การแสดงออกทางสีหน้าของหลินกู๋หยู่ไม่น่ามอง หญิงสาวดิ้นรน ไม่เต็มใจที่จะก้าวเท้าไปข้างหน้า
ในขณะที่หวังเสี่ยวเชี่ยนกำลังจะเอาเสื้อผ้าไปซัก จู่ๆ นางก็ได้ยินเสียงดังมาจากที่นี่ นางจึงเดินเข้ามา
ในตอนแรกนางยังไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เวลานี้เมื่อนางได้ยินสิ่งที่หญิงชราพูด นางก็ไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป นางรีบวางของลงบนพื้น เดินไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ ขวางด้านหน้าฉือซู่แล้วขมวดคิ้ว "พี่ฉือ พี่กำลังทำอะไรอยู่?"
“พวกผู้ใหญ่เขาคุยกัน เด็กสาวเช่นพวกเ้าเกี่ยวอะไรด้วย” ฉือซู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดอย่างเคร่งขรึม “เ้าไปยืนอยู่ห่างๆ อย่ามาสร้างปัญหาตรงนี้”
“พี่สะใภ้สามไม่ใช่จิ้งจอกอย่างแน่นอน ชีวิตของคนจำนวนมากในหมู่บ้านของเราได้รับการช่วยชีวิตจากพี่สะใภ้สาม ตอนนี้พวกเ้าจะทำอะไรหรือ จะตอบแทนพระคุณด้วยความแค้นงั้นหรือ?” หวังเสี่ยวเชี่ยนกางมือทั้งสองข้างขวางตรงหน้าฉือซู่ พูดด้วยน้ำเสียงเ็า "พี่ใหญ่ฉือ คนดีเขาไม่ทำเช่นนี้"
อาจเป็เพราะความโกลาหลที่นี่ดังเกินไป ผู้คนที่ตื่นเช้าหลายคนที่ได้ฟังเสียงโกลาหลต่างเข้ามารวมตัวกัน
"ใช่ แม่ของโต้ซาเป็ผู้ช่วยชีวิตของพวกเรา พวกเ้าจะทำอะไรหรือ?"
“ใช่ๆ แม่ของโต้ซาเป็หมอและนางก็ประพฤติตัวดีมาโดยตลอด พวกเ้าจะทำอะไร จะทำร้ายคนดีงั้นหรือ?
“เร็วเข้า ยังไม่นำตัวคนเข้าไปอีก!”
......
ฟางซื่อเดินไปหาหญิงชรา ยื่นมือออกและดึงแขนเสื้อของหญิงชรา
หญิงชราหันศีรษะไปมองที่ฟางซื่อปราดหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อยและเดินไปข้างหน้าอย่างเนิบนาบ
นางอายุมากแล้ว นางพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง ในมือถือไม้เท้ากระแทกพื้นสองครั้งอย่างสุดแรงที่มี
เมื่อทุกคนเห็นว่าเป็แม่หมอซา แต่ละคนก็ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยวาจา
ในหมู่บ้านของพวกเขา หากมีคนหนึ่งคนที่สามารถทำนายอนาคตได้ คนคนนั้นก็คือแม่หมอซาคนนี้
คำทำนายก่อนหน้านี้ของแม่หมอซาไม่มีคำทำนายใดที่ไม่เป็จริง กล่าวกันว่านางสามารถสื่อสารกับภูตผีปีศาจได้
“ถ้าไม่กำจัดนางปีศาจตนนี้ รังแต่จะนำมาซึ่งหายนะ” แม่หมอซากระแอมไอสองครั้ง น้ำเสียงของนางเย็นเยียบ “วิธีเดียวในตอนนี้คือเผานางไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูก”
ร่างกายของหลินกู๋หยู่หยุดชะงักชั่วคราว มองไปที่แม่หมอซาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“เหลวไหล!” หวังเสี่ยวเชี่ยนโต้กลับอย่างโกรธจัด ใบหน้าของนางเ็า “ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ใครจะสามารถทายได้อย่างแม่นยำ พูดถึงไข้ทรพิษเมื่อไม่นานมานี้ หากไม่ใช่พี่สะใภ้สาม คนในหมู่บ้านของเราจะรอดชีวิตไปได้สักกี่คน”
เมื่อหวังเสี่ยวเชี่ยนพูดดังนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง
หากไม่ใช่เพราะหลินกู๋หยู่ พวกเขาทุกคนก็คงเสียชีวิตไปแล้ว
“ข้าเคยทำนายผิดพลาดมาก่อนหรือไม่?” แม่หมอซาขมวดคิ้วด้วย พูดอย่างไร้ความรู้สึก “ตอนนี้จะต้องฆ่าสตรีคนนี้ ไม่เช่นนั้น แคว้นของเราอาจจะถูกทำลาย!”
"พาโลโสเก!" ผู้ใหญ่บ้านจ้าวเดินออกมาจากธารกำนัล ชี้นิ้วมือไปที่ปลายจมูกของแม่หมอซา เขาะโด้วยเสียงเฉียบคม "แผนของเ้าคืออะไร เ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ?"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านจ้าวพูด สตรีคนหนึ่งก็รีบแจ้นเข้าหาผู้ใหญ่บ้าน กระซิบเสียงเบา "ผู้ใหญ่ ท่านจะพูดเช่นนี้ไม่ได้ สิ่งที่แม่หมอซาพูดก็น่าเชื่อถือเสมอมา ถ้าเกิดเป็เื่จริง มันจะ... "
หลินกู๋หยู่ไม่เต็มใจที่จะก้าวเท้าไปข้างหน้า แต่ความแข็งแกร่งของฉือซู่นั้นมากเกินไป
นางขยับตัวไปข้างหน้าด้วยความเ็ป ใบหน้าของหลินกู๋หยู่น่าเกลียดเล็กน้อย เมื่อมองไปที่แม่หมอซาที่ยืนอยู่ด้านล่าง ใบหน้าของนางก็ไม่น่ามองอย่างมาก พูดด้วยความโกรธขึ้ง "เ้าบอกว่าข้าเป็ปีศาจ หากเ้ามีความสามารถก็พิสูจน์สิว่าข้าเป็ปีศาจให้ได้สิ เ้าก็น่าสนใจจริงแท้ พวกเ้าคิดที่จะฆ่าคนโดยไม่มีข้อหาใดๆ งั้นหรือ?"
เมื่อได้ฟังสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด แม่หมอซาก็คว้าไม้ค้ำและค่อยๆ เดินไปต่อหน้าหลินกู๋หยู่อย่างเนิบนาบ สายตามองไปที่กิ่งไม้ใต้เท้าของหลินกู๋หยู่ ไม้ค้ำนั้นโบกฟืนด้านล่างเบาๆ "เ้าเป็จิ้งจอกจริงๆ รอให้เ้าถูกเผาจนตายแล้ว เ้าก็จะเปิดเผยเรือนร่างที่แท้จริงออกมาอย่างแน่นอน”
สายตาของหลินกู๋หยู่ทอดมองไปที่ฉือหางซึ่งอยู่ในระยะไม่ไกล เห็นว่าฉือหางถูกมัดไว้ทั้งตัว และแม้แต่ในปากก็ยังถูกยัดด้วยของบางอย่าง
โต้ซาร้องไห้และร้องเรียกนาง แต่ถูกโจวซื่อกอดไว้ในอ้อมแขนของนาง
“ถ้าข้าตายแล้ว” แววตาของหลินกู๋หยู่มองแม่หมอซาด้วยความเกลียดชัง กัดฟันพูด “แม้ว่าข้าจะกลายเป็ผี ข้าก็จะไม่ปล่อยเ้าอย่างเด็ดขาด!”
เมื่อฟังคำพูดของหลินกู๋หยู่ แม่หมอซาก็สั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุมได้พริบตาหนึ่ง
“รอให้เ้าสามารถแก้แค้นได้ก่อน เ้าค่อยมาพูดถึงเื่นี้” แม่หมอซามองที่หลินกู๋หยู่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง ความดูถูกเหยียดหยามในดวงตาของนางกระจ่างชัดอย่างมาก “แต่ตอนนี้เ้าทำอะไรข้าไม่ได้!”
ดวงตาของหลินกู๋หยู่กลายเป็สีแดงเื กัดริมฝีปากล่างแน่น หลังจากนั้นไม่นาน นางก็พูดด้วยความโกรธแค้น "ข้าเคยเห็นคนไร้ยางอาย แต่ข้าไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายในวัยเดียวกับเ้า ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเ้ามีชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ได้อย่างไร!"
สิ้นเสียงหลินกู๋หยู่ พลันได้ยินเสียงเอะอะโวยวายท่ามกลางฝูงชน
"พวกเ้า ผู้ใดกล้าลงมือ!" แม่ม่ายสูวิ่งออกมาจากฝูงชน ในมือของนางถือค้อนหันไปทางแม่หมอซา "แม่หมอซา ข้าจะบอกเ้า อย่าคิดพยายามใส่ความว่าร้ายน้องหลิน เ้าเป็หม้ายั้แ่ยังสาวยังแซ่ ทำไมหรือ เ้าทนเห็นพวกเขาสามีภรรยารักกันไม่ได้งั้นหรือ?"
เมื่อได้ฟังคำพูดของแม่ม่ายสู สีหน้าของแม่หมอซาก็แปรเปลี่ยนเป็น่าเกลียด นางชี้นิ้วมือไปที่ใบหน้าของแม่ม่ายสูแล้วพูดอย่างขุ่นเคือง "เหลวไหล!"
แม่ม่ายสูยืนอยู่ด้านข้างหลินกู๋หยู่ ค้อนในมือส่องประกายอย่างเย็นเยียบภายใต้แสงอาทิตย์ นางะโเสียงดัง "พ่อแม่พี่น้อง พวกท่านยังจำเหตุการณ์ที่คนในหมู่บ้านของเราเคยเป็ไข้ทรพิษได้หรือไม่?"
“หากไม่ใช่เพราะน้องหลิน พวกท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าญาติของพวกเราจะยังมีชีวิตรอดจวบจนตอนนี้ได้หรือไม่?” แม่ม่ายสูชี้ค้อนในมือไปที่ทุกคน พูดอย่างโกรธๆ ว่า “ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ หัวใจของพวกท่านทำด้วยอะไร? รู้ทั้งรู้ว่าน้องหลินช่วยชีวิตพวกท่านไว้โดยไม่คิดเงินแม้แต่อีแปะเดียว แต่พวกท่านจะตอบแทนน้องหลินด้วยการกินบนเรือน ขี้รดบนหลังคางั้นหรือ ในภายภาคหน้ายังจะมีใครกล้าทำสิ่งดีๆ เช่นนี้อีก?”
เฉิงอันอันปรากฏตัวออกมาจากฝูงชน ในขณะที่กำลังจะไปช่วยหลินกู๋หยู่แก้มัด นางก็ถูกฉือซู่ดึงตัวลงมา
ฉือซู่้าลากตัวแม่ม่ายสู แต่อนิจจังแม่ม่ายสูมีค้อนอยู่ในมือ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรชั่วขณะหนึ่ง
แม่ม่ายสูยังคงพูดอยู่้า ข่มขู่ทุกคนด้วยค้อนในมือของนาง โดยไม่ทันได้สังเกตความจริงที่ว่าฉือเทาลอบวิ่งไปยังด้านหลังของนาง
จู่ๆ แม่ม่ายสูก็รู้สึกได้ว่ามีคนผลักฉับพลันลงมาจาก้า ในขณะที่นางกำลังจะป้องกันตัว ฉือซู่ก็จับค้อนในมือแน่นแล้ว
“พ่อแม่พี่น้อง” โจวซื่อเดินไปยังด้านหน้าฝูงชนพร้อมกับโต้ซาในอ้อมแขน หันศีรษะไปมองฝูงชนพร้อมขมวดคิ้ว “เดิมทีเื่นี้ก็เป็เื่อื้อฉาวในครอบครัวที่ไม่สามารถเปิดเผยให้คนนอกรับรู้ได้ เพียงแต่หลินกู๋หยู่คนนี้มีปัญหาจริงๆ”
ใบหน้าของหลินกู๋หยู่น่าเกลียดมาก นางพยายามดิ้นให้หลุด แต่อนิจจังเชือกนั้นมัดแน่นมากเป็พิเศษ
"ข้าจำได้ว่าหลินกู๋หยู่ไม่รู้ทักษะทางการแพทย์ใดๆ แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่รู้ทักษะทางการแพทย์ แต่นางยังทำให้ลูกชายและหลานชายของข้าลุ่มหลงอีกด้วย ข้าไม่รู้ว่านางทำอะไรลงไป!" สีหน้าของโจวซื่อน่าเกลียดมากขึ้น คิ้วของนางก็ขมวดแน่นขึ้น "พวกเ้าดูสิ โต้ซาตอนนี้เป็อย่างไรแล้ว..."
แต่ละคนฟังคำพูดของโจวซื่อ สายตามองไปที่โต้ซาที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเป็สายตาเดียวกัน ต่างก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
เมื่อเห็นสีหน้าของทุกคน โจวซื่อก็พยักหน้าและพูดต่อ
ในขณะที่ทุกคนยังคงฟังโจวซื่อพูดอยู่นั้น เฉิงอันอันก็แอบไปข้างหลังฉือหางและปลดเชือกออกจากตัวของฉือหางอย่างรวดเร็ว นางพูดด้วยเสียงต่ำว่า "พี่ฉือ ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี?"
ในที่สุดฉือหางก็เป็อิสระ และพูดกับเฉิงอันอันว่า "เ้าคอยดูคนเหล่านี้ อย่าให้พวกเขาจุดไฟเด็ดขาด ข้าจะไป..."
ก่อนที่ฉือหางจะพูดจบ แม่หมอซาพลันจุดฟืนด้วยคบเพลิงในมือ
ถูกไฟคลอกตาย
หลินกู๋หยู่อดไม่ได้ที่จะสำลักสองครั้ง
ในโลกสมัยใหม่นางจมน้ำตาย แต่ตอนนี้นางกำลังจะถูกไฟคลอกตาย ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้
เมื่อคิดถึงเื่นี้ หลินกู๋หยู่ก็ทอดถอนหายใจ ไม่ว่านางจะรู้สึกอาลัยอาวรณ์มากเพียงใด แต่อย่างไรก็ตาม นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้
หลินกู๋หยู่ลดสายตาลงเล็กน้อย หากนางกลับมาที่นี่ได้อีกหน นางจะไม่รังเกียจที่จะกำจัดแม่หมอซาเป็คนแรก
"แค่ก แค่ก"
กลิ่นฉุนแสบจมูกเกินไปแล้ว
"หลีกทางให้ข้า!” ฉือหางคว้าค้อนในมือของแม่ม่ายสูพรวดเดินตรงไปด้านหน้า กวาดฟืนทั้งหมดไปด้านข้างและเหยียบมัน
เมื่อเห็นฉือหางทำเช่นนี้ ใบหน้าของโจวซื่อก็น่าเกลียดมาก นางไม่พอใจอย่างมาก "เ้าทำอะไร ยังไม่รีบลงมาอีก"
ฉือหางฟังเสียงของโจวซื่อ เขาเงยหน้าขึ้นมองโจวซื่อก่อนจะก้มศีรษะลงช่วยหลินกู๋หยู่แก้เชือก
“เ้ามาที่นี่ได้อย่างไร มันอันตรายนัก” หลินกู๋หยู่มองชายที่อยู่ข้างหน้าอย่างเป็กังวล
ใน่เวลาที่อันตรายเช่นนี้ ฉือหางเป็คนเดียวที่ยังคงอยู่เคียงข้างนาง
คนด้านล่างบางส่วนไม่เห็นด้วย ในขณะที่กลุ่มอีกบางส่วนนั้นเห็นด้วย ส่วนมากนั้นมองนางอย่างเฉยเมย
ทันใดนั้นก็เกิดความขุ่นเคืองในใจ ดวงตาสีแดงของหลินกู๋หยู่เหลือบมองคนด้านล่างเ่าั้
"เ้าไม่เป็ไรกระมัง” มือของฉือหางเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ฉือซู่และฉือเทาสองคนขึ้นมา้า้าที่จะดึงฉือหางออกไป
ในที่สุดฉือหางก็คลายเชือกออกสำเร็จลุล่วง เขาผลักฉือซู่และฉือเทาออกไป ปลดเชือกออกจากร่างของหลินกู๋หยู่และพูดด้วยเสียงต่ำ “เ้าไม่ต้องเกรงใจ ข้ารู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเ้า"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูด หลินกู๋หยู่ก็หันไปมองฉือหางพูดเสียงเย็น "พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าจริงๆ"
แม้ว่าคนเ่าั้จะมีแรงมาก แต่พวกเขาไม่รู้วิชาการต่อสู้
เมื่อได้ฟังเสียงของหลินกู๋หยู่ ทั้งฉือซู่และฉือเทาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยห่างออกไป
เมื่อเห็นการแสดงออกของฉือเทา ใบหน้าของฟางซื่อก็แสดงความน่าเกลียดเล็กน้อย พลันพูดอย่างโกรธๆ ว่า "เ้ารอง เ้ากำลังทำอะไร หรือพวกเ้าไม่ได้ยินที่แม่หมอซาพูดหรือ หากพวกเราไม่เผานางปีศาจตนนี้ ชีวิตของเราทุกคนจะตกอยู่ในอันตราย!"
เหล่าผู้ขี้ขลาดตาขาว รักตัวกลัวตายละล้าละลังในตอนแรก แต่เมื่อพวกเขาได้ยินถ้อยคำของฟางซื่อ พวกเขาทุกคนก็มีปฏิกิริยาทันที แต่ละคนเตรียมพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า
“ข้าแนะนำให้พวกเ้าถอยออกไป”
ฉือหางมองทุกคนอย่างเ็า เพียงมองตาแวบเดียวก็ทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นเยียบไปทั้งตัว
หลินกู๋หยู่วางมือทั้งสองข้างไว้ข้างหน้าอย่างเป็ธรรมชาติ นางยืนตัวตรง ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ แววตามองดูทุกคนอย่างสงบ
ด้วยเหตุผลบางอย่าง แม่หมอซามองหลินกู๋หยู่ที่สงบลงเช่นนี้ นางถึงกับถอยกลับไปด้วยความกลัว
"เ้า เ้า้าจะทำอะไร?" แม่หมอซามองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างประหวั่นพรั่นพรึง ราวกับว่านางกำลังมองดูปีศาจจากนรกก็มิปาน