เสิ่นชิงนั่งอยู่ในห้องนอนของหลี่ชิงหยุน และกำลังมองไปรอบๆ ดูเหมือนว่านางจะสนใจในตัวของเขาอย่างมาก ดังนั้นนางจึงอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับตัวเขาจากบางอย่างในห้องนี้
ห้องนอนของหลี่ชิงหยุนมีเตียงเปล่าหนึ่งเตียง นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรที่สะดุดตาเป็พิเศษ นอกเสียจากชั้นวางหนังสือและหนังสือที่จัดอย่างเป็ระเบียบจำนวนมาก
หนังสือมีหลากหลายอาชีพจัดเป็หมวดหมู่ซึ่งเป็หนังสือขั้นพื้นฐาน เช่นหนังสือสมุนไพร เทคนิคการบ่มเพาะพลัง หนังสือขบวนค่ายกลและความรู้ต่างๆในชีวิตที่แล้วของเขา เขาได้บันทึกไว้ในหนังสือบนชั้นวางพวกนี้ มันอาจจะมีประโยชน์สำหรับคนในตระกูลของเขาในภายภาคหน้า
'หนังสือพวกนี้ เห็นได้ชัดว่ารอยหมึกยังไม่แห้ง อย่าบอกนะว่าเขาเป็คนเขียนมันขึ้นมาทั้งหมด?' เสิ่นชิงไล่อ่านหนังสือทีละเล่มบนชั้นวางในขณะที่รอหลี่ชิงหยุนเตรียมการสำหรับการปลุกร่างกายของนาง
ผ่านไป 10 นาที หลี่ชิงหยุนเดินเข้ามาพร้อมชุดเข็มสีทองและขวดหยกที่บรรจุเม็ดยาที่อยู่ในมือ
ทันใดนั้นเขาเห็นว่าเสิ่นชิงกำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือบางเล่ม แต่เขาไม่ได้พูดอะไรที่เป็การรบกวน และนั่งรออย่างเงียบๆ
เสิ่นชิงดูเหมือนจะรู้สึกได้ว่าหลี่ชิงหยุนเดินเข้ามาแล้ว นางหยุดอ่านหนังสือที่สนใจและเงยหน้าขึ้นมาโดยพลัน
"ชิงหยุน หนังสือพวกนี้เ้าเป็คนเขียนเองทั้งหมดเลยหรือ?" ด้วยความสงสัยเสิ่นชิงจึงถามหลี่ชิงหยุนทันที
หนังสือทั้งหมดในห้องนี้เป็สิ่งที่มีค่าอย่างมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกทัศน์ของนางได้ถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์
แต่หลี่ชิงหยุนส่ายหัวเบาๆและยิ้ม "ไม่ใช่ข้า แต่เป็อาจารย์ของข้า หนังสือในห้องนี้ถือว่าเป็พื้นฐานของอาชีพและทักษะทั้งหมดที่ได้จากท่านอาจารย์"
ในความเป็จริงหลี่ชิงหยุนได้ตัดสินใจเขียนสิ่งนี้เพื่อที่จะส่งต่อให้ผู้คนในตระกูลหลี่ได้อ่านมัน เพียงแต่ตอนนี้สมาชิกตระกูลหลี่ได้ออกไปค้าขายในเมืองหลวงและไม่ค่อยได้กลับมา ซึ่งตอนนี้ที่ตระกูลมีสมาชิกอยู่ไม่เกิน 10 คนเท่านั้น
"หนังสือพวกนี้มีค่ามากจริงๆ แม้จะเป็เพียงพื้นฐานแต่มันก็อยู่คนละระดับกับหนังสือทั่วไปที่ข้าเคยเจออย่างมาก" เสิ่นชิงประหลาดใจเล็กน้อยกับหนังสือแต่ละเล่ม
แต่หลี่ชิงหยุนแค่ยิ้มจางๆ และตัดสินใจเปลี่ยนเื่คุย ให้เสิ่นชิงมุ่งความสนใจกับการปลุกร่างกายฟีนิกซ์โบราณทันที "เอาล่ะ มาเริ่มกันเถอะ"
"ในขวดนี้มีเม็ดยาล้างไขกระดูก มันจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและทำความสะอาดเส้นลมปราณให้ไหลลื่น อีกทั้งเพิ่มอัตราการดูดซับพลังฉีแห่ง์และโลกจะเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว" ในขณะที่กำลังพูด หลี่ชิงหยุนพลางยื่นขวดหยกให้กับเสิ่นชิงและแนะนำวิธีการ
"ข้าได้เตรียมถังอาบน้ำไว้ให้เ้าแล้ว เมื่อดูดซึมผลของยาเรียบร้อย เ้าควรทำความสะอาดร่างกาย จากนั้นเราจะเริ่มการฝังเข็มทันที... ข้าจะออกไปรอเ้าด้านนอก" หลี่ชิงหยุนพูดอธิบายตามขั้นตอนอย่างละเอียด
"ขอบใจเ้ามาก" เสิ่นชิงยิ้มอย่างอ่อนหวาน
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าอย่างเข้าใจ พร้อมเดินออกจากห้องของเขาและเดินไปนั่งตรงลานกว้างด้านนอก เขาเตรียมตัวจะเข้าสู่เจดีย์ปฐมกาลอีกครั้งทิ้งให้เสิ่นชิงได้ใช้เวลาของนาง
เมื่อหลี่ชิงหยุนอยู่ที่ชั้นแรกของเจดีย์ เขาเดินตรงไปที่ลานบ่มเพาะพลังและนั่งลงเข้าสู่สมาธิ
ขณะนี้หลี่ชิงหยุนกำลังจะเรียนรู้ทักษะการเคลื่อนไหวที่มีชื่อว่า 'ทักษะ 9 ก้าวลวงตา' ที่ยังค้างคาอยู่ในหัวของเขา
มันคือทักษะความเร็วซึ่งคล้ายกับเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจากอีกจุดไปยังอีกจุดด้วยความเร็วที่สายตามองตามไม่ทัน เขามีข้อมูลทักษะนี้อยู่ในความทรงจำของเขาั้แ่ในอดีต แต่เมื่อเขาพยายามนึกคิดที่มาของมัน เขากลับจำไม่ได้ว่าเขาได้ทักษะนี้มาได้อย่างไร
หลี่ชิงหยุนส่ายหัวเลิกคิดเกี่ยวกับที่มาของมัน เขาหลับตาและเริ่มเรียนรู้ทักษะการเคลื่อนไหวนี้ทันที
.
.
.
ในห้องนอนของหลี่ชิงหยุน ตอนนี้เสิ่นชิงกำลังนั่งดูดซึมผลของยาล้างไขกระดูก ร่างกายของนางมีเมือกสีดำไหลผ่านออกมาจากรูขุมขน เมือกสีดำนี้ส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เป็สัญญาณบ่งบอกว่าของเสียที่ตกตะกอนในร่างกายถูกขับออกมาหมดสิ้น หลังจากนั้นไม่นานนางสิ้นสุดกับดูดซึมเม็ดยา ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายทันที
เมื่อผ่านไปไม่นาน หลี่ชิงหยุนที่กำลังรออยู่นอกห้องอย่างเงียบๆและได้ยินเสียงเปิดประตูออกมาจากห้องของเขา เมื่อหันกลับไปเขาพบว่ามีสาวงามในชุดลำลองสีขาวยืนอยู่ ผิวของนางขาวดุจหิมะ ผมยาวของเธอถูกมัดขึ้นไป้า ร่างกายของนางส่งกลิ่นหอมจางๆของธรรมชาติออกมา
นางคือเสิ่นชิงหลังจากที่ชำระล้างสิ่งสกปรกแล้ว ตอนนี้นางดูสวยงามราวกับเทพยดาอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อสังเกตุเห็นว่าหลี่ชิงหยุนจ้องมาที่เธอโดยไม่กระพริบตา เสิ่นชิงเริ่มรู้สึกเขินอายและหันหน้าหนีพลางบิดตัวไปมา "ชิงหยุน... ข้าอาบน้ำเสร็จแล้ว"
หลี่ชิงหยุนหลุดจากภวังค์ที่สวยงามเมื่อเสิ่นชิงพูดขึ้นมา เขาส่ายหัวเบาๆและตอบกลับ "เอาล่ะ ข้ากำลังไป"
หลังจากนั้นหลี่ชิงหยุนได้นั่งอยู่ด้านหลังของเสิ่นชิงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปลุกร่างกายเอกลักษณ์ของนาง
หลี่ชิงหยุนไอเบาๆและพูดอย่างตะกุกตะกักเล็กน้อย "อะแฮ่มๆ เสิ่นชิง ช่วยถอดเสื้อชั้นนอกออกได้หรือไม่?"
ขณะนี้เสิ่นชิงกำลังนั่งหันหลังให้กับหลี่ชิงหยุน นางรู้สึกอายมากจริงๆเมื่อคิดว่าชายหนุ่มผู้นี้จะได้เห็นเรือนร่างที่สวยงามของนาง
แต่เสิ่นชิงก็ไม่คัดค้าน ก่อนจะเอื้อมมือถอดเสื้อนอกออกอย่างช้าๆเผยให้เห็นผิวสีขาวน้ำนม และเอวที่คอดเรียว ร่างกายของนางในตอนนี้มีเพียงผ้าสีขาวที่คาดปิดหน้าอกอยู่เท่านั้น
เมื่อเห็นภาพที่สวยงามนี้หลี่ชิงหยุนรู้สึกกระอักกระอวนใจจนน้ำลายแทบจะไหล 'ให้ตายเถอะ! ช่างสวยงามเสียนี่กระไร'
หลี่ชิงหยุนทำได้เพียงหลับตาเพื่อสงบสติอารมณ์ เมื่อเสิ่นชิงเห็นว่าเขาเงียบไปนางจึงหันกลับไปมอง และเห็นว่าหลี่ชิงหยุนกำลังหลับตาเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน เสิ่นชิงหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานในใจ 'ดูเหมือนว่าเขาเองก็อายเป็เช่นกัน'
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาสงบสติอารมณ์ได้แล้ว หลี่ชิงหยุนจึงลืมตาขึ้นมาช้าๆ พร้อมกับพูดน้ำเสียงที่สงบ "เอาล่ะ เช่นนั้นข้าจะเริ่ม"
เมื่อพูดจบเขาหยิบเข็มสีทอง ปักตรงตำแหน่งต่างๆที่ด้านหลังของเสิ่นชิง ทั้งหมด 12 จุด พร้อมด้วยส่งฉีสีทองบางส่วนออกไปเข้าสู่เส้นลมปราณหลัก อีกทั้งด้วยเนตรปฐมกาลที่เขามี เขาสามารถมองผ่านร่างกายของเซินชิงได้อย่างแม่นยำ
"อาห์~" เสียงครวญครางเบาๆเล็ดลอดออกมาจากปากของเสิ่นชิงเมื่อััได้ถึงเข็มที่กำลังปักทีละเข็มกลางกระดูกสันหลังของนางและส่งกลิ่นอายอบอุ่นเข้ามา
"อย่าส่งเสียง! มุ่งความสนใจให้ดี" หลี่ชิงหยุนอดไม่ได้ที่จะตักเตือนเสิ่นชิง
หากนางยังคงส่งเสียงเย้ายวนเช่นนี้ เขาอาจจะเสียสมาธิได้ เพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ไม่เหมือนเส้นลมปราณทั่วๆไป แต่เกิดจากร่างกายที่เป็เอกลักษณ์ของบุคคล ถ้าเขาพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ทุกอย่างจะจบลงไม่สวยเป็แน่
"ซู่!"
ในทันใดนั้นพลังปราณสีแดงชาดปะทุออกมาจากร่างกายของเสิ่นชิงอย่างควบคุมไม่ได้ ในขณะที่นางกำลังกัดฟันอย่างเ็ปและทรมาน
แม้ว่าขั้นตอนใน่แรกๆอาจจะรู้สึกดีอยู่บ้าง แต่ในขณะนี้เสิ่นชิงกำลังประสบกับความเ็ปที่แสนสาหัสกำลังไหลเวียนไปทั่วเส้นลมปราณ
เหงื่อสองสายกำลังไหลผ่านหน้าผากของเสิ่นชิงหยดลงสู่พื้นอย่างช้าๆ มือทั้งสองของนางกำลังประสานไว้ตรงจุดตันเถียน
วินาทีต่อมาร่างกายของนางเริ่มลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีชาด ผิวสีขาวน้ำนมแปรเปลี่ยนเป็สีแดงเข้ม จู่ๆเปลวเพลิงกำลังรวมตัวกันก่อให้เกิดภาพลวงตาของฟีนิกซ์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นด้านหลังของเสิ่นชิงพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหู
"กรรร์"
หลังจากเสียงกรีดร้องของฟีนิกซ์ดังขึ้นในห้อง ทำให้เกิดการสั่นะเืเบาๆ
ไม่นานนักภาพมายาของฟีนิกซ์ขนาดใหญ่เริ่มจางหายเข้าไปในร่างของเสิ่นชิง แต่กลับปรากฏให้เห็นมงกุฏสีแดงเลื่อมทองบนหัว ร่างกายของนางยังมีเสื้อคลุมเพลิงขนาดใหญ่พาดไหล่ที่เรียวบางไว้
เสิ่นชิงในขณะนี้ดูประดุจดั่งจักรพรรดินีแห่งเผ่าฟีนิกซ์อย่างไรอย่างนั้น!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้