จุนห่าวและหานรุ่ยต่างมิใช่คนที่จะเห็นใจใครง่ายๆ ทว่าเมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนของแม่เสือดาว จุนห่าวและหานรุ่ยแสดงสีหน้าซาบซึ้งใจ พวกเขาก็เป็พ่อเป็แม่ หากพวกเขาประสบกับสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาก็จะใช้ความพยายามทั้งหมดที่มี หาที่ที่ดีให้แก่ลูกของเขา
เมื่อมองดูดวงตาอันไร้เดียงสาของลูกเสือดาว จุนห่าวและหานรุ่ยใจอ่อนอย่างถึงที่สุด หากพวกเขาไม่สนใจเสือดาวน้อยตัวนี้ โชคชะตาที่รอมันอยู่คงเหมือนกับแม่ของมัน จุนห่าวทำพันธะสัญญากับเสือดาวตัวน้อยต่อหน้าแม่เสือดาวตามกฎพื้นฐาน สายตาของาาเสือดาวจุยเฟิงแสดงความขอบคุณ แม้ว่ามันจะไม่เต็มใจให้ลูกของมันทำพันธะสัญญากับมนุษย์คนใด ทว่าตอนนี้มีเพียงการทำพันธะสัญญาเท่านั้น ที่จะสามารถผูกมัดลูกของตนกับมนุษย์คนนี้ได้ และมนุษย์คนนี้จะได้ดูแลลูกของมันอย่างดี แม้ว่าลูกของมันจะสูญเสียอิสรภาพ ทว่าขอแค่มีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว นี่คือความปรารถนาเดียวของมันในตอนนี้ จุนห่าวก็รู้ว่า มีเพียงการทำพันธะสัญญาเท่านั้น ถึงจะทำให้แม่เสือดาววางใจได้
เมื่อเห็นความซึ้งใจในสายตาของแม่เสือดาว จุนห่าวสัญญาต่อแม่เสือดาวอย่างจริงจัง กล่าวว่า “เ้าวางใจเถอะ แม้ว่าข้าจะมิใช่คนดีนัก แต่ก็มิใช่คนเลวที่จะฆ่าสิ่งบริสุทธิ์ ในเมื่อข้าทำพันธะสัญญากับมันแล้ว จากนี้ไปจะดูแลมันให้ดี ข้าจะปฏิบัติต่อมันเสมือนลูกของตัวเอง และเลี้ยงดูให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ ต่อไปข้าจะพามันไปจากแผ่นดินผืนนี้ ไปสู่โลกกว้างที่ยิ่งใหญ่กว่า หลังจากนี้ลูกของเ้าจะไปได้ไกลกว่าเ้า จะประสบความสำเร็จมากกว่าเ้า เ้าสบายใจได้”
ครั้นาาเสือดาวจุยเฟิงฟังคำพูดของจุนห่าว จึงปิดตาลงอย่างสงบ ตอนที่าาเสือดาวจุยเฟิงกำลังปิดตาลง เสือดาวน้อยก็คร่ำครวญและมีน้ำตาอยู่ในดวงตาของมัน
จุนห่าวใช้กลวิธีสะอาด เพื่อทำความสะอาดเสือดาวตัวน้อย ใบหน้าของเสือดาวตัวน้อยก็เผยออกมา เนื้อตัวสีดำทมิฬ ไม่มีขนเลยสักนิด และมีขนาดเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่ จุนห่าวก้มหยิบเสือดาวตัวน้อยมาวางไว้บนมือซ้าย พลางใช้มือขวาลูบขนสีดำของมัน พร้อมพูดกับเสือดาวตัวน้อยว่า “ช่างน่าสงสารจริงๆ แม่เ้าจากไปแล้ว ข้าสัญญากับแม่ของเ้าแล้วว่าจะดูแลเ้าให้ดี จากนี้ไป เ้าก็ติดตามข้าละกัน ชื่อของเ้าก็คือจุยเฟิง” เนื่องจากจุนห่าวและเสือดาวน้อยทำพันธะสัญญากันแล้ว เสือดาวน้อยจึงรู้สึกผูกพันกับจุนห่าว ดังนั้นเสือดาวน้อยจึงใช้ลิ้นเลียที่ฝ่ามือของจุนห่าว ก็ไม่รู้ว่าเข้าใจสิ่งที่จุนห่าวพูดเมื่อครู่หรือไม่
มองเสือดาวตัวน้อยในมือของจุนห่าว จุนหนานพูดขึ้น “ท่านพ่อ จากนี้ไป เสือดาวน้อยนี้จะเป็น้องชายของข้าใช่ไหม?” จุนหนานเก็บเื่ราวทั้งหมดไว้ในสายตาของเขา รู้ว่าหลังจากนี้เสือดาวน้อยไม่มีแม่แล้ว ก็จะมาอยู่ร่วมกับพวกเขา
ฟังคำของจุนหนาน จุนห่าวยิ้มและลูบขนของเสือดาวน้อยอย่างนุ่มนวล พร้อมพูดกับจุนหนานว่า “เื่นี้เ้าต้องถามแม่เ้าแล้ว ข้าจะไม่เป็คนกำหนด”
จุนหนานคิดในใจ ท่านพ่อก็แค่คนที่เกรงกลัวภรรยา อะไรก็ฟังแต่ท่านแม่ จากนั้นเขาก็หันไปหาหานรุ่ยและพูดว่า “ท่านแม่ ข้าจะให้เสือดาวตัวน้อยเป็น้องชายของข้าได้ไหม?” มีสายฟ้าเป็พี่ชายแล้ว จุนหนานไม่คิดว่าจะมีอะไรที่ไม่ดีที่จะมีน้องชายเพิ่มอีกสักตัว
หานรุ่ยเห็นความปรารถนาในสายตาของจุนหนาน พูดกับจุนหนานอย่างยิ้มๆ ว่า “ได้สิ จากนี้ไปจุนหนานเป็พี่ชายแล้ว ต้องเป็แบบอย่างที่ดีให้กับน้องชาย และอย่าทำตัวเป็แบบอย่างที่ไม่ดีให้กับน้องชาย” หานรุ่ยคิดในใจ ในเมื่อจุนห่าวสัญญากับาาเสือดาวจุยเฟิงแล้วว่าจะเลี้ยงดูเสมือนลูกของตัวเอง อย่างเช่นนั้น จากนี้ไปมันก็คือลูกของเขาและจุนห่าว
“ข้าเป็ได้แน่ จากนี้ไปข้าจะเป็พี่ชายที่ดีแน่” จุนหนานพูดกับหานรุ่ยอย่างมีความสุข จากนั้นก้มศีรษะลงพลางลูบเสือดาวตัวน้อยด้วยมือเล็กๆ ของเขา “น้องชาย ข้าคือพี่ชายของเ้านะ จากนี้ไปเ้าต้องเชื่อฟังข้า ข้าจะปกป้องเ้าเอง”
เห็นท่าทางโง่เง่าของจุนหนาน จุนตงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและพูดกับเสือดาวตัวน้อยว่า “ข้าคือพี่รองของเ้า จากนี้ไปเ้าเชื่อฟังข้าและพี่ใหญ่ก็พอ สำหรับจุนหนาน พี่สามของเ้า จะไม่ฟังก็ได้”
ได้ยินคำพูดของจุนตง จุนหนานเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เหตุใดถึงไม่ต้องเชื่อฟังข้าล่ะ ข้าก็เป็พี่นะ”
จุนตงพูดอย่างไม่ลังเลว่า “เพราะเ้าเชื่อถือไม่ได้ ข้าเกรงว่าเ้าจะนำให้เสือดาวน้อยนิสัยเสีย”
ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย... เสียงอ้อนวอนที่อ่อนแอเสียงหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือเข้ามาในหูของพวกจุนห่าว
ขณะที่จุนห่าวและหานรุ่ยอุ้มลูกๆ ตามหาเสียงร้องขอความช่วยเหลือไปทางข้างหน้าอยู่นั้น พวกเขาก็เห็นชายชรานอนอยู่บนพื้น พร้อมเสื้อผ้าที่ขาดหลุดรุ่ย และมีาแทั่วทั้งตัว หายใจเข้าออกแ่เบาอย่างยากลำบาก พลางมองพวกเขาด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเอาชีวิตรอด ปากพึมพำกับตัวเองว่า “ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย...” จุนห่าวเชื่อว่า หากเขาไม่ได้ทานยาฟื้นฟู ชายชราคนนี้คงหมดลมหายใจแน่
หานรุ่ยเห็นใบหน้าของชายชราที่นอนอยู่บนพื้น ขมวดคิ้ว และะโด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “ผู้เฒ่าหวัง”
เมื่อได้ยินหานรุ่ยเรียกเขาว่าผู้เฒ่าหวัง สายตาของชายชราเปล่งประกายขึ้น คิดในใจ ชายคนนี้รู้จักเขา ต้องช่วยชีวิตเขาแน่ เขาบอกได้แค่ว่าเขาผ่านความยากลำบากมาหลายต่อหลายครั้ง กว่าจะบำเพ็ญเพียรถึงลมปราณขั้นที่สิบสอง ไม่ตายง่ายๆ เช่นนี้หรอก เมื่อมีความหวัง ชายชราจึงคิดมากขึ้น เขาคิดว่า รอให้เ้าหนุ่มพวกนี้ช่วยเขาแล้ว เขาก็จะสังหารพวกเขาเสีย เขาพยายามอย่างหนักที่จะฆ่าาาเสือดาว แต่กลับให้พวกเขาได้เสือดาวน้อยไปง่ายๆ พันธะสัญญาก็ทำแล้ว ยังไงก็เอากลับคืนมาไม่ได้
จุนห่าวและหานรุ่ยเห็นสายตาร้ายกาจแวบเข้ามาในสายตาของชายชราผู้นั้น คิดในใจ ชายผู้นี้ปล่อยไว้ไม่ได้
เมื่อได้ยินหานรุ่ยเรียกชื่อชายชรา จุนห่าวเอ่ยถามขึ้น “เ้ารู้จักเขา?”
“อื้อ คนของราชวงศ์สุ่ยเย่ว์ เคยทำเื่ต่างๆ ให้กับองค์ชายสาม มีโอกาสได้พบกันครั้งหนึ่ง เป็ปรมาจารย์ที่มีลมปราณขั้นที่สิบสอง” หานรุ่ยกล่าวพลางมองไปทางผู้เฒ่าหวัง คิดในใจ ผู้แข็งแกร่งที่หยิ่งผยองในครานั้น ตอนนี้กลับกำลังร้องขอชีวิตขณะที่ไม่อาจขยับเขยื้อนอยู่บนพื้นดิน ลมช่างเปลี่ยนทิศจริงๆ
ได้ฟังคำของหานรุ่ย จุนห่าวพูดอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า “ผู้แข็งแกร่งที่มีลมปราณขั้นสิบสอง เป็เช่นนี้หรือ บัดนี้นอนกองอยู่บนพื้นและร้องขอชีวิตจากเรา?”
ฟังคำของจุนห่าว ชายชราก็ใช้พละกำลังทั้งหมด จดจ้องจุนห่าวอย่างโกรธเคือง
จุนห่าวมองไปที่ชายชราที่กำลังจดจ้องเขาด้วยสายตาเ็า พูดอย่างไม่พอใจว่า “จ้องอะไร อย่าบอกนะว่าที่ข้าพูดไม่จริง? ตอนนี้นอนอยู่บนพื้นเพื่อรอการตัดสินใจของเรามิใช่หรือ?” ฟังจากที่หานรุ่ยพูด คนชายชราผู้นี้คือคนของราชวงศ์สุ่ยเย่ว์ จุนห่าวไม่มีทางปล่อยเขาไป
จุนห่าวหันกลับไปหาหานรุ่ย พร้อมพูดอย่างใจเย็นว่า “จะช่วยหรือจะฆ่า”
หานรุ่ยพูดเบาๆ พร้อมใบหน้าสงบนิ่งว่า “ในเมื่อเขาเห็นเ้าทำพันธะสัญญากับเสือดาวน้อยแล้ว งั้นไม่ควรปล่อยเขาไว้ ฆ่าทิ้งเถอะ ต่อให้เราช่วยเขา เขาก็คงไม่ปล่อยเราเช่นกัน คนๆ นี้มีใจคับแคบยิ่งนัก”
ในที่สุดชายชราก็เห็นคนที่กำลังย่างก้าวเข้ามาชัดเจน ตะลึงงันในใจยิ่ง และเมื่อได้ฟังคำของหานรุ่ย ใบหน้าของเขาตื่นตระหนก น่าเสียดายที่เขาไม่มีกำลังต้านทาน
จุนห่าวฟังคำของหานรุ่ย นำของมีค่าทั้งหมดบนตัวของชายชราออกมา พร้อมให้ลูกไฟก็แผดเผาชายชราผู้นั้น และสลายไปกับสายลมจนสิ้น จุนห่าวและหานรุ่ยถึงวางใจ
จุนห่าวพูดกับลูกทั้งสองด้วยสีหน้าจริงจังว่า “วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บความลับ คือให้เขาไม่มีโอกาสได้พูดอีก จงอย่าอ่อนไหวกับศัตรู หัวใจที่อ่อนโยนจะทำร้ายตัวเ้าเอง เราเกิดในยุคสมัยนี้ต้องปรับตัว หากไม่ปรับตัว คงทำได้แค่ถูกกำจัดจากยุคสมัยนี้”
จุนตงและจุนหนานไม่ใต่อคำพูดโหดร้ายของจุนห่าว พวกเขายึดมั่นในคำพูดของจุนห่าวจนจำขึ้นใจ
“มีคนมา เรารีบไปจากที่นี่เถอะ” จุนห่าวพูดกับหานรุ่ย จากนั้นรีบนำเสือดาวน้อยเข้าสู่จิตสำนึก หลังจากนักพรตทำพันธะสัญญากับสัตว์อสูรแล้ว ในจิตสำนึกจะเปิดเทศะแห่งพันธะสัญญาขึ้น เพื่อให้สัตว์ตัวนั้นได้พักผ่อนและบำเพ็ญเพียร
หานรุ่ยก็ได้ยินการเคลื่อนไหว มีคนไม่น้อยที่กำลังมา เขาไม่อยากเพิ่มปัญหาอีก ดังนั้นจึงรีบจากไปกับจุนห่าว
จุนห่าวและหานรุ่ยไปได้ประเดี๋ยว คนกลุ่มหนึ่งมาถึงในภายหลัง หากหานรุ่ยและจุนห่าวยังอยู่ คงได้พบผู้นำที่พวกเขารู้จัก...องค์ชายสามสุ่ยเย่ว์หรูหวา
สุ่ยเย่ว์หรูหวามองไปที่ฉากอันยุ่งเหยิง พลางเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ขึ้นในใจ
หลังจากการประมูลจบลง แต่เดิมสุ่ยเย่ว์หรูหวาส่งคนไปตามล่าจุนห่าวและหานรุ่ย ต่อมาเขาได้ข่าวว่า เทือกเขาอู๋หยินมีผลไม้ชิงลัวปรากฏขึ้น เขาจึงหยุดส่งคนตามล่าจุนห่าวและหานรุ่ย และรวบรวมกำลังคน เพื่อเตรียมพร้อมในการ่ชิงผลไม้ชิงลัวที่เทือกเขาอู๋หยิน
ในเวลาเดียวกัน ราชวงศ์สุ่ยเย่ว์ก็ส่งคนคู่หนึ่ง นำโดยผู้าุโที่มีลมปราณขั้นสิบสอง หนึ่งในาุโก็คือ ผู้เฒ่าหวังที่หานรุ่ยพูดถึง หลังจากที่คนคู่นี้มาสมทบ ก็มีสุ่ยเย่ว์หรูหวาเป็ผู้นำทีม
ในขณะที่รอผลไม้ชิงลัวสุกงอม ก็ได้รับข้อมูลมาว่า หนึ่งในสิบของเ้าแห่งาาของเทือกเขาอู๋หยินเพิ่งให้กำเนิดลูกไม่กี่วัน ซึ่งแข็งแกร่งยิ่ง ยอดฝีมือของฝูงเสือดาวจุยเฟิงต่างมายังสถานที่ที่ผลไม้ชิงลัวตั้งอยู่ เพื่อเตรียมแย่งชิงผลไม้ชิงลัวนี้ ฉะนั้น สุ่ยเย่ว์หรูหวาคิดว่านี่คือโอกาสอันดี เตรียมที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ชิงตัวเสือดาวน้อย สัตว์อสูรที่โตเต็มวัยนั้นยากที่จะทำพันธะสัญญา มีเพียงตอนที่สัตว์อสูรวัยทารกที่กำลังไร้เดียงสาเท่านั้น ถึงเป็เวลาที่ดีที่สุดในการ
สุ่ยเย่ว์หรูหวาจึงส่งผู้เฒ่าหวังมาจับเสือดาวน้อย และเขาจะตามมาสมทบ แต่เดิมสุ่ยเย่ว์หรูหวาคิดว่าหลังจากให้กำเนิดลูก พลังปราณของาาเสือดาวจุยเฟิงจะลดหลั่นลงอย่างมาก ปรมาจารย์ที่มีลมปราณขั้นที่สิบสองคงรับมือมันได้ ราวกับเจาะตะปูบนกำแพง ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เขาเห็นเมื่อมาถึงจะเป็ภาพเช่นนี้
สุ่ยเย่ว์หรูหวามองไปที่ซากศพบนพื้นดิน คิดในใจ เขาคงประเมินกำลังรบของาาเสือดาวจุยเฟิงต่ำเกินไป ต่อให้พลังปราณจะลดหลั่นเพียงใด ก็มิใช่เื่ง่ายจะที่จะต่อกรด้วย ไม่แปลกใจเลยที่เป็หนึ่งในสิบของเ้าแห่งาา ชื่อเสียงสมคำร่ำลือ
สุ่ยเย่ว์หรูหวาให้คนในอาณัติที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา...หวังเซิ่งสยง ออกตามหาและเอ่ยขึ้น “พบผู้เฒ่าหวังหรือไม่?” สุ่ยเย่ว์หรูหวาเดาคร่าวๆ ไว้ในใจเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว การไม่พบผู้เฒ่าหวัง แสดงว่าคงาเ็จนหลบหนีไป หรือถูกาาเสือดาวจุยเฟิงฆ่าทิ้ง เขาหวังว่าผู้เฒ่าหวังาเ็จนหลบหนีไป นักพรตที่มีลมปราณขั้นที่สิบสอง ราชวงศ์ของเขาไม่อาจสูญเสียได้
“ฝ่าา หาไม่พบพะยะค่ะ” หวังเซิ่งสยงกล่าวอย่างระมัดระวัง “พื้นดินผืนนี้รกร้างมาก หาได้ยากยิ่งนัก”
“ค้นหาต่อไป หาให้พบโดยเร็วที่สุด หากมีชีวิตก็ต้องพบคน หากตายก็ต้องพบศพ” พูดจบก็โบกมือให้เขาหาต่อไป
สุ่ยเย่ว์หรูหวาเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย ใช้มือลูบหน้าผากของเขา หลายวันมานี้เกิดเื่เพิ่มมาเรื่อยๆ และไม่มีเื่ใดที่ราบรื่น มีแต่จะสร้างเื่ให้เขา หากผู้าุโหวังดับชีพวายที่นี่ งั้นหลังจากนี้การจะแย่งชิงผลไม้ชิงลัวคงไม่ราบรื่นอีกต่อไป เท่าที่เขารู้ ตระกูลอื่นๆ ก็ได้ส่งคนที่มีลมปราณขั้นที่สิบสองมาแย่งชิงผลไม้ชิงลัวนี้เช่นกัน
สุ่ยเย่ว์หรูหวาคิดว่า หากไม่ไหวจริงๆ คงต้องให้เสด็จพ่อส่งผู้าุโอีกคนมาสนับสนุน สำหรับผลไม้ชิงลัวนี้เขาต้องครอบครัวมันให้ได้ คิดถึงตรงนี้สุ่ยเย่ว์หรูหวายิ่งรู้สึกปวดหัว หากเสด็จพ่อรู้ว่าผู้เฒ่าหวังเกิดเื่ เช่นนั้น เขาคงถูกตั้งข้อหาที่จัดการเื่ราวไม่เป็ที่พอใจ เสด็จพ่อจะผิดหวังกับเขามากขึ้นเรื่อยๆ ยังดีที่เสด็จพ่อยังไม่ทอดทิ้งเขา
สุ่ยเย่ว์หรูหวาไขว้มือไปไว้ด้านหลัง ยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมโบกมือให้ตามหาผู้าุโหวังทั่วทุกสารทิศ
“องค์ชาย เรายังไม่พบผู้เฒ่าหวัง แต่เราพบศพของาาเสือดาวจุยเฟิง” หวังเซิ่งสยงวิ่งเข้ามารายงาน
ฟังคำของหวังเซิ่งสยง สุ่ยเย่ว์หรูหวาขมวดคิ้วมากขึ้น าาเสือดาวจุยเฟิงตายแล้ว อย่างงั้น ผู้เฒ่าหวังล่ะ? ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีของเขาแข็งแกร่งขึ้น
“นำทางไป” สุ่ยเย่ว์หรูหวาพูดจบ พลางตามหวังเซิ่งสยงไปยังร่างของาาเสือดาวจุยเฟิง
เห็นเสือดาวที่ได้รับาเ็ไปทั้งตัว สุ่ยเย่ว์หรูหวาเอ่ยถาม “ตายไปนานเท่าไหร่แล้ว?”
“คงเพิ่งจะหมดลมไม่นาน ร่างกายยังอุ่นๆ อยู่เลย” หวังเซิ่งสยงตอบ
พูดคำของหวังเซิ่งสยงแล้ว สุ่ยเย่ว์หรูหวาพูดอย่างไร้ความรู้สึกว่า “ยังไม่พบผู้เฒ่าหวังอีกหรือ?”
“ยังไม่พบ” หวังเซิ่งสยงกล่าวอย่างแน่วแน่ เขาก็แปลกใจ ปรมาจารย์ที่มีลมปราณขั้นที่สิบสองต่อให้ตายก็ไม่ควรไม่พบศพเช่นนี้
“ลูกของาาเสือดาวจุยเฟิงล่ะ พบหรือยัง?” สุ่ยเย่ว์หรูหวาเอ่ยถามต่อ
“ไม่พบ บนพื้นมีแต่ร่างของเสือดาวที่โตแล้ว ไม่มีทารก” หวังเซิ่งสยงกล่าว
“เข้าใจแล้ว หาต่อไป หาไม่พบพวกเขาก็ถอนตัว กลิ่นเืคุกกรุ่นเกินไป ไม่ควรอยู่นาน” สุ่ยเย่ว์หรูหวาพูดกับหวังเซิ่งสยง
สุ่ยเย่ว์หรูหวาคิดในใจ ผู้เฒ่าหวังและเสือดาวน้อยต่างหายไป มีความเป็ไปได้เพียงสองอย่างเท่านั้น หนึ่งคือหลังจากที่ผู้เฒ่าหวังฆ่าาาเสือดาวจุยเฟิงแล้ว เขาก็หลบหนีไปพร้อมกับทารกเสือดาวในอ้อมแขนของเขา อีกอย่างคือมีความเป็ไปได้ที่ผู้เฒ่าหวังเสียชีวิต และเสือดาวน้อยก็ถูกตัดหน้าเอาไป คิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของสุ่ยเย่ว์หรูหวาดำทมิฬขึ้น คิดอย่างโเี้ในใจว่า “อย่าให้เขารู้นะว่าคนๆ นั้นเป็ใคร เอาเปรียบเขาไม่ง่ายอย่างนั้น เขาจะทำให้คนๆ นั้น กินอะไรเข้าไปก็ต้องคายมามันออกมาให้เขา”
