“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ิอวี่กำลังคิดว่าจะโยนหยกโบราณในมือทิ้ง แต่ก็พบว่าตนเองทำไม่ได้ มีแรงดึงดูดมหาศาลในหยกโบราณที่ทำให้มือขวาของเขาติดอยู่ที่หยกอย่างแ่า
สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นก็คือ หยกโบราณเริ่มดูดเืจากาแบนมือของเขาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ิอวี่รู้สึกหนาวและหมดเรี่ยวแรง
จะดูดจนแห้งไปเลยอย่างนั้นหรือ?
เขารู้สึกเวียนหัว และเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองนั้นยืนอยู่บนหน้าผา!
ิอวี่เงยหน้าขึ้นมา ก็มองเห็นท้องฟ้าสีคราม เมฆหมอกดูไกลสุดลูกหูลูกตา ดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าแผ่รัศมีปกคลุมไปเกือบครึ่งของท้องฟ้ากำลังลอยลับขอบฟ้าอย่างช้าๆ
ทางทิศตะวันตก ดวงจันทร์ที่ขาวราวกับหยกก็กำลังปรากฏขึ้นมาในเวลาเดียวกัน แม้แสงของมันจะสู้ความรุนแรงของดวงอาทิตย์ไม่ได้ แต่แสงจันทร์ที่อ่อนโยนกลับเจิดจรัสอยู่ครึ่งขอบโลก!
สุริยันกับจันทราส่องแสงคู่กัน!
ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์กลายเป็แสงขั้วโลกสองเส้นชนกันอย่างกะทันหัน ราวกับเป็การปะทะกันของสองโลก! โลกแตกออกเป็เสี่ยงๆ แผ่นโลกอันลึกลับกว้างใหญ่นี้ถูกแยกออกและพังทลายลงภายในชั่วพริบตาเดียว
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบกับทุ่งหญ้าร้างอันกว้างใหญ่ไพศาล ราวกับว่าเขาได้เข้ามาสู่ยุคโบราณที่เก่าแก่ที่สุด
จุดเริ่มต้นฟ้าและดิน ... ความโกลาหลไหลล้นเข้ามา ...
เมื่อมองขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้รวมกันเป็วัตถุทรงกลมสีขาวขนาดใหญ่ซึ่งดูเหมือนจะมีน้ำหนักมาก มันกำลังบดขยี้โลกนี้ แต่ก็กลับกลายเป็สร้างโลกนี้ด้วย!
ลมที่พัดออกมาจากวัตถุทรงกลมสีขาวนี้ ้ากดทับให้ิอวี่คุกเข่า แต่เอวของเขาแข็งทื่อราวกับเสา ดวงตาแดงก่ำ หน้าผากปูดจนเห็นเส้นเื เขาเงยศีรษะขึ้นอย่างลำบากและจ้องไปที่ก้อนั์สีขาวนั้นอย่างดื้อรั้น
ทันใดนั้นเอง ก็มีอักษรลอยออกมาจากก้อนั์สีขาว มันพุ่งเข้าไปในหัวของิอวี่ราวกับสายฟ้าฟาด เสียงอันกึกก้องแผ่กระจายไปทั่วจิตใจ
“นี่คือสุดยอดวิชาขั้นสูงสุด ‘คัมภีร์ไท่กู่หยินหยาง’ เมื่อฝึกวิชานี้จนสำเร็จ หยินและหยางจะรวมเป็หนึ่ง ไร้รูปไร้ลักษณ์ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ร่างกายเป็ะ ทะลุผ่านสามพันจุติ แตกสลายเป็แสนๆ โลก สุริยันจันทราส่องแสงคู่กัน และมีอายุเทียบเท่ากับฟ้าดิน!”
“หนึ่งหยินหนึ่งหยางคือ สัญลักษณ์ประจำลัทธิเต๋า กฎแห่งสรรพสิ่ง ผู้ปกครองการเปลี่ยนแปลง ต้นกำเนิดชีวิตและความตาย แสงสว่างของเหล่าทวยเทพ!”
“เมื่อหยินและหยางมากันสรรพสิ่งล้วนถือกำเนิด หยินและหยางไม่ฟ้าดินสงบ หลักปรัชญาไท่จี๋ประกอบไปด้วยหยินหยาง หยินและหยางทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่นิ่งสงบ เมื่อหยินและหยางเชื่อมถึงกัน การเคลื่อนไหวและความสงบเชื่อมถึงกัน สรรพสิ่งในใต้หล้าล้วนถือกำเนิดขึ้น”
“หลักปรัชญาไท่จี๋แยกออกเป็สองสิ่ง ส่วนปลายของหยางกับหยินส่วนหัว สรรพสัตว์ถือกำเนิด หยางพบหยิน หยินพบหยาง กำเนิดธาตุทั้งสี่ แข็งเจออ่อน อ่อนเจอแข็ง กำเนิดทิศทั้งสี่ และผังทั้งแปด …”
ตัวอักษรนับไม่ถ้วนทะลุทะลวงเข้าสู่หัวของิอวี่ ข้อมูลอันมหาศาลทำให้สายตาของเขาพร่ามัวไปชั่วขณะหนึ่ง เขาหลับตาและเอามือกุมศีรษะไว้ด้วยความเ็ป
“ ‘คัมภีร์ไท่กู่หยินหยาง’ บทที่หนึ่ง เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูง กระบวนท่าที่หนึ่ง กายเหล็กสุริยัน เอาตัวเองเข้าไปในทะเลเพลิง หล่อหลอมเนื้อ ราวกับดวงอาทิตย์ที่แผดเผา และแข็งดั่งเหล็กกล้า!"
ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนมีเก้าระดับขั้น กายเหล็กสุริยัน ก็คือวิชาหลอมร่างกายขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หนึ่งให้แข็งแกร่งขึ้น!
“ซ่า!”
จู่ๆ พลังงานสีแดงดั่งเปลวเพลิงะเิออกมาจากหยกโบราณ มันไหลเข้าสู่ร่างกายของิอวี่ทั้งหมด เขาแทบจะทำตามเคล็ดวิชากายเหล็กสุริยันไปโดยสัญชาตญาณ และหลอมร่างกายของเขาด้วยพลังเ่าั้
ท่ามกลางความสับสน ิอวี่รู้สึกว่าเขาเหมือนตกอยู่ในทะเลเพลิง ร้อนระอุไปทั่วทั้งตัว จนกระทั่งเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ร่างกายและเสื้อผ้าก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
แต่ว่าในเวลานี้ าแบนฝ่ามือขวาของิอวี่นั้นหายสนิทแล้ว ส่วนร่างกายก็เต็มไปด้วยพลังลมปราณ
เขาลุกขึ้นยืน รู้สึกตัวเบาไปทั้งตัว เขาชกหมัดออกไป แต่กลับไม่สามารถควบคุมพลังที่รุนแรงนี้ได้ จังหวะการปล่อยหมัดทำให้เขาถูกกระชากล้มลงไปกับพื้น ...
“น่ากลัวจริง ... ลองใหม่อีกครั้งแล้วกัน!”
ดวงตาของิอวี่เปล่งประกาย รู้สึกว่าเขาได้เปลี่ยนจากคนธรรมดากลายไปเป็ซูเปอร์ฮีโร่ในภาพยนตร์ เขายังคงชกหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็เริ่มคุ้นชิน
หมัดสุดท้ายของิอวี่ทำให้เกิดเสียงดังสนั่น มันทรงพลังและแข็งแกร่งอย่างมาก!
“พลังของข้า อย่างน้อยก็น่าจะเทียบเท่าพลังของราชสีห์สักสิบตัวได้ ซึ่งเป็พลังสิบเท่าของขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หนึ่งระดับฝึกกายทั่วไป!” ิอวี่บ่นพึมพำกับตัวเอง
พลังสิบเท่า ช่างน่ากลัวนัก หากมีใครรู้ว่าิอวี่มีพร์แบบนี้ คงต้องถึงกับอ้าปากค้างอย่างแน่นอน
ิอวี่มองหยกโบราณบนหน้าอกของเขาด้วยความตกตะลึง ดูเหมือนมันจะใช้พลังงานจนหมดแล้ว ตอนนี้เลยไม่มีแสงหลงเหลืออยู่ เขาจำได้ว่า หยกโบราณชิ้นนี้เขาเก็บได้โดยบังเอิญในสวนเมื่อตอนเขายังเป็เด็ก ต่อมา ตอนที่เขาเจอเสือลอบทำร้ายขณะที่ไปล่าสัตว์ในป่าหลังวัง หยกโบราณชิ้นนี้ก็ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
ถึงแม้ต่อมาเสือตัวนั้นจะถูกคนยิงตาย แต่หากไม่ใช่เพราะหยกชิ้นนี้ ิอวี่อาจจะตายไปนานแล้ว ดังนั้นเขาถึงได้สวมมันเอาไว้เป็เครื่องรางคุ้มภัยประจำตัว
ใครจะรู้ว่าอีกไม่กี่ปีต่อมา หยกโบราณที่ดูธรรมดาและไม่มีความโดดเด่นอะไรชิ้นนี้ จะสร้างความประหลาดใจให้กับเขาขนาดนี้
ิอวี่ยังพอจำกลยุทธ์ก่อนหน้านั้นได้บางส่วน ส่วนเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงส่วนหลังที่เกี่ยวกับไท่จี๋อู๋จี๋ แล้วก็อะไรจากนั้นอีกประมาณหมื่นกว่าคำเขาจำไม่ได้เลย
แต่ว่าแค่เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูง ก็ครอบคลุมวิชาการฝึกขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หนึ่งทั้งหมดแล้ว ิอวี่สามารถนำมันไปใช้ได้ตลอดชีวิต
“เื่นี้จะรอช้าไม่ได้ ต้องไปทดสอบที่ป่าด้านหลังให้รู้กันไป”
ถึงแม้วังหลวงจะใหญ่มาก แต่ว่าตำหนักลั่วฮวานั้นอยู่ค่อนข้างห่างไกล และอยู่ใกล้กับป่าด้านหลังมาก ิอวี่เดินไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปสองนาทีก็มาถึงป่าที่เงียบสงัดแล้ว
ค่ำคืนดึกดื่น ดวงจันทร์เต็มดวงลอยสูง ส่องแสงสีขาวเงิน
มองผ่านแสงจันทร์ที่ส่องลงมาเห็นเพียงต้นไม้ที่ล้อมรอบไปด้วยวัชพืช แต่ไกลโพ้นกลับมืดสนิท ไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย นอกจากเสียงแมลงและใบไม้ที่ปลิวตามลม
ิอวี่กำจัดวัชพืชออกอย่างระมัดระวังและเดินสำรวจลึกเข้าไปในป่า หลังจากเดินมาเป็เวลากว่าครึ่งชั่วยามก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเป็กลิ่นสมุนไพรอันเป็เอกลักษณ์ของเห็ดหลิงจือโลหิตม่วง ิอวี่เดินตามกลิ่นไป ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น เมื่อเห็นเห็ดหลิงจือโลหิตม่วงนั้นส่องแสงระยิบระยับอยู่ในแสงจันทร์ท่ามกลางวัชพืชที่รกร้าง
“กรอบแกรบ!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงเบาๆ เกิดขึ้นตรงพงหญ้าด้านหน้าซ้ายมือของิอวี่ ความรู้สึกอยู่ในขั้นวิกฤตได้ผุดขึ้นมาในหัว เขายืนนิ่งและกลั้นหายใจ
กินเวลาไปกว่าห้าลมหายใจ เสียงคำรามก็ดังขึ้น ิอวี่มองไปที่มันทันที จากแสงจันทร์ส่องให้เห็นปากใหญ่ที่เปื้อนเื สัตว์ดุร้ายดวงตาสีแดงก่ำกำลังจะโจมตีเขา
สัตว์ร้ายระดับิญญาขั้นที่หนึ่ง หมาป่า! ดุร้ายกระหายเื เขี้ยวแหลมคม มีพลังการต่อสู้สูงกว่าหมาป่าทั่วไปหลายเท่า!
กายเหล็กสุริยันมอบพลังราชสีห์สิบตัวให้แก่ิอวี่ ดังนั้นแทนที่จะถอยกลับ เขากลับหยิบเอามีดสั้นออกมาแล้วแทงเข้าไปที่ปากของหมาป่า “พรวด!” เสียงมีดแทงทะลุเข้าไปทางหลังหัวของมัน!
แต่กลับมีดวงตาสีแดงอีกมากกว่าสิบดวงปรากฏขึ้นมาตามพุ่มไม้ หลังจากนั้น หมาป่าดุร้ายจำนวนนับสิบตัวก็พุ่งขึ้นมาจากทุกทิศทุกทาง เพื่อฉีกิอวี่ให้เป็ชิ้นๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็มาสู้ให้สะใจกันไปข้างหนึ่งเลยแล้วกัน”
ิอวี่ใช้วิชาการรุกและรับจากที่ได้เรียนมาครั้งแรกเข้ารับมือ บวกกับพร์อันแข็งแกร่งที่มีมาแต่กำเนิด การตอบสนองที่รวดเร็ว จิตใจที่สงบ และความสามารถในการเรียนรู้ที่ไม่ธรรมดา ทำให้เขายิ่งแข็งแกร่งขึ้นในการต่อสู้ เคลื่อนที่รวดเร็วและรุนแรงขึ้น!
ที่แท้ โลกของผู้ฝึกยุทธ์มันยอดเยี่ยมแบบนี้นี่เอง จิติญญาความเข้มข้นระดับสูง เืที่สูบฉีดไหลเวียนไปทั่วกระดูกอย่างรวดเร็ว มันทำให้ิอวี่ชอบโลกแห่งคมหอกคมดาบและการแก้แค้นนี้
“ปัง!”
หมาป่าช่างดุร้าย แต่ิอวี่กลับคลั่งมากกว่า เขาซัดหมัดเหล็กพลังราชสีห์สิบเท่าออกไป หมาป่าร้องด้วยความเ็ปและล้มลงกับพื้น จากตอนแรกที่มันยังกระหายเื เมื่อมาอยู่ต่อหน้าราชสีห์ที่หยิ่งผยองและบ้าคลั่ง ก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขหนีตาย พริบตาเดียวก็วิ่งหนีหางจุกก้นหายกันไปหมด
“ยังไม่สะใจเลย หนีไปกันแล้วหรือ?”
ิอวี่ส่ายหัวแล้วก็ควบคุมความบ้าเืของเขาลง จากนั้นก็ใช้มีดสั้นของเขาตัดหลิงจือโลหิตม่วงออกมา แล้วก็เอาใส่เข้าไปในถุงเก็บของสีดำใบเล็กๆ ใบหนึ่ง
ถุงเก็บของแบบนี้เป็ถุงมิติพื้นที่ที่ลูกหลานของิอ๋องทุกคนจะมีคนละใบ ภายในถุงมีพื้นที่ขนาดสิบตารางเมตร คนปกติจะไม่มีสิทธิได้รับถุงมิติพื้นที่แบบนี้
ิอวี่มองดูหลิงจือโลหิตม่วงอย่างปลื้มใจ แล้วก็เดินกลับวังไปตามเส้นทางเดิม
ระหว่างทางเขาก็เริ่มคิด
หยางเสวี่ยหรงป่วยมานานหลายปี หากไม่ได้หลิงจือโลหิตม่วงภายในหนึ่งเดือน ชีวิตของนางก็จะมีอันตราย แต่โชคดีที่ตอนนี้ิอวี่ได้หลิงจือโลหิตม่วงมาแล้ว มันสามารถช่วยบรรเทาอาการเ็ปของหยางเสวี่ยหรงได้
แต่ิอวี่ก็เข้าใจดีว่า มันเป็แค่วิธีการชะลออาการเท่านั้น โอกาสที่จะหายาดีมารักษาให้หายนั้นน้อยลงเรื่อยๆ ต่อให้หยางเสวี่ยหรงจะใช้หลิงจือโลหิตม่วงอยู่ตลอด แต่ก็อยู่ได้ไม่เกินหนึ่งปีเท่านั้น
หากคิดจะรักษาอาการป่วยของหยางเสวี่ยหรงให้หายขาด จะต้องหายาวิเศษล้ำค่าชนิดหนึ่งอย่าง ... หลิงจือโลหิตแดง!
หลิงจือโลหิตแดงเป็ยาวิเศษล้ำค่ามานานนับพันปี มีสรรพคุณพิเศษในการชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนได้ มันมีมูลค่าห้าล้านหยกดำ ซึ่งเป็ราคาที่สูงกว่าหลิงจือโลหิตม่วงถึงร้อยเท่า
ในอดีต เ้าของร่างเดิมไม่มีสิทธิที่จะได้รับหลิงจือโลหิตแดงได้เลย แต่ตอนนี้ ิอวี่เชื่อว่าเขาสามารถอาศัยพลังที่เขามีหาเงินห้าล้านหยกดำมาซื้อหลิงจือโลหิตแดงได้อย่างแน่นอน!
“ใครกัน ทำลับๆ ล่อๆ กลางดึกแบบนี้”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงตะคอกดังขึ้น ความคิดของิอวี่ถูกขัดจังหวะ เมื่อเขามองเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่าเป็องครักษ์สวมเครื่องแบบเต็มยศสี่คน ถือโคมไฟยืนอยู่ตรงปากทางและขวางทางเขาเอาไว้
เมื่อองครักษ์มองไปที่ใบหน้าของิอวี่ ก็อดไม่ได้ที่จะงวยงงและหัวเราะออกมาทันที
เพราะพวกเขาก็คือทหารที่กระทืบและรุมซ้อมิอวี่วันนี้นั่นเอง ทุกคนมีระดับพลังขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หนึ่งกันหมด
“ข้าก็นึกว่าใคร? ที่แท้ก็องค์ชายคลั่งรักที่โดนเทพธิดาเยี่ยซีของเราทิ้งนี่เอง” ทหารคนหนึ่งพูดล้อเลียนขึ้นมา “น่าเสียดายนะ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็เป็ได้แค่คนไม่เอาไหน แม้แต่รองเท้าของแม่นางเยี่ยซีก็ยังไม่คู่ควรได้เป็เลย!”
ิอวี่เบะปากแล้วก็พูดว่า “ใช้ท่าทางและคำพูดแบบนี้กับองค์ชายได้หรือ?”
องครักษ์คนหนึ่งพอได้ยินแบบนี้ก็เริ่มรู้สึกสนุก “ไอ้ลูกหมา ตอนบ่ายยังโดนกระทืบไม่หนำใจ คงครั่นเนื้อครั่นตัวแล้วล่ะมั้งเนี่ย?”
จู่ๆ น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป เขาจ้องไปที่ิอวี่ตาเขม็งแล้วตะคอกว่า “ยังไม่คุกเข่าให้ข้าอีก ถ้าไม่ยอมขอโทษ ข้าจะกระทืบเ้า”
“ฮ่าฮ่า ...”
ทหารอีกสามคนที่เหลือก็พากันหัวเราะด้วย จากนั้นก็มองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่เย้ยหยัน
ในสายตาของพวกเขาแล้ว ิอวี่ก็เป็แค่ทาสผู้ต่ำต้อย ในเมื่อผู้สูงศักดิ์ของราชวงศ์เ่าั้ดูถูกเหยียดหยามพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเทความโกรธใส่ทาสผู้ซึ่งมีค่าด้อยกว่าขยะ
ิอวี่ก็คือกระสอบทรายสำหรับระบายอารมณ์ของพวกเขา
“หากข้าบอกว่าไม่ล่ะ?” ิอวี่ยิ้ม แต่สายตากลับเ็าราวกับน้ำแข็ง
“เ้ากล้าหรือ!”
องครักษ์ตวาด แล้วเหวี่ยงไม้ไปที่ิอวี่
ิอวี่หลบไปได้อย่างง่ายดาย คว้าเสื้อผ้าขององครักษ์ด้วยมือซ้ายและผลักเขาไปที่ด้านข้างของกำแพงหินราวกับไก่น้อย แล้วเหวี่ยงหมัดขวากระแทกหน้า!
“พลั่ก! พลั่ก! …”
เสียงหมัดััไปที่ร่างกายดังสนั่น จนองครักษ์อีกสามคนที่เหลือหน้าซีดตัวสั่นไปกันหมด
พละกำลังของิอวี่เยอะเกินไปไหม? องครักษ์คนนั้นเป็คนที่มีพลังแข็งแกร่งมากที่สุดในหมู่พวกเขา แต่กลับไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืนเลย!
ิอวี่รัวหมัดออกไปนับสิบที เมื่อหยุดลงก็เห็นใบหน้าขององครักษ์นั้นบิดเบี้ยวและอาบไปด้วยเื เมื่อครู่ที่แล้วเขายังเย่อหยิ่งและทำตัวเป็ใหญ่อยู่เลย แต่ตอนนี้เขากลับร้องไห้ด้วยความเ็ป ชายร่างใหญ่นอนราบกับพื้นร้องไห้คร่ำครวญ ดูแล้วช่างน่าขยะแขยงนัก
“ถ้าเ้ายังร้องไห้อีก ข้าจะตีเ้าให้ตายเลย” ิอวี่ขมวดคิ้ว
ิอวี่พูดจบ เสียงขององครักษ์ก็หายไปในทันที ใบหน้าแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความเ็ปทำให้ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ออกมาอีก เขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วมองไปที่เท้าของิอวี่ด้วยร่างกายที่สั่นเครือ
ิอวี่ชำเลืองมองไปยังสามคนที่เหลือด้วยสายตาที่เ็า องครักษ์ทั้งสามกลัวจนแข้งขาอ่อนแรง แล้วก็คุกเข่าลงโขกศีรษะอย่างแรง
ตอนนี้พวกเขาสำนึกแล้ว ไม่ว่าจะเป็ในด้านพละกำลังหรือว่าฐานะ ิอวี่ก็อยู่สูงกว่าพวกเขาไม่รู้กี่เท่า พวกเขามันก็แค่ฝูงมดตัวเล็กๆ ต่อให้ตายก็สมควรแล้ว!
“ถ้ามีครั้งต่อไปอีก ข้าจะฆ่าไม่เว้นแม้แต่คนเดียว” ิอวี่สะบัดชายเสื้อใส่ และเดินจากไปโดยไม่มองพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
“พะยะค่ะ ... พะยะค่ะ ... ขอบพระทัยองค์ชายสิบเจ็ดที่ไว้ชีวิต! ขอบพระทัยองค์ชายสิบเจ็ดที่ไว้ชีวิต!”
องครักษ์ส่งิอวี่ด้วยสายตาที่เคารพนับถือ เพราะพวกเขาซาบซึ้งที่ได้รับการอภัยโทษ
พวกเขาพบว่า องค์ชายสิบเจ็ดในคืนนี้เปลี่ยนไปเป็คนละคนเลย!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้