“เสี่ยวหลิงโม่ จำไว้นะ ทันทีที่รู้สึกว่ามีพลังวิเศษให้กดเอาไว้ให้อดกลั้น ระวังเข้าล่ะ” กัวไฮว่มองหลิงโม่พลางพูดเบาๆตอนนี้เองหลิงโม่เพิ่งจะััได้ว่าเื่มันชักจะรุนแรงขึ้น จึงพยักหน้าเบาๆ
เธอไม่ได้ชนะซย่าโหวเทียนนั่นเธอทำได้เพียงควบคุมกาลและพลังวิเศษง่ายๆ อื่นๆ อีกนิดหน่อย จากศักยภาพของเธอแล้วขั้นสุดที่จะทำได้ก็คือจัดการผู้มีพลังวิเศษที่อยู่ใน่ก่อนเซียนเทียนและแน่นอนว่าซย่าโหวเทียนเก่งกว่าเธอมาก
“พลังวิเศษแบ่งออกเป็หลายประเภท บางคนมีพลังวิเศษเสริมบางคนมีพลังวิเศษโจมตี พวกนี้คือสิ่งที่์ประทานให้พวกเธอทำให้พวกเธอไม่เหมือนกับคนธรรมดา” หนานกงหลิงโม่ยังจำคำพูดที่ชายชราท่านหนึ่งสอนหลังจากที่เธอไปลงทะเบียนผู้มีพลังวิเศษได้
“ผู้มีพลังวิเศษจัดการคนธรรมดาน่ะง่าย แต่ถ้าเจอกับผู้บำเพ็ญเพียรเข้าทันทีที่ผู้บำเพ็ญถึงขั้นเขตแดนเซียนเทียน พลังวิเศษก็ไม่อาจเอาชนะผู้บำเพ็ญได้ยายหนู เธอเป็ผู้มีพลังวิเศษควบคุมกาลต่อไปถ้าเธอเจอกับผู้บำเพ็ญ่ก่อนเซียนเทียน เธอสามารถจู่โจมเอาชนะตอนเขาเผลอได้แต่ถ้าเจอกับยอดฝีมือ่ระหว่างเซียนเทียนหรือ่หลังเซียนเทียนทางที่ดีก็เตรียมเผ่นดีกว่า” ชายชราพูดยิ้มๆ
“มีอีกอย่างที่เธอต้องพึงจำไว้ให้ดีระหว่างผู้มีพลังวิเศษด้วยกันจะสามารถััได้ถึงพลังวิเศษของอีกฝ่ายถ้าเธอรู้สึกไม่สบายกาย อย่าไปหาเื่ผู้มีพลังวิเศษคนนั้นเด็ดขาดถ้าไม่สบายกายแปลว่าพลังวิเศษเขาแกร่งกว่าเธอส่วนใหญ่แล้วผู้มีพลังวิเศษมักจะตายตอนต่อสู้กันเอง” หนานกงหลิงโม่จำคำของชายชราได้ทุกคำนับั้แ่เธอตื่นรู้ในพลังวิเศษมาถึงปัจจุบัน เธอก็อ่อนน้อมมาตลอด
“พี่ไฮว่ ฉันััพลังวิเศษของซย่าโหวเทียนนั่นไม่ได้ว่าคืออะไรแต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่มั่นใจ ศักยภาพของเขาไม่อ่อนด้อยเลย พี่ต้องระวังให้มากๆ นะ” หนานกงหลิงโม่มองกัวไฮว่พลางพูดเบาๆ
“เข้าใจแล้ว วางใจเถอะ ถ้ามันมีพลังวิเศษ ฉันจะทำให้มันเสียใจเอง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
การแข่งขันรอบที่สองง่ายกว่ารอบแรกไม่น้อยเป็การตอบแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ไม่มีใครยอมแพ้กันหกคนแรกต่างก็ตอบคำถามของตนเองได้อย่างถูกต้อง
“ขอแสดงความยินดีกับหนานกงหลิงโม่ที่ตอบคำถามได้ถูกทุกข้อด้วยค่ะ” ซย่าโหวเทียนตอบคำถามของตนเองได้อย่างราบลื่น และยังเป็คำถามข้อสุดท้ายของสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนทั้งสนามเหลือเพียงแค่กัวไฮว่เท่านั้นที่ยังเหลือข้อนึง
“กัวไฮว่ มองจอใหญ่หน่อยสิ ช่วยบอกชื่อร้อยแปดผู้กล้าในซ้องกั๋งด้วยค่ะ” หานเฟยเฟยพูดยิ้มๆ
“ดาว์อันดับหนึ่ง ซ่งเจียง ฉายาฝนทันใจ ดาว์อันดับสอง หลู่จุ้นอี้ฉายากิเลนหยก ดาว์อันดับสาม อู๋ย่ง ฉายาเ้าปัญญา ดาว์อันดับสี่กงซุนเซิ่ง ฉายาัต้นม่านเมฆ ดาว์อันดับห้า กวนเซิ่ง ฉายาง้าวใหญ่ดาว์อันดับหกหลินชง ฉายาหัวเสือดาว ดาว์อันดับเจ็ด ฉินิฉายาอัสนีคะนอง ดาว์อันดับแปด ฮูเหยียนจั๋ว ฉายาแส้คู่...” กัวไฮว่มองกรรมการพลางพูดเสียงดังฟังชัด
“จบแล้ว ฟู่จงได้ที่หนึ่งแน่ๆ คำถามแบบนี้ไม่ยากสำหรับกัวไฮว่หรอก” นักเรียนโรงเรียนจิ่วจงคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างเศร้าๆ
“เหล่าเฉา แกฟังชื่อร้อยแปดผู้กล้าให้ดีนะ ถ้ากัวไฮว่ตอบตรงไหนไม่ถูกแกต้องรีบออกมาเตือนนะ” หลี่สวินอวี้พูดขึ้นด้วยความพึงพอใจ
“คิดไม่ถึงเลยว่าสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนจะรั้งไม่ให้ฟู่จงได้ที่หนึ่งไม่ได้” หลินเซี่ยวเซี่ยวพูดยิ้มๆ ด้วยความจนใจ
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ให้ฟู่จงได้ที่หนึ่ง” ซย่าโหวเทียนพูดเบาๆสายตาของเขาตกไปที่ร่างของกัวไฮว่ กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่งสถานการณ์ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าพลันเปลี่ยนแปลงไปหมดสิ้นแล้ว
“ท่านพี่ พวกเราจะถูกสัตว์ประหลาดกินจริงๆ หรือ” เด็กน้อยอายุเจ็ดขวบมองพี่สาวที่อายุมากกว่าตนหนึ่งปีแล้วถามขึ้นเบาๆ
“กวนเป่า ชีวิตก็เช่นนี้แหละ ทำอะไรไม่ได้” เด็กสาวมีชื่อว่าอีเชิ่งจินเด็กชายมีชื่อว่าเฉินกวนเป่าหรือก็คือเด็กสองคนที่ถูกชาวหมู่บ้านเฉินที่แม่น้ำทงเทียนส่งไปบูชายัญที่ศาลเ้าปีศาจปลา[1]
“ข้าจะยังตายไม่ได้ ข้าต้องกลับบ้าน ข้าไม่อยากถูกสัตว์ประหลาดกิน” เฉินกวนเป่าะโร้องไห้เสียงดังลั่น ในขณะนั้นเองก็มีผู้ชายที่มีหน้าฟ้าฟาด[2] และภิกษุรูปหนึ่งปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าของตนคนผู้นั้นก็คือมหาเทพซุนหงอคงในครานั้นนั่นเอง
“เ้าโง่ เ้าเปลี่ยนร่างเป็เด็กผู้หญิง ข้าเปลี่ยนร่างเป็เด็กผู้ชายแล้วเดี๋ยวเราไปเจอปีศาจปลากัน” ซุนหงอคงอุ้มเฉินกวนเป่าลงจากแท่นบูชาแล้วพูดยิ้มๆ
“เ้าหนู ครั้งนี้ท่านเทพกวนเซิ่งไม่ได้ปกป้องเ้าหลังจากนี้เ้าไม่ต้องชื่อกวนเป่าแล้ว ชื่อว่าเฉินชิ่งหยวนเถอะแปลว่ายินดีที่เ้าได้ชีวิตใหม่ ไปกันเถอะ” ซุนหงอคงพูดพลางพาเฉินกวนเป่าออกจากศาลเ้าปีศาจปลา
“นะ...นี่เป็ไปได้ยังไงกัน ทำไมในเบื้องลึกจิตใจแกถึงเป็ความฝันแบบนี้ซุนหงอคง เป็ไปได้ยังไงกัน แกเป็ใครกันแน่” ตอนที่ซย่าโหวเทียนพากัวไฮว่เข้าไปสู่ความฝันเขาก็ได้เห็นซุนหงอคง ทั้งยังมีตือโป๊ยก่าย คนที่อ่านไซอิ๋วจนคุ้นอย่างซย่าโหวเทียนทำไมจะไม่รู้จักล่ะศาลเ้าปีศาจปลานี่ไม่ใช่สถานที่ตรงแม่น้ำเทียนทงที่พระถังซำจั๋งกับศิษย์ทั้งห้าผ่านไปหรอกหรือ
“ความฝัน พาฉันไปยังความฝันจริงเสียด้วย ทว่าศักยภาพของแกอ่อนด้อยไปหน่อยนะแม้พลังเซียนของฉันในตอนนี้จะไม่อาจต้าน่กาลความฝันทั้งหมดนี้ได้แต่ก็พอจะจัดการแกได้แล้วกัน” ในเวลาเดียวกันนั่นเองกัวไฮว่ก็ค่อยๆ เดินออกมา ในมือเขาจูงเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้ เขาคือเฉินกวนเป่าต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็เฉินชิ่งหยวน หรือก็คือตนเองในครั้งก่อน
“ข้ามมิติ...แกข้ามมิติมาจากที่อื่น ในเมื่อข้าม่กาลมาได้งั้นไซอิ๋วก็เป็เื่จริงสิ เป็ไปได้ยังไงกัน”
“ไม่อยากดูสถานการณ์ข้างนอกหน่อยเหรอ” กัวไฮว่พูดพลางโบกมือจากนั้นสถานการณ์ในหอประชุมก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของตนเอง
“ดาว์อันดับเก้าสิบเจ็ด หลี่อวิ๋น ฉายาเสือตาโศก ดาว์อันดับเก้าสิบแปดเจียวถิง ฉายาไร้หน้า ดาว์อันดับเก้าสิบเก้า สือหย่ง ฉายาแม่ทัพโย่วดาว์อันดับหนึ่งร้อย ซุนซิน ฉายาวิชัยน้อย ดาว์อันดับหนึ่งร้อยหนึ่งกู้ต้าเส่า ฉายาแม่นางเสือ ดาว์อันดับหนึ่งร้อยสอง จางชิง ฉายาลูกบ้านดอนดาว์อันดับหนึ่งร้อยสาม ซุนเอ้อร์เหนียง ฉายานางแม่มดดาว์อันดับหนึ่งร้อยสี่ หวังติ้งลิ่ว ฉายาฟากฟ้าผ่าดาว์อันดับหนี่งร้อยห้า อวี้เป่าซื่อ ฉายาเทพทางอันตรายดาว์อันดับหนึ่งร้อยหก ไป๋เซิ่ง ฉายาหนูกลางวัน ดาว์อันดับหนึ่งร้อยเจ็ดฉือเชียน ฉายาหมัดบนหนังกลอง ดาว์อันดับหนึ่งร้อยแปด ต้วนจิ่งจู้ฉายาสุนัขขนทอง...ร้อยแปดผู้กล้า กรรมการทุกท่าน ไม่ผิดเลยใช่ไหมครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“แกเข้าไปใน่กาลฝันนี่นา ทำไมถึงยังยืนตอบคำถามอยู่ตรงนั้นได้ล่ะ” ซย่าโหวเทียนถามขึ้นด้วยความงงงวย
“แกเข้าไปใน่กาลฝันจริง แต่แกก็เข้ามาใน่กาลของฉันเหมือนกันแกเล่นตลกกับฉัน ฉันก็เล่นตลกกับแก ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดพลางหัวเราะ
“แกคือเฉินกวนเป่าที่ซุนหงอคงช่วยไว้เมื่อครั้งนั้นเหรอ” ซย่าโหวเทียนถามซ้ำอีกครั้ง
“ใช่ ฉันก็คือเด็กชายที่ท่านมหาเทพช่วยเอาไว้ที่หมู่บ้านเฉินเมื่อคราวนั้นต่อมาก็เป็เทพแห่งจิตบนสรวง์” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ปล่อยฉัน ช่วยปล่อยฉันไปเถอะ ฉันทำผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะ” ความมั่นใจของซย่าโหวเทียนถูกทำให้แตกหักไม่เหลือชิ้นดีในฐานะผู้มีพลังวิเศษ เขาสามารถวางตัวเหนือคนอื่นได้ถึงขนาดที่ว่ากฎของหัวซย่ายังไม่อาจจัดการอะไรพวกเขาได้พวกเขาสามารถฆ่าคนได้ตามใจอยาก แต่ครั้งนี้เขาพลาดไป เขาเจอกับกัวไฮว่เทพผู้ถูกเนรเทศจากสรวง์
“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงเอาทุกอย่างมาบอกแก” กัวไฮว่มองซย่าโหวเทียนแล้วพูดยิ้มๆ “บนโลกใบนี้ รวมนายแล้วก็มีสองคนที่รู้เบื้องลึกเื้ัของฉันคนคนนั้นมาจากที่เดียวกันกับฉัน แล้วก็แก ฉันไม่ฆ่าแกหรอกแต่ในเมื่อแกมีจิตสังหารฉันก่อน ฉันก็ไม่ปล่อยแกไปแน่”
“กุศล ใช่ แกฆ่าฉันไม่ได้ เซียนอย่างพวกแกต้องสะสมกุศลสะสมกุศลครบแล้วจึงจะกลับไปยัง์ได้ จริงไหมล่ะ” ซย่าโหวเทียนะโเสียงดังลั่นราวกับกุมฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้
“ทุกสิ่งเป็ไปตามกรรม ทำสิ่งไหนย่อมได้สิ่งนั้น” กัวไฮว่พูดเบาๆ “จำไว้นะชาติหน้าให้เกิดมาเป็คนธรรมดา” เมื่อกัวไฮว่พูดจบซย่าโหวเทียนจากสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนที่เอาแต่มองกัวไฮว่อยู่ตลอดก็ล้มคะมำไปข้างหลังอย่างรุนแรง จากนั้นทั้งหอประชุมก็โกลาหลขึ้นอีกครั้ง
[1] หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่าหลิงก่านต้าหวัง
[2] ในที่นี้หมายถึงซุนหงอคง