ศิษย์สำนักมารลากหลงเหยียนเข้าไป จากนั้นก็บีบคอของเขาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย “ไอ้หนุ่ม เ้าจองหองเหลือเกิน ข้าอยู่ดูเ้ามานานมากแล้ว นึกไม่ถึงว่าอายุเท่านี้กลับมีพร์สูงเพียงนี้ อีกทั้งข้ายังได้ยินมาว่าพลังเ้าเลื่อนขึ้นมาถึงขั้นที่เจ็ดภายในเวลาหนึ่งเดือน ด้วยความเร็วเช่นนี้ เ้านี่เหนือชั้นเสียจริง”
คนที่ปรากฏตัวคือชายวัยกลางคน อายุประมาณสี่ถึงห้าสิบปี ทว่าเขากลับพูดแทนตัวเองคล้ายเป็คนสูงอายุ คาดว่าอายุจริงคงไม่ต่างจากผู้าุโแห่งตระกูลหลง อย่างน้อยก็หนึ่งร้อยกว่าปีแล้ว เพราะมีพลังระดับชีพเทพทำให้อายุขัยยืนยาว ด้วยอายุเท่านี้ไม่ใช่เื่แปลก
เมื่อหลงเหยียนตกไปอยู่ในมือของเขาก็ไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน ทุกคนตระกูลหลงร้อนใจขึ้นมาทันที มหาอำนาจอื่นๆ และผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่รอบข้างต่างตื่นตระหนก ไม่มีใครนึกถึงว่าอยู่ๆ จะมียอดฝีมือปรากฏตัว ยิ่งนึกไม่ถึงว่าเื้ัตระกูลเซียวจะมีผู้แข็งแกร่งคอยหนุนอยู่
ถึงกระนั้น ผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากััได้ถึงรังสีชั่วร้ายบนตัวของเขา ต่างก็ถอยหลัง เวลานี้ไม่รู้ว่าผู้ใดคือคนแรกที่ะโออกมา “คุ้มกันตระกูลหลง”
มหาอำนาจในเมืองที่อยู่ด้านล่างรวมถึงผู้ฝึกตระกูลใหญ่ต่างก็พุ่งขึ้นมาบนเวที ครั้งนี้พวกเขาเลือกอยู่ข้างตระกูลหลง ผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากยิ่งกว่าเลือกไม่ถูก…
ภาพเหตุการณ์ในครั้งนี้เกรงว่าเมื่อก่อนคงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ต่อให้สำนักมารจะแข็งแกร่งเพียงใด ทว่าทุกคนเลือกอยู่ข้างตระกูลหลงอู่ ครั้งนี้ทำให้ผู้าุโตื้นตันใจยิ่งนัก ตระกูลเซียวร่วมมือกับสำนักมาร เพียงเท่านี้ก็ทำให้ทุกคนเ็ปหัวใจแล้ว
วันนี้คนที่พวกเขา้าโค่นอำนาจคือตระกูลหลง ไม่แน่วันหน้าอาจเป็ตระกูลหรือมหาอำนาจอื่นก็เป็ได้ คนพวกนี้ไม่ได้โง่เขลา หากวันนี้เลือกข้างผิด เกรงว่าชะตาอาจพลิกไปตลอดกาล
ทว่าเวลานี้หลงเหยียนอยู่ในมือเขาแล้ว ชายผู้นั้นหัวเราะเสียงดัง
“พวกต่ำต้อยด้อยค่า ไม่กลัวว่าข้าจะสังหารพวกเ้าตายกันหมดหรือ!”
ขณะที่พูดเขาก็ปล่อยตัวหลงเหยียน จากนั้นก็ส่งพลังระลอกหนึ่งกดลงบนศีรษะหลงเหยียน หลงหยียนไม่อาจทนแรงโจมตีที่รุนแรงได้จึงล้มลงกับพื้น นี่เป็การหยามศักดิ์ศรีรุนแรงที่สุดเท่าที่หลงเหยียนเจอมา บุรุษที่อยู่ตรงหน้าแข็งแกร่งจนเขาไร้แรงโต้ตอบ
หลงเหยียนฝืนทนความโกรธในใจ เขาพยายามเงยหน้าจ้องเขม็งไปที่ชายวัยกลางคน จากนั้นในสมองก็เริ่มเปลี่ยนความคิด “ผู้าุโ ข้ารู้ว่าท่านร้ายกาจ แต่การที่ท่านจับข้าที่เป็ผู้น้อยเช่นนี้ เป็การแสดงออกถึงความแข็งแกร่งของผู้าุโหรือ? การที่ท่านทำเช่นนี้ต่อข้า ดูเหมือนไม่เหมาะสมกับฐานะของท่านเอาเสียเลย”
“เ้าพูดว่าอย่างไรนะ?” ศิษย์สำนักมารแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง “เป็เด็กช่างวางแผนเหมือนกันนี่ แล้วเ้าคิดหรือว่าการที่หลอกล่อให้ข้าปล่อยเ้านั้นจะเป็ไปได้? ข้าสังหารคนมานับไม่ถ้วน การสังหารเ้าก็เหมือนเหยียบมดเล็กๆ ตัวหนึ่ง”
“ใช่ๆๆๆ ผู้าุโพูดถูกต้องแล้ว ทว่าตระกูลหลงของเราไม่เคยมีเื่บาดหมางกับท่านมาก่อน ข้ารู้ว่าท่านมาเพราะ้าเซียนหอมหมื่นลี้ ท่านอยากปลิดชีพข้า รอต้นเซียนหอมหมื่นลี้โตเต็มที่ค่อยลงมือก็ยังไม่สาย! ท่านสังหารข้าตอนนี้ โลหิตเปื้อนมือ เกรงว่าจะทำลายเื่ดีๆ ของท่าน”
ทุกคนนึกไม่ถึงว่าเมื่อหลงเหยียนตกไปอยู่ในมือของผู้แข็งแกร่งแล้วนิสัยจะเปลี่ยนเป็อ่อนโยนเช่นนี้ การที่เขาต้องอ้อนวอนคงเป็เื่ที่ขื่นขมมาก เมื่อครู่ทุกคนอยากลองต่อต้านศิษย์สำนักมารทว่าก็ต้องผิดหวัง
มีเพียงผู้าุโเท่านั้นที่อ่านความคิดของหลงเหยียนได้ เกรงว่าวันนี้คงไม่มีใครรับมือเ้าหมอนี่ได้ สิ่งที่ทำให้ผู้าุโนึกไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือศิษย์สำนักมารมีพลังถึงระดับชีพเทพ
การที่หลงเหยียนทำแบบนั้นก็มีเหตุผลของตัวเองเหมือนกัน ในอดีต ท่านแม่ทัพยอมทนกับการหยามศักดิ์ศรีของศัตรู แล้วเหตุใดหลงเหยียนต้องแข็งข้อกับผู้ที่แกร่งกว่ามากเพียงนั้น และนี่ก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดของหลงเหยียน
เป็อย่างที่คิด เมื่อศิษย์สำนักมารได้ยินคำพูดหลงเหยียน เขาสบถพร้อมหัวเราะเสียงดัง
“ฮึ ไอ้หนุ่ม ข้าก็นึกว่าเ้าจะพิเศษไม่เหมือนใครเสียอีก ที่ไหนได้ แท้จริงแล้วเ้ามันก็แค่คนรักตัวกลัวตาย ช่างเถอะ ข้าจะปล่อยเ้าไปก่อน ทว่าข้าขอเตือน หลังจากนี้อีกสองวันก็เตรียมล้างคอตัวเองให้สะอาดเล่า ถึงวันนั้นแล้วข้าจะดื่มโลหิตของเ้า”
เมื่อพูดจบ ศิษย์สำนักมารก็จับหลงเหยียนมาดม เห็นว่ากลิ่นของโลหิตนั้นไม่เลวจึงหัวเราะอย่างสะใจ “ฮ่าๆๆๆๆ …”
เสียงพูดและเสียงหัวเราะของเขาเป็ธรรมชาติยิ่งนัก ทว่าเมื่อผู้อื่นได้ยินกลับเป็เื่ที่น่าหวาดกลัว
ตอนแรกเซียวหยุนเหว่ยยืนอยู่ด้านหลังเขาอย่างภาคภูมิใจ เมื่อได้ยินว่าวันนี้จะปล่อยหลงเหยียนกับคนตระกูลหลงจึงรีบคัดค้านทันควัน “ไม่ได้ ท่านผู้าุโพยัคฆ์ร้าย วันนี้ท่านจะปล่อยเ้าเด็กนั่นไปไม่ได้ หากทำเช่นนั้น เป็ไปได้ที่เขาจะสร้างความลำบากแก่พวกเรา ท่านรับปากเราแล้วว่าจะกำจัดตระกูลหลงก่อน” เซียวหยุนเหว่ยกลัวว่าหลงเหยียนจะพลิกผันสถานการณ์อีก เพราะก่อนหน้านี้เขาอาศัยพลังระดับชีพัขั้นที่เจ็ดสังหารเซียวกงเป้าที่มีพลังขั้นที่เก้าจึงทำให้เซียวหยุนเหว่ยไม่วางใจเป็อย่างมาก
พยัคฆ์ร้ายตอบกลับด้วยความโมโห “หุบปาก เ้ามีสิทธิ์อะไรมายุ่งเื่ที่ข้าตัดสินใจแล้ว?” จากนั้นพยัคฆ์ร้ายก็ปล่อยพลังออกจากแขนเสื้อ กระแทกเซียวหยุนเหว่ยล้มลงกับพื้น พละกำลังที่มหาศาลเช่นนี้เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดทำได้
ดูเหมือนพยัคฆ์ร้ายจะเป็คนนิสัยประหลาด ไม่สามารถเดานิสัยที่แท้จริงของเขาได้ หากไม่ใช่เพราะเว่ยเวยจากไป มีหรือที่เขาจะปรากฏตัวอย่างกะทันหันเช่นนี้
เซียวหยุนเหว่ยโมโหอย่างยิ่ง ทว่าก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าให้เห็น พยัคฆ์ร้ายปล่อยหลงเหยียน เดินไปข้างเซียวหยุนเหว่ย ลากเขาขึ้นมาจากพื้นแล้วตบฝุ่นบนตัวเขาเบาๆ พลางหัวเราะ
เมื่อนึกถึงทรัพยากรที่ตระกูลเซียวมอบให้สำนักมารในหลายปีที่ผ่านมา เขาจึงหัวเราะกลบเกลื่อน
มือหนึ่งจับไหล่ของเซียวหยุนเหว่ย “สหายเซียว ตระกูลหลงอยู่ในมือข้าแล้ว เหมือนลูกไก่ในกำมือ เ้ายังต้องกังวลอะไรอีก? เืของเ้าเด็กนี่บริสุทธิ์มากกว่าเืของชายที่เ้าส่งมาให้ข้ามากโข เ้าคิดหรือว่าข้าจะปล่อยเขาไป?”
เมื่อพูดจบพยัคฆ์ร้ายก็หัวเราะเสียงดัง ทะยานตัวขึ้นไปยืนบนกำแพงบ้านของตระกูลหลง เงานั้นหายไปในชั่วพริบตา การเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันทำให้คนตระกูลหลงรวมไปถึงผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็ชะงักไป ในใจไม่อาจลืมศิษย์สำนักมารที่พุ่งทะลวง
หลงเหยียนโกรธแค้น อยากพุ่งเข้าไปสังหารเซียวหยุนเหว่ยเสียเดี๋ยวนี้ ทว่าตอนนี้หลงเหยียนยังไม่มีความสามารถนั้น อันตรายที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ใจหลงเหยียนเต้นโครมคราม
เซียวหยุนเหว่ยสบถเสียงพร้อมจ้องทุกคนในตระกูลหลง “ในเมื่อผู้าุโพยัคฆ์ร้ายจากไปแล้ว ตระกูลเซียวของข้าคงต้องอยู่ที่นี่สักสองวัน” เมื่อพูดจบ เขา เซียวมั่วเหยียน และเซียวเหลิงเอ้าก็หายไปในตระกูลหลง อีกสองวันตระกูลหลงก็ถึงวันล่มสลาย แล้วเหตุใดเล่าเขาต้องเอาเื่พวกเขาในวันนี้ด้วย
คำพูดของพยัคฆ์ร้ายเมื่อครู่ติดค้างอยู่ในใจของคนในเมืองัไม่จางหาย แท้จริงแล้ว คนรุ่นเยาว์ในเมืองัที่มักหายตัวไปอย่างลึกลับเป็ฝีมือคนตระกูลเซียว หลายปีมานี้ จำนวนคนที่หายไปไม่ต่ำกว่าหลายร้อยคน
ตระกูลเซียวน่ารังเกียจมากจริงๆ เมื่อนึกเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็เกลียดคนตระกูลเซียวเข้ากระดูกดำ ถึงจะเป็เช่นนั้น ดูเหมือนพวกเขาจะไม่พอใจกับสิ่งที่หลงเหยียนแสดงออกมาเมื่อครู่สักเท่าไร
หลงเหยียนทิ้งตัวลงตรงหน้าผู้าุโแห่งตระกูล เขารู้ว่าผู้าุโต้องได้รับาเ็แน่ การโจมตีที่รุนแรงเมื่อครู่คงไม่มีใครต้านได้
“ท่านปู่ ท่านไม่เป็ไรใช่หรือไม่ ท่านกำลังโทษที่เมื่อครู่หลานอ่อนแอเกินไปใช่หรือไม่”
--------------------