจำกัดไว้ที่สองหมื่นลี้' ิเทียนเยว่คิดในใจพลางสำรวจร่างกายเขาพบว่าตอนนี้เขาเป็ระดับจิติญญาแล้วพลังเพิ่มขึ้นมหาศาล แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมนับร้อยเท่าเลยทีเดียว
ร่างกายของเขาตอนนี้ฟื้นตัวเต็มที่แล้วเพียงแต่เสื้อผ้ากระจุยหายไปหมด ของล้ำค่าฟ้าตินกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลยกลับกันเขากลับรู้สึกว่าพวกมันแข็งแกร่งขึ้นด้วยซ้ำไป
แต่ปัญหาคือเขาไม่มีเสื้อผ้าใส่เสียแล้ว...เื่นี้แม้เขาจะไม่สนใจซักเท่าไหร่ถึงอย่างไรก็ตัวคนเดียว แต่ด้วยจิตใต้สำนึกแล้วให้แก้ผ้ากลางูเาสูงมันก็ออกจะ...อืม โรคจิตไม่น้อย
อย่างน้อยในรัศมีสองหมื่นลี้ก็ไม่มีผู้แข็งแกร่งกว่าเขาแล้วแต่หากไกลกว่านั้นเมื่อครู่เขาเจอตอเยอะแยะมากมายล้วนเป็เหล่าลูกพี่ที่บ่มเพาะมานานกว่าเขาทั้งสิ้น...
"ไปเดินเล่นเสียหน่อยไม่น่าจะเป็อะไร" ิเทียนเยว่พึมพำออกมาเบาๆ แม้เขาจะต้องไปขโมยชุดชาวบ้านเขาก็เถอะเพราะทัณฑ์์เมื่อตอนนี้ของที่เขาพกติดตัวมาด้วยก็ละลายหายกลายเป็เศษซากไปหมดแล้ว เว้นก็แต่ของที่ระบบให้มาทุกอย่างล้วนคงกระพันยิ่งไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
ิเทียนเยว่ค่อยๆเดินลงจากสงบจิตช้าๆครุ่นคิดถึงระดับในปัจจุบัน ระดับจิติญญานั้นต้องใช้แรงกุศลและกรรมมหาศาล ควบคู่ไปกับพลังิญญาและพลังปราณ
'มิน่าเล่าตาเฒ่าพวกนั้นจึงอยู่ในเมืองกัน' เขาลอบพยักหน้าตอนนี้ปัญหาคือเขา้าแรงกรรมหรือแรงกุศล จุดๆนี้เขาไม่อยากสร้างแรงกรรมเลยแม้แต่น้อยเื่เช่นนี้ผูกใจพยาบาทง่ายยิ่งอาจะทำให้เกิดมารในใจ...
ระหว่างเดินและครุ่นคิดไปความเร็วของเขาก็เร็วขึ้นเรื่อยๆระหว่างเดินทางเขาก็กดใช้ สิทธิ์สุ่มทั้งหมดในระหว่างที่นอนสลบไปด้วยเพราะเขาใช้จำนวนสุ่มในการนับวันบำเพ็ญ
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ ของวิเศษระดับกลาง - อาภรณ์ป้องพิรุณ]
นอกจากอายุขัย 13 ปีเขากลับได้ชุดมาอย่างน่าประหลาดใจทำเอาเขาหยุดชะงักไปชั่วขณะเลยทีเดียว เขารีบนำอาภรณ์ป้องพิรุณออกมาสวมใส่พลางตรวจสอบดูความสามารถ ตัวอาภรณ์มีสีขาวผสมด้วยสีฟ้าจางๆเมื่อเขาสวมใส่แล้วทำให้ดูเหมือนเทพเซียนยิ่ง...แน่นอนว่าไม่มีรองเท้าแต่มีกางเกงมาให้!
[อาภรณ์ป้องพิรุณ - ของวิเศษระดับกลาง มีความสามารถในการดูดซับพลังิญญาแปลเปลี่ยนเป็โล่ป้องกันคลุมกาย สามารถสูงสุดได้ที่ระดับ มหายานขั้น 1]
ิเทียนเยว่พยักหน้าเล็กน้อยของชิ้นนี้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยยิ่งนักแม้เมื่อสวมใส่ไปมันจะดูดพลังิญญาของเขาฮวบฮาบแต่เมื่อวันนึงเติมพลังงานจนเต็มแล้วเขาสามารถปลอดภัยจากตัวตนระดับฝ่าด่านเคราะห์แล้ว
ยอดเยี่ยมยิ่ง ข้าชอบ!
ิเทียนเยว่พลันรู้สึกว่านี้คือของวิเศษที่ดีที่สุดที่เขาเคยได้รับมา แม้แต่บ่อน้ำวิสุทธิเขายังไม่รู้สึกชอบเท่านี้มาก่อน
เปรียบดังประกันชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้
ผ่านไปไม่นานนักเขาก็เดินมาถึงเมืองๆหนึ่งเขาเดินเมินไม่สนใจยามเฝ้าประตูเลยแม้แต่น้อยด้วยระดับของเขาแล้วมนุษย์ธรรมดาเปรียบเสมือนหยุดนิ่งไป
เมื่อเดินเข้าเมืองมาแล้วก็เดินด้วยความเร็วธรรมดาเช่นเดียวกับคนปกติแต่เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นล้วนดึงดูดสายตาของคนในเมืองได้ง่ายๆ
แม้ตัวเขาจะไม่รู้ตัวแต่หน้าตาของเขาตอนนี้หล่อเหลากว่าแต่ก่อนมาก ด้วยการผ่านการเปลี่ยนร่างกายและเปลี่ยนิญญามาแล้ว รวมถึงวิชาเก้านภาสิบสองตะวันจันทราที่มีส่วนช่วยในการชำระล้างร่างกายตอนนี้เขาราวกับเทพเซียนก็ไม่ปาน ประกอบกับอาภรณ์ป้องพิรุณ สามารถดึงดูดสายตาชาวบ้านได้ง่ายๆ
ิเทียนเยว่ก็รู้เช่นกันว่ามีหลายคนมองเขาด้วยความสนใจ ทำเอาเขารู้สึกกระดากอายเล็กน้อย
'บัดซบ ข้าไม่ได้เจุ์แค่ไม่กี่ปีกลายเป็โรคกลัวสังคมไปแล้วรึ' ิเทียนเยว่สบดด่าในใจ แน่นอนว่าเขาด่าตัวเอง...
เขาคิดว่าเพราะชุดเขามันสวยเด่นเกินไปเนื่องจากเขาไม่เคยได้ส่องดูหน้าตัวเองด้วยพลังใดๆเลยจึงไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงใบหน้าตน
หลังจากเดินดูรอบๆสักพักเขาก็เริ่มชินขึ้นมาแล้ว
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเด็กชายดังขึ้นจากด้านหลังของเขา
"ตาลุง! ช่วยข้าด้วย" เสียงเด็กชายดังขึ้นพร้อมกับดึงชายกางเกงของเขา
ทำเอาิเทียนเยว่เบิกตากว้างหนัวมองเด็กน้อยตัวเลอะเทอะด้วยความใ
ััไม่ได้เลย! ใช่แล้วจนกระทั่งเด็กคนนี้ะโเรียนเขา เขาััถึงเด็กน้อยผู้นี้ไม่ได้เลย ตัวเขาที่เป็ระดับจิติญญา ทั้งยังมีประสาทััคมกริบกลับััเด็กธรรมดาๆคนหนึ่งไม่ได้
นี่ทำให้ิเทียนเยว่เกิดความสนใจขึ้นมา เนื่องจากเขาก็ต้องมีผลกุศลเพื่อฝึกฝน หนึ่งในแผนของเขาคือการรับศิษย์ ส่วนอีกแผนนึงคือการก่อตั่งสำนัก
ด้วยตบะของเขา เขาคิดว่าน่าจะไม่ยากที่ดึงดูดมนุษย์ธรรมดามอบโอกาสให้บำเพ็ญได้ ขอแค่เพียงไม่ไปแก่งแย่งกับชาวบ้านก็พอ!
"ให้ข้าช่วยอันใดหรือสหายน้อย" ิเทียนเยว่ยิ้มบางๆมองไปที่เด็กชายคนนั้น เขาดูอายุราวๆ 5-6 ขวบได้เนื้อตัวสกปรก แววตาดื้ดรั้นยิ่ง
สิ้นเสียงิเทียนเยว่เด็กน้อยก็วิ่งไปหลบหลังเขาทันทีต่อด้วยมีเสียะโจากชายคนหนึงดังขึ้น ชายผู้นั้นเดินมาพร้อมกับกลุ่มชายฉกรรจ์อีกสามคน
"ไอเด็กเวร กล้าขโมยของข้าหรือ" ชายอ้วนดูกำยำะโขึ้นมา
"ข้าไม่ได้ขโมยของเ้าเสียหน่อย!" เด็กหนุ่มกล่าวเถียง
ิเทียนเยว่เหลือบมองเด็กหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองกลุ่มชายทั้งสี่คน
"พี่ชาย น้องข้าไปทำอะไรให้หรือ" ิเทียนเยว่ประสานมือกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"หึ คุณชายอย่างเ้ามายุ่งอะไรด้วย หากเป็น้องเ้าจริงเหตุใดจึงสกปรกปานนั้น" ชายอ้วนส่งเสียหึออกมา
ตอนนี้กลุ่มคนเริ่มมุงเข้ามาแล้ว
"เช่นนั้นเอาอย่างนี้เป็ไร ข้าพอมีสมบัติอยู่บ้างพอปล่อยน้องชายข้าไปได้หรือไม่" ิเทียนเยว่ยังคงประสานมือกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ชายอ้วนตาเป็ประกายขึ้นมาแล้ว แต่ประกายนั้นก็ดับไปในทันที
"ฮึ หน้าตาเ้าไม่คุ้นเลย คงไม่ใช่คนแถวนี่สิ เอาอย่างนี้แล้วกัน เ้าส่งสมบัติกับเด็กมาแล้วข้าจะไม่หักแขนหักขาเ้า" ชายอ้วนยิ้มด้วยความโลภพร้อมกล่าวดวงตาเจือประกายสีแดงเล็กน้อย
ิเทียนเยว่หรี่ตาลงเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเ้าหมูตรงหน้ามีพลังปราณแปลกๆที่เขาไม่คุ้นอยู่
"เห้อ...ช่างเถอะ" ิเทียนเยว่อุ้มเด็กน้อยแล้วหายตัวไปทันใด
ทำเอาชาวบ้านแตกตื่นกันหมด
"อะไรกันพี่ชายท่านนั้นหายไปไหนเล่า"
"มีใครเห็นรึเปล่า!"
"ข้าเจอผีแต่เช้าเลยหรือนี่!"
"เพ่ย ดูก็รู้ว่าเทพเซียนมิใช่หรือเห็นได้ชัดว่ามีเมตตายิ่งช่วยขอทานน้อยนั่นไปเสียด้วย"
"ว่าแต่...เ้าหมาบ้าสี่ตัวนั่นหายไปไหน"
ชาวบ้านคุยกันอย่างสนุกปาก บ้างก็ตื่นตะลึงบ้างก็เลื่อมใส บ้างก็หวาดกลัว
แต่ที่สำคัญคือ เ้าชายทั้งสี่นั่นก็หายไปด้วยเช่นกัน...
หารู้ไม่ว่ามีเศษเืเล็กน้อยกระจายอยู่ใกล้ๆแถวนั้น
...
ิเทียนเยว่ปรากฏตัวอีกครั้งที่นอกเมืองพร้อมวางเด็กน้อยลง
เศษเืนั้นก็อยู่ในสายตาของเขาเช่นกันแต่จนใจฝีมือเขาไม่มากพอ ไม่อาจสังหารอย่างไร้ร่องรอยได้
...ใช่แล้วเขาฆ่าทั้งสี่คนนั้นไปแล้ว เนื่องจากพวกนั้นมีพลังปราณที่ไม่น่าไว้ใจเขาสังหรใจว่าจะเป็พวกสายมาร ที่จริงเขาไม่ได้มีอคติกับสายมารขนาดนั้นเพียงแต่หากทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยไม่ว่าผู้ใดหากกำจัดได้เขาย่อมไม่ลังเล
เมื่อครู่เขาใช้กระบี่ไร้ลักษณ์สังหารทั้งสี่เร็วกว่าเสี้ยววิเสียอีกเขา้ากำจัดแบบเงียบๆไม่ให้ผู้ใดรู้ตัวกันไม่ให้ถูกตามล้างแค้นได้
อย่างๆน้อยๆก็คงไม่มีใครคิดว่าเ้าสี่ตัวนั้นตายแน่นอนเนื่องจากไม่พบศพหรือหลักฐานใดๆ...
"แล้วเ้าไปขโมยอะไรมาหรือ" ิเทียนเยว่ย่อลงคุยกับเด็กหนุ่มด้วยรอยยิ้ม จริงๆเขารู้อยู่แล้วว่าเด็กคนนี้มิได้ขโมยอะไรมา บนตัวไร้ซึ่งสิ่งของมีแต่เสื้อผ้าขาดๆ ในกระเพาะเองก็ไม่มีอาหารใดๆ เขาจึงสรุปได้ว่าเ้าสี่คนนั้นแค่้าลักพาตัวเด็กคนนี้เท่านั้น
"ข้าไม่ได้ขโมย!" เด็กหนุ่มกล่าวเสียงดังด้วยสายตาละห้อย
โครก! ท้องเด็กร้องดังออกมา เขากุมท้องเบาๆแต่กลับไม่กล้าเดินหนีไปไหน
"ข้าเชื่อ" ิเทียนเยว่หัวเราะเบาๆก่อนจะสะบัดมือเบาๆส่งกระบี่ไร้ลักษณ์ออกไปสังหารหมูป่าที่อยู่ออกไปพันลี้แล้วเคลื่อนย้ายกลับมาด้วยพลังเวทเล็กน้อย
เขาดีดนิ้วเบาๆพลันเกิดเพลิงสีพวกขึ้นที่พื้นทำเอาเด็กน้อยใสะดุ้งโหยงแต่ไม่ได้พูดอะไรเพียงมอง เผลิงนั้นด้วยความสนใจเท่านั้น
ด้วยตบะระดับนี้เขาดึงพลังงานธาตุต่างๆของรากิญญาออกมาใช้ได้ง่ายดายยิ่ง
เขาเร็วแล้วย่างมันให้เด็กน้อยในทานในทันที
เด็กน้อยที่นั่งมองน้ำลายสออยู่ก็ไม่สนใจความอัศจรรย์ใดๆอีกถูกสะกดด้วยเนื้อหมูป่าย่าง
ระหว่างที่กำลังย่างเนื้อิเทียนเยว่ก็พลางถามเื่ราวของเด็กน้อยไปเรื่อย
ได้สรุปว่า เ้าหนูนี่ชื่อฝานไร้สกุล มีพี่น้องที่เป็ขอทานด้วยกันอยู่อีกสี่คน เป็ขอทานมาตั่งแต่เกิดแล้วแต่ฝากก็รู้มารยาทพอสมควร ต่างจากตอนแรกที่เรียกิเทียนเยว่ว่าตาลุงมากนักตอนนี้ทำตัวออดอ้อน เรียกแต่ท่านเซียนๆ
"...ท่านเซียนช่วยสอนวิชาที่ใช้สังหารเ้าสารเลวพวกนั้นให้ข้าได้หรือไม่ขอรับ" ฝานรวบรวมความกล้ากล่าวขึ้นมา
ิเทียนเยว่ใขึ้นมาจริงๆแล้ว ตอนแรกก็ััถึงตัวตนไม่ได้ตอนนี้ยังมองเห็นกระบี่ไร้ลักษณ์ที่โจมตีด้วยความเร็วขนาดนั้นได้ทันอีก...
'เ้าเด็กนี่...คงไม่ใช่ตัวเอกหรอกนะ?'
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้