“ครับพี่”
สวี่อิงพูดคุยกับเหล่าสารวัตรอย่างเป็กันเอง แม้ชย่าลิ่วอีจะตั้งใจเชิญทุกคนมาทานข้าวด้วยตัวเอง ทว่าตอนนี้เขากลับกลายเป็เพียงชย่าเสี่ยวลิ่ว ลูกน้องของรองหัวหน้าสวี่ที่ได้รับคำสั่งให้เชิญทุกคนมาทานข้าวเท่านั้น ตอกย้ำสถานะของสวี่อิงในฐานะบุคคลทรงอำนาจอันดับสองของแก๊งเซียวฉีให้หนักแน่นขึ้น หลังจากแสดงอำนาจแล้ว เขาก็อ้างว่ามีธุระ ขอคารวะทุกคนด้วยสุราคนละหนึ่งจอกแล้วจากไปอย่างสง่าผ่าเผย
ชย่าลิ่วอียังคงมีสีหน้าเป็ปกติขณะออกไปส่งสวี่อิง จากนั้นก็กลับเข้าไปในห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ท่านสารวัตรทั้งหลาย วันนี้ไม่เพียงแต่จะดื่มให้สนุก แต่ต้องเล่นให้สนุกด้วย! ผมจองห้องส่วนตัวให้ทุกท่านไว้ที่ ‘หอถานเซียง’ แล้ว หลังทานอาหารเสร็จเราไปสนุกกันต่อดีไหมครับ?”
……
‘หอถานเซียง’ เป็คลับหรูภายใต้การดูแลของแก๊งเซียวฉี ตั้งอยู่ที่จิ่วหลงถั่ง [1] ปกติแล้วจะไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าใช้บริการ เป็คลับเฉพาะสมาชิกผู้ถือโกลเดนการ์ดที่ออกโดยผู้จัดการชุยตงตงเท่านั้น สมาชิกส่วนใหญ่จะใช้บัตรนี้ในการเข้าออกคลับแห่งนี้ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสมาชิกบางคนใช้การสแกนใบหน้าแทนบัตรผ่าน
ชย่าลิ่วอีกลับพิเศษยิ่งกว่านั้น แม้จะไม่ต้องทำอะไรชุยตงตงก็สั่งให้คนไปรับเขาที่หน้าคลับั้แ่เช้าอยู่แล้ว เหล่าสารวัตรถูกกลุ่มคนมากมายห้อมล้อมขณะเดินเข้าไปด้านในคลับ แม่เล้าแต่งตัวสวยงามออกมาต้อนรับ รวมไปถึงสาวงามชื่อดังกว่าสิบคนที่มายืนเรียงแถวยั่วยวนให้เลือกได้ตามใจชอบ
ชย่าลิ่วอีส่งเหล่าสารวัตรเข้าห้องอย่างนอบน้อม แล้วหันไปพูดกับชุยตงตงว่า “วันนี้สวี่อิงมาเหยียบในถิ่นของฉัน”
ชุยตงตงส่งเสียง “โอ้?” แล้วรับบุหรี่ที่เขายื่นให้ ทั้งสองคนหันหน้าไปจุดบุหรี่คนละข้าง ขณะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปยังห้องทำงาน
ลูกน้องเปิดประตูให้พวกเขา หลังจากเข้าไปด้านในแล้วประตูก็ถูกปิดลงจากด้านนอก ทั้งสองคนนั่งลงบนโซฟาคนละฝั่ง หันหน้าเข้าหากัน แล้วพยักหน้าให้กันที่โต๊ะน้ำชา ชย่าลิ่วอีพูด “ฉันสงสัยว่ามีคนของเขาปะปนกับลูกน้องของฉัน เธอสนิทกับฉันก็ต้องระวังเขาไว้ด้วย ฉันทนเขาไม่ได้แล้ว อยากหาโอกาสพลิกหน้ากับเขาสักหน”
ชุยตงตงอายุยี่สิบกว่าปี สวมแว่นกันแดด มีจมูกโด่งและรวบผมไปข้างหลังเหมือนหางม้า เขาดูเป็คนที่ฉลาดและมีความสามารถ แต่สีริมฝีปากของเขาค่อนข้างแดงดูขัดกับภาพลักษณ์ภูมิฐานนั่นนิดหน่อย
เขาพ่นควันออกมาแล้วถอดแว่นกันแดด เปิดเผยใบหน้าหล่อเหลาที่มีความอ่อนหวานแต่งแต้มผสมอยู่ด้วย จากนั้นก็เขาเอนหลังพิงโซฟา พร้อมกับยกมือขึ้นไปวางพาดไว้ที่ท้ายทอย เสื้อเชิ้ตของเขาเปิดออกเล็กน้อยเผยให้เห็นสายรัดที่อก— แท้จริงแล้วเป็ “เธอ”
“ชิงหลงมีท่าทียังไงบ้าง” เธอถาม เสียงแหบต่ำตามธรรมชาติของเธอทำให้แยกว่าเป็ชายหรือหญิงไม่ออก
ชย่าลิ่วอี้พ่นควันออกมา “พี่ใหญ่เองก็คงอยากจัดการเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งฉันให้มาดูไนต์คลับหรอก”
“นั่นไม่แน่เสมอไป” ชุยตงตงพูด “ที่ชิงหลงให้ทุกอย่างกับนาย ก็อาจจะเป็แค่การเอาใจนายก็ได้”
ชย่าลิ่วอีเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยสายตาที่เย็นะเื ชุยตงตงยักไหล่แบบไม่ได้รู้สึกผิด “แค่ล้อเล่นน่ะ”
“เื่นี้นายต้องระวังให้ดี” ชุยตงตงพูดต่อ “สวี่อิงเป็พี่น้องกับชิงหลงมาั้แ่เด็ก เขาติดตามชิงหลงมานานกว่า 20 ปี แถมยังเคยมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ชิงหลงขึ้นสู่ตำแหน่ง ชื่อเสียงในแก๊งเองก็มีไม่น้อย ตอนนี้ชิงหลงยังไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจน สวี่อิงเองก็ยังคงเป็รองหัวหน้าแก๊ง นายไม่สามารถไปขัดแย้งกับเขาอย่างเปิดเผยได้”
“ถ้าฉันขัดแย้งกับสวี่อิง เฉิงต้าจุ้ยจะยืนฝั่งไหน?” ชย่าลิ่วอี้ถามเธอ
‘เฉิงต้าจุ้ย’ หรือชื่อจริงว่าเฉิงซือเฉวียนเป็ ‘ที่ปรึกษา’ ของแก๊งเซียวฉี เขาเป็หนึ่งในผู้าุโของแก๊ง ถึงแม้เขาจะมีความสามารถและสถานะที่ต่ำกว่าชย่าลิ่วอีและชุยตงตง แต่ก็ยังคงมีอิทธิพลไม่น้อย
“เฉิงต้าจุ้ยหรือ?” ชุยตงตงยักไหล่อีกครั้ง “หลายวันแล้วที่ไม่ได้ข่าวจากเขา ไม่รู้ว่าเขาไปตายที่ไหน— อาจจะตายจริง ๆ ก็ได้”
ชย่าลิ่วอีเงียบและสูบบุหรี่
“เอาล่ะ” ชุยตงตงพูด “ฉันจะไปหาต้าจุ้ยแล้วลองถามดูว่ามีข่าวอะไรบ้าง นายอย่าเพิ่งรีบ ตอนนี้ยังมีชิงหลงอยู่ สวี่อิงไม่กล้าทำอะไรนายแน่นอน”
“ฉันไม่เป็ไรหรอก แต่ฉันกลัวว่าเขาจะทำให้เื่มันใหญ่ขึ้นและลงมือกับพี่ใหญ่”
“เขากล้าขนาดนั้นได้ยังไง!” ชุยตงตงพูด
ชย่าลิ่วอีส่ายหัว “สวี่อิงคนนี้ใจแคบเกินไป ต้องระวังเอาไว้”
“เออ แล้ว่นี้เสี่ยวหม่านเป็ยังไงบ้าง?”
ชย่าลิ่วอีมองเธอแล้วพูด “ก็ดีขึ้นหน่อย หนักแน่นกว่าเดิม”
“ฉันนำเครื่องหอมที่ช่วยให้จิตใจสงบจากประเทศไทยมาด้วย นายช่วยเอากลับไปให้เธอหน่อย” ชุยตงตงพูด
ชย่าลิ่วอีไม่ได้บอกเธอว่าของที่เธอส่งมาในครั้งก่อน เสี่ยวหม่านแทบจะไม่ได้เปิดดูเลย พวกมันถูกทิ้งไว้ในตู้จนเน่าเสียไปแล้ว เขาเพียงแค่ขยับคางเล็กน้อยและพูดว่า “อืม”
“เสี่ยวเหอรอนายอยู่ จะไปไหม”
“อืม”
……
เสี่ยวเหอยืนรอเงียบๆ ที่หน้าประตูห้องส่วนตัว เมื่อเห็นชย่าลิ่วอีเดินมาพร้อมกับลูกน้องบางคน เธอจึงก้มศีรษะและโน้มตัวเล็กน้อยเพื่อทักทาย ชย่าลิ่วอีโบกมือให้ลูกน้องไปได้แล้วโอบเธอเข้าไปในห้อง
ชย่าลิ่วอีเป็ลูกค้าประจำของเธอหรืออาจพูดได้ว่าชย่าลิ่วอีจะเข้าแต่ห้องของเธอเท่านั้น โดยปกติเขาจะมาหาเธอเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ไม่ได้มาบ่อยนัก ทว่าทุกเดือนจะต้องมาอย่างน้อยหนึ่งครั้งอย่างแน่นอน ชุยตงตงแนะนำให้ชย่าลิ่วอีรับเธอเป็เมีย แต่ชย่าลิ่วอีกลับพูดว่าเขามีศัตรูมากเกินไป การรับเธอเป็เมียจะทำให้เธอเดือดร้อน
พวกเขาผลัดกันอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า เสี่ยวเหอเปิดเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ข้างหัวเตียงแล้วทั้งคู่ก็ขึ้นเตียง
— จากนั้นก็เอนหลังนอนฟังเพลงกันคนละฝั่ง
ใช่ เธอมีหน้าที่เพียงแค่เอนหลังนอนที่นี่กับชย่าลิ่วอี้และฟังเพลงเป็เวลาสองชั่วโมง จากเพลง 《Moon River》 ของออดรีย์ เฮปเบิร์นไปจนถึง 《Longer》 ของแดน โฟเกลเบิร์ก พวกเขาไม่เข้าใจเนื้อของเพลงเลยแม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็ไร ขอแค่มีทำนองไพเราะก็เพียงพอแล้ว
เสี่ยวเหอมาจากเมืองกำแพงเจียวหลง เธอเคยถูกพวกอันธพาลทำร้ายก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากชย่าลิ่วอี เธอจึงจงรักภักดีต่อชย่าลิ่วอีมาก รู้จักปฏิบัติตัวและสงบเสงี่ยม ไม่มีความอยากรู้อยากเห็นใดๆ และไม่เคยถามถึงเหตุผลที่ชย่าลิ่วอีไม่แตะต้องเธอ— ไม่ว่าจะเป็เพราะโรคภัยหรือไม่สนใจผู้หญิง พวกเขามานอนในห้องนี้ทุกเดือนเพื่อตอบสนองความ้าของแต่ละฝ่าย ชย่าลิ่วอี้าใช้เธอเป็เครื่องปิดบัง ส่วนเธอนั้นจำเป็้าการปกป้องจากชย่าลิ่วอี เพราะความสัมพันธ์นี้ชุยตงตงจึงทำดีต่อเธอมาก ทุกเดือนเธอจะได้รับเงินเป็สองเท่า แม้จะเป็เช่นนี้เธอก็ไม่ได้บอกเื่ราวทั้งหมดกับชุยตงตง ความจริงแล้วเธอไม่ได้บอกใครเลยต่างหาก เธอเตรียมฝังความลับนี้ไปพร้อมกับลมหายใจของเธอ
เสียงอันนุ่มนวลของหญิงสาวจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงทำให้ความเหนื่อยล้าทั้งหมดของชย่าลิ่วอีหายไป เขายืดขาออก ยกแขนขึ้นมาวางซ้อนไว้ที่ท้ายทอย ถอนหายใจยาว แล้วหลับตา
ที่อีกฟากหนึ่งห่างออกไปเกือบห้ากิโลเมตร ในเมืองกำแพงเจียวหลง เหอชูซานก็กำลังนอนหลับอย่างสงบ วันนี้เขาเพิ่งได้รับเงินเดือนจากเดือนที่แล้ว หากยังคงเป็ไปตามความเร็วนี้ ในภาคเรียนหน้าเขาควรจะสามารถเก็บเงินได้ครึ่งหนึ่งของค่าเทอม ส่วนที่เหลือคงต้องขอจากพ่อและหยิบยืมจากเพื่อนบ้าน พ่อคงจะไม่ตำหนิเขา เขาจะใช้เงินเหล่านี้เพื่อเรียนให้ดี เขาเชื่อว่าตัวเองเรียนในสาขาที่ดีที่สุดและเชื่อว่าหากเรียนจบแล้ว เขาจะสามารถหาเงินได้มากแล้วคืนมันให้กับพ่อได้
ความฝันของเขาต่างจากชย่าลิ่วอีโดยสิ้นเชิง ไม่มีการแข่งขันอย่างเปิดเผยหรืออย่างลับๆ ไม่มีความรักและความเกลียดชัง ไม่มีอดีตที่มืดมนและปัจจุบันที่สับสน ไม่มีความรักที่พูดไม่ได้คายไม่ออกและโชคชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มีเพียงความฝันเกี่ยวกับอนาคตที่สดใสซึ่งเป็อนาคตที่สงบเงียบและบริสุทธิ์
เชิงอรรถ
[1] จิ่วหลงถั่ง คือ ย่านเกาลูนท่งในฮ่องกง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้