“ราคาเริ่มต้นขั้นต่ำที่ 1หมื่นหยวนราคาเพิ่มขึ้นทีละอย่างน้อย 1 พันหยวนการประมูลเริ่มขึ้น!”
เมื่อผู้ดำเนินการประมูลแนะนำเสร็จแล้ว ก็เริ่มมีคนเสนอราคาขึ้นมาทันที
“1.2 หมื่น”
“1.5 หมื่น”
“1.7หมื่น”
……
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ฝีมือของชาวฮั่นแต่ทว่ากระถางธูปใบนี้ก็เป็ของดีจริงๆอีกทั้งการใช้กระถางธูปโบราณในการจุดธูปไหว้พระก็เป็การแสดงถึงความศรัทธามากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะนำไปสะสมหรือนำกลับไปจุดธูปไหว้พระต่อ กระถางธูปใบนี้ก็ควรค่าแก่การประมูลอีกทั้งผู้ดำเนินการประมูลก็พูดไว้แล้วว่ารับรองว่าเป็ของแท้ ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้ร่วมประมูลในของประมูลชิ้นแรกก็เริ่มทยอยยกป้ายเสนอราคาขึ้นมา
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ศึกษาด้านเครื่องสัมฤทธิ์แต่สนิมสีเขียวสดใสบนความโบราณเรียบง่ายนั้นก็สามารถดึงดูดสายตาของหลินเยว่ได้อย่างดีของพวกนี้ล้วนเป็ของดีทั้งนั้น ดังนั้น จึงถือได้ว่าวันนี้เขาได้เปิดหูเปิดตามากยิ่งขึ้น
แต่ก่อนเวลาเดินบนถนนวัตถุโบราณหากได้เจอของแท้สักชิ้นก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่เมื่ออยู่ในงานประมูลนั้นของทุกชิ้นล้วนเป็ของแท้ ปกติเห็นแต่ของปลอมจนเคยชิน เมื่อมาเห็นของแท้จำนวนมากมันก็ทำให้เขาใจเต้นตึกตักอยู่เหมือนกัน
การที่ท่านเฮ่อฉางเหอพาหลินเยว่มาที่นี่เป้าหมายก็คือเพื่อให้เขามีโอกาสได้เห็นโลกกว้างขึ้นอันที่จริงการฝึกสำรวจแผงเป็เพียงการฝึกฝนเล็กๆ น้อยๆสุดท้ายก็จะกลายเป็เพียงนักหาสมบัติเพื่อเลี้ยงชีพด้วยกำไรเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนงานประมูลถึงจะเป็งานแสดงสินค้าที่มีมูลค่ามหาศาลหากคิดจะกลายเป็นักสะสมที่แท้จริง เขาจำเป็ต้องผ่านประสบการณ์ในงานประมูลและมิใช่เข้าร่วมเพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น แต่จำเป็ต้องเข้าร่วมอยู่เป็ประจำ
แต่ทว่า ความรู้ของหลินเยว่ในตอนนี้ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ดังนั้น การฝึกสำรวจแผงจึงยังมีความจำเป็อยู่ ส่วนการมาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ ท่านเฮ่อ้าให้เขามีประสบการณ์ด้านต่างๆมากขึ้น
สุดท้ายแล้วกระถางธูปลวดลายหูสัตว์ในสมัยราชวงศ์ชิงตอนต้นตกเป็ของนักธุรกิจรูปร่างอ้วนหมายเลข56 ด้วยราคาประมูลที่9 หมื่นหยวนจากสีหน้าท่าทางของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะนับถือศาสนาพุทธเพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าเขาเคยทำอะไรผิดไว้หรือเปล่า จึงคิดอยากให้พระพุทธเ้าให้อภัยเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกผิดของตนเอง...ซึ่งตรงจุดนี้ หลินเยว่ก็มิอาจทราบได้เลย
การประมูลดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ของสะสมต่างๆ ก็ถูกทยอยนำออกมาประมูลทีละชิ้นๆ
ในขณะที่หลินเยว่สังเกตของสะสมอยู่นั้นขณะเดียวกันเขาก็สังเกตท่าทีของคู่แข่งอีก 9 คนของเขาเขาพบว่าสีหน้าของพวกเขาแต่ละคนมีแต่ความนิ่งเฉยราวกับว่าพวกเขาต่างคุ้นเคยกับงานประมูลเป็อย่างดีอีกทั้งพวกเขาก็ดูไม่ค่อยสนใจสินค้าที่นำมาประมูลสักเท่าไรมีเพียงตอนประมูลสินค้าชิ้นที่ 4 ที่เป็แจกันเคลือบในสมัยราชวงศ์ชิงตอนต้นสายตาของพวกเขาถึงแสดงอาการสนใจอยู่บ้าง
ขณะที่สังเกตสีหน้าท่าทางของพวกเขาทั้ง 9 คนนั้นหลินเยว่ก็ตัดหลี่เฉียนโจวและจวงเมิ่งเตี๋ยออกไปโดยอัตโนมัติ
เนื่องจากหลี่เฉียนโจวไม่ได้ให้ความสนใจกับงานประมูลเลยเขาเอาแต่หันหน้าไปมองจวงเมิ่งเตี๋ยที่นั่งอยู่ห่างจากเขามากและค่อยส่งสายตาให้เธอเป็ระยะๆส่วนจวงเมิ่งเตี๋ยก็ให้ความร่วมมือหลี่เฉียนโจวเป็อย่างดี เพราะเธอก็มองเขาอย่างหลงใหลตอบกลับเช่นกัน
ช่างเป็สุนัขหนุ่มสาวที่เหมาะสมกันมากคู่หนึ่งจริงๆ!
หลินเยว่แอบคิดอยู่ในใจ แต่ทว่าเขาก็รู้สึกข้องใจในบางอย่างนั่นก็คือ ท่าทีของจวงเมิ่งเตี๋ยเหมือนกับเป็การจงใจแสดงละครออกมาเพราะผู้หญิงที่หยิ่งยโสอวดดีอย่างจวงเมิ่งเตี๋ยนั้นจะถูกตาต้องใจคนโอ้อวดไร้มารยาทอย่างหลี่เฉียนโจวได้อย่างไรเขาก็แค่คนไม่เอาถ่านคนหนึ่ง
บางทีเธออาจจะมีแผนการอะไรซ่อนอยู่
หลินเยว่แอบคาดการณ์อยู่ในใจ แต่ทว่าเขากลับไม่เห็นสีหน้าที่แสดงอาการเสแสร้งจากใบหน้าของจวงเมิ่งเตี๋ยเลยสักนิดหากเป็การจงใจแสดงละครออกมาจริงๆ ถ้าเช่นนั้นจวงเมิ่งเตี๋ยจะต้องมีความสามารถระดับราชินีจอเงินรางวัลออสการ์อย่างแน่นอน เพราะเธอแสดงออกมาได้อย่างเป็ธรรมชาติราวกับว่านี่เป็ความรู้สึกที่แท้จริงของเธอเอง
หรือบางที อาจจะเป็เพราะพวกเขาเป็คนประเภทเดียวกันก็เลยถูกใจซึ่งกันและกันก็ได้ล่ะมั้ง!
หลินเยว่จึงเลิกสนใจพวกเขาสองคนนั้น หากมองไม่เห็นจะได้ไม่ต้องรู้สึกรำคาญไงล่ะเขาจึงตั้งใจชมการประมูลต่อไป
สินค้าสำหรับการประมูลชิ้นที่ 6 ก็ถูกพนักงานคนหนึ่งยกถาดที่รองด้วยผ้าสีแดงด้วยมือทั้งสองข้างเดินขึ้นมา
สินค้าสำหรับการประมูลก็อยู่บนผ้าสีแดงผืนนั้นนั่นเอง
เนื่องจากสินค้าสำหรับการประมูลมีขนาดเล็กทำให้มีคนจำนวนมากต้องยืดคอชะเง้อมอง เพราะอยากดูว่าของที่วางบนถาดนั้นคืออะไร และแต่ละคนก็พอมองออกว่า้านั้นคือหยกแขวนประจำตัว2 ชิ้น
เมื่อเห็นว่าผู้คนที่อยู่ในงานมองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นผู้ดำเนินการประมูลกลับพูดเพียงอือออเบาๆ เท่านั้น แต่ไม่มีการพูดอธิบายใดๆ และปล่อยให้พนักงานเปิดจอLCD ขึ้นอีกครั้ง
เมื่อสินค้าสำหรับการประมูลปรากฏขึ้นบนหน้าจอนั้นทุกคนในงานต่างอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาทั้งสองข้างส่องประกายแวววาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าร่วมการประมูลที่เป็ผู้หญิงใบหน้าของพวกเธอมีแต่ความชื่นชมหลงใหล พวกเธอเอาแต่เคลิบเคลิ้มไปกับความงามของหยกคู่นี้
มันเป็หยกหงส์และัคู่หนึ่ง!
หยกหงส์และัคู่นี้มีลักษณะเป็วงกลม ใช้วิธีการแกะสลักลายนูนและลายฉลุโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแกะสลักแบบหยิน* ที่ลายเส้นมีความอ่อนช้อยเป็พิเศษหัวัมีเขา ด้านข้างลำตัวมีปีก ทำท่ากลับตัวหันศีรษะร้องคำรามด้วยความโกรธแสดงถึงความแข็งแกร่งและความน่าเกรงขามอย่างที่สุด ส่วนหงส์มีดวงตากลมปากเป็จะงอย ทำท่าสยายปีกโผบิน แต่มีขนาดค่อนข้างเล็กระจุ๋มกระจิ๋ม จึงดูสวยงามน่าเอ็นดู
หนึ่งัหนึ่งหงส์ เติมเต็มซึ่งกันและกัน เกิดเป็ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย
ทั้งคู่มีรูปทรงเหมือนกันแกะสลักโดยช่างแกะสลักที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน และให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาราวกับเป็ของจริงยิ่งนัก
ทุกคนที่ร่วมงานต่างััได้ถึงความรักระหว่างหยกแขวนประจำตัวคู่นี้ถึงแม้ว่าจะเป็ความเรียบหรู แต่กลับสลักลงในส่วนลึกของจิตใจจนยากที่จะลืมเลือนมีความนิจนิรันดร์ราวกับสุริยัน จันทรา และดวงดาว ราวกับชั่วฟ้าดินสลาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดแต่หยกคู่นี้ก็ยังคงเคียงคู่กัน ราวกับว่าถึงแม้มหาสมุทรจะแห้งเหือดก้อนหินจะแหลกสลาย แต่หยกคู่นี้ก็ไม่มีทางแยกห่างจากกัน ใครที่เป็ผู้แยกหยกคู่นี้ออกจากกันบุคคลผู้นั้นย่อมมีความผิดมหันต์ ย่อมเป็บาปหนาจนยากที่จะบรรยายออกมาได้
หยกแขวนประจำตัวหนึ่งคู่ ไม่ใช่ 2 ชิ้น มันเป็ “หนึ่งคู่”และจะต้องเป็หนึ่งเดียวตลอดไป
ช่างสวยจริงๆ!
เป็รักแท้อย่างแท้จริง!
ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างถอนหายใจกันอย่างเงียบๆหยกคู่นี้ราวกับมีชีวิต เกิดเป็มนต์เสน่ห์อันน่ามหัศจรรย์
จะต้องประมูลเอามาให้ได้!
มีคนจำนวนมากที่คิดเช่นนี้ พวกเขาไม่ได้้าเพราะความเก่าแก่ของพวกมันและไม่ได้้าเพราะมูลค่าของพวกมัน แต่พวกเขาปรารถนา “ความรัก”ที่แท้จริงของพวกมัน พวกเขาต่างเชื่อว่า หากคนสองคนได้หยกคู่นี้ พวกเขาจะครองรักกันตลอดไปจนถึงยามแก่ชรา
เมื่อจวงเมิ่งเตี๋ยเห็นหยกคู่นี้เธอก็ไม่สามารถปิดบังจิตใจอันคับแคบในใจของเธอได้อีกเลยเป็เพราะความตื่นเต้นทำให้ใบหน้างามของเธอแดงขึ้นทันที มือทั้งสองข้างกำไว้แน่นดวงตาทั้งคู่จับจ้องไปที่หยกคู่นั้นราวกับว่าเธอไม่อยากคลาดสายตาไปจากพวกมันแม้แต่วินาทีเดียว
เธอคิดถึงเื่ราวความรักนิรันดร์ของเ้าชายเ้าหญิงในวัยเด็กเธอคิดถึงรักแท้ที่เธอเฝ้าใฝ่ฝันในวัยแรกรุ่น เธอคิดถึงตอนที่เธอหลับตาอธิษฐานขอพรจากดาวตกยามเงียบสงัดในเวลากลางคืนเธอคิดถึงเ้าชายขี่ม้าขาวที่มาอยู่เคียงข้างเธอในความฝัน......
เธอคิดถึงเื่ราวมากมายแต่ทว่าความจริงมันช่างแสนโหดร้าย เพราะผู้ชายที่เข้าหาเธอมีแต่ผู้ชายเลวๆคนแล้วคนเล่า พวกเขาเข้าหาเธอเพราะใบหน้าของเธอ เข้าหาเธอเพราะร่างกายของเธอสุดท้าย มีอยู่วันหนึ่งเธอจึงเข้าใจว่าความรักบริสุทธิ์มีเพียงในจินตนาการเท่านั้นแต่ไม่มีทางปรากฏขึ้นในชีวิตจริง!
เธอรู้สึกผิดหวัง
เธอรู้สึกรังเกียจผู้ชายทั้งโลก
ชะตาลิขิตให้เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตลอดไป
แต่วันนี้เธอได้เห็นความรักที่สมบูรณ์แบบเธอเห็นจากหยกแขวนประจำตัวที่อยู่เบื้องหน้าเธอคู่นี้
บนตัวหยกปรากฏเป็ความราบเรียบแต่กลับไม่สามารถปิดบังความรักที่มีได้เลยทำให้เธอซาบซึ้งเข้าไปสู่จิตใจลึกๆในเมื่อเธอไม่สามารถพบความรักที่สวยงามระหว่างมนุษย์ในชีวิตจริงในเมื่อหยกคู่นี้มีความรักที่สวยงามลึกซึ้งแฝงอยู่ในเมื่อสิ่งเหล่านี้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเธอ เธอจึง้ามัน!
ความรักที่สวยงามสมบูรณ์แบบควรได้รับการปกป้องดูแล!
ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาทำให้หยกหงส์ัคู่นี้แปดเปื้อน!
เธอต้องเป็ผู้ที่ได้มัน!!!
จวงเมิ่งเตี๋ยรู้สึกราวกับเป็แม่หมาป่าสาวที่กำลังปกป้องลูกน้อยของมันเธอมองรอบๆ ตัวอย่างระแวดระวัง ณ เวลานี้ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ล้วนเป็ศัตรูของเธอ
คนที่้าแย่งหยกจากเธอล้วนเป็ศัตรูของเธอทุกคน!
สายตาของจวงเมิ่งเตี๋ยที่กำลังมองหยกก็ตกอยู่ในสายตาของหลี่เฉียนโจวหลี่เฉียนโจวจึงยิ้มเล็กน้อย
เพื่อรอยยิ้มของสาวงาม เขาก็ยินดีที่จะทำ!
* การแกะสลักแบบหยิน (阴刻)คือการแกะสลักที่ตัวลวดลายหรืออักษรที่แกะสลักจะเป็ส่วนที่เว้าลึกลงไปส่วนการแกะสลักแบบหยาง (阳刻) จะเป็การแกะสลักที่ทำให้ลวดลายหรือตัวอักษรปรากฏเป็ภาพนูนขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้