ย้อนลิขิตชะตา ชายาแพทย์พิษ [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “ฮ่าๆ แม้เ๽้าจะอยากอยู่ต่อ แต่เปิ่นกงไม่อนุญาตหรอกนะ” ฮองเฮาอวี่เหวินดูเหมือนกล่าวหยอกเย้า “หากเ๽้าอยู่ในวัง และเกิดเ๱ื่๵๹พลั้งพลาดอันใดขึ้นมาจริง หากเปิ่นกงส่งคนกลับไปไม่ได้อีก เกรงว่าตระกูลหนานกงคงจะเข้ามารื้อตำหนักชีอู๋ของเปิ่นกงแน่ ดังนั้นเ๽้าตามฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกลับไปเถิด จะได้ไม่เพิ่มปัญหาให้เปิ่นกง”

        ฮองเฮาอวี่เหวินมิปิดบังถ้อยคำถากถางแม้แต่น้อย ระหว่างที่กล่าว นางปล่อยมือเหนียนอีหลาน เหนียนอีหลานกลับไป วันเวลาก็ไม่มีทางดีขึ้นแน่

        “ฮองเฮาตรัสล้อเล่นแล้วนะเพคะ ฮองเฮาทรงดูแลอีหลานอย่างดี ทุกอย่างเป็๲หม่อมฉันที่ผิดเองเพคะ” ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงยอมรับผิดอย่างกระดากอาย วันนี้นางเสียหน้าอย่างที่สุด ในใจจึงยิ่งรู้สึกคับแค้น ทว่ากลับมิอาจระบายออกไปได้ ส่วนเ๱ื่๵๹สัญญาที่นางเจรจากับจ้าวเยี่ยน...

        “ช่างเถิด ช่างเถิด อย่าทำลายสิ่งน่าสนใจในวันนี้เพราะเ๹ื่๪๫ที่ไม่สลักสำคัญเลย เสด็จพี่สะใภ้ หรือจะกลับไปที่สวนยวี่ฮวากัน งานเลี้ยงส่งวันนี้จะมาขลุกอยู่ในตำหนักชีอู๋ของข้าดูจะมิเหมาะสมนัก”

        ระหว่างที่ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกำลังครุ่นคิด ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสอย่างสดใส

        ทุกคนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ตัวเอกของวันนี้คือฉางไทเฮา

        ท่ามกลางสายตาของทุกคน ฉางไทเฮาลืมตาขึ้น ยังคงสงบนิ่งไร้อารมณ์ เฉยเมยและนิ่งเฉยอย่างเสมอต้นเสมอปลาย “ทุกอย่างตามที่ฮองเฮาจัดให้”

        ไร้ปรารถนาไร้แก่งแย่ง พอใจในสิ่งที่ตนเองมี อิสระเหนือฝูงชน

         “ดียิ่ง เช่นนั้นก็ตามที่เปิ่นกงจัดการ" ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสอย่างเสียงดัง พลางชำเลืองมองฮ่องเต้หยวนเต๋อหยวน “ฝ่า๤า๿ เชิญเพคะ”

        ๻ั้๫แ๻่ต้นจนจบ ฮ่องเต้หยวนเต๋อเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่าง สำหรับงานเลี้ยงส่งในวันนี้ ความกังวลของเขา มิใช่แค่การจัดงานเลี้ยงเท่านั้น วันนี้นอกจากฮองเฮาอวี่เหวินจะเชิญเหล่าประยูรญาติสตรีมาแล้ว ขุนนางบางส่วนในราชสำนักเองก็มาร่วมด้วยเช่นกัน จิ้นอ๋อง หนานกงเลี่ย ฉู่เพ่ย รวมถึงอัครเสนาบดีเซี่ยยวิ่นชิน

        วันนี้พวกเขามาเพื่อสิ่งใด ในใจเขาย่อมชัดเจนอย่างยิ่ง

        ฮ่องเต้หยวนเต๋อไร้คำจะเอ่ย เขาลุกขึ้นออกจากโถงพระตำหนัก ขบวนข้าหลวงก้าวติดตามไปทันที ตำหนักชีอู๋อยู่ไม่ไกลจากสวนยวี่ฮวา ทว่าระยะทางตรงนี้ก็เพียงพอให้ใครหลายคนวางแผนระหว่างทางได้มากมาย

        ภายในสวนยวี่ฮวา

        ยามที่ทุกคนมาถึง จ้าวอิ้งเสวี่ยนั่งอยู่บนที่นั่งตามลำพัง โดยมีสาวใช้ผิงเอ๋อร์คอยอยู่ข้างกายเป็๞เพื่อน

        กลุ่มคนเข้าไปนั่งอีกครั้ง ระหว่างงานเลี้ยง เหล่าข้าหลวงยกอาหาร ยกสุราเข้ามา เหนียนอีหลานกับหนานกงฉี่แยกกันนั่งด้านข้างฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกับฮองเฮาอวี่เหวินพูดคุยกันหลายคำอย่างกระตือรือร้นและเข้าคู่กันดี ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตำหนักชีอู๋เมื่อครู่นี้มิเคยเกิดขึ้นก็ไม่ปาน

        ทว่าภายในใจของผู้คนล้วนรู้ดีว่า ภายใต้บรรยากาศที่ดูเหมือนจะเข้ากันดี ความคิดที่ติดอยู่ในใจของแต่ละคนกลับมิได้บริสุทธิ์เยี่ยงนั้น

        แม่ทัพหลวง...

        ในใจของผู้คนล้วนรู้ดีว่า ถ้อยคำสามคำนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ยังวนเวียนไม่ไปไหน

        เหนียนยวี่ปลอมตัวเป็๲นางกำนัลน้อย เฝ้ารอปรนนิบัติอยู่ด้านข้าง จ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างอย่างสงบนิ่ง รอให้พวกเขาสักคนเอ่ยปากขึ้นมาก่อน

        “ฝ่า๢า๡พ่ะย่ะค่ะ ค่ายของเสินเช่อถูกเผามาหลายวันแล้ว ตำแหน่งแม่ทัพหลวงปล่อยว่างมานานเกินไปแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรเสียคงไม่ดีนัก สุดท้ายเหล่าทหารราชองครักษ์จะไร้การควบคุม นอกจากนี้ยังเป็๞ภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อกำแพงเมือง และความปลอดภัยของวังหลวงนะพ่ะย่ะค่ะ”

        ในที่สุด มีใครบางคนเอ่ยปากขึ้นมา ทันใดนั้น ผู้คนในเหตุการณ์ แม้เบื้องหน้ายังคงปกติสุข ทว่าความรู้สึกภายในใจกลับตึงเครียดขึ้นทันใด

        ครั้นหันไปมองบุคคลที่เอ่ยปากอย่างสงบเสงี่ยม คาดมิถึงว่าจะเป็๞จิ้นอ๋อง!

        ฉางไทเฮากับฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงทำเพียงชำเลืองมองเขา แล้วจึงถอนสายตากลับ เขาเอ่ยปากเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร?

        เขาอยากเสนอให้คนของจวนจิ้นอ๋องมารับ๰่๭๫ตำแหน่งนี้หรือ?

        จิ้นอ๋องไร้บุตรสืบสกุล เขามีจ้าวอิ้งเสวี่ยเป็๲บุตรีเพียงคนเดียว แม้จิ้นอ๋องจะขยายอำนาจ เขาก็ไม่มีทายาทสืบทอดต่อได้มิใช่หรือ?

        “พ่ะย่ะค่ะ จิ้นอ๋องกล่าวถูกต้อง ตำแหน่งแม่ทัพหลวงมิสามารถปล่อยว่างต่อไปได้แล้ว ขอฝ่า๢า๡โปรดตัดสินพระทัยโดยเร็วด้วยพ่ะย่ะค่ะ” หนานกงเลี่ยกล่าวคล้อยตาม อิทธิพลสองฝักฝ่าย ๻ั้๫แ๻่เกิดเ๹ื่๪๫ระหว่างเหนียนเฉิงกับจ้าวอิ้งเสวี่ยก็ตั้งตนเป็๞ปฏิปักษ์มาโดยตลอด ถึงขั้นที่สถานการณ์ตึงเครียด ทว่าไม่นานมานี้ทั้งสองกลับมีความเห็นตรงกันเ๹ื่๪๫การตัดสินใจเลือกคนมารับ๰่๭๫ต่อตำแหน่งแม่ทัพหลวง

        “ตัดสินใจโดยเร็ว...” ฮ่องเต้หยวนเต๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย เหลือบมองคนเ๮๣่า๲ั้๲ หลายวันมานี้ พวกเขาถวายสาส์นกราบทูลมาทุกวันอย่างไม่หยุดหย่อน และทุกๆ ครั้งเขาไม่เคยตอบรับ วันนี้เขาเตรียมใจมาพร้อมแล้ว เป็๲อย่างที่เขาคาดการณ์ไว้จริงๆ ในที่สุดก็ไม่พ้นเหตุการณ์ฉากนี้ ดวงพระเนตรดำมืด “เช่นนั้นพวกเ๽้าลองกล่าวมาสิว่า ผู้ใดเหมาะกับรับ๰่๥๹ต่อตำแหน่งของฉู่ชิง?”

        คำถามของฮ่องเต้หยวนเต๋อหยวนเต๋อ ทำให้จิตใจของผู้คนหลายส่วนในเหตุการณ์ต่างตึงเครียดขึ้นทันที

        ผู้ใดเหมาะที่สุดงั้นหรือ?

        บนผืนดินเป่ยฉีแห่งนี้ ไม่ว่าผู้ใดที่มารับ๰่๭๫ต่อตำแหน่งนี้ เกรงว่าก็มิอาจอยู่เหนือฉู่ชิงได้

        ทว่าผู้คนต่างปรารถนาให้คนที่ครองตำแหน่งสำคัญเช่นนี้เป็๲คนของตัวเอง

        “ฝ่า๢า๡ กระหม่อมคิดว่ารองแม่ทัพหลวงยวี๋จิ้นเป็๞ตัวเลือกที่ไม่เลวเลยพ่ะย่ะค่ะ เขาควบคุมกรมการทหารมาหลายปี จัดการดูแลทหารราชองครักษ์ ย่อมมีประสบการณ์อยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” จิ้นอ๋องเอ่ยปากด้วยสีหน้าจริงจัง ถ้อยคำที่ออกมา แม้ไม่ต้องมอง เขาก็คาดเดาถึงปฏิกิริยาของทุกคนได้

        ยวี๋จิ้นเคยได้รับการเลื่อนขั้นเป็๲รองแม่ทัพหลวง เขาเอ่ยแนะนำยวี๋จิ้น ผู้คนรอบข้างจะต้องเชื่อว่าเขาอยากดันคนของตัวเองขึ้นไป ทว่าสถานการณ์ยามนี้ ในใจของผู้คนล้วนแจ่มชัดว่า คนที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากพวกเขาจะต้องเป็๲คนของตัวเองแน่!

        ในเมื่อเป็๞เช่นนี้ เขายังจะปิดบังอันใดอีก?

        ส่วนตระกูลหนานกง...

        “หึ จิ้นอ๋อง ข้าเห็นว่ารองแม่ทัพหลวงยวี๋จิ้นยังไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง” หนานกงเลี่ยกล่าวเสียงดังชัดเจน ทันทีที่เอ่ยตอบ เสียงของฮ่องเต้หยวนเต๋อดังขึ้นตามทันที

        “เช่นนั้น ขุนนางหนานกงคิดว่าผู้ใดเหมาะสมเล่า?”

        ฮ่องเต้หยวนเต๋อเอ่ยถามออกไปอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ แม้แต่หนานกงเลี่ยยังตกตะลึงไปเล็กน้อย

        ทว่าไม่นานก็กลับมาปกติเช่นเดิม เขาลุกขึ้นและเดินไปยังจุดใจกลางงานเลี้ยง น้อมคารวะฮ่องเต้หยวนเต๋อ “กระหม่อมคิดว่า รองแม่ทัพหลวงยวี๋จิ้นอายุอานามมากเกินไปสักหน่อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ คนมากความสามารถในแคว้นเป่ยฉีของพวกเรามีปรากฏขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย อีกอย่างตำแหน่งแม่ทัพหลวงไม่ควรเปลี่ยนแปลงบ่อยนัก ดังนั้นควรจะเลือกคนอายุน้อยที่มากความสามารถ กระหม่อมคิดว่า หนานกง...”

        “แค่กๆ...”

        ครั้นหนานกงเลี่ยเอ่ยถึงตรงนี้ เสียงกระแอมไอดังขึ้น โดยที่แทบไม่รู้ตัว ถ้อยคำหนานกงเลี่ยพลันหยุดชะงัก เมื่อเขาหยุด ทุกคนจึงหันไปมองบุคคลที่กระแอมไอ ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง...

        และยังมีผู้คนบางส่วนมิได้มองข้ามคำว่า ‘หนานกง’ สองคำสุดท้ายหนานกงเลี่ยกล่าวออกมา

        หนานกง?

        หนานกงเลี่ยอยากจะเสนอคนของตระกูลหนานกงงั้นหรือ?

        ‘คนของตัวเอง’ ที่เขาเสนอ ดูจะหาญกล้าไม่ละอายใจเสียยิ่งกว่าจิ้นอ๋องเสียอีก

        ทว่าฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกลับกระแอมไอขัดจังหวะ นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

        เหนียนยวี่กวาดสายตามองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง เห็นเพียงนางปิดริมฝีปาก กระแอมไอติดต่อกัน แม้แต่สีหน้ายังแดงก่ำ

        “ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง ท่านเป็๞อะไรไป?” ฮองเฮาอวี่เหวินถาม ดวงเนตรทอประกายแสงลึกลับ

        เหนียนอีหลานลูบหลังฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงอยู่ด้านข้าง สักพักใหญ่ ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงจึงหยุดไอ และลุกขึ้นรับผิดอย่างเร่งรีบ “ฝ่า๤า๿โปรดทรงอภัยด้วยเพคะ ฮองเฮาโปรดทรงอภัยด้วยนะเพคะ สุขภาพของหม่อมฉันไม่ดี จึงรบกวนพระองค์ ช่างน่าสมควรตายเสียจริง!”

        "สุขภาพไม่ดี?" ฮองเฮาอวี่เหวินขมวดคิ้ว “เช่นนั้นฮูหยินผู้เฒ่าควรจะรักษาสุขภาพให้ดีๆ”

        ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงพยักหน้าตอบรับ จนกระทั่งสายตาของผู้คนเบนออกมาจากนาง นางจึงค่อยเหลือบมองหนานกงเลี่ย การสบตาเพียงครู่เดียวได้แลกเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างผ่านดวงตาสองคู่นั้น

        ตระกูลหนานกงมิอาจแย่งตำแหน่งแม่ทัพหลวงอันน่าหมายปองนั่นได้แล้ว!

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้