ตาเฒ่าพิษตั้งใจหลบหน้าฉินหลางจริงๆ ด้วย
เพราะตอนที่ฉินหลางมาหาตาเฒ่าพิษใน ‘ที่พัก’ นั้น เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ
อันที่จริง ปกติตาเฒ่าพิษก็เป็ ‘บุคคลไร้ตัวตน’ อยู่แล้ว สำหรับเขาแล้วงานนี้ไม่ได้มีความสำคัญอะไร ปกติหน้าที่รับผิดชอบของเขามีแค่ปิด และเปิดประตูเท่านั้น และด้วยความที่ในมหาวิทยาลัยมี รปภ.เยอะอยู่แล้ว ดังนั้นคนที่ทำหน้าที่เปิด และปิดประตูอย่างเขา จะมีหรือไม่มีก็ได้ จึงมีแค่ไม่กี่คนที่จะสังเกตเห็นว่า เขามีตัวตนอยู่
ปกติตาเฒ่าพิษจะนั่งอยู่ในบ้านเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างประตู ในนั้นเปิดทีวีขาวดำที่เปิดไว้ตลอดเวลา ทำให้ผู้คนรู้สึกว่า มีคนอยู่ในนั้นอยู่ตลอดเวลา
แต่ตอนนี้ตาเฒ่าพิษไม่ได้อยู่ที่นี่
และฉินหลางก็รู้ว่า ถ้าตาเฒ่าพิษตั้งใจจะหลบหน้าเขาละก็ เขาจะไม่มีทางหาเจอแน่!
แล้วเขาจะต้องทำยังไง?
ฉินหลางนั่งอยู่หน้าบ้านตาเฒ่าพิษนานมาก ยังคงไม่มีวี่แววของตาเฒ่าพิษ จนกระทั่งฉินหลางได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยพูดว่า “เอ๊ะ ฉินหลาง ลูกมาที่นี่ได้ยังไง? วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ?”
นั่นทำให้ฉินหลางได้สติ มองเวลาถึงได้รู้ว่าตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว และคนที่เรียกเขาก็คือฉินหนาน พ่อของเขานั่นเอง
ฉินหนานทำงานในอาคารทดลองวิทยาศาสตร์นี้มานานกว่ายี่สิบปีแล้ว แต่กลับเป็ได้เพียงผู้บรรยาย นักทดลอง ขนาดรองศาสตราจารย์ยังเทียบไม่ได้ แม้ว่าฉินหนานชินไปตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ยังเพิ่มความกระตือรือร้นในงานทดลองมากขึ้น
จู่ๆ ฉินหลางก็ปรากฏตัว นั่นทำให้ฉินหนานแปลกใจมาก สมองของฉินหลางเริ่มหมุน แล้วเขาก็หาเหตุผลได้ “เพื่อนร่วมห้องของผมป่วย แอดมิดที่โรงพยาบาลในตัวเมือง ดังนั้นผมก็เลยมาเยี่ยมเธอ—เป็เพื่อนผู้หญิง!”
ฉินหนานใเล็กน้อย แล้วก็เปลี่ยนเป็ดีใจ “ดี เ้าหนู! เพียงแต่ แม้การมีความรักจะเป็เื่สำคัญ แต่ก็อย่าขาดเรียนมากนักล่ะ ถึงยังไงพวกลูกก็ยังต้องสอบเข้ามหาลัยกันแล้ว จริงสิ เงินที่พกมาพอใช้รึเปล่า ในเมื่อมาเยี่ยมเพื่อนผู้หญิง จะไม่มีของติดไม้ติดมือได้ยังไง?”
คำพูดของฉินหนานมีความหมายแฝงว่า ถ้าหากไปเยี่ยมเพื่อนผู้ชาย ไม่จำเป็ต้องซื้ออะไรให้สิ้นเปลือง?
“อ๋อ…ผมมาหาพ่อเพราะเื่นี้แหละ” ฉินหลางฉวยโอกาสใช้มันเป็ข้ออ้าง “งั้นพ่อให้ผมสัก 200 สิครับ”
ฉินหนานไม่ลังเล หยิบเงินให้ลูกชายไป 200 หยวน แล้วพูดว่า “คืนนี้จะกลับไปกินข้าวไหม?”
“วันนี้ไม่ดีกว่าครับ มีเื่สำคัญต้องทำอีก” ฉินหลางยังอยากจะนั่งรอตาเฒ่าพิษอยู่ตรงนี้
แม้การนั่งรอให้เป้าหมายปรากฏตัวเองจะเป็วิธีที่ไม่ฉลาด แต่ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว ฉินหลางมั่นใจว่า ตาเฒ่าพิษจะต้องรู้ว่าเขามาที่นี่แล้ว ไม่แน่ตาเฒ่าพิษอาจกำลังแอบดูเขาอยู่แถวๆ นี้ก็ได้
“ถ้างั้นเหรอ…ก็ได้ ยึดมั่นเพื่อความรักก็ดี” ฉินหนานตบไหล่ลูกชายเบาๆ “ถ้ามีเื่อะไร ก็โทรมาหาพ่อแล้วกัน”
ฉินหลางพยักหน้าเป็การตกลง หลังจากที่พ่อเขาจากไป ฉินหลางเข้าไปรอในบ้านของตาเฒ่าพิษ—เพื่อรอให้ตาเฒ่าพิษปรากฏตัวเอง
ในตอนนั้นเอง ฉินหลางก็ได้รับหนึ่งข้อความ เดิมทีเขาคิดว่าตาเฒ่าพิษเป็คนส่งมา จึงรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่เขาคิดไม่ถึงว่า จะเป็ข้อความจากบุคคลที่ไม่รู้จัก
“ฉินหลาง ผู้หญิงที่แกชอบคนนึงตายแล้ว ปวดใจไหม? นี่เป็แค่การเริ่มต้น!”
“เชี่ย! ที่แท้เื่นี้ก็เป็เพราะฉัน!”
ฉินหลางรู้สึกเคียดแค้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็ต้นเหตุที่ทำให้รั่วปินถูกพิษในครั้งนี้!
ฉินหลางไม่ได้ตอบข้อความนี้ เพราะตอบไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่จากข้อความนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่ารั่วปินตายไปแล้ว อันที่จริง ถ้าฉินหลางไม่ได้เข้าไปยุ่งเื่นี้ รั่วปินก็คงจะตายไปแล้ว
ฉินหลางเดือดมาก ทว่าเขาไม่ได้สนใจข้อความนั้น แต่กลับส่งข้อความให้ตาเฒ่าพิษแทน “ตาเฒ่าพิษ ช่วยผมช่วยชีวิตเธอ ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าผมจะดูแลคุณตอนแก่!”
นี่เป็ข้อความข่มขู่ทั่วไป!
ในเมื่อการขอร้องไม่มีประโยชน์ ฉินหลางจึงจำต้องใช้วิธีการข่มขู่แทน
แต่ว่าตาเฒ่าพิษยังคงไม่สะทกสะท้าน เขาไม่สนใจคำขู่ของฉินหลางเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงไม่ตอบข้อความฉินหลางเหมือนเดิม โทรเข้าไป ก็ยังคงไม่มีผู้รับเหมือนเคย
ฉินหลางร้อนใจมาก แต่เขากลับจนปัญญา
ตาเฒ่าพิษช่างเป็คนที่ใจดำอำมหิตจริงๆ ฉินหลางนั่งรอทั้งคืนก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของตาเฒ่าพิษ
จนกระทั่งเช้าวันที่สอง ฉินหลางได้รับข้อความจากตาเฒ่าพิษ “ขอร้องใครก็ไม่สู้ขอตัวเอง!”
“เชี่ย!” ฉินหลางด่าอย่างอดไม่ได้ เกือบปาโทรศัพท์ในมือ ตนนั่งรอตาเฒ่าพิษทั้งคืน คิดไม่ถึงว่าตาเฒ่าพิษกลับให้คำพูดแบบนี้กลับมา
ขอร้องใครก็ไม่สู้ขอตัวเอง
ตาเฒ่าพิษจะให้ฉินหลางแก้ปัญหาเอง
แต่หลังจากโมโหแล้ว ฉินหลางกลับรู้สึกว่าคำพูดนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เหมือนว่ายังมีความหมายแอบแฝงอยู่
“หรือตาเฒ่านี่จะกำลังจะบอกฉันว่า ความสามารถของฉันน่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้?” ฉินหลางพูดด้วยความสงสัย
ในขณะที่กำลังครุ่นคิด จู่ๆ โทรศัพท์ของฉินหลางก็ดังขึ้น แต่ครั้งนี้คนที่โทรมากลับเป็รั่วไห่ชวน เขาบอกให้ฉินหลางรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เพราะตอนนี้อาการของรั่วปินทรุดหนักอีกแล้ว
ฉินหลางร้อนใจมาก เพราะนั่นแสดงว่ายาจิ่วเซียงยี่ลู่ต้านพิษในร่างกายของรั่วปินไม่ได้แล้ว
พากำเริบเธอก็จะตาย นี่คือจุดจบที่ถูกกำหนดไว้
ฉินหลางรีบกลับมาที่โรงพยาบาล รั่วปินถูกส่งตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้แพทย์ไม่ได้ทำการช่วยเหลือเธอ แต่เติมสารอาหารและออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายของเธอเท่านั้น
จนถึงตอนนี้ แพทย์ก็ยังไม่เชื่อว่ารั่วปินถูกพิษแล้ว เพราะผลการตรวจเืของเธอไม่ได้บ่งบอกว่าถูกพิษ แค่ภูมิต้านทานของร่างกายหมดลงเท่านั้น จึงทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเธอหยุดทำงาน
“ฉินหลาง อาจารย์เธอล่ะ?” รั่วไหชวนเห็นฉินหลางกลับมาคนเดียว ในใจรู้สึกหดหู่อย่างอดไม่ได้
“อาจารย์ผม เขาไปจากมณฑลผิงชวนแล้ว” ฉินหลางแอบด่าตาเฒ่าพิษในใจไปเป็ร้อยเป็พันรอบแล้ว เพราะตาเฒ่านั่นใจดำอำมหิต ปล่อยให้คนตายโดยไม่ช่วยเหลือ
“งั้นจะทำยังไงดี? เขาอยู่ตรงไหน ฉันให้คนไปรับเขาได้…” รั่วไห่ชวนร้อนรน
“ไม่มีประโยชน์แล้ว” ฉินหลางกล่าว “ตอนนี้มีแค่วิธีเดียว นั่นก็คือพยายามให้พิษเธอกำเริบช้าลง เพื่อให้เธอมีเวลามากขึ้น ผมจะได้คิดวิธีแก้ปัญหาได้”
“ยังมีวิธีไหน?” แพทย์ทุกคนจ้องมองฉินหลาง ระบบต่างๆ ในร่างกายของรั่วปินกำลังจะหยุดทำงานแล้ว ต่อให้ฮัวโต๋มาเองก็คงจนปัญญาแล้วเหมือนกัน
ฉินหลางไม่ได้สนใจว่าแพทย์พวกนี้จะคิดยังไง เอายากุยซีหวันละลายกับสารอาหาร แล้วฉีดเข้าไปในเส้นเืของรั่วปิน เมื่อไรที่ใช้ยากุยซีหวัน ผู้ป่วยก็จะอยู่ในสภาวะตายหลอก ชีพจรและการเต้นของหัวใจ ลดลงต่ำที่สุดจนเกือบจะหยุดนิ่ง แบบนี้จะช่วยให้พิษกำเริบช้าลง
เพียงแต่รั่วปินจะหมดสติไปในระหว่างนี้
ถ้าหากฉินหลางไม่สามารถถอนพิษได้ เธอก็จะตายไปในขณะหลับ
อย่างน้อย ก็ช่วยหลีกเลี่ยงความเ็ปตอนพิษกำเริบ
เมื่อกุยซีหวันถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายรั่วปินแล้ว ทั้งชีพจร และการเต้นของหัวใจลดลงต่ำสุด นั่นทำให้แพทย์และรั่วไห่ชวนใไปตามๆกัน คิดว่าฉินหลางทำพังแล้วซะอีก แต่ว่า แต่ว่าเมื่อการเต้นของหัวใจเธอลดลงจนถึง นาทีละหกถึงเจ็ดครั้งไม่น่าเชื่อว่ามันจะคงที่ ระบบการทำงานอื่นๆของร่างกาย เมื่อลดลงต่ำสุดแล้วก็คงที่ด้วยเช่นกัน—
เหลือเชื่อจริงๆ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้