“ข้า...พี่สะใภ้ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ตระกูลหานคือตระกูลของท่าน ท่าน...”
มู่หรงหว่านหรูที่กำลังจะอธิบาย แต่หานอวิ๋นซีกลับไม่ให้โอกาสและพูดต่อว่า “น้องหว่านหรูพูดถูก ตระกูลหานเป็ตระกูลของข้า และสิ่งเหล่านี้ก็เป็เื่ของตระกูลข้า แต่จวนฉินอ๋องคือครอบครัวสามีของข้า ข้าจะเข้าข้างครอบครัวตัวเองแล้วทำร้ายครอบครัวสามีได้อย่างไร? น้องหว่านหรู เ้าจะพูดแบบนี้ใช่หรือไม่?”
มู่หรงหว่านหรูพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “แน่นอน แต่...”
หานอวิ๋นซีขัดจังหวะอีกครั้ง “ข้าไม่ได้คิดที่จะปกป้องครอบครัวของข้าเลยแม้แต่น้อย น้องหว่านหรูไม่จำเป็ต้องออกหน้าขอร้องให้ครอบครัวของข้าแทนข้าจะดีกว่าหรือไม่?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา สีหน้าของมู่หรงหว่านหรูก็เปลี่ยนไปทันที!
นางยังคิดจะแสร้งทำเป็ใจดี โดยบอกว่าที่อ้อนวอนครอบครัวของนางเป็เพราะเห็นแก่หานอวิ๋นซี!
ใครจะรู้ ก่อนที่นางจะได้พูดหานอวิ๋นซีก็ปฏิเสธเสียก่อนแล้ว
มู่หรงหว่านหรูมองลงไป เห็นฮูหยินสวี่นั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ไม่รู้ว่าโง่ไปแล้วหรือนางกำลังฟังพวกเขาอยู่
ฮูหยินสวี่ผู้นี้ เป็ตัวปัญหาจริงๆ!
มู่หรงหว่านหรูที่ทำอะไรไม่ถูก หานอวิ๋นซีก็พูดต่อว่า “แน่นอนว่าหากน้องหว่านหรูไม่ได้เห็นแก่หน้าข้า และกำลังร้องขอเพื่อใครบางคนในตระกูลหาน ข้าเองก็คงไม่ห้ามเ้า”
“ข้าเปล่านะ!” มู่หรงหว่านหรูโพล่งออกมาอย่างร้อนรน
อี้ไท่เฟยไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นโดยไม่ต้องคิดอะไรมากมาย นางก็เข้าใจแล้ว นางขมวดคิ้วและมองไปที่มู่หรงหว่านหรู มู่หรงหว่านหรูกลับไปนั่งที่เดิม นางจะไปกล้าเกลี้ยกล่อมอีกที่ไหนกัน นางรีบอธิบายว่า “ในเมื่อพี่สะใภ้ยุติธรรมและเป็กลางเช่นนี้ ข้าก็จะไม่พูดอะไรมาก ส่วนจะจัดการอย่างไร ควรปล่อยให้หมู่เฟยตัดสินจะดีกว่า”
อี้ไท่เฟยไว้ใจมู่หรงหว่านหรูอย่างเต็มที่ เช่นนั้นนางจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับเื่นี้ นางวางมือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะ อีกมือหนึ่งก็นวดคิ้ว
ใครจะคิดว่าเวลานี้ จู่ๆ แววตาของฮูหยินสวี่ก็เป็ประกายขึ้นมา ราวกับว่านางสามารถมองเข้าไปในหัวใจของผู้คนผ่านสายตาได้ และตอนนี้เวลานี้ คนที่นางมองอยู่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมู่หรงหว่านหรู!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หัวใจของมู่หรงหว่านหรูที่รู้สึกผิดก็เต้นระรัว รูขุมขนทั่วร่างกายก็ตีบตัน สวี่ซื่อผู้นี้ นางหมายถึงอะไร? นาง้าทำอะไรกันนะ?
หานอวิ๋นซีที่เห็นฉากนี้ทั้งหมด วันนี้นางต้องฆ่านกสามตัวด้วยหินก้อนเดียวให้ได้ ไม่เพียงแต่้าพิสูจน์ให้คนในเมืองหลวงทั้งหมดเห็นว่านางไม่ได้โลภในทรัพย์สินของตระกูลหาน แต่ยัง้าที่จะกำจัดสองแม่ลูกสวี่ซื่อเพื่อเสี่ยวอี้เอ๋อร์ และที่สำคัญกว่านั้นคือนาง้าหาตัวคนร้ายตัวจริงที่ยุยงให้ฮูหยินสวี่สร้างปัญหา!
มู่หรงหว่านหรู ครั้งนี้ในที่สุดเ้าก็อยู่ในเงื้อมมือของข้าแล้ว!
หานอวิ๋นซียกยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมและถามว่า “น้องหว่านหรู ข้าเห็นว่าหมู่เฟยกำลังกลุ้มใจ ทำไมเ้าไม่ไปช่วยหมู่เฟย คิดวิธีลงโทษฮูหยินสวี่ล่ะ จะได้ทำเป็ตัวอย่างให้ผู้อื่นดู?”
ลงโทษฮูหยินสวี่เป็ตัวอย่างอย่างนั้นหรือ?
การที่มู่หรงหว่านหรูไม่สามารถขอร้องแทนฮูหยินสวี่ได้ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นางรู้สึกผิด ตอนนี้หานอวิ๋นซียังโยนคำถามที่ไม่คาดคิดเช่นนี้มาอีก
นี่คือจังหวะที่จะผลักนางตกลงไปในหลุมไฟ!
เมื่อเห็นสายตาที่เฉียบคมราวกับคมมีดของฮูหยินสวี่ มู่หรงหว่านหรูก็ไม่กล้ามองไปโดยตรงและรีบเกลี้ยกล่อมว่า “พี่สะใภ้ หมู่เฟยเป็คนมีเมตตา มักจะให้อภัยผู้คนเสมอ ข้าคิดว่าเื่นี้เป็เื่ของตระกูลหานของท่านและมันก็เป็เื่เข้าใจผิด เช่นนั้น...”
“น้องหว่านหรู ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ต้องเห็นแก่หน้าข้า” หานอวิ๋นซีเตือนอย่างใจดี
“พี่สะใภ้ ข้ารู้ว่าท่านเป็คนยุติธรรม แล้วก็รู้ว่าท่านใส่ใจจวนของเรา ทั้งยังไม่อ้อนวอนขอความเมตตาให้ตระกูลของตนเอง เช่นนี้ดีหรือไม่ เื่วันนี้…”
ก่อนที่มู่หรงหว่านหรูจะพูดจบ หานอวิ๋นซีก็หัวเราะขึ้นมา “น้องหว่านหรูเข้าข้างตระกูลหานขนาดนี้ หมู่เฟยจะทำอย่างไรล่ะ? ฮูหยินสวี่จะใส่ร้ายข้าอย่างไรข้าไม่สนหรอกนะ แต่นางจะมาโวยวายหน้าจวนฉินอ๋องได้ด้วยหรือ? เื่นี้มันวุ่นวายจนสะพัดไปทั่วเมือง ไม่รู้จะคิดว่าหมู่เฟยเป็คนอย่างไรกันบ้าง...”
หานอวิ๋นซีพูดพลางแสร้งทำเป็ครุ่นคิด “ก่อนหน้านั้นด้านนอกพูดอะไรกันนะ? โอ๊ะ ใช่แล้ว คนที่อยู่ข้างนอกเ่าั้สงสัยว่ามีคนติดสินบนศาลต้าหลี่และโลภทรัพย์สินของตระกูลหาน! ข้าจะไปมีความสามารถในการติดสินบนศาลต้าหลี่ได้ที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสงสัยในตัวหมู่เฟยต่างหาก ไหนจะพูดว่าวัตถุดิบยาในโกดังของตระกูลหานที่เป็สิ่งที่หายากอีก”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา อี้ไท่เฟยที่ขมวดคิ้วอยู่ตลอดก็เงยหน้าขึ้นทันทีและมองไปที่หานอวิ๋นซีด้วยสายตาที่เฉียบคม
อย่างไรก็ตาม หานอวิ๋นซีไม่ได้มีความกลัวและพูดขึ้นมาอีกว่า “หมู่เฟย ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้ว ท่านไม่ต้องเห็นแก่หน้าข้าหรอก ฮูหยินสวี่ได้กระทำความผิดร้ายแรง ต้องถูกลงโทษอย่างหนักเพื่อเป็ตัวอย่างแก่ผู้อื่น ไม่เช่นนั้น ไม่รู้ว่าข่าวลือข้างนอกจะกลายเป็อย่างไรอีก”
วันนี้อี้ไท่เฟยไม่สามารถจับหานอวิ๋นซีได้ ไฟของความโกรธยังคงมีอยู่เต็มอก ที่มาพร้อมกับความไม่เต็มใจทุกรูปแบบ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่หานอวิ๋นซีพูดนั้นมีเหตุผลและเป็สิ่งที่นางคิดมาจนถึงตอนนี้
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความวุ่นวายมากมายในเมือง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจัดการความยุ่งเหยิงนี้ให้เรียบร้อยและไม่หลงเหลืออะไรไว้ใช่หรือไม่?
การปล่อยหานอวิ๋นซีไปยังพอเป็ไปได้ แต่สำหรับฮูหยินสวี่แล้ว ไม่จำเป็ต้องให้หานอวิ๋นซีพูด นางไม่มีวันปล่อยไปอย่างแน่นอน!
นางที่กำลังคิดว่าจะจัดการกับเื่นี้อย่างไรเพื่อที่จะรักษาหน้าของตนเองไว้ได้ และต้องโน้มน้าวใจกลุ่มผู้คนที่รออยู่ที่ประตูศาลต้าหลี่ด้วย
ต้องรู้ว่าประชาชนเ่าั้ก็เหมือนกับนางก่อนหน้านั้น ที่เชื่อมั่นว่าหานอวิ๋นซี้าทรัพย์สินของตระกูลหาน
หากไม่คิดวิธีการจัดการให้ดี ต่อให้จะโยนบทสรุปของการสอบสวนออกไปและแม้ว่าเื่จะจบลงแล้วก็ตาม แต่การโน้มน้าวใจผู้คนยังคงเป็เื่ยากเสมอ
ผู้ที่ไม่รู้จะคิดว่าคนจากจวนฉินอ๋องของนางกำลังข่มเหงตระกูลหานในศาลต้าหลี่อย่างไรบ้าง
ท้ายที่สุดแล้ว อี้ไท่เฟยก็เป็ผู้าุโที่ดูแลมาหลายปี แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ใน่เวลาสำคัญเช่นนี้ ก็ต้องสงบสติอารมณ์และพิจารณาทุกด้าน
อี้ไท่เฟยมองไปที่หานอวิ๋นซีเป็เวลานาน ทว่าไม่ได้ตอบนางโดยตรง การตอบหานอวิ๋นซีโดยตรงเป็การยอมรับว่าตนเองพ่ายแพ้ให้กับหานอวิ๋นซีโดยไม่ต้องสงสัย นางเกลียดความรู้สึกเช่นนี้อย่างมาก
นางมองไปที่ใต้เท้าโอวหยางและพูดอย่างใจเย็นว่า “ใต้เท้าโอวหยาง ตอนนี้ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว ฮูหยินสวี่ใส่ร้ายฉินหวังเฟยและดูิ่ชื่อเสียงของจวนฉินอ๋อง ความผิดทั้งสองนี้ควรตัดสินอย่างไร?”
ครู่หนึ่ง ทุกคนต่างมองไปที่ใต้เท้าโอวหยาง แม้แต่ฮูหยินสวี่ที่อยู่ในห้องโถงก็มองเขาอย่างเ็าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หานรั่วเสวี่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ เหงื่อออกเต็มฝ่ามือ จนถึงตอนนี้นางเองก็รู้แล้วว่าเื่นี้ได้ข้อสรุปแล้ว และไม่มีที่ว่างสำหรับการพลิกสถานการณ์ หากออกไปชี้แจง มู่หลิวเยวี่ยที่ดูอยู่จะไม่ผิดหวังหรือไร?
ไม่ได้ นางต้องคิดให้ดีๆ ว่าจะพูดอย่างไร
“เ้าเป็อะไรไป ทำไมมือเหงื่อออกมากขนาดนั้นล่ะ?” หลี่ซื่อถามเสียงเบา
“มะ...ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่โกรธที่ท่านพ่อไม่ยอมตอบรับ”
หานรั่วเสวี่ยตอบอย่างรวดเร็ว นางไม่กล้าบอกท่านแม่ของนางว่ามู่หลิวเยวี่ยอยู่ข้างนอก แล้วจะไปนับประสาอะไรกับการเดิมพันระหว่างหานอวิ๋นซีและมู่หลิวเยวี่ย ก่อนหน้านี้หลังจากส่งชาเสร็จแล้ว ท่านแม่ของนางก็บอกนางว่าอย่าได้ไปมาหาสู่กับมู่หลิวเยวี่ยอีก ท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างหานอวิ๋นซีและมู่หลิวเยวี่ยนั้นไม่ดี นางจะไปพูดได้อย่างไรว่าเป็น้องสาวของหานอวิ๋นซี
ในห้องโถง ฮูหยินสวี่ที่เงียบที่สุด ทำให้มู่หรงหว่านหรูรู้สึกขนลุกอย่างช่วยไม่ได้ นางรู้สึกเพียงว่าฮูหยินสวี่ราวกับกำลังรอผลลัพธ์ จากนั้นก็ะเิและตายไปพร้อมกับนาง
มู่หรงหว่านหรูกำหมัดแน่น หลังของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ นางควรทำอย่างไรดี? นางยังสามารถทำอะไรเพื่อหยุดฮูหยินสวี่ได้อีก?
ใต้เท้าโอวหยางเองก็ไม่กล้ามองที่ฮูหยินสวี่ ดังนั้นเขาจึงหันหน้าหนีและพูดด้วยความลำบากใจว่า “ตามกฎหมายแล้ว...ต้องถูกตัดศีรษะพ่ะย่ะค่ะ!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ฮูหยินสวี่ที่คุกเข่าอยู่ก็ลุกขึ้นทันที
เมื่อเห็นสิ่งนี้ มู่หรงหว่านหรูก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ยืนขึ้นและอุทานว่า “ฮูหยินสวี่ ท่านคิดจะทำอะไร?”
“อี๋เหนียงสอง การปล่อยข่าวลือไม่ใช่ความผิดร้ายแรงถึงตาย แต่ท่านไม่เพียงแพร่ข่าวลือเท่านั้น ยังมาก่อความวุ่นวายที่หน้าประตูจวนฉินอ๋องเพื่อปลุกระดมผู้คนอีก ท่านสมองเลอะเลือนหรือไร? คิดไม่ถึงว่าจะทำเื่เช่นนี้ออกมาจริงๆ!” หานอวิ๋นซีพูดอย่างเ็า
คำพูดนี้ฟังดูเหมือนเป็การตำหนิ แต่กลับเป็การเตือนฮูหยินสวี่ว่าการปล่อยข่าวลือไม่ใช่ความผิดถึงตาย แต่เพราะนางถูกคนอื่นยุยงและหลอกใช้ จึงได้ลงเอยแบบนี้ในวันนี้!
สุนัขจนตรอกยังะโข้ามกับแพงได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนล่ะ?
บุตรชายของเขาถูกขังเป็เวลาสามปี ส่วนตัวเองก็โทษปะาชีวิต การได้ขึ้นเป็ผู้นำของตระกูลหานก็สิ้นหวัง ตอนนี้ฮูหยินสวี่มาถึงจุดที่ต้องเป็ไปตามยถากรรมแล้ว
ในเมื่อกลายเป็คนที่ไร้หนทางแล้ว นางจะยังสนใจอะไรอีกหรือ? เวลานี้นางก็เหมือนกับคนตกน้ำ ไม่ว่าจับใครไว้ได้นางก็จะดึงลงหมด!
ทันทีที่หานอวิ๋นซีพูดจบ ฮูหยินสวี่ก็มองไปที่มู่หรงหว่านหรูอย่างเ็าและจู่ๆ ก็ก้าวไปข้างหน้า
มู่หรงหว่านหรูที่หวาดกลัวก็รีบพุ่งลงมาขวางตรงหน้าฮูหยินสวี่ ด้วยท่าทางราวกับ้าปกป้องอี้ไท่เฟย และพูดอย่างโกรธเคืองว่า “เ้าจะทำอะไร เ้ามันบังอาจยิ่งนัก ล่วงเกินอี้ไท่เฟยเช่นนี้ เ้าต้องถูกลงโทษ!”
ฮูหยินสวี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ปล่อยให้ตัวเองมองเห็นใบหน้าของมู่หรงหว่านหรูได้ชัดเจนขึ้น นางค่อยๆ หัวเราะอย่างเ็าพร้อมกับยิ้มเหน็บแนม
มู่หรงหว่านหรูผู้นี้เคยสัญญากับนางในตอนนั้นว่า แม้ว่าอี้ไท่เฟยจะโกรธ ก็มีวิธีที่จะยุติได้ มิฉะนั้นนางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าการสร้างปัญหาในจวนฉินอ๋องนั้นก็เหมือนกับการสร้างปัญหาในวัง ซึ่งมีโทษถึงแก่ชีวิต!
มู่หรงหว่านหรูหันหลังให้อี้ไท่เฟยด้วยใบหน้าตื่นตระหนกที่ปกปิดไม่ได้ นางวางแผนมาอย่างดีว่าหากหานอวิ๋นซีถูกจับ หมู่เฟยก็จะอารมณ์ดีขึ้น ถึงเวลานั้นนางค่อยพยายามเกลี้ยกล่อมอีกสักสองสามคำ ฮูหยินสวี่เองก็จะได้ความดีความชอบและไม่เป็อะไรอย่างแน่นอน! นางจะไปคิดได้อย่างไรว่าหานอวิ๋นซีสามารถพลิกสถานการณ์ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากหานฉงอันอีก!
“หว่านหรู เ้ารีบมานี่เร็ว ใครก็ได้นำตัวฮูหยินสวี่มาให้ข้าเดี๋ยวนี้!” อี้ไท่เฟยที่ร้อนรน ด้วยเป็ห่วงความปลอดภัยของมู่หรงหว่านหรู
หานอวิ๋นซีมองอย่างเ็าอยู่ด้านข้าง รอให้มู่หรงหว่านหรูนั่งลงอย่างเชื่อฟัง และรอให้ฮูหยินสวี่เปิดเผยทุกอย่าง
แต่ใครจะรู้ว่าในตอนที่คนใช้ก้าวมาข้างหน้า ฮูหยินสวี่กลับเข้าไปใกล้มู่หรงหว่านหรูและจับแขนของนางไว้แน่น เมื่อกำลังจะด่าทอ มู่หรงหว่านหรูก็กระซิบว่า “ฮูหยินสวี่ อย่าลืมว่าเ้ายังมีพ่อ! หากเ้ากล้าเปิดโปงข้าโดยไม่มีหลักฐาน หมู่เฟยไม่มีวันเชื่อเ้าอย่างแน่นอน และรับประกันได้ว่าตระกูลสวี่ของเ้าคงไม่จบลงด้วยดี!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาฮูหยินสวี่ก็ถึงกับชะงักไป ใช่แล้ว นางยังมีบิดาและพี่น้องร่วมสายเืของนาง ไม่มีหลักฐาน อี้ไท่เฟยก็ไม่มีทางเชื่อนาง มู่หรงหว่านหรูเองก็คงแก้แค้นนางอีกครั้ง ในภายภาคหน้าตระกูลสวี่เองก็คงลำบาก!
มือของฮูหยินสวี่แข็งทื่อและปล่อยทันที มู่หรงหว่านหรูถอยหลังทำท่าราวกับกำลังหลบหนี ใบหน้าของนางซีดเซียวด้วยความใ ลูบหน้าอกตัวเองหลายครั้งและหายใจเข้าลึกๆ
คนนอกคงคิดว่านางกลัวฮูหยินสวี่ แต่ในความเป็จริงแล้ว นางโชคดีที่หาโอกาสเตือนฮูหยินสวี่ได้ทันเวลาต่างหาก ไม่เช่นนั้นนางก็คงไม่รู้ว่าตัวเองจะจบลงอย่างไรในวันนี้
แม้จะไม่มีหลักฐาน แต่หมู่เฟยต้องมีอะไรอยู่ในใจอย่างแน่นอน ต้องรู้ว่าคราวนี้นางเดิมพันด้วยชื่อเสียงของหมู่เฟย!
เพียงสิ่งนี้สิ่งเดียว ก็เพียงพอสำหรับหมู่เฟยที่จะไม่ไว้ชีวิตนางอย่างแน่นอน ไม่ว่านางจะพูดอย่างไร ท้ายที่สุดนางก็เป็เพียงบุตรสาวบุญธรรม
เมื่อเห็นว่าคนใช้จับตัวฮูหยินสวี่ไปขังแล้ว อี้ไท่เฟยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ลุกขึ้นยืนและโบกมือให้มู่หรงหว่านหรูอย่างรวดเร็ว “หว่านหรู มานี่เร็วเข้า! ให้ข้าดูหน่อยว่าเจ็บตรงไหนหรือไม่? เ้าใใช่หรือไม่?”
