เธอจับหัวเธอเบาๆ แล้วลุกขึ้นนั่ง มองสำรวจรอบๆ ด้วยความสับสน กระท่อมหลังนี้มีเพียงห้องเดียว ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีเตาไฟ หม้อดินและเครื่องใช้ไม้สอยวางอยู่กระจัดกระจาย ทุกอย่างดูโบราณไม่คุ้นตาราวกับหลุดออกมาจากละครย้อนยุค
หญิงชราเดินกลับเข้ามา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยริ้วรอย ผมสีขาวโพลน สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อหยาบสีซีดจาง
"เ้ารู้สึกยังไงบ้าง ยังเจ็บที่หัวหรือไม่" หญิงชราเอ่ยถาม น้ำเสียงแหบพร่า
ผิงมองหญิงชราด้วยความงุนงง "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" เธอถาม
หญิงชราขมวดคิ้ว จ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยของผิง "เ้าจำไม่ได้หรือ...ว่าเ้าตกลงไปในบ่อน้ำหลังท้องนาข้างหลังหมู่บ้าน ข้ากับชาวบ้านช่วยกันนำร่างของเ้าขึ้นมา..."
"บ่อน้ำพุ..." ผิงพึมพำ "ใช่ ฉันจำได้ ฉันตกลงไปในบ่อน้ำพุ"
"แล้ว...ที่นี่ที่ไหนคะ" ผิงถามอีกครั้ง
"ที่นี่คือหมู่บ้านหลิงสุ่ย" หญิงชราตอบ "เป็หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง"
ผิงยิ่งสับสน "หมู่บ้านหลิงสุ่ย...ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน"
หญิงชรามองผิงด้วยสายตาแปลกใจ "เ้าคงจะลืมไปแล้ว เ้าเป็ชาวบ้านหลิงสุ่ย ชื่อว่า ซินเยว่ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า เยว่เอ๋อร์"
"ซินเยว่..." ผิงทวนชื่อนั้น รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับชื่อนี้อย่างประหลาด แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหน
"ข้าชื่อ ป้าหลัน เป็หมอประจำหมู่บ้าน" หญิงชราแนะนำตัว "เ้าพักผ่อนเถิด ข้าจะไปต้มยาให้เ้ากิน"
ป้าหลันเดินออกจากกระท่อมไป ทิ้งให้ผิงนั่งอยู่บนเตียงกับม๊าของเธอที่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ถูก เธอมองสำรวจตัวเอง พบว่าเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ก็เปลี่ยนไปเป็ชุดผ้าฝ้ายสีขาวเหมือนกับที่ป้าหลันใส่
ผิงรู้สึกสับสน ใ และหวาดกลัว เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ทำไมทุกคนถึงเรียกเธอว่า เยว่เอ๋อร์...
...
ผ่านไปแล้วหนึ่งวันเต็มที่เธอนอนพักผ่อนอยู่ในกระท่อมของป้าหลัน โดยมีม๊าเหมยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง ตอนแรกเธอก็นึกว่าฝันไป แต่มันก็เป็ความฝันที่ดูเหมือนจริงมาก ไม่ว่าเธอจะหลับไปกี่ตื่นแต่เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอก็พบว่าเธอยังคงนอนอยู่ที่เดิม...
"อ่ะ...เยว่เอ๋อร์...อาการเ้าดีขึ้นมากแล้ว...เ้ากลับไปได้แล้ว" ป้าหลันเดินมาบอกเธอกับเหมย
"ขอบคุณป้าหลันมากๆ เลยนะจ๊ะ...ถ้าไม่ได้ป้าหลันช่วย...ฉันก็ไม่รู้ว่าลูกฉันจะรอดไหม" เหมยเดินมากกุมมือป้าหลันแล้วโค้งคำนับสามครั้ง
"ไม่เป็ไรๆ...เรามันคนในหมู่บ้านเดียวกัน...ก็ต้องช่วยๆ กัน...ฉันก็เอ็นดูเยว่เอ๋อร์เหมือนหลานสาวคนหนึ่ง" ป้าหลันพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มแล้วสวมกอดเหมยเบาๆ เป็กำลังใจให้เธอ
ระหว่างที่ผิงกับเหมยเดินทางกลับบ้าน...ผิงได้สังเกตทุกอย่างรอบๆ อย่างเงียบๆ เธอได้รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเนินเขาเขียวขจี แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเก่าแก่และไร้กาลเวลา บ้านรูปทรงคล้ายๆ กันสร้างด้วยอิฐดินเหนียวตั้งเรียงราย หลังคามุงฟาง ผนังปูด้วยวัสดุต่างๆ ที่บ่งบอกถึงการซ่อมแซมมาหลายชั่วอายุคน
วิวทิวทัศน์ต่างๆ ถูกวาดผ่านสายตาของเธออย่างมีชีวิตชีวาด้วยแสงสีทองผ่องอำไพอันของพระอาทิตย์ที่กำลังโผล่เหนือขอบฟ้า เธอได้ยินเสียงไก่ขัน เสียงสุนัขเห่ามาจากระยะไกลๆ และเสียงมนุษย์พูดคุยกันเบาๆ ขณะที่เดินผ่านกันสิ่งที่เธอได้เห็นและััมาทั้งหมดนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าที่นี่ช่างสวยงามอย่างน่าทึ่งและแปลกตาอย่างสิ้นเชิง...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้