หลินเฟิงสวมหน้ากากเพื่อปกปิดตัวตนของเขาไม่ให้ศิษย์คนอื่นรู้ แต่หลินเฟิงได้ฝึกฝนทักษะคลื่น์เก้ากระแทกและเคล็ดวิชาดาบอัสนีกัมปนาทจนเชี่ยวชาญ
จิ่งฮ่าว เป็หนึ่งในศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกายและอยู่ในระดับ 6 และถนัดดาบเดียวมากที่สุด เขาสามารถเอาชนะศิษย์ที่อยู่ขอบเขตนักรบปราณขั้น 9 ได้ ในการต่อสู้แบบ 3 ต่อ 1
ระดับการบ่มเพาะพลังของหลินเฟิงต่ำกว่าจิ่งฮ่าว แต่หลินเฟิงท้าจิ่งฮ่าวต่อหน้าทุกคน จิ่งฮ่าวจะต้องปกป้องเจียงฮ่วยให้ได้ ทุกคนรอคอยดูการต่อสู้ของหลินเฟิงกับจิ่งฮ่าว หลินเฟิงได้รอจิ่งฮ่าวอยู่บนลานประลองและท้าทายจิ่งฮ่าว
“เขาอาจรู้ชะตากรรมว่าจิ่งฮ่าวไม่ปล่อยเขาไว้แน่ เขาจึงท้าประลองที่นี่” ศิษย์ที่อยู่ในฝูงชนกล่าว หลินเฟิงอยู่ขอบเขตนักรบปราณขั้น 8 เท่านั้น และความแข็งแกร่งของเขาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับจิ่งฮ่าว
จิ่งฮ่าวรู้สึกอับอายที่ถูกทำให้ขายหน้า ั้แ่เข้าร่วมนิกายหยุนไห่ ยังไม่เคยได้รับความอับอายขนาดนี้มาก่อน
“ั้แ่ที่เ้าร้องขอความตาย ข้าก็จะสนองตามความ้าของเ้า” จิ่งฮ่าวเกลียดหลินเฟิงเข้ากระดูก ั้แ่ที่เขาได้เห็นหลินเฟิงใช้ทักษะสายฟ้าฟาด เขารู้ว่าหลินเฟิงไม่ได้โกหกเขา จิ่งฮ่าวจะต้องฆ่าคนคนนี้ให้จงได้
หลินเฟิงไม่เพียงแต่ฆ่าน้องชายเขาเท่านั้น แต่ยังทำให้จิ่งฮ่าวต้องอับอายขายขี้หน้าอีก
จิ่งฮ่าวก้าวเข้าสู่ลานประลองพร้อมกับดาบที่ปลดปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกมา และข้างหลังจิ่งฮ่าวก็ปรากฏดาบที่ลอยอยู่ในอากาศ มันเป็จิติญญาดาบของจิ่งฮ่าว
จิ่งฮ่าวใช้จิติญญาดาบของเขาทันทีเมื่อก้าวขึ้นมายังลานประลอง ดูเหมือนเขา้าฆ่าอีกฝ่ายอย่างโอ่อ่า
เหล่าผู้คนเข้าใจทันทีว่าจิ่งฮ่าวตั้งใจจะทำอะไร เขา้าพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขานั้นแข็งแกร่งเพียงใด
“ดึงดาบของเ้าออกมาซะ ข้าจะให้เ้าโจมตีข้า 3 ครั้ง” จิ่งฮ่าวกล่าวขณะถือดาบอยู่ในมือ
หลิงเฟิงยิ้มและเริ่มใช้ทักษะเงาจันทราทันที ดาบในมือเรืองแสงเสมือนแสงจันทร์ หลินเฟิงมาถึงด้านหน้าจิ่งฮ่าว แล้วกวัดแกว่งดาบออกไปทันที เกิดเสียงดังสนั่นแผ่กำจาย
“แข็งแกร่งมาก ใช้ทักษะสายฟ้าฟาดได้อย่างเชี่ยวชาญ” ทุกคนใเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้อง เสียงที่ดังออกมาเหมือนฟ้าร้องจริงๆ สามารถคิดได้ว่าเป็ะเิที่แข็งแกร่งมากๆ
สายตาของจิ่งฮ่าวที่เคยดูิ่ได้จางหายไป เมื่อดาบที่ฟันมาทำให้เขาสนใจมัน
เสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นทำให้ในหุบเขาเริ่มสั่นะเื ดาบมายาที่ทรงพลังโผล่ขึ้นมาในอากาศด้านหน้าของจิ่งฮ่าวและเป็โล่ปกป้อง ทำให้เขาถอยไปเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น
“ดาบเดียว” จิ่งฮ่าวกล่าวเยาะเย้ย
หลินเฟิงดูไม่สับสนและยังมั่นคง เสียงฟ้าร้องปะทุขึ้นมาอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง การโจมตีครั้งที่สอง แข็งแกร่งและทรงพลังมากกว่าการโจมตีครั้งแรก
จิ่งฮ่าวยังคงป้องกันอย่างเดียว ใช้ดาบมายาเป็โล่ เขาเริ่มเตรียมการโจมตีกลับ
หลินเฟิงพุ่งเข้าไปโจมตีจิ่งฮ่าวรอบที่สอง แต่จู่ๆ หลินเฟิงเริ่มคลายด้ามจับออก และปาดาบไปที่จิ่งฮ่าว
“เขากำลังทำอะไรน่ะ?”
ฝูงชนเห็นต่างก็ตกตะลึง เมื่อเห็นหลินเฟิงรวบรวมพลังลมปราณทั้งหมดไว้ที่ดาบและปาดาบไปที่จิ่งฮ่าว ถ้าจิ่งฮ่าวรับการโจมตี เขาจะได้รับความเสียหายจากการปะทะ แต่จิ่งฮ่าวก็ไม่มีทางเลือกเขาต้องรับการปะทะนี้
ใน่เวลาสั้นๆ หลังจากที่จิ่งฮ่าวยิ้ม เขาจะตายหรือไม่
จิ่งฮ่าวเริ่มถอยหลัง ขณะที่กวัดแกว่งดาบด้วยท่วงท่าที่สง่างาม
หลังจากที่หลินเฟิงปาดาบไปที่จิ่งฮ่าว ในเวลาเดียวกันร่างกายของก็เคลื่อนไหว พุ่งไปหาจิ่งฮ่าวอย่างรวดเร็ว
“ดาบที่สอง” จิ่งฮ่าวมองหลินเฟิงที่กำลังเข้ามาใกล้ด้วยความเร็ว เขาไม่แยแสถึงภัยคุกคามใดๆ ราวกับว่าเขากำลังเล่น หลินเฟิงโผล่มาที่ด้านหน้าของจิ่งฮ่าว
“รนหาที่ตาย” จิ่งฮ่าวได้แทงดาบออกไป หลินเฟิงที่ได้สูญเสียดาบในมือไป ้าโจมตีระยะประชิด งั้นก็ไม่จำเป็ต้องมีดาบครั้งที่สาม ดาบนี้เขาต้องได้ชีวิตของหลินเฟิง
แต่ตอนนี้จิ่งฮ่าวกลับได้ยินหลินเฟิงพูดออกมาสองคำ ซึ่งเป็สองคำที่ง่ายมากๆ คือ พอแล้ว
เพียงแค่สองคำนี้ราวกับมีเสียงฟ้าร้องดังสนั่น มีแสงสว่างตัดผ่านอากาศระหว่างทั้งสองร่างก่อนที่จะหายไป
จิ่งฮ่าวมึนงง ดูเหมือนจิ่งฮ่าวจะเข้าใจความหมายของสองคำนี้ ชีวิตนี้ของเขา หลังจากที่ได้ยินสองคำนี้ เขาก็ทราบทันทีว่า ชีวิตของเขามันห่างจากคำว่า "พอแล้ว" สักกี่พันเท่า
“ดาบที่สาม”
มันเป็ประโยคที่หลินเฟิงกล่าวออกมา ตอนนี้เขาหันหลังให้จิ่งฮ่าว เสียงเลยไม่ค่อยดัง แต่ในความเงียบนี้ฝูงชนรอบๆ กลับได้ยินคำพูดอย่างชัดเจน ร่างของจิ่งฮ่าวร่วงลงกับพื้นพร้อมกับเืที่ไหลออกมา
ฝูงชนที่มุงดูล้วนแต่ตกอยู่ในอาการมึนงง และไม่อยากเชื่อในสายตาของตัวเองว่าจิ่งฮ่าวพ่ายแพ้?
หลินเฟิง เขาทำได้อย่างไร?
‘ทักษะชักดาบ’ ในฝูงชนมีศิษย์ชนชั้นสูงอยู่หลายคน พวกเขาสามารถเห็นแสงจากดาบที่ผ่านร่างของจิ่งฮ่าว เพราะการกวัดแกว่งดาบของหลินเฟิงมันเร็วมาก ราวกับอุกกาบาตที่บินผ่านท้องฟ้าก่อนที่จะหายไป แต่หลายคนอาจไม่เห็นว่ามันคืออะไร
ทันใดนั้นฝูงชนเริ่มพูดคุยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแสงที่หายไปเมื่อครู่นี้
จิ่งฮ่าวที่เป็ศิษย์อันดับ 6 กลับพ่ายแพ้ต่อหลินเฟิงภายในสามดาบ
“เขาเป็ใครกัน?”
บางคนก็มีคำถามที่สงสัย เพราะเขาสามารถเอาชนะจิ่งฮ่าวผู้ที่อยู่ขอบเขตนักรบปราณขั้น 9 ได้ หลินเฟิงเป็อัจฉริยะที่แท้จริง การต่อสู้ครั้งนี้เพียงพอที่จะทำให้นิกายหยุนไห่มีชื่อเสียงขึ้นมาได้
ขณะนั้น้าของหุบเขา ผู้คนจำนวนมากกำลังพูดถึงการโจมตีของหลินเฟิง
ไม่ไกลจากหุบเขา ภายในหอซิงเฉินมีชายชราผู้หนึ่งยิ้มออกมาและพูดเบาๆ ว่า“ดาบอ่อน ที่แท้ก็เป็เ้าเด็กหนุ่มนั่น หรือว่ากล้าฝึกทักษะชักดาบ เ้าเด็กนี่ช่างมีพร์สูงอันน่าเหลือเชื่อจริงๆ!”
ชายชราเป็ผู้เฝ้าหอซิงเฉิน หุบเขาแห่งความป่าเถื่อนคือสถานที่ฝึกของศิษย์ในนิกาย ในหอซิงเฉินมีการตอบสนองต่อพลังของศิษย์นิกายหยุนไห่ ขณะที่ชายชราพักผ่อนอยู่จึงรีบวิ่งไปดู เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นฉากการต่อสู้บนลานประลองเป็ตาย หลินเฟิงได้ใช้ดาบอ่อนที่ชายชราเคยให้ แล้วทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหลินเฟิงคือใคร
นอกจากชายชรา จิ้งหยุน หานหมาน และยังมีอีกผู้หนึ่งที่จำหลินเฟิงได้ ผู้นี้คือ กัวไห่ เขาวางแผนจะใช้ความตายของหลินเฟิงเป็ข้ออ้างในการข่มขู่จิ้งหยุน แต่ผลลัพธ์มันกลับไม่เป็อย่างที่คิด แล้วเขาก็พบจิ่งฮ่าว เขาจำได้ว่าหลินเฟิงและอีก 2 คนว่าสวมชุดอะไรตอนที่เห็นสามคนนี้ที่หุบเขา เขาก็วางแผนที่จะฆ่าทันที
กัวไห่ได้ดูหลินเฟิงฆ่าจิ่งฮ่าว มันเป็ผลลัพธ์ที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน
“ตอนนี้อยากไปหรือไม่ ก่อนที่จะสายเกินไป” หลินเฟิงสังเกตเห็นกัวไห่ที่หลบอยู่ข้างจิ่งฮ่าว แล้วพูดออกมาอย่างเ็าก่อนที่จะออกมา
ขณะที่กัวไห่ก้าวเดิน จู่ๆ ก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบ
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง กัวไห่ก็หันไปแล้วยิ้มกลบเกลื่อน
“ไม่ใช่เื่ของข้า ทำไมข้าต้อง”
“งั้นหรือ?” หลินเฟิงกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างเ็า
“นี่มันหุบเขาแห่งความป่าเถื่อน ไม่ใช่ลานประลองเป็ตาย” น้ำเสียงของกัวไห่เต็มไปด้วยความสั่นกลัว และรู้สึกถึงเจตนาที่จะฆ่าของหลินเฟิงได้
“ข้ารู้” หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เ็า คลื่นที่ทรงพลังและหนักหน่วงพุ่งเข้าใส่กัวไห่อย่างฉับพลัน กัวไห่ก็ไม่ต่อต้านใดๆ เพราะอีกฝ่ายสามารถฆ่าจิ่งฮ่าวได้ แล้วเขาจะต่อต้านไปทำไม?
หลินเฟิงคว้าตัวของกัวไห่ด้วยมือข้างเดียว แล้วโยนเข้าไปในลานประลอง และชักดาบออกมาจากฝัก
“ตอนนี้ เ้าอยู่ในลานประลองแล้ว”
สายตาของฝูงชนดูตกตะลึง เห็นหลินเฟิงที่บ้าบิ่นถึงกับพูดไม่ออก
“นี่ไม่ใช่การตัดสินใจของข้า ข้ากำลังฝ่าฝืนกฎของนิกาย เ้ากล้าฝ่าฝืนกฎหรือไม่” กัวไห่ไม่คิดว่าหลินเฟิงจะกล้าถามเช่นนี้ ความกลัวตายทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว
ทันใดนั้น จู่ๆ ก็มีแสงสว่างตัดผ่านร่างของกัวไห่ไปกะทันหัน
“นิกายมีกฎเช่นนั้นจริงๆ งั้นหรือ?”
หลินเฟิงคิดว่า แค่ประโยคนี้เขากลับไม่พูดมันออกมา
ทางนิกายมีกฎเช่นนั้นจริงๆ หลิวเฟยกล้ายิงธนูใส่เขา? ศิษย์อย่างยู่ฮ่าวก็กล้าพยายามใช้ดาบฆ่า? กฎงั้นหรือ ความตายเท่านั้นคือนิรันดร์ เขาคิดว่าคนส่วนใหญ่ตั้งกฎกันเอง แต่เมื่อความแข็งแกร่งและพร์ของเ้าสูงมากพอ ก็จะไม่สนใจกฎของนิกาย
หลินเฟิงไม่ค่อยมีความสุขกับการฆ่าคนเท่าไรนัก ในทางตรงกันข้าม ชีวิตก่อนหน้านี้ของหลินเฟิง การฆ่าคนมันคือบาป แต่มาถึงโลกแห่งนี้มีหลายคนพยายามที่จะฆ่าเขาอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้หลินเฟิงเข้าใจว่าโลกนี้เป็ของผู้ที่แข็งแกร่ง เป็โลกที่โหดร้าย ดังนั้นผู้ใดที่อยากได้ชีวิตของเขา เขาก็จะฆ่าอย่างไร้ความปรานีด้วยดาบ ข้าไม่้าฆ่าคน แต่คนกลับอยากฆ่าข้า
หลินเฟิงก้าวเข้าไปหาหานหมาน เห็นหานหมานยิ้มให้เขาและได้กล่าวว่า “ข้าเชื่อมาตลอดว่าเ้าทำได้”
“ข้าก็เชื่อเช่นนั้น” หลินเฟิงกล่าวขณะหัวเราะ จากนั้นก็ไปนั่งข้างๆ หานหมาน แล้วจิ้งหยุนก็ขยิบตาให้หลินเฟิง และฝูงชนก็ละสายตาออกไปจากตรงนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้