ถังชิงหรูเคยได้ยินเกี่ยวกับของสิ่งนี้มาบ้าง แต่เป็เพียงคำอธิบายสั้นๆ ที่พิพิธภัณฑ์ในศตวรรษที่สามสิบเอ็ด แต่ในส่วนของรายละเอียดนางไม่เคยมีความรู้มาก่อน
นางเรียกเสี่ยวอีในใจ แต่ไม่มีเสียงตอบกลับเหมือนตายไปแล้ว นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีนัก ความรู้สึกไม่สบายใจแบบนี้มีเหตุมาจากนางไม่มีคนไข้รักษามาพักใหญ่ แต้มจิตพิสัยจรรยาแพทย์จะมีเหลืออยู่บ้างหรือไม่มิอาจรู้ได้ หากไม่เหลือ เสี่ยวอีก็เปิดระบบไม่ได้ โหมดป้องกันตัวยิ่งไม่ต้องพูดถึง หากพบกับอันตรายคงได้แต่เผชิญหน้าด้วยตนเองเท่านั้น
"คิดตกหรือยัง" บุรุษสวมหน้ากากเอ่ยถามเสียงเรียบ
"มีสิ่งใดต้องใคร่ครวญ ใคร่ครวญว่าจะตายอย่างไรน่ะหรือ" ถังชิงหรูแค่นเสียงเยาะ "ท่านกล่าวเช่นไร ข้าก็จะทำตามนั้น"
"อื้ม เชื่อฟังดีมาก" เขาผงกศีรษะอย่างพึงพอใจ "เมื่อเป็เช่นนี้ ก็อยู่ที่นี่อย่างสงบเสงี่ยม อย่าไปไหนมาไหนส่งเดช หาก้าใช้เ้าเมื่อไร ข้าจะส่งคนมารับเอง"
หลังจากสนทนากับบุรุษผู้นั้นได้ไม่นาน เขาก็ไปจากหอคณิกา ส่วนนางก็ถูกขังในห้อง ไปไหนไม่ได้ทั้งสิ้น
ระหว่างนั้นมีแม่เล้าเข้ามาส่งน้ำชาและขนมหนหนึ่ง นางมองถังชิงหรูด้วยสายตาเคลือบแคลง เหมือนอยากจะเอ่ยบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ทำหน้าเ็าใส่แล้วก็จากไป ถังชิงหรูรู้สึกว่าคนที่นี่จิตป่วยกันทุกคน แต่ขอเพียงไม่มาหาเื่นาง พวกเขาจะจ้องจับผิดใครก็เป็เื่ของพวกเขา
"ตึง...ตึง..." เสียงกิจกรรมข้างห้องเล็ดลอดเข้ามาจนถังชิงหรูใตื่น
กราบล่ะ... ถึงแม้ว่านางจะมีคนมีเกี้ยวพาราสีมากมาย แต่ก็ยังเป็หญิงสาวไม่รู้ประสา ของแคลอรีสูงแบบนี้อย่าเอามาให้กินได้หรือไม่ นางรับไม่ไหวจริงๆ
ขณะที่กำลังพร่ำบ่นอยู่ในใจ ก็มีคนผลักประตูเข้ามา นางมองไปด้วยแววตาเฉียบคม ยามเห็นหน้ากากที่คุ้นเคย จึงค่อยรั้งสายตากลับมาอย่างช้าๆ
บุรุษสวมหน้ากากเดินเข้ามาหยุดตรงหน้านาง เขาไม่พูด นางก็ไม่พูด จนผ่านไปครู่ใหญ่ ถังชิงหรูเริ่มผิดสังเกต จึงมองเขาด้วยสายตาคลางแคลง ก่อนเอ่ยถามอย่างงุนงง
"มีอันใด"
"ท่าทางเ้าจะสุขสบายไม่เลว เสียแรงที่ข้าอุตส่าห์เป็ห่วง" น้ำเสียงขุ่นเคืองผ่านเข้ามาในรูหูของนาง
ถังชิงหรูได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยก็จดจ้องบุรุษตรงหน้าอยู่นาน ก่อนยกมือขึ้นชี้สีหน้าตะลึงพรึงเพริด "ท่าน..."
"ชู่!" คนผู้นั้น หรือก็คือเฉินิปลอมตัวมาเป็ชายผู้สวมหน้ากากแค่นเสียงหึ "เ้าอยากให้ข้าตายหรือไร"
"ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร" ถังชิงหรูมองไปโดยรอบ พลางกดเสียงกระซิบ "ยังหาหน้ากากแบบนี้มาได้อีกด้วย"
"ของพรรค์นี้ใช่ว่าหายากเสียเมื่อไร ข้าเคยเห็นครั้งหนึ่ง ต่อมานึกสนุกก็เลยทำขึ้นมาเล่นเอง" เฉินิถอดหน้ากากออก ก่อนมองมันด้วยสายตาเยียบเย็น "แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะถึงขนาดช่วยชีวิตข้าไว้ได้ หากไม่สวมมันไว้ วันนี้ข้าคงตายอยู่ข้างนอกแล้ว หรูเอ๋อร์ หากข้าตาย เ้าจะร้องไห้ไหม"
เมื่อครู่นี้ยังทำจริงจังอยู่ ตอนนี้กลับเปลี่ยนมาเป็เ้าเด็กเกเรเอาแต่ใจอีกแล้ว ดวงเนตรที่เชิดขึ้นน้อยๆ ประหนึ่งกำลังบอกว่าเ้าลองพูดว่าไม่ดูสิ
ถังชิงหรูเห็นแขนของเขาได้รับาเ็ก็ลากมานั่งบนเตียง ที่นี่ไม่มีล่วมยาจึงได้แต่ใช้แถบผ้าพันไว้ก่อน
"ท่านนี่ชอบาเ็เสียจริง รักตนเองบ้างสักนิดมิได้เลยหรือ เคราะห์ดีที่าแไม่ลึกและไม่มีพิษ มิเช่นนั้นตอนนี้คงไม่มียาแก้แล้ว ถึงหาข้าพบก็ไม่มีปัญญาช่วยชีวิต" ถังชิงหรูเอ่ยเสียงเรียบ "สองสามวันนี้พวกเขาจับตาดูข้าอย่างเคร่งครัด หนีไปไม่ได้เลย แล้วข้าก็ถูกพิษกู่ด้วย บุรุษผู้นั้นสามารถควบคุมข้าได้ตามอำเภอใจ ยิ่งหนีไปไหนไม่รอด เมื่อครู่ฟังจากความหมายที่เขาพูด ตอนนี้เขาจะไม่ทำร้ายท่านถึงชีวิต แล้วท่านไปถูกผู้ใดทำร้ายมาเล่า"
"ที่เขาไม่ทำร้าย ก็เพราะว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่ อีกอย่าง สถานะของเปิ่นหวางสูงส่ง เ้าพวกผีชั้นปลายแถวเ่าั้ชอบมาหาเื่เปิ่นหวางอยู่เรื่อย ต่อให้ยมทูตขาวไม่คิดสังหาร ยมทูตดำก็อยากจะจับตัวข้าอยู่ดี" เฉินิกอดเอวนางก่อนวางศีรษะบนลาดไหล่บอบบาง "เมื่อครู่เ้าบอกว่าถูกพิษกู่ของคนเ่าั้ แล้วจะทำอย่างไรดีเล่า ข้ายังคิดอยู่ว่าจะช่วยเ้าออกมาให้ได้ เพื่อช่วยเ้าแล้ว ข้าลงทุนโยนตัวเองเข้าแห บุกมาถึงสาขาของพวกเขา หรือจะให้ข้ากลับไปมือเปล่า?"
"ข้าไม่รู้เกี่ยวกับพิษกู่ ตอนนี้จึงยังหาทางขับมันออกไปไม่ได้ ท่านอย่าห่วงข้าเลย สนใจตนเองก็พอ ไม่ว่าอย่างไร แค่ท่านตามมาช่วยข้า ก็แสดงว่ามิตรภาพระหว่างข้ากับท่านไม่สูญเปล่า" ถังชิงหรูผลักศีรษะเขาออกไป ก่อนดิ้นออกมาจากอ้อมแขน "ต่อไปท่านมีแผนการอย่างไรบ้าง จะทนอยู่ต่อไปให้คนผู้นั้นโขกสับงั้นหรือ"
"ข้าคิดไว้ว่าจะกลับเมืองหลวง เ้าไปกับข้าเถอะ" เฉินิมองนางด้วยแววตาอ่อนโยน "ที่นั่นมีหมอเทวดาชื่อเสียงเป็ที่รู้จัก ต้องขับหนอนกู่ในร่างกายเ้าออกมาได้แน่"
"อย่าโง่หน่อยเลย หากขับออกได้ง่ายดายปานนั้น ข้าก็ทำเองได้แล้วสิ" ถังชิงหรูสั่นศีรษะ
"แต่เ้าจะอยู่ข้างกายคนผู้นั้นไม่ได้ แบบนั้นมันอันตรายเกินไป เขาเหนี่ยวรั้งเ้าไว้เพื่อใช้ข่มขู่ข้า หากเ้าไปจากเมืองชิ่ง ก็รอดพ้นจากการควบคุมของเขาแล้ว อย่างไรเสียเ้าก็ไม่มีประโยชน์ต่อเขาสักเท่าไร ถึงเวลาความเป็ความตายของเ้า ก็ใช่ว่าจะอยู่ในมือของตัวเ้าเอง แต่ขึ้นอยู่กับคำสั่งของพวกเขาเพียงแค่ประโยคเดียว" เฉินิดึงมือนางกลับมา พลางมองด้วยสีหน้าตึงเครียด "หากรู้แต่แรกว่าจะเกิดเื่มากมายเช่นนี้ ข้าให้เ้าตามน่าหลันหลิงไปเสียก็ดี อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าไม่มีภัยถึงชีวิต"
ถังชิงหรูพูดในใจ ก็ไม่แน่หรอก น่าหลันหลิงก็มีความแค้นของน่าหลันหลิง คนที่อยากสังหารเขาไม่เคยผ่อนปรนการเฝ้าระวังแม้แต่ชั่วเค่อเดียว
นางพลันนึกถึงคลังสมบัติแห่งนั้นของเผ่าอิงกู หากนางสามารถนำสิ่งของของมารดาออกมาได้ จะได้ให้คนโบราณเหล่านี้ได้ลิ้มรสความร้ายกาจของพวกมันเสียบ้าง น่าเสียดาย ของไฮเทคเ่าั้ถูกฝังอยู่ใต้เขาลูกนั้นไปเสียแล้ว ยามนี้ไม่มีกุญแจเปิดกลไก ของล้ำค่าเ่าั้คงไม่มีวันได้เห็นแสงตะวันชั่วนิรันดร์
"นายท่าน..." เสียงแม่เล้าดังมาจากด้านนอก "ข้าน้อยมีเื่สำคัญรายงาน"
ถังชิงหรูขึงตาใส่เฉินิ ชี้ไปที่นอกประตู บอกให้เขาหาทางไล่คนผู้นั้นไป
เฉินิชี้ไปที่คอของตนเอง แสดงให้รู้ว่าเขาไม่สามารถเลียนเสียงของคนผู้นั้นได้ เมื่อครู่ที่เข้ามาได้เพราะอาศัยโชคช่วยที่แม่เล้าไม่อยู่พอดี จึงตีมึนเดินเข้ามาเฉยๆ
ถังชิงหรูถลึงตาใส่เขาอย่างไม่ได้ดังใจ นางปล่อยม่านเตียงลงก่อนขึ้นไปทับเขาไว้
เฉินิมองนางอย่างตกตะลึง ใบหน้าของเขาแดงซ่าน ทำตาปริบๆ ทว่าดวงตาคู่นั้นทอประกายวาววับอย่างเห็นได้ชัด ประหนึ่งกำลังรอคอยว่านางจะทำอะไรต่อไป
ถังชิงหรูไม่ได้สังเกตท่าทางชอบกลของเฉินิ ตาของนางมองไปที่ประตู พบว่าคนผู้นั้นยังไม่ไป นางจึงก้มลงนัวเนียกับเฉินิแล้วกระซิบข้างหู "ครางสักหน่อยสิ"
"เสียงข้าไม่เหมือน" เฉินิหน้าแดงตอบกลับมา
ถังชิงหรูขบคิด ก็เห็นจริงดังว่า สาเหตุที่เฉินิไม่ยอมพบแม่เล้าเพราะวิตกว่าจะถูกจับได้ หากตอนนี้เปล่งเสียงออกไปจะต้องถูกจับได้เป็แน่ นางกระแอมกระไอให้คอโล่งแล้วทำเสียงกระเส่า "คุณชาย... อย่าทำเช่นนี้สิ อา..."
เสียงชายหญิงข้างห้องยังคงทำกิจกรรมกันอย่างต่อเนื่อง สตรีตรงหน้ายังมาใช้น้ำเสียงยั่วยวนตนเอง หนุ่มน้อยที่หวาดกลัวสตรีเช่นเฉินิถูกยั่วยวนจนเกิดอารมณ์เป็ครั้งแรก เขาจึงก้มลงมาแล้วจูบนางเสียเลย ถังชิงหรูเบิกตากว้าง จุมพิตของเขาเร่าร้อนและล้ำลึกขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเกิดเสียงดังออกมา
สตรีหน้าห้องยังไม่ไป เห็นชัดว่ากำลังรอการตอบสนองจากในห้อง ดูท่าครานี้คงจะเป็เื่สำคัญมากจริงๆ นางถึงกล้ามาขัดเื่พรรค์นี้ของเ้านาย
ถังชิงหรูหาได้ผลักเขาออก ท่าทางของเฉินิดูผิดปรกติ นางพลันนึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้คือหอนางโลม อากาศด้านนอกล้วนมีแต่กลิ่นกำยานกระตุ้นกำหนัด เขาเข้ามาจากด้านนอก ย่อมได้รับผลกระทบอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง หากไร้สิ่งกระตุ้นเขาก็ยังสามารถข่มอารมณ์พลุ่งพล่านได้ แต่ตอนนี้นางใช้น้ำเสียงออดอ้อนฉอเลาะ เืลมในกายของคนหนุ่มไหนเลยจะระงับได้
"หรูเอ๋อร์..." แววตาของเฉินิเข้มขึ้น
ถังชิงหรูลอบร้องในใจว่าแย่แล้ว เ้าหนุ่มนี่เกิดอารมณ์จริงๆ เข้าแล้ว
นางรัดเอวของเขาไว้ ก่อนเป็ฝ่ายประกบริมฝีปากของเขา
แม่เล้าผู้นั้นยังไม่ไปไหน เสียงของเฉินิที่เล็ดลอดออกไปเมื่อครู่เกือบทำเสียเื่ซะแล้ว แม่เล้าที่กำลังจะไป พอได้ยินเสียงด้านในก็ถึงกับหยุดชะงัก นางเห็นเงายังอยู่ที่ประตู ไหนเลยจะกล้าหยุด จำต้องให้ละครฉากนี้ร้องต่อไป แต่หากนางยังไม่ยอมไปอีกเกรงว่าคงจะร้องต่อไปไม่ไหวแล้ว
ขืนร้องต่อไป เกรงว่าจากแค่ละครหลอกจะกลายเป็ความจริง
"อืม..." ถังชิงหรูถูกไก่อ่อนผู้นั้นกัดเข้าคำหนึ่ง เจ็บจนร้องออกมา "เจ็บ... ท่านเบาหน่อยซี..."
ถังชิงหรูถลึงตาใส่ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ในที่สุดแม่เล้าผู้นั้นก็ไป
ถังชิงหรูผลักเฉินิออกไปชนกับมุมเตียงเสียงดังปึ้ง หน้าผากบวมปูดเป็รอยช้ำ
เฉินินวดหน้าผากด้วยความรู้สึกเจ็บ มองสตรีตรงหน้าด้วยสีหน้าหวาดผวาดั่งกลัวว่าจะถูกนางข่มเหง
"ข้าทำอะไรลงไป" เฉินิสะบัดมือตบหน้าของตนเอง
ถังชิงหรูรีบจับแขนของเขาไว้ เอ่ยปากอย่างไม่สบอารมณ์ "ท่านอยากเรียกร้องความสนใจจากคนเ่าั้หรือไร"
"หรูเอ๋อร์..." เฉินิจับข้อมือของนาง "ข้ามันเดรัจฉาน ถึงขนาดข่มเหงเ้า เ้าจะตีข้าด่าข้าอย่างไรก็ได้ แต่อย่าโกรธข้าเลยนะ"
"ท่านรังแกข้า ยังจะไม่ให้ข้าโมโหอีกรึ" เดิมทีถังชิงหรูอยากระบายอารมณ์ แต่เื่เมื่อครู่นางเองก็มีส่วนผิด อีกอย่างเขาได้รับผลกระทบมาจากฤทธิ์ยา ดังนั้นจึงไม่ได้โมโหมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น... เ้าหนุ่มนี่ก็จูบไม่เป็ แบบเมื่อครู่นี้เรียกว่าจุมพิตรึ อย่างกับสัตว์ร้ายกำลังแทะเหยื่อของตนก็ไม่ปาน แทบจะฉีกนางออกเป็แปดส่วนเลยเถอะ!
"ได้สิ แต่ว่าพอเ้าโกรธทีไร ก็หมางเมินข้าทุกที พอถูกเ้าหมางเมิน ข้า... ก็จะรู้สึกทรมานใจ" น้อยครั้งที่เฉินิจะแสดงความอ่อนแอออกมา คนที่หยิ่งผยองขนาดนั้น ปรกติก็ชอบวางอำนาจ ไหนเลยจะต้องดูสีหน้าผู้อื่น พอมาใคร่ครวญดีๆ แล้ว บุรุษผู้นี้ก็ไม่เลวนัก หากอยู่ในยุคปัจจุบัน นางคงยอมรับบุรุษแบบนี้ได้
"ครานี้กว่าจะลอบเข้ามาไม่ง่าย ท่านควรรีบออกไปได้แล้วล่ะ" ถังชิงหรูตบๆ บ่าของเฉินิ "ไปทางหน้าต่าง ข้ากลัวว่าหากออกทางประตูอาจจะพบกับสตรีผู้นั้น หากถูกพบว่าผิดสังเกตจะแย่เอาได้ แม้ว่าไม่เคยเจอมาก่อน แต่ข้ารู้สึกว่านางน่าจะเป็ผู้เยี่ยมยุทธ์"
"หากไม่พาเ้าไปด้วย แล้วข้าจะไปคนเดียวได้อย่างไร ข้ามาที่นี่ก็เพื่อมาหาเ้าโดยเฉพาะ" เฉินิกล่าวด้วยความกลัดกลุ้ม