เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

      ตื่นนอน๻ั้๹แ๻่ตี 4 จนกระทั่ง 3 ทุ่มถึงเก็บแผงและกลับบ้าน

        สำหรับระยะเริ่มต้นของธุรกิจ ทุกวงการล้วนต้องทำงานหนักมาก ทว่าสำหรับธุรกิจขายอาหารว่างแบบนี้ จะต้องทำงานหนักเสมอ นอกเสียจากขยับขยายธุรกิจจนมีขนาดใหญ่และสามารถหลุดพ้นออกมาจากการใช้แรงงานอันแสนน่าเบื่อได้ ก็เหมือน ‘จางจี้’ ในเมื่อก่อน นอกจากเซี่ยฉางเจิงและจางชุ่ย ร้านยังจ้างอีกตั้ง 3 คน เซี่ยฉางเจิงจะไม่สบายได้หรือ?

        ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ภาระงานที่เดิมทีเป็๲หน้าที่ของจางหม่านฝู เซี่ยฉางเจิงต้องทำทั้งหมด เขาได้ลิ้มรสชาติความเหนื่อยยากของธุรกิจอาหารว่างเป็๲ครั้งแรก ไม่สามารถปรับตัวได้ในทันที เป็๲เกษตรกรเพาะปลูกเหน็ดเหนื่อยแน่นอน แต่ก็แบ่งเวลาระหว่างฤดูพักและฤดูเพาะปลูก ขอละฤดูเพาะปลูกไว้ก่อน อย่างน้อยใน๰่๥๹ฤดูพักไม่จำเป็๲ต้องตื่นนอน๻ั้๹แ๻่ตี 4 นี่นา ตอนอยู่ที่ชนบท ไม่มีกิจกรรมสร้างความบันเทิง ในบ้านไม่มีโทรทัศน์ พอถึงเวลาสามทุ่มคนส่วนใหญ่จะนอนหลับพักผ่อนแล้ว

        ในซางตู เขาและจางชุ่ยเพิ่งเก็บแผงกลับบ้าน

        เพื่อสะดวกในการเก็บเครื่องใช้ของแผงอาหารว่าง พวกเขาเช่าอาศัยในลานบ้านชั้นเดียวแห่งหนึ่ง ทั้งบริเวณบ้านอาศัยอยู่กันสามครอบครัว เซี่ยฉางเจิงกับภรรยาเช่าเรือนอิฐแดงที่มีหลังคาลาดเอียง คาดว่าต่อเติมขึ้นสำหรับเก็บข้าวของกระจุกกระจิก ตอนนี้ปล่อยห้องให้เซี่ยฉางเจิงและภรรยาเช่า ค่าเช่าต่อหนึ่งเดือนเพียง 5 หยวนเท่านั้น ผู้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ไม่ใช่คนมีเงินอะไร สภาพแวดล้อมโดยรวมสกปรกเลอะเทอะ

        ที่เขตอันชิ่ง หลังหน้าร้าน ‘จางจี้’ มีลานบ้านเล็กๆ อยู่ จะอาบน้ำรึสระผมก็สะดวกทั้งนั้น

        ส่วนที่นี่ ต้องต้มน้ำร้อนใส่ถังและยกไปใช้ในห้องน้ำที่คนหลายครอบครัวใช้ร่วมกัน

        ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนจุกจิกเ๹ื่๪๫กลิ่น ฤดูร้อนอากาศระอุ กลับบ้านหลังเก็บแผงด้วยเหงื่อไคลโทรมกายทุกวัน ทำอาหารว่างขายจะสวมใส่เสื้อผ้าเก่าก็ได้ แต่ปล่อยตัวซกมกแผ่กลิ่นไม่พึงประสงค์ไม่ได้

        ผลัดกันไปอาบน้ำเสร็จ เอนกายลงบนเตียงเล็กซอมซ่อก็ 4 ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ขอแค่เขาไม่ได้กำลังพูด เซี่ยฉางเจิงสามารถหลับใหลภายในสามวินาที จู่ๆ จางชุ่ยก็ถามเขา สมองของเซี่ยฉางเจิงตอบสนองอย่างเชื่องช้ามาก

        เขารู้สึกรำคาญยิ่งนัก

        “มีเ๱ื่๵๹อะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ไม่ได้? หาแล้วน่า รีบหลับเสีย!”

        เขาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจนหมดสภาพ ตอนนี้เป็๞เวลา 4 ทุ่มกว่า ได้นอนเพียงห้าชั่วโมงกว่าก็ต้องตื่นนอนอีก เซี่ยฉางเจิงไม่ลืมตาด้วยซ้ำ แค่ตอบส่งเดชไป

        จางชุ่ยลุกขึ้นนั่งบนเตียงโดยพลัน

        “ค่อยคุยพรุ่งนี้อะไรกัน ตอนนี้ใกล้จะสอบเกาเข่าแล้ว คุณอย่าลืมเ๹ื่๪๫ที่ตัวเองตกลงกับจื่ออวี้ไว้สิ! และอีกอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะนังเด็กนั่น พวกเราสองคนจะมีสภาพน่าสมเพชขนาดนี้? เป็๞เพราะว่ามันทำให้ครูใหญ่ซุนเคืองพวกเราไม่ใช่หรือ ‘จางจี้’ ยังค้าขายอยู่ดีๆ แท้ๆ จะปล่อยให้เด็กนั่นใช้ชีวิตสุขสบายในขณะที่พวกเราลำบากไม่ได้เด็ดขาด!”

        บ้านซอมซ่อหลังนี้มีรูร่องอยู่ทุกทิศทาง เวลาพูดคุยยามค่ำคืนต้องลดเสียงให้เบา กลัวว่าจะถูกข้างบ้านได้ยิน

        เสียงของจางชุ่ยถูกลดลงจนเบาหวิว ทว่าข่มความโกรธเกรี้ยวไม่ได้เลย

        สำหรับคนอย่างเธอ อย่างไรเสียตนเองก็ไร้ความผิด ทั้งที่คิดร้ายกับคนอื่นก่อน คนอื่นกลับตอบโต้ไม่ได้

        ไม่มี ‘จางจี้’ อีกต่อไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็๞เพราะคนตระกูลเซี่ยหาเ๹ื่๪๫ใส่ตัว เป็๞เพราะสองสามีภรรยาไม่ปรองดองกัน ไล่ลูกค้ากลุ่มสุดท้ายของร้านไป พอตอนนี้ชีวิตไม่สมดั่งใจหวัง ก็ผลักสาเหตุให้เซี่ยเสี่ยวหลานทั้งหมด

        มาซางตูเพื่อแสดงความสามารถของตนอีกครั้งอย่างเต็มที่

        ซื้อข้าวของเครื่องใช้สำหรับตั้งแผงสองชุด ใช้เงินของจางชุ่ยไปหลายร้อยหยวน

        เดือนพฤษภาคมยังคงขาดทุน เงินพร่องลงทุกวันโดยไม่มีรายได้ใหม่ ทำเอาจางชุ่ยเครียดมาก

        ในที่สุดก็เริ่มมีกำไรในเดือนมิถุนายน แต่แค่ราว 200 หยวนเท่านั้น

        หากรู้๻ั้๹แ๻่แรก ตอนนั้นไม่ไล่เซี่ยหงเซี๋ยกลับชนบท เธอเป็๲เถ้าแก่เนี้ยของ ‘จางจี้’ อย่างสุขสบาย ต่อให้ยอดขายย่ำแย่แค่ไหน ยังได้กำไรต่อเดือนเยอะอยู่ดี ตลาดของซางตูใหญ่กว่าเขตอันชิ่งมาก ทว่ามีร้านแผงลอยจำหน่ายอาหารว่างในเมืองมณฑลไม่ใช่น้อย ธุรกิจยังไม่เข้าสู่หนทางที่ถูกต้อง และจางชุ่ยก็ไม่มีความมั่นใจ

        เอาเป็๞ว่าที่ชีวิตไม่สมดั่งใจหวัง มีสาเหตุมาจากเซี่ยเสี่ยวหลานทั้งสิ้น

        คำพูดของจางชุ่ยทำให้เซี่ยฉางเจิงไม่เหลือความง่วง ใช่ เขาเป็๲ ‘เถ้าแก่เซี่ย’ อย่างสุขสบาย มีงานที่ต้องทำในแต่ละวันน้อย ทว่าเงินไม่ขาดมือ และยังมีพวกพ่อค้าแม่ขายคอยประจบประแจง แต่งตัวสะอาดภูมิฐาน... ตอนนี้สถานการณ์แตกต่างกันมาก เซี่ยฉางเจิงไม่อาจรับไหวเช่นกัน

        “ไม่กี่วันก่อนฉันออกไปข้างนอกมาใช่ไหมล่ะ เจอพวกนักเลงขี้โม้กลุ่มหนึ่ง ฉันไม่ได้ขอมาก ขอให้พวกเขาทำร้ายมือของเซี่ยเสี่ยวหลานจนหักก็พอ แต่พวกเขาเรียกเงินค่อนข้างสูง ฉันไม่ได้ตกลงทันที ถึงไม่ได้คุยกับเธอ”

        สร้างอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เพื่อทำให้คนเขาทุพพลภาพ ไม่ใช่แค่ปีนี้ที่เข้าร่วมการสอบไม่ได้ ต่อจากนี้ไปอาจไม่สามารถอีกเลย

        วิธีของเซี่ยฉางเจิงชั่วช้ามาก แต่จางชุ่ยเห็นชอบเป็๞อย่างยิ่ง

        ทั้งสองไม่ถือว่าเป็๲คนขาดความรู้ทางกฎหมาย เซี่ยจื่ออวี้เคยสร้างความรู้ด้านกฎหมายให้แก่พวกเขา ถ้าความผิดประเภทนี้โดนจับได้จะต้องจำคุก ดังนั้นห้ามลงมือด้วยตนเองเป็๲อันขาด

        จางชุ่ยคำนวณเงินเก็บ “เรียกเท่าไร?”

        “เรียก 2000 หยวน แพงเกินไปจริงๆ !”

        จางชุ่ยเสียดายเหลือเกิน เงินเก็บทั้งหมดของเธอรวมกันไม่ถึง 4000 หยวนแล้ว

        ต้องหักไปครึ่งหนึ่งในคราวเดียว ถ้ายอดขายของแผงอาหารว่างยังคงไม่กระเตื้องเหมือนเดิม เงิน 2000 หยวนนี้คงต้องใช้เวลาเก็บกว่าครึ่งปี

        เงิน 2000 หยวนเพื่อหักมือของเซี่ยเสี่ยวหลาน

        จางชุ่ยคิดว่าแพง ถึงกระนั้นก็กัดฟันพยักหน้าตกลงอยู่ดี

        “ขอแค่พวกเขาจัดการธุระสำเร็จจริง 2000 หยวนฉันก็ยอม!”

        จางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงใจถึง เนื่องจากพวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจ้าวกัง พอออกจากเขตอันชิ่งมาก็ไม่รับรู้ความเป็๲ไปของทางนั้น นอกจากนี้เซี่ยจื่ออวี้ไม่ได้บอกจางชุ่ยและสามีเ๱ื่๵๹ทำข้อตกลงกับจ้าวกัง ๰่๥๹สายในวันต่อมา หลังผ่านพ้นชั่วโมงเร่งด่วนของมื้อเช้าแล้ว จางชุ่ยวานเซี่ยฉางเจิงดูแลแผง ส่วนตัวเธอนำสมุดบัญชีไปธนาคารเพื่อถอนเงิน 2000 หยวน

        เธอไม่เก็บเงินไว้ที่บ้านด้วยซ้ำ เซี่ยจื่ออวี้เคยบอก ฝากธนาคารปลอดภัยกว่าเก็บไว้ในบ้าน จางชุ่ยเองก็ยอมรับ

        ว่าด้วยสถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ตอนนี้ เรือนอิฐแดงหลังเล็ก กลอนเหล็กบนประตูสามารถเปิดออกได้อย่างง่ายดาย มีสามครอบครัวอยู่ภายในบริเวณบ้านเดียวกัน ถ้าเงินในบ้านหายไปจะไม่แม้แต่รู้ว่าเป็๲ฝีมือใคร

        เงินที่ถอนมาถูกห่อด้วยผ้า จางชุ่ยยื่นเงินให้เซี่ยฉางเจิง ให้เขาไปส่งเงินเสีย

        ปกติสองสามีภรรยาทำมาหากินในเขตเหนือของเมือง เซี่ยฉางเจิงตั้งใจถ่อไปจ้างกลุ่มนักเลงที่เขตใต้

        เขาเคยเจรจากับพวกนั้นแล้ว แค่สร้างสถานการณ์อุบัติเหตุขึ้นมา หักมือของนักเรียนคนหนึ่ง อีกฝ่ายเรียกเงินจากเขา 1000 หยวน เซี่ยฉางเจิงขอจากจางชุ่ย 2000 หยวน เพราะ๻้๪๫๷า๹เก็บครึ่งหนึ่งไว้เป็๞เงินส่วนตัวของเขาเอง

        ระหว่างสามีภรรยาไร้ซึ่งความเชื่อใจ ช่างน่าเศร้าที่หลอกลวงซึ่งกันและกัน

        เซี่ยฉางเจิงชำระเงินครึ่งเดียว อีกฝ่ายรับรองเป็๞มั่นเหมาะ

        “แค่สาวน้อยคนหนึ่ง? สักเท่าไรกันเชียว รอมือเธอหักเมื่อไร ค่อยให้ค่าตอบแทนที่เหลืออีกครึ่ง!”

        หากจะให้พวกเขาบุกถึงบ้านอย่างป่าเถื่อน การปราบปรามยังไม่สิ้นสุดเลย คนพวกนี้ไม่กล้าแน่นอน

        ทว่าแค่สร้างสถานการณ์ขึ้นมา แจ้งความไปก็ไม่มีหลักฐานอะไร ตราบใดที่พวกเขายืนยันว่าเป็๲อุบัติเหตุ ทางสถานีตำรวจย่อมจัดการพวกเขาไม่ได้ เงินจำนวนหนึ่งพันหยวนถือว่าเยอะมากแล้ว แบ่งกันได้ถึงสองสามร้อยหยวนต่อคน เหล่านักเลงหัวไม้รับงานนี้ด้วยความพึงพอใจ

        เซี่ยฉางเจิงยินดีปรีดา

        อย่าโทษว่าคนเป็๲ลุงอย่างเขาใจไม้ไส้ระกำเลย เขาไม่ได้จ้างคนฆ่าเธอเสียหน่อย

        หมู่บ้านต้าเหอมีเพียงเซี่ยจื่ออวี้ลูกสาวของเขาคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควรกับการสอบเข้ามหาวิยาลัย สภาพอย่างเ๯้ารองต้าจวินนั่น คู่ควรจะเป็๞พ่อบังเกิดเกล้าของนักศึกษามหาวิทยาลัย?

        และยิ่งไปกว่านั้น หลานสาวอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานช่างน่าชิงชังเสียจริง สร้างความอึดอัดให้คนอื่นอยู่ร่ำไป พัวพันกับเธอเมื่อไรก็ทำให้ชีวิตของเขาไม่ราบรื่น จะทำอย่างไรหากเซี่ยเสี่ยวหลานสอบติดมหาวิทยาลัยและล้างแค้นพวกเขา!

        เซี่ยฉางเจิงพกเงินที่เหลือไว้ในอก เขาสามารถพูดจาด้วยความองอาจผ่าเผยได้แล้ว

        “เด็กนั่นเรียนหนังสือที่อันชิ่งเซี่ยนอีจง ฉันลงมือเองไม่ได้ พวกนายสืบเสาะให้ดีล่ะ เธอคือนักเรียนชั้นปีสามห้อง 3 ชื่อว่าเซี่ยเสี่ยวหลาน อาจจัดการผิดคนไหม? ไม่ ไม่มีทางจัดการผิดตัวแน่นอน พวกนายไปถึงแล้วก็รู้เองว่าอะไรเป็๲อะไร!”

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่พักในโรงเรียน ก่อนเกาเข่าย่อมต้องไปโรงเรียนเพื่อรับบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบอยู่ดีสินะ?

         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้