เมืองชิงหยูยามเหมาถึงยามซื่อจะคึกคักไปด้วยแผงขายของ ที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าต่างพามาตั้งขายสองริมข้างทาง หากเข้ายามอู่ไปแล้ว จะเป็บรรดาร้านใหญ่ที่เปิดต้อนรับลูกค้ารับ่ต่อแทน
ทามกลางบรรยากาศการะโแข่งขันเสียงดังเรียกลูกค้า มีหนึ่งสาวงามที่กำลังเดินมองด้วยความรื่นรม แม้นางจะปิดครึ่งใบหน้าด้วยผ้าขาวบาง แต่อย่างไรก็ไม่สามารถปกปิดความงามที่นางมีได้
"นายหญิงน้อย เดินระวังนะเ้าคะ"
"อืม"
รั่วซีเดินตามหลังจิงจิงที่คอยเบิกทางให้ เพื่อไม่ให้ผู้คนมาชนนางเข้า ในมือเรียวสวยก็จับจูงมือเล็กของเหมยหลินไว้ ไม่ให้พวกนางเกิดผลัดหลงกัน
ั้แ่รั่วซีเริ่มทำงานในหออ้ายซ่าย ทำให้ตอนกลางวันนางต้องหยุดพักผ่อน ตลอดหลายปีนี้นางจึงไม่ได้ออกมาเที่ยวชมภายนอกใน่กลางวันเลยสักครั้ง
"พี่สาว ข้าขอกินน้ำตาลปั้นตรงนั้นได้หรือไม่"
"เอาสิ จิงจิงพานางไปหน่อย ข้าจะคอยอยู่ตรงนี้"
"เ้าค่ะ มาสิข้าจะพาไป" เหมยหลินเปลี่ยนคนจับจูง เพื่อจะได้ไปซื้อน้ำตาลปั้นอย่างที่้า ทิ้งให้พี่สาวของนางยืนรออยู่ที่มุมตึกเพียงผู้เดียว
"แม่นาง ทำไมถึงยืนอยู่ตรงนี้ผู้เดียว ให้ข้ายืนเป็เพื่อนดีหรือไม่"
รั่วซีได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดคุยด้วย แต่นางยังคงยืนนิ่งเช่นเดิม ไม่คิดแม้ที่จะตอบกลับเขาสักเพียงครึ่งคำ ชายหนุ่มยิ่งเห็นนางเมินเฉยกับเขาทำให้เริ่มมีโทสะ
เขาเดินตามหญิงสาวมาสักพักแล้ว จนมีโอกาสฉวยจังหวะตอนที่นางยืนอยู่คนเดียว เพื่อเข้ามาพูดคุยด้วย แต่นางกลับไม่แม้หันหน้ามามอง
"แม่นาง โอะ โอ๊ยยย ใครกล้าบังอาจมาจับข้า"
"ข้าเอง สตรีไม่อยากคุยด้วย เ้าจะเซ้าซี้อยู่ใย"
"ทะ ท่านรองแม่ทัพเหอ ชะ เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแม่นางแล้ว ขอตัว" ชายหนุ่มคนที่กำลังจะใช้มือสากจับรั่วซี กลับโดนกระชากกลับอย่างแรง โดยชายหนุ่มที่ร่างกายกำยำกว่า
จากจะหันไปมีเื่ด้วย พอทราบว่าผู้ใดเป็คนเข้ามาขัดขวาง จำกลับต้องยอมล่าถอยออกไป
"ขอบคุณรองแม่ทัพเหอที่ช่วยเหลือเ้าค่ะ"
"เรียกข้าคุณชายเหอเช่นเดิมเถอะ แล้วทำไมถึงมายืนอยู่ผู้เดียว"
"พี่สาว ข้ามาแล้ว"
รั่วซียังไม่ได้ทันตอบคำถาม เหมยหลินก็ะโมาหานางเสียก่อน
"คนของข้ามาแล้ว ขอตัวก่อนนะเ้าคะ"
"เหตุใดไม่แทนตนเหมือนเช่นก่อน"
"ตอนนี้มิใช่เวลาทำงานเ้าค่ะ ข้า...ไม่จำเป็ต้องออดอ้อนใคร"
รองแม่ทัพเหอได้ยินคำตอบของรั่วซี เขานึกขำเอ็นดูนางภายในใจ นางตอนนี้ช่างผิดแปลกกับตอนที่อยู่กับเขายามค่ำคืน
ยามนี้ นางเหมือนหญิงสาวธรรมดาทั่วไปผู้หนึ่งเท่านั้น
"เช่นนั้น จากนี้พวกเ้าจะไปไหนกันต่อ"
"จะพาเหมยหลินไปทานข้าวที่โรงเตี้ยมใกล้ ๆ นี้เ้าค่ะ ขอตัวก่อนนะเ้าคะ" รั่วซีขอตัวกับชายหนุ่มตรงหน้าเป็ครั้งที่สอง เขาก็ยังไม่ยอมขยับร่างใหญ่ที่ยืนขว้างหน้านางออก จนนางต้องเบี่ยงตัวเพื่อหลบเขาเดินออกมาเอง
"เช่นนั้นข้าไปเป็เพื่อนพวกเ้า เกิดมีเหตุการณ์เช่นเมื่อครู่อีก ได้มีคนคอยช่วยเหลือทัน" รองแม่ทัพเหอกล่าวจบก็เดินนำหน้าพวกรั่วซีไป โดยไม่สนใจว่านางจะเต็มใจอยากให้เขาปกป้องหรือไม่
สุดท้ายในห้องอาหารในโรงเตี้ยมจึงประกอบไปด้วย รั่วซี เหมยหลิน จิงจิง และส่วนเกินสำหรับรั่วซีอย่างรองแม่ทัพเหอก็นั่งอยู่ด้วยเช่นกัน
"ข้าเลือกนั่งให้ห้องเช่นนี้ คงไม่มีผู้ใดเข้ามาวุ่นวาย เช่นนั้น..."
"ถือเสียว่าเ้าเลี้ยงตอบแทนข้าเื่คุณชายเมื่อครู่ก็แล้วกัน ไหน ๆ ข้าก็เข้ามานั่งขนาดนี้แล้ว ข้ารู้สึกหิวแล้วด้วย"
รั่วซีหมดเื่จะกล่าวกับบุรุษหน้าหนาผู้นี้ ทำได้เพียงปล่อยให้เขาร่วมโต๊ะทานอาหารพร้อมกันกับพวกนาง
ส่วนคุณชายหน้าหนาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ นั่งคีบอาหารให้ตนเองบ้างให้นางบ้าง หรือบ้างทีก็ให้เหมยหลินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บ้าง จนพวกนางทานอาหารกันจนอิ่ม พากันไปเลือกซื้อผ้ากันต่อ เขาก็ยังคงหน้าหนาตามติดพวกนางไปด้วย
"ท่านรองแม่ทัพเหอมิใช่หรือ เหตุใดถึงมาที่ร้านขายผ้าได้เล่า"
"ถวายพระพรพระชายาพ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่ต้องมากพิธีไป ว่าอย่างไรเล่า หรือว่าพาคุณหนูบ้านใดมาเลือกซื้ออาภรณ์กัน"
"หม่อมฉันมากับแม่นางรั่วซีพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้นางกำลังเลือกผ้าอยู่ด้านใน" รองแม่ทัพเหอไม่คิดว่าจะได้เจอเชื้อพระวงศ์ในร้านขายผ้าเช่นนี้
เขาทำเพียงตอบตามความจริงว่ามากับผู้ใด ส่วนพระชายาหลิวเหลียนจะรู้จักนางหรือไม่ นั่นก็เป็อีกเื่นึง
"ข้าเลือกได้ครบแล้ว เหลือเพียงจ่ายเงินเท่านั้น ท่าน.." รั่วซีพูดได้เพียงครึ่งประโยคก็หยุดพูดลง
ตอนแรกนางไม่ทันเห็นว่ารองแม่ทัพเหอยืนอยู่กับผู้ใด ถ้านางเห็นก่อนคงไม่เดินเข้ามาเด็ดขาด
"แม่นางท่านนี้..."
"รั่วซี นี่คือพระชายาหลิวเหลียน พระชายาในองค์ชายหลงหยาง"
"รั่วซี ถวายพระพรพระชายาเพคะ" รั่วซีจำใจต้องทำความเคารพสตรีตรงหน้า พรางนึกคำนวณในใจ หวังว่าจะไม่ต้องเจอสามีของสตรีผู้นี้ด้วยนะ
"รั่วซี..."
"ถวายพระพรองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ / เพคะ"
บุคคลที่รั่วซีไม่อยากเจอก็ดันได้เจอ นางได้แต่จนใจต้องทำความเคารพบุคคลตรงหน้าพร้อมรองแม่ทัพเหอ
"องค์ชายรู้จักนางหรือเพคะ"
องค์ชายหลงหยางยังคงยืนนิ่งไม่ได้ตอบพระชายาตน เขามองเพียงหญิงสาวตรงหน้า แม้นางจะปิดหน้าไว้เพียงครึ่ง แต่มีหรือเขาจะจำนางไม่ได้
หรือต่อให้นางปิดทั้งใบหน้าเขาก็ยังจำนางได้ขึ้นใจ
เขาเคยบอกให้นางรอ แต่เขากลับทำตามสัญญาที่พูดไว้ไม่ได้ จนเขาระอายใจไม่กล้าไปพบนาง ไม่น่าเชื่อว่า จะบังเอิญมาพบนางเช่นนี้
"องค์ชายจะรู้จักหม่อมชั้นได้อย่างไรเพคะ ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอทูลลานะเพคะ เป็เพียงชาวบ้านสามัญชนมายืนคุยกับเชื้อพระวงศ์จะแลดูไม่เหมาะเพคะ" รั่วซีกล่าวจบก็ไม่รอให้ได้รับอนุญาต ร่างบางย่อกายคำนับแล้วเดินจากไปทันที
ด้านรองแม่ทัพเหอเห็นทั้งสองไม่กล่าวอันใดต่อ ก็ขอตัวตามนางไปด้วยอีกคน
"องค์ชายหลงหยางรู้จักเ้าด้วยหรือ"
"เขาก็เป็เช่นท่าน แค่คนผ่านมาแล้วก็ผ่านไป"
"แล้วถ้าข้าไม่อยากเป็เช่นนั้น ต้องทำเช่นไร" รองแม่ทัพเหอกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้รั่วซีต้องหยุดก้าวเท้าเดิน
เด็กน้อยที่นางจับจูงอยู่จำต้องหยุดลงด้วยความมึนงง นางมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกาย เขากล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร
"ท่านจะไถ่ตัวข้า"
"ใช่ ข้าจะไถ่ตัวเ้าออกมาจากที่นั่น ขอเพียงแค่ให้เ้าบอก"
"ไม่เ้าค่ะ" รั่วซีตัดจบตอบรองแม่ทัพเหอเพียงเท่านั้น นางก็ออกตัวก้าวเดินต่อเช่นเดิม แต่ครั้งนี้รองแม่ทัพเหอกลับไม่ได้เดินตามนางมาด้วย
หญิงสาวไม่แม้จะบอกเหตุผลเขาว่าเพราะเหตุใด ถึงไม่อยากให้เขามาไถ่ตัว
นางไม่อยากได้ยินคำสัญญาจากปากผู้ใดอีก
ถ้านางไม่คาดหวังต่อสิ่งใด นางก็จะไม่เ็ปต่อสิ่งนั้นเช่นกัน
