เหนือทะเลอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง
เรือเหาะสองลำกำลังบินอย่างรวดเร็ว บนนภาสูง
ที่อยู่ด้านหน้าคือเรือเหาะของหลงหว่านชิง ไป๋อวิ๋น ส่วนเรือเหาะที่ตามมาไม่ห่าง ก็คือเรือที่มีเหล่าทหารสวมเกราะยืนอยู่
บนเรือเหาะที่กำลังตามมานั้น มีธงขนาดใหญ่ผืนหนึ่ง บนนั้นเขียนตัวอักษรขนาดใหญ่ว่า “กองกำลังเฉินจีหยิง[1]”
ตรงหัวเรือของหน่วยเฉินจีหยิงนั้น มีชายหนุ่มผู้หล่อเหลาสวมชุดเกราะสีทองยืนอยู่ เขามีรูปร่างกำยำ ท่าทีแกล้วกล้า มือทั้งสองจับอยู่ตรงราวกั้น ทอดสายตามองไปไกล พร้อมขมวดคิ้ว และคอยหันไปมองไป๋อวิ๋นเป็ระยะ
บนไป๋อวิ๋น มีคนจำนวนมากยืนอยู่
หลงหว่านชิงและไต้ซือหลิวเหนียนยืนอยู่ที่หัวเรือ นอกจากนี้ยังมีหญิงชราชุดเหลือง ซึ่งถือไม้เท้าในมือข้างหนึ่งอยู่ด้วย
“ดินแดนแรกสาบสูญ เวลานี้ไม่รู้ว่ายังเปิดอยู่หรือไม่” หญิงสาวกล่าวอย่างกังวล
“ถังจู่ไม่ต้องกังวล โดยปกติแล้ว มันจะเปิดเป็เวลาหนึ่งปี ยังมีเวลา” ผู้ทรงศีลกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
หลงหว่านชิงพยักหน้า
“ถังจู่วางใจ เิไท่นำคนในสังกัดกลุ่มหนึ่งเข้าไปแล้ว แม้ว่าพฤติกรรมของเขาจะห่างไกลจากคำว่ารอบคอบใจเย็น แต่น่าจะแข็งแกร่งกว่าผู้คนส่วนใหญ่ บางทีเมื่อเราไปถึง อาจมีข่าวเกี่ยวกับเว่ยเซิงเหรินส่งมาแล้วก็ได้” หญิงชราวิเคราะห์
“ที่หัวหน้าสังกัดอัคคีกล่าวมาไม่ผิด นอกจากนี้ หัวหน้าสังกัดกู่ก็อยู่ที่นั่นด้วยมิใช่หรือ? บางทีกู่ไห่อาจพบเบาะแสบางอย่างแล้วก็เป็ได้” ไต้ซือหลิวเหนียนกล่าว พลางยกยิ้ม
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงชราก็ขมวดคิ้ว และกล่าวว่า “ไต้ซือหลิวเหนียน ถังจู่เพิ่งรู้จักกับกู่ไห่ผู้นั้นไม่นาน เหตุใดท่านถึงได้เลื่อนขั้นให้เขาขึ้นเป็หัวหน้าสังกัดวารีเ้าคะ?”
“เื่นี้ถังจู่มีอำนาจในการตัดสินใจ” ผู้ทรงศีลกล่าว
คิ้วของหญิงชรากระตุกทันที “ก็จริงที่เื่นี้ถังจู่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่ถังจู่ยังเยาว์นัก ไต้ซือหลิวเหนียน ท่านไม่ควรชักจูงนาง ชื่อเสียงของหออี้ผินโด่งดังทั่วหล้า ภายใต้การนำของถังจู่คนก่อน ไม่อาจปล่อยให้ถังจู่คนปัจจุบันทำ...”
“ทำสิ่งใด?” หญิงสาวคิ้วกระตุก
สีหน้าของหญิงชราเปลี่ยนไปทันที รีบส่ายหน้า และกล่าว “ถังจู่ยกโทษให้ข้าด้วย หญิงชราผู้นี้กล่าวผิดไป แต่อย่างไรก็ตาม ความรุ่งโรจน์ของหออี้ผิน หาใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ ข้าขอร้องถังจู่ โปรดไตร่ตรอง ติงรุ่ยผู้นี้และหัวหน้าสังกัดทุกคน หวังว่าถังจู่จะไม่ก้าวพลาด จนทำลายชื่อเสียงของหออี้ผิน”
“หึ! ชื่อเสียงหรือ? เ้าจะบอกว่าข้าที่เป็ถังจู่ ไม่มีอำนาจใดๆหรือ?” หลงหว่านชิงตอบ พร้อมจ้องมองหญิงชรา
“หญิงชราผู้นี้มิกล้า!” หญิงชราตอบ พลางรีบก้มคำนับ
หญิงสาวจ้องติงรุ่ยสักพัก ก่อนสูดหายใจลึก จึงสามารถระงับโทสะที่พลุ่งพล่านลงได้
“ถังจู่ ตอนนี้น้องสาวของท่านเป็เช่นไรบ้าง?” ผู้ทรงศีลเปลี่ยนเื่
หลงหว่านชิงสูดหายใจ ก่อนพยักหน้า “เด็กโง่นั่น ไม่มีสิ่งใดทำ จึงได้หาเื่ตาย ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว แม้ว่าจะยังไม่หายขาด แต่ิญญาปีศาจนั่น ก็ไม่อาจทำอันตรายนางได้แล้ว มีท่านตาอยู่ข้างๆ หากข้าไม่ต้องรีบกลับมา คงได้สั่งสอนนางสักยก”
“ตาของท่านรักน้องสาวท่านมากจริงๆ ครานี้เมื่อท่านกลับไปช่วยนาง ท่านตาจึงได้ให้กองกำลังเฉินจีหยิงทั้งหมดมาช่วยท่าน” ไต้ซือหลิวเหนียนกล่าว พลางจ้องเรือเหาะซึ่งบินอยู่ไม่ไกล
“กองกำลังเฉินจีหยิง? หลี่ฮ่าวหราน? นี่มิใช่ท่านตาให้มา แต่เป็เขาที่ขันอาสาติดตามมาเอง” รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปาก ขณะนางมองชายที่ยืนบนหัวเรือ ซึ่งอยู่ห่างออกไปผู้นั้น
“หลี่ฮ่าวหรานอาสามาเองหรือ? เขามีจุดประสงค์ใดกัน?” สีหน้าของผู้ทรงศีลเปลี่ยนไปทันที หันไปมองเรือเหาะอีกลำพลางขมวดคิ้ว
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะมองอีกฝ่าย
“ไต้ซือหลิวเหนียน ท่านคิดผิดแล้ว ผู้บัญชาการหลี่ฮ่าวหรานเพียงเป็ห่วงถังจู่ นี่จะเรียกว่ามีจุดประสงค์ได้อย่างไร? อย่าได้มองคนอื่นในแง่ร้าย” ติงรุ่ยกล่าว พร้อมนิ่วหน้า
“ใช่แล้ว! ไต้ซือหลิวเหนียน ในอดีตหลี่ฮ่าวหรานได้รับความเมตตาจากแม่ข้า เขาไม่มีจุดประสงค์ใดแอบแฝงแน่เ้าค่ะ ” หลงหว่านชิงกล่าว พร้อมมองผู้ทรงศีล
“อืม!” คิ้วของไต้ซือกระตุก เขาพยักหน้า ไม่ได้กล่าวสิ่งใดต่อ แต่แววตาที่มองดูหลี่ฮ่าวหรานที่อยู่บนเรือเหาะอีกลำนั้น ซับซ้อนยิ่ง
...
ดินแดนแรกสาบสูญ
“ผู้หญิงผู้นั้นถูกใครบางคนฆ่าหรือ?” ทันใดนั้น ร่างของเว่ยเซิงเหรินก็โอนเอนราวกับกำลังจะล้มลง
“ใช่แล้ว! นางถูกฆ่าเมื่อยี่สิบปีก่อน ฆาตกรยังคงลอยนวล ถังจู่เองก็อับจนหนทางแล้ว ครานี้ที่ผู้น้อยเข้ามาที่นี่ และก่อความโกลาหลมากมายขึ้น ก็เพื่อขอให้ผู้าุโช่วยนางแก้แค้น สหายและครอบครัวของอดีตถังจู่ ไม่อาจทำสิ่งใดได้ มีเพียงท่านเท่านั้น ผู้าุโ ท่านจะปล่อยถังจู่คนก่อนตายไปอย่างไม่เป็ธรรม เช่นนี้หรือ?” กู่ไห่กล่าวเสียงดัง
“ผู้าุโ ตอนที่ท่านมาที่นี่เมื่อแปดร้อยปีก่อน เกิดสิ่งใดขึ้นระหว่างท่านกับอดีตถังจู่ ผู้น้อยไม่ทราบ แต่นางเก็บรักษาของชิ้นนี้ไว้อย่างดีมาโดยตลอด คาดว่าคง้าพบท่านอีกครั้ง หรือบางทีอาจคิดถึงท่านตลอดมาก็เป็ได้”
“อย่างไรก็ตาม นางไม่อาจรอได้อีกแล้ว เพราะถูกใครบางคนสังหาร และตายอย่างไม่เป็ธรรม... บางที เื่นี้อาจหมดหวังแล้วกระมัง”
“ผู้าุโ เวลานี้มีเพียงท่านเท่านั้น ที่สามารถล้างแค้นให้นางได้ จะปล่อยให้นางตายไปเช่นนี้หรือ?” กู่ไห่ถามขึ้นอีก
“ผู้หญิงผู้นั้นตายแล้ว… หึๆ! ตายแล้วหรือ?” ร่างของชายชุดคลุมสีขาวดำสั่นสะท้าน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและขมขื่น
แกรบๆๆ!
พืชรอบข้างเริ่มเหี่ยวเฉาไปทีละต้น โดยมีเว่ยเซิงเหรินเป็จุดศูนย์กลาง
“เอ๊ะ?” ผู้าุโใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ทะยานขึ้นฟ้าทันทีด้วยความใ เขาเหาะไปบนนภา ในจุดที่ห่างไปไกล
พืชเ่าั้เฉาตายรวดเร็วอย่างประหลาด จำนวนพืชที่เฉานั้นขยายวงกว้างไปรอบทิศ
แกรบๆๆ!
มันแผ่ขยายไปทั่วสารทิศ ราวกับคลื่นน้ำ
พริบตา พืชพรรณบนยอดเขาก็เฉาตายสิ้น และการเหี่ยวเฉานั้นยังคงขยายออกไปยังพื้นที่โดยรอบ
เหล่าผู้ฝึกตนต่างมีสีหน้าตกตะลึง
“เหตุใดต้นไม้เ่าั้ถึงได้เหี่ยวเฉา?”
“อ๊ะ! ดูนั่น... รีบดูนั่น เสือตัวนั้น… ดูเสือเลี่ยเป้า[2]ตัวนั้น!”
ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนหันไปจ้องูเาด้านล่าง ซึ่งมีเสือเลี่ยเป้าตัวหนึ่งเผ่นโผนอยู่ อย่างไรก็ตาม ใน่ที่คลื่นความเหี่ยวเฉากวาดเข้าไปหา มันก็ััได้ถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ จึงเร่งความเร็วหนีออกไปนอกวงทันที
แต่สุดท้าย ก็ไม่อาจหนีพ้น พื้นที่แห้งเฉานั้นมาถึงตัวมันแล้ว พลัน เสือตัวนั้นก็ชะลอความเร็วลง
ทุกคนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าขนของมันเปลี่ยนเป็สีขาว และค่อยๆ ร่วงหล่นลงมา ตัวก็ผอมลงเรื่อยๆ และแก่ขึ้นทุกที เสือเลี่ยเป้าที่ผอมแห้งนั้น ค่อยๆ ล้มลงกับพื้น และหยุดหายใจไปในที่สุด
“มันแก่ตาย!?” มีคนร้องโพล่งด้วยความตระหนก
มิใช่แค่เสือเลี่ยเป้า แต่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ที่อยู่รอบๆ ก็เป็เช่นเดียวกัน เมื่อใดก็ตามที่ความเหี่ยวเฉามาถึงตัว สิ่งมีชีวิตนั้นๆ ก็จะค่อยๆ แก่ลง ก่อนตายไป
“ไม่! ปล่อยข้าไป... อ๊าก!” เสียงร้องน่าสังเวชดังขึ้นจากป่าที่อยู่ใกล้ๆ
ชายคนหนึ่งวิ่งออกจากป่า แต่ไปได้เพียงไม่กี่ก้าว รูปร่างหน้าตาก็เปลี่ยนไป จากชายหนุ่มกลายเป็แก่เฒ่าในพริบตา และดูเหมือนว่าในไม่ช้า คงต้องตายจากความชราเช่นกัน
บางที เสียงกรีดร้องนั้น อาจทำให้เว่ยเซิงเหรินรู้สึกตัวขึ้นมา
เพียงเขาหันไปมอง ความเหี่ยวเฉาที่แผ่กระจายออกไปนั้น ก็หายไปในพริบตา
กระนั้น ใน่เวลาสั้นๆ ที่ผ่านมา ูเาเกือบสิบลูกที่เคยเขียวชอุ่ม กลับกลายเป็รกร้าง พืชพันธุ์ทั้งหมดเหี่ยวเฉา ขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่บนนั้น ล้วนตายเพราะความชรา
ตอนนี้ชายหนุ่มผู้โชคร้าย ซึ่งกลายเป็ชายชราไปแล้วนั้น กำลังเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า สีหน้าหวาดกลัวเป็อย่างมาก
“แค่กๆๆ!... ผู้าุโ โปรดคืนสภาพให้ข้าด้วยๆ… แค่กๆๆๆ!” ชายชราผู้นั้นไอไม่หยุด พลังชีวิตคล้ายจะริบหรี่เต็มทีแล้ว
แต่เว่ยเซิงเหรินกลับมิได้สนใจ เพียงหันหน้าไปมองท้องฟ้า
ฟิ้วๆๆ!
ผู้ฝึกตนต่างพากันหนีไปทีละคน แววตาขณะมองชายชุดคลุมสีขาวดำซึ่งอยู่บนยอดเขานั้น เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ช่างน่ากลัวยิ่ง!
“ชรา? เปลี่ยนเป็แก่ชรา? นี่เป็การบั่นทอนอายุขัย? เขาสามารถบั่นทอนอายุขัยคนได้?”
“สามารถทำให้คนแก่ขึ้นได้? เขาเป็ใครกัน? ทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“เร็วเข้า... เร็ว! รีบหนีออกห่างจากเขา”
บนใบหน้าของผู้ฝึกตนทุกคน ต่างปรากฏแววพรั่นพรึง
เป้าหมายสูงสุดในการฝึกตน หรือแรงจูงใจเื้ัความพยายามในการแย่งชิงลูกท้อร้อยปี ก็คือการทำให้ตนเองมีชีวิตยืนยาวกว่าเดิม มิใช่หรือ?
ทว่า ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ กลับสามารถทำให้อายุขัยของพวกเขาสั้นลงได้
มิได้สังหาร… แต่น่ากลัวกว่าการสังหารเสียอีก!
คนผู้นี้เป็ปีศาจ... เขาเป็ปีศาจ!
ทุกคนจ้องมองเว่ยเซิงเหรินด้วยสีหน้าหวาดผวา
ชายชุดคลุมสีขาวดำนิ่งงัน ราวกับกำลังชะล้างความเศร้าอันท่วมท้น ออกไปจากหัวใจ
“เว่ยเซิงเหริน ท่านสัญญากับท่านประมุขไว้แล้ว ท่านไปไม่ได้!” ผู้าุโใหญ่ะโออกมา
ชายชุดคลุมสีขาวดำยังคงเงียบ จากนั้นไม่นาน ก็เปิดปากพูด “ผู้าุโใหญ่ ข้าต้องไป ข้าสัญญากับผู้าุโกวนฉีไว้ก็จริง แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ ข้าไม่อาจรั้งอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว”
“แต่...” ผู้าุโใหญ่กล่าวอย่างร้อนรน
“ไม่มีแต่ มีบางเื่ที่ท่านไม่เข้าใจ ข้าต้องไป ผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้ว? ฮ่าๆๆ! นางตายไปแล้ว? ฮ่าๆๆ!
ในตอนแรก หากข้ามิได้รับปากผู้าุโกวนฉีไว้... ข้าไม่ควรให้สัญญาเอาไว้เลย
หากข้ามิได้รั้งอยู่ที่นี่ บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่ตาย” เสียงของเขาสั่นเครือ
ผู้าุโใหญ่อึ้งไป ไม่รู้ควรกล่าวเช่นไร ถึงจะยับยั้งอีกฝ่ายได้
เว่ยเซิงเหรินตั้งใจที่จะออกไป
ผู้าุโใหญ่หันหน้าไปมองค่ายกลใหญ่ด้วยความโมโห “กู่ไห่ เ้าทำได้ดียิ่ง! ตอนนี้ ยัง้าตัดต้นท้อร้อยปีของอี้เทียนเก๋ออยู่หรือไม่?”
กู่ไห่สูดหายใจเข้า ก่อนกล่าว “ผู้าุโใหญ่แห่งอี้เทียนเก๋อ ในเมื่อข้าพบกับผู้าุโเว่ยเซิงเหรินแล้ว ย่อมไม่กล้าทำลายต้นท้อร้อยปี ต้นนี้ แต่จะส่งมันกลับคืนทันที”
“หืม?” ผู้าุโใหญ่ขมวดคิ้ว มองดูอีกฝ่าย กู่ไห่ผู้นี้ช่างรู้จักพูด
“แต่ตามกฎ สมบัติของที่นี่ เดิมทีผู้าุโกวนฉีได้เหลือทิ้งเอาไว้ให้พวกเรา ดังนั้นลูกท้อร้อยปีทั้งสิบลูก ถือเป็สินน้ำใจให้ข้าก็แล้วกัน” กู่ไห่กล่าว
“หึ!” ผู้าุโใหญ่แค่นหัวเราะ เห็นได้ชัด ว่าไม่ได้สนใจลูกท้อ ขอแค่ต้นท้อยังคงอยู่ ก็สามารถเก็บลูกท้อได้อีกมากมาย หลังจากผ่านไปหนึ่งร้อยปี
“ท่านหัวหน้า ที่ท่านพูดก่อนหน้านี้...” เฉินเทียนซานมองกู่ไห่ ด้วยท่าทางร้อนใจ
กู่ไห่มองเฉินเทียนซานและเกาเซียนจือ มิได้กล่าวสิ่งใด เพียงหยิบเอากล่องสองใบออกมา
“ตามที่สัญญาไว้ หนึ่งกล่องต่อหนึ่งคน” กู่ไห่ส่งกล่องทั้งสองให้เฉินเทียนซานและเกาเซียนจือ
เฉินเทียนซานคว้าเอาไปกล่องหนึ่ง ก่อนจะเปิดดูด้วยความตื่นเต้น มันคือลูกท้อร้อยปีจริงๆ บนใบหน้าเขาพลันปรากฏความยินดี
เกาเซียนจือรับกล่องไป แต่มิได้มองมันมากนัก เขาหยิบลูกท้อออกมา ก่อนจะกลืนมันลงไป
วูบ!
จากนั้นไม่นาน แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเกาเซียนจือ
“เกาเซียนจือ เ้าช่างไม่รู้คุณค่าสิ่งของ!” เฉินเทียนซานมองอีกฝ่ายอย่างตะลึงงัน
เกาเซียนจือมองกลับไป แล้วกล่าวด้วยท่าทางแปลกๆ “เฉินเทียนซาน ท่านควรรีบกินมันเสีย!”
“อะไรนะ?” เฉินเทียนซานถามด้วยความงุนงง
“ท่านหัวหน้าสัญญาว่าจะให้มันกับพวกเรา เขาย่อมต้องให้แน่ เหตุใดท่านต้องมาขอตอนนี้?” เกาเซียนจือถาม พลางขมวดคิ้ว
“เหตุใดถึงไม่ควร?” เฉินเทียนซานยังคงไม่เข้าใจ
“ท่านอยากได้ก็ช่าง แต่คิดว่าจะสามารถเอาลูกท้อร้อยปีนี้ กลับไปที่สำนักชิงเหอ หรือที่อื่นๆ ได้หรือ?” เกาเซียนจือถาม พร้อมยิ้มขื่น
“เอ๊ะ?” เฉินเทียนซานผงะไปเล็กน้อย
เขาหันมองไปรอบๆ จึงเห็นผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน กำลังจ้องมองตนด้วยสายตากระหายอยาก
สีหน้าของเฉินเทียนซานแข็งค้างไปทันที ในที่สุดก็รู้แล้ว ว่าเพราะเหตุใดเกาเซียนจือจึงรีบร้อนกินลูกท้อร้อยปีลงไป หากไม่กินตอนนี้ เมื่อออกจากที่นี่ไป ตนเองและพวกยังจะได้เปรียบอยู่หรือ? ผู้ฝึกตนทุกคนที่อยู่รอบๆ นี่ จะฟื้นคืนความแข็งแกร่ง หากคิดจะรักษาลูกท้อไว้ ตนคงได้ตายสถานเดียว
เพียะ!
เฉินเทียนซานตบหน้าตัวเองหนึ่งฉาด พลางอ้าปากกลืนลูกท้อร้อยปีลงไป ด้วยความโศกเศร้า
หลังจากที่ได้เห็นลูกท้อถูกกินไป สายตาของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ก็กลับมาเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม สายตาของผู้คนจำนวนมาก กลับจ้องมองกู่ไห่ด้วยความคาดหวัง
เพราะยังเหลือลูกท้อร้อยปีอยู่อีกหนึ่งลูก
------------------------------------------------
[1] กองกำลังเฉินจีหยิง (神机营) หนึ่งในสามกองราชองครักษ์ประจำนครหลวง และหน่วยวิจัยอาวุธดินปืนแห่งราชวงศ์ิ
[2] เสือเลี่ยเป้า (猎豹) คือ เสือชีตาห์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้