ณ ภัตตาคารเทียนซาน หลินเฟิงกำลังนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะ
สำหรับหินหยวนที่เขาได้ในการประมูลนั้น เขาไม่รีบร้อนที่จะไปรับและก็ไม่ได้หนีไปไหน
“เ้ารู้เื่หรือยัง ว่าเมื่อเร็วๆ นี้มีสมบัติล้ำค่าปรากฏในเมืองเทียนลั้ว” ในขณะนั้นได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ซึ่งดึงดูดความสนใจผู้คนที่ผ่านไปมา
“เมื่อไม่กี่วันมานี้ ข้ายังได้ยินมาว่าสมบัติล้ำค่าที่ปรากฏออกมานั้น ยังไม่มีใครพบมัน”
“เป็ไปได้ยังไง สมบัติอันล้ำค่าปรากฏขึ้นมาทั้งที ทำไมถึงไม่มีข่าวเลยล่ะ”
“หึ นั่นเป็เพียงสิ่งที่เ้าคิด หากสมบัติที่ว่าปรากฏจริง มันก็ใช่ว่าจะเป็ที่ล่ำลือกันเสียเมื่อไร”
สองคนนั้นคุยกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าข่าวลือนั้นมาจากไหน ซึ่งน้ำเสียงของพวกเขาดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกลัวผู้คนจะไม่ได้ยิน
“สมบัติพิเศษที่ว่า ใช่หม้อัเก้า์ไหมนะ?” หลินเฟิงกล่าวขณะส่ายหัว
“หลินเฟิง”
ขณะนั้นมีเสียงะโไล่หลังเขามา ทำให้หลินเฟิงต้องแปลกใจ เมื่อมองไปที่ชั้นล่าง เขาก็เห็นหลันเจียวยืนอยู่ตรงนั้น
ดวงตาของหลินเฟิงฉายแววสงสัยขึ้นมา นางจะมาอีกทำไมกัน?
“หลินเฟิง?”
ผู้คนในภัตตาคารต่างประหลาดใจ จากนั้นพวกเขาก็หันไปมองหลินเฟิงทันที เขาก็คือหลินเฟิง? ผู้ที่สังหารปิงหยวนไปเมื่อวาน และยังทำให้คุณชายเตาต้องพ่ายแพ้ไปด้วยดาบเดียว?
ตอนนั้นเองหลันเจียวก็เดินขึ้นมาหาหลินเฟิงที่ชั้นสอง นางในตอนนี้ไม่มีความโกรธเกรี้ยว มีแต่รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวน
เมื่อเดินมาถึงโต๊ะของหลินเฟิง หลันเจียวก็กล่าวเสียงหวานว่า “คุณชายหลิน ท่านไม่ดีใจหรือที่เห็นข้ามา?”
หลินเฟิงเงยหน้ามองหลันเจียว จากนั้นก็กล่าวอย่างเฉยชาว่า “ทำไมวันนี้ไม่เห็นใส่เสื้อบางเบาเลยล่ะ?”
“เ้า…” หลันเจียวซ่อนความโกรธไว้ขณะจ้องไปที่หลินเฟิง ไอ้สารเลวนี่... ช่างทำตัวไร้ยางอายเหลือเกิน
“หลินเฟิง ข้านำ 20,000 หินหยวนระดับกลางมาให้เ้า” หลันเจียวกล่าวอย่างแดกดันขณะมองหลินเฟิง คราวนี้นางจะต้องสั่งสอนเขาให้ได้
“เอามาสิ” หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแสพลางจิบสุราไป ซึ่งทำให้หลันเจียวถึงกับตกตะลึง
“เ้าคิดเหรอว่าจะได้ไปง่ายๆ?” หลันเจียวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นะเื
หลินเฟิงเงยหน้ามามองหลันเจียวช้าๆ “นี่คือสิ่งที่หอประมูลเขาทำกัน?”
“นี่เป็วิธีการส่วนตัวของข้า ไม่เกี่ยวกับหอประมูลแห่งความฝัน หากเ้า้าหินหยวนล่ะก็ เ้าจะต้องทำให้ข้ามีความสุข” หลันเจียวกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
หลินเฟิงจ้องเขม็งมาที่หลันเจียวตาไม่กะพริบ ทำให้หลันเจียวรู้สึกอึดอัด
“เอามา!”
หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า เจตจำนงอันหนาวเหน็บได้แผ่ปกคลุมร่างของหลันเจียว
ด้วยเจตจำนงที่หนาวเหน็บนั้น ทำให้รอยยิ้มของหลันเจียวกลายเป็แข็งทื่อ นางกัดฟันแน่นขณะมองไปที่หลินเฟิง “ข้าไม่ให้แล้วจะทำไม!”
“ไม่ให้อย่างนั้นหรือ?” ดวงตาของหลินเฟิงฉายแววเ็าขึ้นมา จากนั้นเขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับปลดปล่อยเจตจำนงที่เยือกเย็นออกมา “แล้วเ้าจะได้เห็นดีกัน!”
หลันเจียวจ้องหลินเฟิงเขม็งด้วยดวงตาแดงก่ำ ทำให้รูม่านตาของหลินเฟิงหดแคบลง เขาไม่เข้าใจว่าหลันเจียว้าจะสื่ออะไร?
ผู้หญิงคนนี้ได้ใช้ทักษะมายาปีศาจกับเขาไปเมื่อคืน แต่วันนี้นางกลับมาคุกคามเขาอีกครั้ง มันทำให้หลินเฟิงรู้สึกรังเกียจและไม่อยากเข้าใกล้นาง
คาดไม่ถึงว่าวันนี้ที่นางมาเพื่อนำหินหยวนมาให้เขา แต่กลับมาข่มขู่เช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
“หลินเฟิง ไอ้คนสารเลว!” หลันเจียวกล่าวพร้อมกับโยนถุงเล็กๆ ลงบนโต๊ะของหลินเฟิง จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
หลันเจียวเกลียด... เกลียดหลินเฟิง เมื่อวานนี้นางได้ใช้ทักษะมายาปีศาจกับเขา ทว่ามันกลับไม่ได้ผลแม้แต่น้อย ทำให้เป้าหมายของนางไม่ลุล่วง วันนี้นางจึงได้นำหินหยวนมาให้หลินเฟิงและกะจะหยอกล้อเล็กน้อย เพื่อทำให้หลินเฟิงต้องขอโทษนาง แต่ไม่คิดว่าหลินเฟิงจะไม่สนใจนางสักนิด มิหนำซ้ำเขาก็ยังปลดปล่อยเจตจำนงอันเยือกเย็น ซึ่งทำให้นางรู้สึกเ็ปอย่างมาก
ที่นางมาในคราวนี้ยังมีอีกหนึ่งจุดประสงค์ เพื่ออยากจะเตือนหลินเฟิงให้ออกไปจากที่นี่
เพราะทูจิ้วกำลังตามหาหลินเฟิงอยู่ และเขา้าจะแย่งชิงไฟปีศาจจากหลินเฟิงไป เกรงว่าอีกไม่นานเขาก็จะตามหาหลินเฟิงเจอ
เมื่อออกมาจากภัตตาคารเทียนซานแล้ว หลันเจียวก็ลอบด่าหลินเฟิงในใจ ไอ้สารเลวคนนี้ไม่ตายดีแน่!
ทูจิ้วจะต้องสังหารหลินเฟิงอย่างแน่นอน แต่หลันเจียวไม่ค่อยเข้าใจหลินเฟิงมากนัก เขาไม่มีทางให้ไฟปีศาจกับทูจิ้วแน่ๆ ดังนั้นมีเพียงความตายเท่านั้น ที่เขาจะต้องเจอ
“เ้าตายไปก็ดี... หึ” หลันเจียวคิดในใจอย่างชั่วร้าย แต่ขณะที่นางเดินไปนั้น จู่ๆ ก็ชะงักไป ในใจของนางตอนนี้กลายเป็สับสน
“ช่างเถอะ ปล่อยให้เขาตายด้วยเงื้อมมือของทูจิ้ว หรือว่าจะง่ายเกินไปสำหรับเขากันนะ?”
หลันเจียวครุ่นคิด จากนั้นนางก็หันหลังกลับ ใช่... จะปล่อยให้หลินเฟิงตายเช่นนี้ไม่ได้
จากนั้นหลันเจียวก็วิ่งกลับไปหาหลินเฟิงที่ภัตตาคารอีกครั้ง
“เ้ากลับมาอีกทำไม?” หลินเฟิงกล่าวอย่างสงสัยขณะมองหลันเจียว
หลันเจียวขบฟันแน่น นางจ้องหลินเฟิงด้วยสายตาเกลียดชังและกล่าวว่า “เ้ารีบไปจากที่นี่เถอะ เพราะมีใครบางคนกำลังจะมาจัดการกับเ้า”
“จัดการข้า?” หลินเฟิงประหลาดใจ จากนั้นเขาก็หัวเราะและกล่าวว่า “มีตั้งหลายคนที่้าจะกำจัดข้า”
“ครั้งนี้มันต่างกัน คนนี้คือทูจิ้ว เขา้าจะแย่งชิงไฟปีศาจของเ้า และเขายังอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตแห่งจิติญญาอีกด้วย ขนาดผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ หากเ้าไม่ให้ในสิ่งที่เขา้าล่ะก็ เขาก็จะสังหารเ้า”
หลันเจียวกล่าวเตือน
“จุดสูงสุดของขอบเขตแห่งจิติญญา ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย?” หลินเฟิงพึมพำ เขาเองก็อยากเห็นว่าพลังที่แท้จริงของจุดสูงสุดของขอบเขตแห่งจิติญญาจะเป็เช่นไร หากไม่ให้ในสิ่งที่เขา้า เขาก็จะสังหารหลินเฟิง?
ขณะมองหลินเฟิงที่ยังมีอารมณ์มาหัวเราะ หลันเจียวก็อดไม่ได้จนต้องะโว่า “ทูจิ้วอาจมาที่นี่เมื่อไรก็ได้ เ้ายังไม่รีบไปอีกเหรอ หรือเ้าอยากตายจริงๆ!”
เมื่อได้ยินคำพูดอันเกรี้ยวกราดของหลันเจียว หลินเฟิงก็เงยหน้ามองหลันเจียวอย่างประหลาดใจ หลันเจียวมาเตือนเขาด้วยเจตนาที่ดี ทว่าดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจนางผิดไป แต่เพราะการกระทำของนางจะไม่ให้หลินเฟิงเข้าใจผิดได้อย่างไร
“ขอโทษที”
หลินเฟิงกล่าวอย่างแ่เบา ด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด นั่นทำให้หลันเจียวต้องประหลาดใจ ไอ้สารเลวคนนี้... รู้จักคำว่าขอโทษด้วย
“เร็วเข้า รีบหนีไป!” หลันเจียวกล่าว แต่หลินเฟิงกลับไม่ขยับไปไหน
หลินเฟิงส่ายหน้าเล็กน้อย ตอนนี้เองกลับได้ยินเสียงเ็าดังมาจากด้านนอก “ไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น!!”
เมื่อได้ยินเสียงที่เ็านี้ หลันเจียวก็ต้องตกตะลึง จบกัน! หลินเฟิงคนสารเลว ไม่ฟังนางและปฏิเสธที่จะหนีไป
“หลินเฟิง ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงคำรามที่แข็งกร้าวดังมาจากด้านนอกภัตตาคาร ทำให้ผู้คนที่กำลังสนุกสนานต้องประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะมีใครเรียกให้หลินเฟิงออกไป
หลินเฟิงเองก็ประหลาดใจเช่นกัน ทูจิ้วเป็ใคร? คาดไม่ถึงว่าจะบ้าระห่ำเช่นนี้
จากนั้นหลินเฟิงก็ลุกขึ้นยืนและเดินลงบันไดไปช้าๆ ไม่นานก็ออกมาจากภัตตาคาร
ด้านนอกภัตตาคารในขณะนั้นมีผู้คนมากมายมามุงดู แต่ตรงกลางมีเพียงทูจิ้ว ชายหัวโล้นผู้เปี่ยมไปด้วยพละกำลังที่รุนแรง และจ้องเขม็งมาที่หลินเฟิงด้วยสายตาอันแหลมคม
“เ้าคือหลินเฟิง?”
เมื่อทูจิ้วเห็นหลินเฟิงเดินออกมา เขาจึงถามอย่างเ็า
“ใช่ ระหว่างข้ากับเ้า ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีความแค้นต่อกันนะ?” หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส
“แน่นอน ตอนนี้เ้าก็จงส่งไฟปีศาจของจิ้งจอกเจ็ดหางมาให้ข้าซะดีๆ เมื่อให้แล้วเ้าถึงจะไปได้ แล้วเื่วันนี้จะไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น”
ทูจิ้วพูดจาข่มขู่ ทำให้ม่านตาของหลินเฟิงต้องหดแคบลง ที่ทูจิ้วมาที่นี่ก็เพื่อแย่งชิงไฟปีศาจ แล้วทำตัวเหมือนกับเขาเป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับขอบเขตแห่งจิติญญาที่ไม่อาจมีใครต่อกรได้ เขาช่างหยาบคายเกินไปแล้ว!