แต่ละมีดที่ลงไปนั้น ทั้งองศา น้ำหนัก ความถี่ ล้วนส่งผลต่อรสชาติของเนื้อหมูทั้งสิ้น ตามปกติแล้ว เนื้อที่จะเลือกมาทำหมูสามชั้นในน้ำซอสคือหมูสามชั้น เนื้อมันและเนื้อแดง และจะมีชั้นระหว่างกันราวๆ สี่ถึงห้าชั้น จะลงมีดอย่างไรให้แต่ชั้นของเนื้อได้ระดับกัน ให้เนื้อมันและเนื้อแดงสมดุลกันอย่างที่สุด ล้วนเป็เื่ที่ต้องระมัดระวังและพิถีพิถันอย่างยิ่งยวด
องศาในการลงมีด เกี่ยวพันไปถึงความสมดุลระหว่างเนื้อมันและเนื้อแดง
น้ำหนักในการลงมีด เกี่ยวพันไปถึงรูปทรงและการเปลี่ยนแปลงของเนื้อ
ความถี่ในการลงมีด เกี่ยวพันกับบริเวณโดยรอบของเนื้อและความมันวาว
ดังนั้น ทุกๆ ปัจจัยที่กล่าวมานี้ล้วนส่งผลกระทบต่อ “สีสัน กลิ่น รสชาติ ความหมาย รูปร่าง และโภชนาการ” ของอาหารจานนี้ทั้งสิ้น
เฟิ่งเฉี่ยนเพิ่งจะมาตระหนักถึง “สีสัน กลิ่น รสชาติ ความหมาย รูปร่าง และโภชนาการ” ทั้งหกประการนี้ หลังการเข้าถึงเคล็ดลับในการทำข้าวผัดไข่เวอร์ชั่น 2.0 การจะทำอาหารจานหนึ่งให้เป็งานศิลปะชิ้นหนึ่ง ต้องทำราวกับอาหารทุกจานเป็จานสุดท้ายที่จะได้ลงมือทำ เมื่อเป็เช่นนี้ สภาพจิตใจและอารมณ์ของผู้ทำอาหารขณะปรุงอาหารย่อมแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ด้วยความคิดที่ว่าอาหารจานนี้เป็จานสุดท้ายที่ตนจะได้ทำ เฟิ่งเฉี่ยนจึงพุ่งสมาธิทั้งหมดไม่กล้าว่อกแว่ก ผนวกมีระบบคอยช่วยเหลือ นางราวกับดำดิ่งอยู่ในห้วงของการทำอาหาร ประสาทััทั้งห้าปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกเสียสิ้น
เป็เพราะกระจ่างแจ้งในเื่นี้ สายตาของหลีต้าซือที่มองนางจึงแปรเปลี่ยนไป เขาไม่เห็นนางเป็เพียงคนธรรมดาสามัญไร้ชื่อเสียงในวงการอาหารหรือผู้เริ่มเรียนคนหนึ่งอีกต่อไป ในสายตาเขานางคือยอดฝีมือคนหนึ่ง เป็ยอดฝีมือระดับสุดยอดคนหนึ่ง!
ในเส้นทางของการเป็เทพอาหาร มิใช่ว่าขั้นของเ้าสูงเท่าใด ฝีมือการปรุงอาหารของเ้าก็จะยิ่งเก่งกาจไปด้วย แต่เป็เพราะการศึกษาค้นคว้าอาหารจานหนึ่งจนถึงขีดสุด ไต่เต้าถึงระดับสุดยอด เ้าก็จะเป็เทพอาหารระดับพระกาฬคนหนึ่ง ตัวเขาเองก็เป็ตัวอย่างที่ดีที่สุด!
สตรีนางนี้มิง่ายดายเลย!
เขาส่ายหน้าไปพร้อมกับลอบทอดถอนใจ
เบื้องหน้า น้ำมันในกระทะกระจายตัวดังซ่าๆ เนื้อที่ถูกต้มสุกในน้ำมาก่อนถูกหย่อนลงไปในกระทะน้ำมัน นางไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่เขาทำ คือใช้ไฟอ่อนทอดเพื่อสลัดน้ำมัน แต่เป็การทอดด้วยไฟแรง!
หลีต้าซือตกตะลึง เขาส่ายหน้าอย่างเสียดาย แก่นแท้ของการทำหมูสามชั้นในน้ำซอสก็คือมันแต่ไม่เลี่ยน และขั้นตอนสำคัญในการทำให้เนื้อมันแต่ไม่เลี่ยนก็คือการสลัดมันออก นางถึงกับข้ามขั้นตอนนี้ไป และเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ชัดเจนเหลือเกินว่าในเื่นี้นางตกเป็ฝ่ายด้อยกว่า
เพิ่งจะส่ายหน้าได้สองครั้ง เขาพบว่าตนเองคิดผิดอย่างรวดเร็ว ดวงตาทั้งคู่ของเขาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เขาเห็นว่าเนื้อในกระทะนั้นได้สลัดมันออกจนสะอาดสะอ้านแล้ว ใช่แล้ว มันสลัดน้ำมันออกหมดแล้ว!
นางทำได้อย่างไรกัน
ในสมองพลันปรากฏภาพก่อนการแข่งขันที่นางสั่งให้องครักษ์ต้อนหมูออกไปวิ่งในหุบเขา ตอนนั้นเขาและองค์หญิงจื่ออวิ๋นต่างคิดเหมือนกันว่านางทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ตอนนี้เขาไม่คิดเช่นนี้อีกแล้ว นางไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่นางรู้เคล็ดลับบางอย่างที่คนอื่นไม่รู้ ก่อนที่นางจะฆ่าหมูนางได้เตรียมสลัดมันออกเรียบร้อยแล้ว โดยให้หมูวิ่งเพื่อสลัดมันด้วยตัวของมันเอง!
ล้ำลึก ช่างล้ำลึกยิ่งนัก!
ไฉนเขาจึงไม่เคยคิดมาก่อน ว่ายังใช้วิธีเช่นนี้มาสลัดมันออกไปได้ อีกทั้งเมื่อใช้วิธีเช่นนี้ก็จะข้ามขั้นตอนการใช้ไฟอ่อนทอดเนื้อหมู ลดความเสียหายที่เกิดจากการทอดได้...
เขาถูมือไปมา คนทั้งคนดูแล้วเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
ตอนนี้สำหรับเขาแล้ว แพ้หรือชนะไม่สำคัญอีกต่อไป วันนี้เขาได้เรียนรู้เคล็ดลับใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน จึงจะเป็ประโยชน์ที่สุดกับตัวเขา
ต่อมาเป็ขั้นตอนการตุ๋น อิริยาบถของเฟิ่งเฉี่ยนยิ่งดูชำนาญขึ้น ร่อนกระทะ ปรุงรส ตุ๋น...ทุกๆ ขั้นตอนล้วนสมบูรณ์แบบ
ที่ทำให้คนประหลาดใจอย่างที่สุดก็คือ ระหว่างการตุ๋นเนื้อนั้น เปลวไฟในเตาดูเหมือนจะโหมแรงเต็มกำลัง ราวกับปล่อยพลังเปลวไฟออกมาทั้งหมด!
นี่คือข้อแตกต่างระหว่างการร่วมมือของเ้าของและเชื้อไฟจุดิญญากับคนธรรมดาสามัญ เมื่อเ้าของใช้เชื้อไฟจุดิญญา จะสามารควบคุมความแรงของไฟไว้ได้ทั้งหมด รวมไปถึงการควบคุมความแรงเบาของไฟให้เป็ไปอย่างที่ใจปรารถนา
หากว่ากันด้วยเื่นี้ ถือว่านางเป็ฝ่ายได้เปรียบ ดังนั้นนางจึงกล้าให้อีกฝ่ายยืมเชื้อไฟจุดิญญา นั่นเป็เพราะผ่านการใคร่ครวญมาแล้วอย่างรอบคอบ!
กลิ่นหอมฉุยลอยออกมาจากกระทะเป็พักๆ ประสาทรับกลิ่นของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยจินตนาการ กลิ่นหอมที่ยากจะใช้คำพูดใดๆ มาบรรยายได้!
ทุกลมหายใจที่สูดเข้าไป กลิ่นหอมแตกต่างกันออกไป
ถูกต้อง มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกเวลาทุกนาที กลิ่นหอมล้วนไม่เหมือนกัน!
กลิ่นหอมของมันเป็เอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้คนยากจะต้านทานได้!
เริ่มแรกมู่หรงจิ่งเทียนจับจ้องสายตาบนร่างของเฟิ่งเฉี่ยนไม่เคลื่อนไหว ต่อมาเขาค่อยๆ ละเลื่อนสายตาไปอยู่บนหมูสามชั้น เขากลืนน้ำลายลงคอ ความรู้สึกเจริญอาหารที่ถูกปิดตายมาเนิ่นนานราวกับถูกเปิดออกในชั่วขณะ จากนั้นก็ควบคุมเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป ได้แต่กลืนน้ำลาย
เวลานี้เขาเพิ่งจะแจ่มแจ้งแก่ใจว่า ที่แท้แล้วอาหารรสชาติอร่อยที่โอชาที่สุด มิใช่ว่าเ้ากินแล้วอยากกินอีก แต่แค่เพียงได้กลิ่นก็ทำให้เ้าเกิดจินตนาการอันไร้ขอบเขต!
กระทั่งเซวียนหยวนเช่อที่ควบคุมตนเองได้ดีแม้พบเห็นอาหารรสเลิศมาตลอด เมื่อได้กลิ่นหอมนี้ น้ำลายใต้ลิ้นก็มารวมตัวกันโดยไม่รู้ตัว เขาถูกดึงดูด แต่สายตาของเขายังคงตกอยู่บนร่างของเฟิ่งเฉี่ยนั้แ่ต้นจนบัดนี้ ไม่เคยละเลื่อนสายตาไปทางอื่น เขาประหลาดใจยิ่ง นางไปเรียนการทำอาหารมาจากที่ใดกัน ดูจากท่วงท่าของนางแล้วหากไม่ได้ฝึกฝนมาเป็เวลาสิบกว่าปี ไม่อาจทำได้แน่นอน แต่ทั้งๆ ที่นางพำนักอยู่ในตำหนักใน การไปห้องเครื่องก็เป็เื่ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เมื่อก่อนไม่เคยได้ยินว่าฮองเฮาเหยียบเข้าไปในห้องเครื่องแม้แต่ก้าวเดียว ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่านางจะลงมือทำอาหารให้บุตรชายสักมื้อ แล้วฝีมือการทำอาหารอันเชี่ยวชาญของนางนี้เล่า นางไปเรียนมาจากที่ใดกัน
สายตาของเขาตกอยู่บนร่างของเฟิ่งเฉี่ยนไม่กระพริบ
มู่หรงจื่ออวิ๋นสังเกตปฏิกิริยาของทุกคนแล้วแอบร้อนใจอยู่บ้าง เดิมทีนางคิดว่าเฟิ่งเฉี่ยนเสแสร้งแกล้งทำ ไม่มีความสามารถแท้จริงอันใด แต่นาทีนี้หากนางยังคงเข้าใจเช่นนี้ เช่นนั้นนางก็ดวงตาไร้แววเกินไป! ทักษะการหั่นเนื้อ ฝีมือการปรุงอาหาร ไม่มีทางเป็มือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเรียนรู้และหัดทำอาหารแน่นอน แต่เป็ยอดฝีมือที่อำพรางตัวมากกว่า!
ทันทีที่หันหน้าไปก็เห็นสายตาของเซวียนหยวนเช่อที่ตามติดบนร่างของเฟิ่งเฉี่ยน ในใจนางคล้ายกับทำไหน้ำส้มหกอย่างไรอย่างนั้น ความรู้สึกหึงหวงถาโถมเข้ามาในจิตใจ
ฮองเฮาหน้าอกใหญ่ไร้สมองคนหนึ่งก็แล้วไปเถิด แต่นี่เป็คนที่สามารถท่อง 《คัมภีร์พิษ》หลังการเปิดอ่านเพียงรอบเดียว และยังเป็ฮองเฮาที่มีฝีมือในการปรุงอาหาร...นี่ถือเป็ศัตรูความรักที่แข็งแกร่งที่สุด
นาทีนี้หากนางยังคงประเมินอีกฝ่ายต่ำไป เช่นนั้นก็เป็นางเองที่กำลังหลอกตัวเองแล้ว
“ไม่เห็นจะเก่งกาจตรงไหน” นางปากไม่ตรงกับใจ ทว่ากลับกลืนน้ำลายไม่รักดีลงคอไปอึกหนึ่ง
ท่ามกลางการรอคอยอย่างมีน้ำอดน้ำทนของทุกคน เนื้อหมูสามชั้นในน้ำซอสมันวับสองจานก็ปรุงเสร็จพร้อมทานในที่สุด
เนื้อนุ่มในน้ำซอสแดงและกลิ่นหอมเย้ายวนใจส่งผลให้คนเจริญอาหาร น้ำซอสที่ราดอยู่บนเนื้อนั้นทำให้เนื้อดูวับวาว
เฟิ่งเฉี่ยนพอใจในผลงานของตนเองมาก นางผายมือให้กับฮวาเมิ่งหยิ่ง “คุณชายฮวา เชิญท่านลิ้มลองรสชาติ!”
ฮวาเมิ่งหยิ่งรออยู่นานแล้ว เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาจากอกเสื้อ ราวกับกำลังรอคำสั่งจากเทพ์ก็ไม่ปาน เขาเช็ดมือ แล้วเช็ดตะเกียบ จากนั้นจึงคีบเนื้อหมูสามชั้นขึ้นมาลองชิมชิ้นหนึ่ง
“เนื้อที่เ้าหั่นนั้นเล็กกว่าของหลีต้าซืออย่างชัดเจน แต่ทักษะการหั่นของเ้าละเอียดและพิถีพิถันยิ่งกว่า” พูดแล้วเขาก็ส่งเนื้อชิ้นนั้นเข้าปาก เพิ่งจะกัดเข้าไปคำแรก ม่านตาเรียวยาวของเขาก็ขยายกว้างขึ้น ั์ตาดำขลับนั้นเปล่งประกายราวกับดอกไม้ไฟที่ะเิออกมา!