เดิมทีถังชิงหรูคิดจะโต้เถียง แต่เมื่อนึกถึงเด็กชายตัวน้อยที่อยู่เบื้องหน้า จำต้องระงับโทสะลงไปก่อน เด็กคนนี้น่าสงสารนัก ไม่ว่าเขาจะเป็บุตรของใคร นางก็อยากจะเลี้ยงไว้
หากเด็กคนนี้อยู่กับบิดามารดาบังเกิดเกล้าของตนเอง คิดว่าก็คงไม่มีคนรักคนห่วงใย ตราบใดที่มีเงินจ่าย ย่อมไม่เป็ปัญหา ทว่าอุปสรรคใหญ่สุดก็คือบุรุษที่อยู่ตรงหน้านางยามนี้นี่แหละ นางเองยังเอาตัวไม่รอด ไม่มีอำนาจตัดสินใจได้อยู่แล้ว หากอยากอุปการะเด็กคนนี้ ก็ต้องให้เขาพยักหน้าตกลงเสียก่อน
ใคร่ครวญมาถึงตรงนี้ ถังชิงหรูก็ไม่กล้าแข็งข้อกับเฟิ่งหยาง นางผลักรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า ผงกศีรษะอย่างเชื่อฟังเป็พิเศษ "ทราบแล้วเ้าค่ะ วันนี้ข้าวู่วามเกินไป นายท่านเป็ผู้ใหญ่ใจกว้าง อย่าได้ถือสาคนมีความรู้แค่ผิวเผินเช่นหรูเอ๋อร์เลย หรูเอ๋อร์ทราบว่านายท่านคือบุรุษแสนประเสริฐที่สุดในใต้หล้า มิน่าเล่าคุณหนูโฉมสะคราญเ่าั้ถึงมาสอบถามข้อมูลของนายท่านไม่เว้นแต่ละวัน"
เฟิ่งหยางเลิกคิ้วมองถังชิงหรูด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ดวงเนตรล้ำลึกคู่นั้นประหนึ่งมองทะลุไปถึงความคิดอ่านของอีกฝ่าย
เขาบีบคางของนาง เลื่อนริมฝีปากมาชิดใบหูพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "เมื่อดีถึงเพียงนี้ ก็ให้เ้าปรนนิบัติบนเตียงคืนนี้เลยเป็อย่างไร"
ถังชิงหรูตัวแข็งทื่อ รู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว นางหัวเราะแหะๆ กล่าวว่า "นายท่านชอบล้อเล่นอยู่เรื่อยเชียว"
"ข้าหรือล้อเล่น?" เฟิ่งหยางแค่นเสียงเยาะ "อย่าเห็นข้าเป็คนเขลา เ้าไม่ส่องคันฉ่องดูตนเองเสียบ้าง สารรูปแบบนี้ยังกล้าใช้แผนหญิงงามกับคุณชายเยี่ยงข้า"
ถังชิงหรูขบเขี้ยวเคี้ยวฟันถลึงตาใส่ อยากเถียงใจจะขาด เมื่อก่อนฉันเป็สาวสวยของแท้ย่ะ! ไม่ว่าจะไปปรากฏตัวที่ไหนก็มีแต่หนุ่มหล่อล่ำโปรไฟล์ดีจากแต่ละประเทศมาให้เลือกเต็มไปหมด เพียงแต่เธอเป็ประเภทชอบชื่นชมแต่ไม่ชอบะโลงไปเล่น ดังนั้นถึงรักษาหัวใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของตนเองเอาไว้ได้
แต่พอนึกถึงรูปลักษณ์ของตนเองตอนนี้ ก็ต้องกลืนวาจาทั้งหลายกลับลงไป ชายชาตรีย่อมมิเอ่ยถึงความห้าวหาญในอดีต[1] ตนเองยามนี้ก็ไม่คู่ควรกับประวัติศาสตร์วีรชนอันดีงามเช่นนั้นจริงๆ
"คุณชาย บ่าวย่อมตระหนักได้ว่าตนเองหน้าตาไม่งดงาม ไหนเลยจะกล้าใช้แผนหญิงงามกับท่าน" ถังชิงหรูยิ้มน้อยๆ "วางใจเถิดเ้าค่ะ เมิ่งหลิงมิบันดาลโทสะ เห็นชัดว่าไม่เก็บผู้น้อยเช่นข้ามาใส่ใจ เขาไม่คิดแค้นพวกเราเพราะเื่นี้หรอก"
"เป็เช่นนี้ได้จะดีที่สุด" เฟิ่งหยางเอ่ยพลางขมวดคิ้ว "เมื่อเป็คนดีเรียบร้อย ก็ไล่เด็กนี่ออกไปซะ เ้ารักษาเขาแล้ว คิดว่าคงไม่ตายแน่"
ถังชิงหรูหัวใจเหมือนถูกบิด นางรู้มานานแล้วว่าเฟิ่งหยางหาใช่คนจิตใจดีงามอันใด ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาไม่ส่งคนไปสังหารเด็กปิดปากก็นับว่าไม่เลวแล้ว อย่าคาดหวังว่าเขาจะเกิดจิตเมตตารับเลี้ยงเด็กคนนี้เอาไว้
เื่นี้จำเป็ต้องพยายามอย่างถึงที่สุด แม้ต้องลงนามสัญญาที่ไม่เป็ธรรมมากหน่อย แต่อย่างไรเสียนี่ก็เป็หนึ่งชีวิต นาง้าช่วยเด็กน้อยน่าเวทนาคนนี้
"คุณชาย" ถังชิงหรูรั้งเฟิ่งหยางที่เตรียมตัวจะไปเอาไว้ก่อน
"หืม...?" ดวงเนตรเรียวของชายหนุ่มเชิดขึ้นเล็กน้อย ฉายแววไม่พอใจ
เขาไม่พูด แต่แววตาราวกับกำลังจะบอกว่า ข้าไม่เอาโทษเ้าแล้ว ยังจะมาเล่นลูกไม้อันใดอีก อย่าคิดจะขอสิ่งใดเกินไปนัก คุณชายเยี่ยงข้าไม่มีทางรับปาก หากเ้ายังรู้จักกาลเทศะ ก็ควรเข้าใจว่าเื่ที่มิควรเอ่ยก็อย่าเอ่ยถึง
แม้ว่าเขาจะใช้โทนเสียงเรียบ แต่ถังชิงหรูเข้าใจความหมายเป็อย่างดี แต่แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่พอใจ นางก็ยังต้องพูดอยู่ดี
"คุณชาย ร่างกายของเด็กคนนี้มีแต่าแไปทุกส่วน แค่ดูก็รู้ว่าถูกกระทำทารุณ คุณชายจะช่วยเมตตาเขาได้หรือไม่ ให้เขาอยู่เถอะนะเ้าคะ" ถังชิงหรูเลิกแขนเสื้อของเด็ก เผยให้เห็นร่างกายที่บอบช้ำ
ตอนแรกเฟิ่งหยางยังไม่นำพา ทว่าทันทีที่เห็นาแเ่าั้ แววตาพลันวูบไหว
ชั่วขณะนั้นถังชิงหรูก็รู้ได้ว่าบุรุษอย่างเฟิ่งหยางยังไม่ถึงขั้นไร้ทางเยียวยาเสียทีเดียว แม้ว่าแนวทางของเขาจะโเี้ ทั้งทำงานเป็มือสังหาร แต่ก็หาได้มีอุปนิสัยชอบเข่นฆ่าคนโดยกมลสันดาน
บางที เด็กคนนี้อาจมีทางรอดแล้ว เพียงแค่เขายอมใจอ่อนสักนิด รับเด็กคนนี้เอาไว้
"เ้าไม่ใช่บิดามารดาของเขา ช่วยได้ครั้งหนึ่ง แต่ไม่อาจช่วยตลอดชีวิต ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับชะตาของเขาเอง หากนี่คือสิ่งที่์จัดเตรียมให้ ก็แสดงว่าเขาดวงไม่ดีเอง" ในที่สุดเฟิ่งหยางก็เก็บความรู้สึก ั์ตาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
ถังชิงหรูผิดหวังยิ่งนัก
แค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาใจอ่อนแล้ว นึกไม่ถึงว่ายังใจอ่อนไม่พอ
"คุณชาย ท่านช่วยเด็กคนนี้ไม่ได้หรือ" ถังชิงหรูมองเขาอย่างอ้อนวอน "ท่านเพียงพยักหน้า เื่อื่นมอบหมายให้ข้าเอง"
"ข้าเลี้ยงเ้าไว้ ไม่ใช่เพื่อให้เ้าทำตัวเป็พระโพธิสัตว์ เ้าสนใจแค่จัดการสิ่งที่ข้ามอบหมายให้สำเร็จก็พอ นอกนั้นไม่ต้องไปยุ่ง" เฟิ่งหยางสะบัดแขนเสื้อจากไป
"แค่เด็กคนเดียว ไม่ต้องใช้เวลาท่านมากมายสักหน่อย คุณชายจะเหลือแผ่นดินอันบริสุทธิ์ไว้ให้กับตนเองบ้างไม่ได้เลยหรือ" ถังชิงหรูเอ่ยพลางมองตามเงาหลังของชายหนุ่ม
เงาของเฟิ่งหยางหยุดที่หน้าประตู
เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ยังก้าวออกไปจากห้อง
ถังชิงหรูทอดถอนใจเบาๆ
เด็กที่อยู่บนโต๊ะเริ่มละเมอออกมา เขาได้รับความตื่นตระหนกจึงฝันร้าย ในฝันคงจะเห็นมารดาของตนเองกระมัง ถึงออดอ้อนฉอเลาะตลอดเวลา
อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเด็กคนนี้มีมารดาที่รักเขา เพียงแต่ไปอยู่ที่ไหนแล้วมิอาจรู้ได้ บางทีนั่นอาจเป็เื่น่าเศร้า
"หนูน้อยผู้น่าสงสาร ข้าอยากช่วย แต่จนใจตอนนี้แม้แต่ตนเองยังเอาตัวไม่รอด พญามารไม่ยอมรับเ้าไว้ ข้าไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่ง มิเช่นนั้น..." ถังชิงหรูเอ่ยเสียงเบา "ชีวิตของเ้าอาจน่าเศร้ากว่าที่ผ่านมา"
เมื่อครู่นางป้อนยารักษาอาการาเ็ภายในให้แล้ว แต่แผลภายนอกก็ต้องใช้ยา ตอนนี้นางไม่ได้รักษาโรคให้ใครสักคน ในมือก็ไม่มีสมุนไพร ดังนั้นต้องไปจัดยาที่โรงหมอเพียงอย่างเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเฟิ่งหยางก็ไม่ยอมรับเขาไว้ นางจำต้องส่งเขาไปโรงหมอรักษาตัว แค่มีเงินจ่ายสักหน่อย พวกเขาก็จะดูแลเด็กคนนี้อย่างดี
อย่างน้อยก็ดูแลจนกระทั่งเขาสามารถเดินเองได้
ส่วนอนาคตของเด็กคนนี้ นางยังไม่ได้คิด คงได้แต่เดินก้าวหนึ่งมองก้าวหนึ่ง ที่เหลือสุดแล้วแต่โชคชะตาของเขาเอง
เฟิ่งหยางไม่ให้นางเก็บเด็กคนนี้ไว้ นางจึงต้องลอบดูแลเขาอย่างเงียบๆ หากเฟิ่งหยางรู้เข้าต้องโกรธแน่ นางทำเช่นนี้ก็นับว่าเสี่ยงชีวิตมากแล้ว
ยามที่ถังชิงหรูไปจากร้านค้า มีเงาร่างหนึ่งยืนอยู่อาคารฝั่งตรงข้ามมองนางเดินไกลออกไป
"นายท่าน จะให้ตามไปหรือไม่" มีคนผู้หนึ่งเดินมาจากด้านหลังของคนผู้นั้น
"ฉินไห่ เ้ารู้สึกหรือไม่ว่า..." คนผู้นั้นก็คือเมิ่งหลิง "ดวงตาของสตรีคนนั้นคล้ายท่านแม่ยิ่งนัก"
ฉินไห่ไม่ตอบ เขารู้ว่าเมิ่งหลิงหาได้ถามเขาจริงๆ เพราะเขาไม่เคยเห็นฮูหยินผู้เฒ่ามาก่อน เมิ่งหลิงเพียงแค่อยากหาคนคุย ในโลกนี้ผู้มีคุณสมบัติสนทนากับเขามีไม่มาก ยิ่งชื่อเสียงด้านการเข่นฆ่าสังหารของเมิ่งหลิงหนาหูเท่าไร ผู้คนก็ยิ่งหวาดกลัวเขาเท่านั้น ข้างกายจึงมีแต่บริวารผู้จงรักภักดีอย่างพวกเขา
"ร้านหัวใจสตรีแห่งนี้ชื่อเสียงโด่งดังนัก เ้าส่งคนมาเฝ้าจับตามองไว้" สุดท้ายเมิ่งหลิงก็ไม่ได้สนทนาต่อ อย่างไรเสียแม้แต่ตนเองก็ลืมหน้ามารดาไปแล้ว จะคาดหวังกับคนที่ไม่เคยเห็นนางมาก่อนได้อย่างไร แต่กับสตรีผู้นั้นเขาถึงขนาดไม่เกิดความคิดสังหารนางแม้แต่น้อย
ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ หากเปลี่ยนเป็ผู้อื่น เกรงว่าคงจะหัวขาดไปนานแล้ว เขาไม่เคยมีเมตตา ฆ่าคนเป็ผักปลา โลหิตสดๆ มิทำให้เขานึกรังเกียจ ตรงข้ามกลับกระตุ้นให้รู้สึกซู่ซ่า เขาชอบเห็นคนเ็ปทรมาน มีเพียงสิ่งนี้ ถึงจะทำให้เขาลืมความขื่นขมของตนเองได้
ถังชิงหรูไม่รู้ตัวว่ามีคนจับตามองตนเองอยู่นานแล้ว นางอุ้มเด็กไปโรงหมอแห่งหนึ่ง โรงหมอสามสี่แห่งในเมืองชิ่ง หมอแต่ละคนมีอุปนิสัยอย่างไรนางรู้กระจ่างยิ่งกว่าใคร
นางพบโรงหมอแห่งหนึ่งซึ่งยึดถือหลักคุณธรรมความเมตตา ท่านหมอที่ประจำอยู่เป็หมอาุโอายุหกสิบกว่าปี เป็หมออยู่ที่นี่มายี่สิบปี
หมอท่านนี้เป็แพทย์ที่มีจรรยาบรรณมักช่วยเหลือผู้คนอยู่บ่อยๆ นับได้ว่าเป็คนดีมีเมตตา
ถังชิงหรูมอบเด็กให้แก่เขา และทิ้งเงินไว้ให้ห้าสิบตำลึง ให้เขาช่วยดูแลเด็กคนนี้ รอจนจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เวลาไม่เช้าแล้ว นางถึงกลับไป
จวนสกุลฉินคือสถานที่พักอาศัยของพวกเขาในปัจจุบัน
เฟิ่งหยางหาได้กลับไปหอนางโลมอีก นอกจากนี้ผู้ดูแลจวนและหน่วยรักษาความปลอดภัยของที่นี่ล้วนแต่เป็คนฝึกยุทธ์ที่มาจากตำหนักสังหารทั้งสิ้น
เฟิ่งหยางปกปิดชื่อแซ่ ไม่ใช้ชื่อเฟิ่งหยาง แต่เปลี่ยนเป็ฉินหยางแทน
"ในที่สุดเ้าก็กลับมาเสียที" พอถังชิงหรูก้าวเข้ามาในจวน พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจ ขึงตาใส่นางเอ่ยว่า "หากเ้าไม่กลับมา เกรงว่าศีรษะคงต้องย้ายบ้านเสียแล้ว"
"ทำไมรึ" ทีแรกถังชิงหรูนึกว่าเฟิ่งหยาง้าหาเื่สร้างความลำบากให้ตนเองอีกแล้ว
่นี้นางถูกเขากลั่นแกล้งอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะกินข้าวดื่มน้ำจะถ่ายหนักถ่ายเบา เฟิ่งหยางล้วนเรียกใช้แต่นางราวกับกลายเป็คนพิการไปแล้วก็มิปาน
พ่อบ้านกดเสียงกระซิบ "แพรพรรณที่เ้านำเข้ามาใหม่มีปัญหา ตอนนี้หญิงปักผ้าทุกคนล้วนถูกพิษกันหมดแล้ว"
"ถูกพิษ?" ถังชิงหรูเลิกคิ้วมองพ่อบ้านอย่างนึกกังขา "ท่านล้อเล่นหรือเปล่า ข้าเป็หมอ แพรพรรณเ่าั้ข้าเห็นด้วยตาของตนเอง ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน"
"เช่นนั้น แล้วท่านจะอธิบายเื่ที่หญิงปักผ้าต้องพิษอย่างไร" พ่อบ้านย่นหัวคิ้ว "นายท่านกำลังเดือดดาล เ้ารีบไปอธิบายกับเขาเถอะ"
"ข้าจำเป็ต้องให้คำอธิบายอันใด เื่นี้ต้องเป็ปัญหาภายในแน่ๆ มีคนวางยาพิษในแพรพรรณเ่าั้ หน่วยรักษาความปลอดภัยของพวกเ้าไร้น้ำยาเอง เกี่ยวอันใดกับข้าเล่า" ถังชิงหรูเอ่ยปากอย่างไม่พอใจ "ข้าจะไปดูหญิงปักผ้าเ่าั้ก่อน พวกท่านเชิญท่านหมอมาตรวจให้พวกนางแล้วหรือ"
พ่อบ้านเดินตามไป พลางให้คำตอบ "ย่อมเป็เช่นนั้น แม้จะเป็เพียงบ่าวไพร่ พวกเราก็ไม่นิ่งนอนใจ"
"ท่านหมอว่าอย่างไรบ้าง" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "เอาใจความสำคัญ ข้าไม่อยากฟังถ้อยคำไร้แก่นสาร"
พ่อบ้านหน้าง้ำ แม่นางถังผู้นี้ยามบันดาลโทสะถอดแบบมาจากเ้านายของตนเองทุกกระเบียด หากทั้งสองประจันหน้ากันคงเป็ภาพที่งดงามยิ่ง แต่เขาก็ไม่กล้ามองหรอก
"ท่านหมอบอกว่าถูกพิษ แต่มิอาจทราบได้ว่าเป็พิษอันใด" พ่อบ้านเล่าความอยู่ด้านข้าง
--------------------------------------------------------------------------------
[1] ชายชาตรีย่อมมิเอ่ยถึงความห้าวหาญในอดีต หมายถึงคนจริงจะไม่เอาความสำเร็จในอดีตมาพูด