สายตาเย็นะเืระคนโทสะคู่นั้น ทำเอาจ้าวอี๋เหนียงอดจะสั่นสะท้านเสียมิได้ นางกลืนน้ำลายอึกหนึ่งก่อนเอ่ยเสียงสั่น “คุณหนูใหญ่ ท่านดีขึ้นหรือยัง?”
เฉินจิ้งเจียละสายตาที่จดจ้องจ้าวอี๋เหนียงไป หากแต่แววตาเยือกเย็นยังคงเหม่อลอย แม้นจ้าวอี๋เหนียงจะเก็บซ่อนอารมณ์ได้ไม่แพ้นาง ทว่าปลายเท้าเย็นเยียบกลับยังสั่นระริก “คุณหนูใหญ่?”
กลั้นหายใจครู่หนึ่งก่อนลองหยั่งเชิงดูอีกครั้ง เฉิงจิ้งเจียที่ไม่พูดจา กลับเหยียดยิ้มชั่วร้ายตรงมุมปาก “หึหึหึ...เป็เ้า...”
นางเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งประหนึ่งิญญาร้ายผุดจากขุมนรกเพื่อเอาชีวิต พลันรอยยิ้มชั่วร้ายหุบลง ก่อนศีรษะเฉินจิ้งเจียจะหงายขึ้น แล้วล้มฟาดลงบนเตียงทันใด
“คุณหนูใหญ่!” หนานจือโพล่งะโอย่างตื่นใ
จ้าวอี๋เหนียงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมเนิ่นนานไม่กล้าแม้แต่กระดิกตัว นางได้ยินไม่ชัดว่าเฉินจิ้งเจียพูดอะไร หากแต่เห็นรอยยิ้มแสนประหลาดบนหน้านางชัดเจน
รอยยิ้มนั้นนางเคยเห็นนับครั้งไม่ถ้วน และเคยจดจ้องมาหลายครา เรียกได้ว่าเหมือนซูชื่อผู้ล่วงลับแทบทุกประการ
แท้จริงแล้วซูชื่อตายเช่นไรนั้น มีเพียงนางที่ทราบดีที่สุด หากแต่ยามนี้ราวกับว่ารอยยิ้มแสนคุ้นตาปรากฏขึ้นบนใบหน้าเฉินจิ้งเจีย ผนวกกับคำละเมอของนางเมื่อครู่แล้ว ก็ทำเอาจ้าวอี๋เหนียงรู้สึกพิลึกพิลั่นยิ่ง!
“จ้าวชื่อ สีหน้าเ้าดูไม่ดีเอาเสียเลย”
เสียงราบเรียบของป๋อชางโหวดังขึ้นข้างกาย จ้าวอี๋เหนียงได้สติกลับมา ก่อนเผยยิ้มเหยเกดูฝาดฝืนขึ้น “นายท่านโหว เมื่อครู่ข้าปวดใจกับคุณหนูใหญ่ยิ่งนักถึงได้...”
นางแสร้งก้มศีรษะยกมือปิดบังใบหน้า ป๋อชางโหวไม่ยอมพูดกับนางให้มากความ หลีกให้หมอหยวนเข้าไปจับชีพจรเฉินจิ้งเจีย
ทว่าทันทีที่หมอนจับชีพจรของหมอหยวนวางลง เฉินจิ้งเจียพลันลืมตาขึ้น
ท่าทางไม่เหมือนคนไร้สติเหม่อลอยดั่งเมื่อครู่ กลับกันท่าทีเต็มไปด้วยความเสียใจและเ็ป
“เจียเอ๋อร์!” ป๋อชางโหวะโขึ้นอย่างอดไม่ได้
“ท่านพ่อ...อี๋เหนียง?”
“เจียเอ๋อร์ของข้า เ้าทำพ่อคนนี้ใเกือบตายแล้ว” เมื่อเห็นเฉินจิ้งเจียฟื้นเป็ปกติ ป๋อชางโหวก็เบาใจลงในที่สุด
“คุณหนูใหญ่ฟื้นขึ้นมาก็ดีแล้ว ท่านจำเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้หรือไม่?”
ยามนี้จ้าวอี๋เหนียงมิอาจสนใจสิ่งอื่นใดได้แล้ว ในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
เฉินจิ้งเจียมีสีหน้างงงวย ขณะกำลังจะเอ่ยปาก ทันใดนั้นกลับกุมศีรษะไว้ “ท่านพ่อ เจียเอ๋อร์ปวดหัวเหลือเกิน ทนไม่ไหวแล้ว...”
นางขมวดคิ้วสีหน้าเ็ป ป๋อชางโหวพลันปวดใจอีกครั้ง “พ่ออยู่นี่ เจียเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว เ้าจำอันใดไม่ได้จริงๆ ใช่หรือไม่? ทั้งยังไม่รู้ตัวว่าเหตุใดถึงสิ้นสติไปสินะ?”
“ข้าจำได้...ข้าจำได้ว่าข้ากับหนานจือกำลังเฝ้าศพท่านแม่ จากนั้น...จากนั้นก็นึกอะไรไม่ออกแล้วเ้าค่ะ...”
หัวคิ้วที่เคยคลายลงของป๋อชางโหวขมวดมุ่นอีกครั้งเมื่อฟังคำบอกเล่าของเฉินจิ้งเจีย เื่ที่นางชนโลงศพนั้นหนานจือก็เห็นเองกับตา บนหัวยังเหลือรอยแผลไว้ ประกอบกับภาพอันแปลกประหลาดเมื่อครู่ทำเอาเขารู้สึกไม่ชอบมาพากลยิ่งกว่าเดิม
“เจียเอ๋อร์ เ้าพักผ่อนก่อนเถิด จำต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรง อย่าได้ทำให้พ่อต้องเป็ห่วงอีก”
ป๋อชางโหวถอนหายใจ ขณะกำลังจะเอ่ยปากพูดบางอย่าง ผ้าม่านพลันเปิดขึ้น เสียงสุขุมเคร่งขรึมของบุรุษคนหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตู “เจียเอ๋อร์! พี่กลับมาแล้ว”
เฉินจิ้งเจียตะลึงงันทันใด หมายจะลุกจากเตียงโดยไม่สนซึ่งอาการปวดหัว แต่กลับถูกเฉินอี้เหอที่ชิงเดินเร็วถึงตัวก่อนรั้งไว้ “เจียเอ๋อร์!”
“ท่านพี่!”
น้ำเสียงที่เอ่ยคำว่า ‘ท่านพี่’ นี้เต็มไปด้วยความน้อยใจและคิดคะนึงหาอย่างไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งนั่นทำเอาเฉินอี้เหอดวงตาแดงก่ำตามไปด้วยเช่นกัน
“พี่อยู่นี่ เจียเอ๋อร์ พี่กลับมาช้าเกินไป”
“ท่านพี่...” เฉินจิ้งเจียโอบเอวเขา สูดจมูกกอดเขาไว้แน่น หยาดน้ำตาพรั่งพรูอย่างมิอาจสะกดกลั้นได้อีกต่อไป คำพูดที่อยากเอื้อนเอ่ยมีอยู่เต็มคอ ทว่าปากเ้ากรรมกลับพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
นางจำได้แม่น ชาติก่อนพี่ชายถึงแก่กรรมั้แ่ยังหนุ่มเพราะออกกวาดล้างพวกโจรป่าแถบด่านชายแดนเพื่อเซี่ยยู่จาง แต่กลับไม่คิดว่าจะได้รับาเ็ระหว่างการปะทะ ท้ายที่สุดรักษาไม่ทันการจึงสิ้นชีพไป
วันนี้ยามนี้ได้พบพี่ชายอีกครั้ง นอกจากความคิดถึงคะนึงหาอันไร้ที่สิ้นสุดนี้แล้ว สิ่งที่มากกว่านั้นคือการกล่าวโทษตนเอง
หากมิใช่เพราะนางต้องอภิเษกกับเซี่ยยู่จาง พี่ชายคงไม่ต้องออกไปสู้รบเพื่อเขา กระทั่งต้องพบจุดจบอันน่าสังเวชที่ด่านชายแดน
“เจียเอ๋อร์วางใจเถิด จากนี้พี่จะอยู่กับเ้าเอง” เฉินอี้เหอค่อยๆ หลับตา ลูบหัวทุยของนางอย่างเบามือ
“นายท่านโหว คุณชายใหญ่กับคุณหนูใหญ่มิได้เจอกันเนิ่นนาน ข้าคิดว่ามิสู้ให้พวกเขารำลึกถึงวันเก่าๆ เสียดีกว่า” จ้าวอี๋เหนียงเห็นความรู้สึกสายสัมพันธ์ของสองพี่ชายน้องสาวแน่นแฟ้น ก็อดที่จะเอ่ยปากขึ้นเสียมิได้
นางแค่ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป ต่อให้ยามนี้เฉินจิ้งเจียจะดูเป็ปกติ ทว่านางกลับยังรู้สึกผวากลัวบางสิ่ง กลัวว่าเสี้ยววินาทีต่อไปนางจะกลายเป็ซูชื่อที่ตายไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น
“อี้เหอ ปลอบขวัญน้องหญิงของเ้าดีๆ ล่ะ” ป๋อชางโหวพยักหน้า เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของเฉินจิ้งเจียแล้ว จิตใจเขาก็เป็ห่วงตาม
“ท่านพ่อโปรดวางใจ อี้เหอเข้าใจขอรับ”
หลังออกมาถึงสวนต้นจือหลันพร้อมป๋อชางโหว สีหน้าจ้าวอี๋เหนียงหาได้ดีขึ้นแต่อย่างใด แม้นข้างนอกมีแสงแดดสาดส่อง ทว่าปลายเท้านางกลับยังคงรู้สึกเย็นเยียบไม่คลาย
“จ้าวชื่อ จิตใจเ้าไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ป๋อชางโหวจดจ้องจ้าวอี๋เหนียงอย่างฉงนใจ รู้สึกคลุมเครือดูเหมือนนางผิดปกติไป
เมื่อได้ยินดังว่า จ้าวอี๋เหนียงรีบลนลานเงยหน้าพร้อมรอยยิ้มประดับ “ท่านโหว ข้าหาได้มีเื่ลำบากใจอันใด ข้าเพียงปวดใจกับคุณหนูใหญ่เท่านั้น และมิอาจรู้ว่าเมื่อครู่เกิดอันใดขึ้นกับคุณหนูใหญ่กันแน่ ครั้นนึกถึงภาพนั้นก็รู้สึกเสียใจยิ่งนักเ้าค่ะ”
ประโยคดังกล่าวเอ่ยอย่างแยบยล ทำเอาป๋อชางโหวอดจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เสียมิได้ “ยัยหนูน้อยได้รับความรักความโปรดปรานจากเหยาเอ๋อร์มาั้แ่เยาว์วัย ยามนี้เหยาเอ๋อร์จากไปกะทันหัน นางย่อมมิอาจทนรับไหวอยู่แล้ว”
“ท่านโหว วันนี้คุณหนูใหญ่ฝันร้ายจนใครต่อใครอดห่วงมิได้ ข้าคิดว่าเื่นี้แลดูประหลาดนัก หากคุณหนูใหญ่ฝันร้าย และคลุ้มคลั่งละเมอเช่นนี้ขึ้นอีก เกรงว่าอาจถูกคนมีเจตนาแอบแฝงนำไปแพร่งพราย ถึงวาระนั้นจะไม่ส่งผลต่อจวนของเราหรือเ้าคะ?” จ้าวอี๋เหนียงขมวดคิ้วแน่น ทำท่าทางเป็กังวลเต็มประดา
ป๋อชางโหวมองจ้าวอี๋เหนียงด้วยแววตาล้ำลึกครู่หนึ่ง เื่ราวทำนองผีสางนั้น สำหรับเขาแล้วถือเป็เื่ลี้ลับที่ไม่เคยเชื่อ ท่าทางของเฉินจิ้งเจียเมื่อครู่ทำให้เขาคิดอะไรขึ้นได้มากมาย เมื่อรวมกับคำพูดของเฉินจิ้งเจียยามละเมอด้วยแล้ว เขาก็เริ่มหวาดผวาขึ้นจริงๆ
“ท่านโหว เื่ผีสางพลังประหลาดนี้ ข้ามิกล้าเอ่ยเหลวไหลมากนัก ทว่าเื่นี้ข้องเกี่ยวกับอนาคตของจวนโหวและของนายท่านโหวเชียวนะเ้าคะ ข้าคิดว่ามิสู้ใช้โอกาสนี้มุ่งหน้าไปขอพรที่วัดอันเหริน ให้มีความสุขความเจริญ ถือเป็การโปรดสัตว์เพื่อพี่หญิง และภาวนาให้คุณหนูใหญ่ปลอดภัยเสียเล่าเ้าคะ” จ้าวอี๋เหนียงค่อยๆ โน้มน้าวใจ ทุกประโยคล้วนแตะจิตใจอันละเอียดอ่อนของป๋อชางโหว
“ที่เ้าบอกมาก็ไม่เลวเลย วันรุ่งขึ้นต้องฝังเหยาเอ๋อร์แล้ว ในเมื่อเป็เช่นนี้หลังจากเสร็จสิ้นเื่ของเหยาเอ๋อร์ ต้องพาลูกๆ ไปขอพรที่วัดอันเหรินเสียแล้วล่ะ” ดวงตาป๋อชางโหวส่องประกายวาบ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้แล้ว
จ้าวอี๋เหนียงผุดยิ้มบาง นางทราบดีว่าขอเพียงยืมประโยชน์ในนามความปลอดภัยสบายใจของเฉินจิ้งเจียมาได้ ป๋อชางโหวต้องตอบรับข้อเสนออย่างแน่นอน
นางรู้ดีแก่ใจเป็อย่างยิ่งว่า ในสายตาป๋อชางโหวนั้น ใครอื่นนอกจากเฉินจิ้งเจียและเฉินอี้เหอแล้ว ไม่ว่าจะบุตรสาวของนางอย่างเฉินจิ้งโหรวหรือบุตรสาวของซูอี๋เหนียง เฉินจิ้งหนาน ก็มิอาจเทียบเทียมกับสองพี่น้องนั้นได้ทั้งสิ้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้