“คุณ...คุณหนูสี่ ท่านมาได้อย่างไร ช่างเป็แขกที่หายากมากจริงๆ” ในขณะเดียวกันมือเท้าของปี้ถงเริ่มเย็นะเืขึ้นมาฉับพลัน ในหัวของนางเหมือนจะเต็มไปด้วยก้อนหินและนางก็ไม่สามารถคิดอะไรได้เลย มืออีกข้างหนึ่งกำลังบีบอ้อมแขนที่โปนๆ อยู่ สายตาหลบหลีกล่อกแล่ก
ฉินหยีหนิงหันกลับมามองและหัวเราะ “วันนี้ข้าได้ออกมาตรวจสอบกิจการและเผอิญเดินผ่านมาที่นี่พอดี โดยรู้ว่าบ้านของแม่นางปี้ถงอยู่ที่นี่ จึงมาเยี่ยมป้าเหอเป็พิเศษ วันนี้คุณหนูของพวกเ้าให้เ้าหยุดงานหรือ ถึงได้อนุญาตให้เ้ากลับมาที่บ้านได้?”
สกุลของปี้ถง คือ เหอ ก่อนเข้าไปอยู่ในจวน นางมีนามว่า เหอเอ้อร์ยา
“ใช่ ใช่สิเ้าคะ” ปี้ถงรู้สึกว่าตอนนี้สมองของนางเริ่มแล่นแล้ว นางยิ้มอย่างมีไหวพริบ “คุณหนูของพวกเราให้เงินรางวัลเล็กน้อย ข้ารู้ว่าที่บ้าน้าเงิน ก็เลยกลับมาส่งเงินให้ที่บ้านโดยเฉพาะ”
“แม่นางปี้ถงช่างเป็ลูกกตัญญูจริงๆ” ฉินหยีหนิงยิ้มและเอ่ยพูดกับป้าเหอ “ป้าเหอ ช่างมีวาสนาจริงๆ”
“คุณหนูจู่ตงพูดอะไรกัน ยังไม่ใช่เพราะว่าคนในจวนให้นางเลื่อนตำแหน่งหรอกหรือ เอ้อร์ยาอายุยังน้อย ยังหวังว่าคุณหนูจู่ตงจะสอนนางเยอะๆ นะเ้าคะ”
ป้าเหออายุหกสิบปีกว่า เส้นผมข้างๆ ศีรษะเริ่มหงอกขาว หลังจากที่ได้ยินคำชื่นชมจากฉินหยีหนิงเช่นนั้น ก็รู้สึกมีเกียรติยิ่ง นางยิ้มจนใบหน้าปรากฏรอยย่นอยู่หลายเส้น
ฉินหยีหนิงยิ้มสักพัก จากนั้นนางก็ลุกขึ้นยืนและเอ่ยขึ้น “วันธรรมดาในจวน แม่นางปี้ถงก็ทำงานหนักมากแล้ว ยากมากที่จะมีวันหยุดได้ออกมาสักครั้ง พวกเ้าทั้งสองก็คงมีเื่อยากจะคุยกัน ข้าก็ไม่รบกวนพวกเ้ามากแล้ว หัวหน้าจง เอาของให้ด้วย”
หัวหน้าจงหยิบเงินออกจากแขนเสื้อของเขา จากนั้นก็วางลงบนโต๊ะ พร้อมยิ้ม “นี่คือของขวัญจากคุณหนูและถือว่าเป็ของขวัญขอบคุณจากตระกูลฉินอีกด้วย”
เงินเ่าั้ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งและเมื่อมองดูแล้วมีอยู่สามหรือสี่เหลียง ป้าเหอรีบคุกเข่าลงพร้อมกราบคำนับอย่างรวดเร็ว และคำนับขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ
ปี้ถงนิ่งงันแล้วและก้มกราบด้วย
หรือว่าเป็เพราะตนใไปเอง?
คุณหนูสี่ผ่านมาที่นี่จริงๆ ก็เลยเข้าเยี่ยม?
ใช่แล้ว
เพิ่งกลับมาที่จวน นางคงอยากจะสร้างชื่อเสียงว่าเป็คนดีให้ตนเองสินะ
ฉินหยีหนิงประคองป้าเหอลุกขึ้นและได้พูดกับป้าเหอหลายประโยคอย่างสุภาพ จากนั้นก็เรียกหัวหน้าจงพาคนลาออกไป
ปี้ถงอึ้งยืนอยู่ที่เดิม นางมองคนที่กำลังออกไป จากนั้นใจที่กำลังแขวนอยู่จึงผ่อนคลายลงมา
“ฮู่...ทำให้ข้าใจริงๆ” นางตบหน้าอกพลางก็ถอนหายใจยาวๆ
ตอนนั้นป้าเหอได้ส่งคนออกจากประตูแล้ว นางเดินกลับมาพลางยิ้มและนำเงินที่ได้มาเมื่อสักครู่วางไว้บนโต๊ะมองดูแล้วมองดูอีก นางยิ้มยิงฟันและเอ่ยขึ้น
“คุณหนูท่านนี้เป็บุตรสาวที่ไท่ซือแหย่เพิ่งหาตัวเจอคนนั้นหรือ? ช่างเป็คนมีเมตตาจริงๆ นึกไม่ถึงว่านางจะให้เงินทีเดียวเยอะถึงเพียงนี้”
ปี้ถงเทน้ำลงถ้วย จากนั้นก็ดื่มไปอึกใหญ่หลายอึก เมื่อนึกถึงหน้าตาที่ดูเป็คนดีของฉินหยีหนิงเมื่อสักครู่นั้น นางรู้สึกขำขันและเอ่ยขึ้น
“แม่ อย่าถูกความเสแสร้งสร้างภาพของนางหลอกเสียล่ะ ก่อนหน้านี้นางยังตบข้าอยู่เลย ส่วนที่าเ็ตอนนี้ก็ยังไม่หายดีเลย นางเพียงแค่เพิ่งกลับมาที่จวน อยากจะได้ชื่อเสียงว่าเป็คนดีก็เท่านั้นเอง”
“จริงหรือ? ข้าดูแล้ว นางไม่เหมือนกับที่เ้าพูดนะ” ป้าเหอเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วง “อาการของเ้าเป็อย่างไรบ้างแล้ว? ตอนนี้ยังทำงานรับใช้ให้กับคุณหนูสี่อีกหรือไม่?”
“ข้าไม่เป็ไร ตอนนี้คุณหนูสี่กลายเป็ลูกบุญธรรมเสียแล้ว โดยเปลี่ยนชื่อเรียกเป็คุณหนูฮุ่ยหนิง ข้าก็ยังคงเป็บ่าวที่สนิทของนางมากที่สุด นี่ วันนี้ข้ายังเอาของกลับมาให้ที่บ้านเป็พิเศษเลย คุณหนูฮุ่ยหนิงมอบเครื่องประดับให้ข้าเยอะมาก”
ปี้ถงพูดพลางนำของออกมาข้างนอก เอาสร้อยหนึ่งเส้น แหวนโมรา ตุ้มหูและอื่นๆ ออกมาจากอ้อมแขนของตัวเอง
“แม่ ท่านช่วยข้าเก็บด้วย อย่าให้น้องสะใภ้เห็นล่ะ ไม่เช่นนั้นก็จะให้หลานข้าอีก ท่านก็อยากให้ลูกสาวของตัวเองมีชีวิตที่ดีใช่หรือไม่? ตอนนั้นยากจนก็เลยเอาข้าไปขาย หลายปีมานี้ก็พึ่งเงินที่ข้าทำงานมาจุนเจือครอบครัว อนาคตข้าก็ต้องออกเรือนไป แม่ก็คิดถึงข้าบ้างเถิด”
หลังจากป้าเหอเห็นข้าวของมีค่าหลายอย่างบนโต๊ะ นางถึงกับมองตาค้าง ปากของนางอ้ากว้าง “โอ้ เทพแห่ง์ พระโพธิสัตว์ของข้า คุณหนูฮุ่ยหนิงช่างใจกว้างจริงๆ เป็...”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ที่ประตูห้องกลับมีเสียง “‘เอี๊ยด’ พร้อมประตูถูกเปิดอ้าออก
ปี้ถงใมาก นางกลัวว่าน้องสะใภ้จะกลับมาแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้เก็บซ่อนของเลย ทว่ายามนางหันไปมองคนที่มาให้ชัดเจนนั้น นั่นทำให้นางต้องตัวแข็งทื่อเสียยิ่งกว่า
ฉินหยีหนิงกำลังยืนยิ้มอยู่ที่ประตู “ป้าเหอ ข้าเพิ่งจะสั่งคนให้นำข้าวสารจากร้านค้ามาให้ท่านหนึ่งถุง รอสักครู่จะมีคนมาส่งถึงที่นี่ ก็เลยมาบอกท่านโดยเฉพาะ” สายตาของนางกวาดไปที่เครื่องประดับบนโต๊ะ สีหน้าของฉินหยีหนิงเปลี่ยนไปทันควัน
“ปี้ถง ของของเ้าเหล่านี้ เ้าเอามาจากไหนกัน?”
“นี่...คุณหนูสี่...นี่เป็ของที่คุณหนูของข้ามอบให้ข้าเ้าค่ะ” ปี้ถงยิ้มแข็งๆ ด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวด
ฉินหยีหนิงสาวเท้าเข้ามาด้วยความว่องไว และหยิบปิ่นปักผมนิลดอกดาดตะกั่ว ก่อนเอ่ยขึ้น “นี่เป็หนึ่งในเครื่องประดับศีรษะนิลที่ท่านป้าสามได้เคยมอบให้ข้า”
ถัดมาได้หยิบไข่มุกเส้นหนึ่งกับแหวนโมราหนึ่งวง “นี่เป็ของขวัญจากภรรยาของผู้รู้ช่ายแห่งหอฮั่นหลินส่งมาให้ข้า”
ต่อจากนั้นนางหยิบตุ้มหูทองรูปกุหลาบหนึ่งคู่ “นี่เป็ของขวัญจากภรรยาของนักประวัติศาสตร์หวางส่งมาให้ข้าในวันนี้”
สุดท้ายก็หันไปชี้ที่ตุ้มหูนิลรูปหยดน้ำคู่หนึ่ง “นี่คือของขวัญจากภรรยาของจั่วตูนักประวัติศาสตร์มอบให้ข้าในวันนี้
ปี้ถง เ้าจะอธิบายว่าอย่างไร?”
สมองของปี้ถงส่งเสียงพึมพำดังขึ้นมา ขาของนางสั่นไหวและคุกเข่าตุบลงบนพื้น นางนึกถึงท่าทางของชิวหลู่ในห้องเก็บของ หัวใจของนางเ็าและมีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาปกคลุมหน้าผาก จากนั้นก็ไหลหยดลงมาที่คาง
ติดกับดักแล้ว! นางติดกับดักแล้ว!
กีบป่าชิวหลู่ นึกไม่ถึงว่าเ้านั่นจะทำร้ายนาง!
ไม่! ไม่! ไม่ใช่เพียงแค่ชิวหลู่
ปี้ถงแหงนหน้าจ้องมองที่ฉินหยีหนิง หัวใจของนางเ็าไปถึงครึ่งหนึ่ง
บางทีก่อนหน้านี้ ก่อนจะมีการส่งของขวัญเ่าั้มาให้ ฉินหยีหนิงคงได้จัดเตรียมแผนการไว้ รอเพียงให้นางมาติดกับดักก็เท่านั้น
ตอนนั้นนางอยู่ข้างๆ คุณหนูฮุ่ยหนิง นางเห็นคุณหนูสี่เพียงแค่เปิดรายการเหลือบมองไปเพียงแค่ครั้งเดียวเองนี่นา
เหตุใดถึงดูเพียงแค่ครั้งเดียว ก็สามารถจดจำสิ่งของเ่าั้ว่าเป็ใครส่งมาบ้าง?
อีกอย่าง นางรู้ได้อย่างไรว่าคุณหนูฮุ่ยหนิงจะให้นางอยู่ติดตามชิวหลู่?
เดิมที นางคิดว่าคนคนนี้เป็คนป่าเถื่อนมีแรงเยอะก็เท่านั้น ไม่คิดเลยว่า นางจะมีความสามารถดูอะไรแล้วก็จำได้แม่นยำเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังมีความคิดที่ลึกล้ำมากและสามารถคิดล่อนางเข้ามาในแผนการซึ่งถูกวางไว้ล่วงหน้าเสียด้วย
นอกจากจะเคยทำร้ายนางแล้ว ซ้ำร้ายยังได้เย้ยหยันนางที่หน้าประตูศาลบรรพบุรุษ
ใช่แล้ว รุ่ยหลานเป็คนที่นางมีส่วนทำร้ายจนฝ่ายนั้นต้องออกจากจวนไป...
ไม่คิดเลยว่า คนที่ไม่แสดงอาการใดๆ ก็สามารถทำให้นางมาถึงจุดตายได้
ปี้ถงรู้สึกหน้ามืด เกือบจะล้มลงไปแล้ว
ป้าเหอพูดด้วยความตื่นตระหนก “คุณหนูจู่ตง1 ท่าน...ท่านไม่ได้ดูผิดไปใช่หรือไม่ เอ้อร์ยาบอกว่าของเหล่านี้เป็ของที่คุณหนูฮุ่ยหนิงมอบให้นาง ท่านว่าในนี้จะมีความเข้าใจผิดหรือไม่”
“ช่างกล้า” หัวหน้าจงเปล่งเสียงก้องดั่งระฆัง จนทำให้ป้าเหอถึงกับตัวสั่นพรั่นพรึง
“คุณหนูจะกล่าวหาลูกสาวของเ้าเพราะสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เ่าั้หรือ? สิ่งเ่าั้ในเมื่อได้บอกที่มาแล้ว กล่องของขวัญแน่นอนว่ายังอยู่ที่จวน ถ้าเ้าคิดว่าคุณหนูของเราใส่ร้ายลูกสาวของเ้าละก็ พวกเราสามารถไปถามคนที่ส่งของขวัญเ่าั้ตัวต่อตัวก็ได้”
จากนั้นหัวหน้าจงได้พูดปรามาสว่า “คุณหนูของพวกเราอุตส่าห์หวังดี มาเยี่ยมถึงบ้านและยังให้ทั้งเงินและอาหาร ก็ให้เพียงพอกับพวกเ้าแล้ว ไม่คิดเลยว่าพวกเ้าจะตอบแทนคุณหนูด้วยความเกลียดชังเช่นนี้”
ป้าเหอร้องห่มร้องไห้ออกมา นางได้แต่ขอให้ยกโทษให้ด้วย
ฉินหยีหนิงมุ่นคิ้ว แล้วหันหลังเดินออกไปข้างนอก
หัวหน้าจงรีบเก็บเครื่องประดับเ่าั้และเดินตามออกไปด้วย “คุณหนู ของของคุณหนูขอรับ”
ฉินหยีหนิงรับเครื่องประดับเ่าั้เอาไว้และได้เอ่ยขึ้น “เื่นี้ทำตามที่ข้าได้บอกไว้ และข้าขอมอบเื่ดังกล่าวให้เ้าจัดการ ขอเพียงอย่างเดียว คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งอย่าทำให้ถึงแก่ชีวิต”
เมื่อหัวหน้าจงได้ยินคำพูดแล้ว เขาก็รีบตอบในทันที ความสามารถในการเข้าถึงหัวใจของฉินหยีหนิงนั้น ทำให้เขารู้จักนางใหม่อีกหนึ่งระดับ
“ตอนนี้คุณหนูกำลังจะไปไหนหรือขอรับ?”
“ข้าจะไปดูรุ่ยหลานกับคุณหนูถาง”
“ได้ขอรับ ข้าน้อยจะสั่งให้คนตามไปอารักขาคุณหนูนะขอรับ” หัวหน้าจงคำนับด้วยความเคารพ จากนั้นบอกกับเสี่ยวซือให้อารักขาส่งฉินหยีหนิงไปถึงโรงเตี๊ยมท่าหยุน
ยามนั้นหัวหน้าจงเดินกลับเข้าไปในบ้าน และได้เอ่ยต่อปี้ถง “เ้าอยากจะตายหรือว่าอยากจะมีชีวิต?”
สีหน้าของปี้ถงซีดขาวและเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากสั่นระริกของนางเอ่ยขึ้น “ขอท่านได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย”
...
โรงเตี๊ยมท่าหยุนอยู่ห่างจากตลาดไม่มากนัก นั่งรถม้าเพียงไม่นานก็ถึงแล้ว
มีเสี่ยวซือของหัวหน้าจงเป็คนคุ้มกันมาส่งฉินหยีหนิงถึงหน้าประตู จากนั้นเดินตามเส้นทางลึกเข้าไปด้านในสุด
กระทั่งมาถึงบันไดห้องหลัก ม่านผ้าฝ้ายสีเหลืองดินอันงดงามถูกเปิดออก และแม่ชีน้อยอยู่ในเสื้อคลุมสีดอกกุหลาบรีบวิ่งออกมาต้อนรับ
“คุณหนู ท่านมาแล้ว”
เห็นแม่ชีน้อยตัวเล็กใบหน้ารูปผิงกั่ว ตาโตกับท่าทางน่ารัก ฉินหยีหนิงอดไม่ได้ที่จะััศีรษะของนาง “ใช่นะสิ เิเอ่อร์ หลายวันมานี้เป็อย่างไรบ้าง?”
“คุณหนูไม่ต้องเป็ห่วง ข้ารู้สึกดีมาก หัวหน้าจงดูแลข้าดีมากๆ ใช่แล้ว” ถางเิลากมือของฉินหยีหนิงเข้าไปในห้อง “แผลาเ็ของพี่รุ่ยหลานถูกข้ารักษาหายแล้วประมาณเจ็ดแปดส่วน ตอนนี้แผลได้ปิดลงแล้ว”
เมื่อเดินเข้าไปในห้อง รุ่ยหลานสวมเสื้อคลุมสีขาวสวมรองเท้าแตะ นางเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และคำนับให้ฉินหยีหนิง
“คุณหนู”
“รีบลุกขึ้นมาเยี่ยงนี้ ระวังแผลเปิดด้วย” ฉินหยีหนิงรีบประคองนางให้ลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวัง มองสีหน้าขาวซีดเล็กน้อยของนาง ถอนหายใจและเอ่ยขึ้น “ลำบากเ้าแล้ว เพราะข้าทำให้เ้าต้องมาโดนทำร้ายไปด้วย”
“คุณหนูพูดเช่นนี้ได้อย่างไรกันเ้าคะ” รุ่ยหลานยืนขึ้นและพูดอย่างกระตือรือร้น “คุณหนู ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักกันภายใน่เวลาสั้นๆ และเคยมีเื่เข้าใจผิด ถึงกระนั้นข้าก็เข้าใจแล้วว่า ไม่ว่าข้าจะอยู่กับเ้านายท่านไหน ก็ล้วนมีความสุขและมีความเสียหายได้ทั้งหมด เื่ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถ้าอยู่รับใช้คนอื่น เกรงว่าข้าอาจจะถูกตีตายแล้วก็ได้ คุณหนูสามารถปกป้องชีวิตข้าได้ และยังรักษาข้าให้หายขาดด้วยโสมและอบเชยโดยไม่ตระหนี่เลย ข้ารู้อยู่แก่ใจว่าคุณหนูเป็คนใจดี บุญคุณที่คุณหนูช่วยบ่าวเอาไว้ ในชีวิตนี้บ่าวก็ไม่สามารถทดแทนให้ได้ทั้งหมดนะเ้าคะ”
รุ่ยหลานพูดพลางก้มศีรษะลงพื้นให้ฉินหยีหนิง “ก่อนหน้านี้เป็เพราะบ่าวไม่ดีเอง จึงทำความผิดไป คุณหนูไม่ถือสา บ่าวรู้สึกละอายใจเหลือเกินเ้าค่ะ เพียงแค่หวังว่าวันข้างหน้าจะสามารถรับใช้คุณหนูได้นานๆ ถึงจะสามารถตอบแทนบุญคุณหนูได้อย่างไรละเ้าคะ”
“เอาเถอะ เอาเถอะ ข้าทราบหมดแล้ว” ฉินหยีหนิงประคองนางไม่ให้นางก้มกราบ “เื่ที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถิด ความสัมพันธ์ของพวกเราเ่าั้ ไม่มีค่าพอที่จะไปคิดมันนะ เ้าถูกรังแก ข้าจะต้องคืนความยุติธรรมให้กับเ้าอย่างแน่นอน”
รุ่ยหลานทั้งร้องไห้และยิ้ม จากนั้นก็เช็ดน้ำตาไปพลาง “บ่าวรู้ว่าคุณหนูจะต้องช่วยจัดการให้บ่าว”
ฉินหยีหนิงถอนหายใจและนั่งลง นางหยิบเครื่องประดับเ่าั้ออกจากอ้อมแขน นอกจากปิ่นปักผมดอกดาดตะกั่วที่ท่านป้าสามมอบให้นางแล้ว ที่เหลือนางยื่นให้กับถางเิทั้งหมด
“ของเหล่านี้เป็ของเ้า”
ถางเิมองสิ่งของเ่าั้ด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถาม “คุณหนู...หมายความว่าอย่างไรหรือ?”
“วันนี้ในจวนท่านพ่อของข้าจัดงานเลี้ยงขอบคุณ ข้าได้รับของขวัญมากมาย ของเหล่านี้เป็ของที่สตรีชนชั้นสูงส่งมาให้ ในใจของข้ารู้ดี เปลือกนอกดูเหมือนว่าจะให้ข้า แต่ความจริงแล้วยืมชื่อของข้าเพื่อให้กับเ้าน่ะ ในจวนยังมีเครื่องยาสมุนไพร เครื่องเขียน ผ้าไหมและอื่นๆ ต่างก็เป็ของสตรีชนชั้นสูงส่งมาให้ รอให้เ้าเข้ามาในจวนแล้ว ข้าจะมอบสิ่งเ่าั้ให้เ้า เิเอ่อร์ เ้าเก็บของเหล่านี้เอาไว้ให้ดี อย่างน้อยเ้าจะได้มีเงินเก็บ ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว”
*******************
1 จู่ตง (主东) คือ เ้านายและเ้าของกิจการ