เมื่อเฉิงหลงตงพูดเสร็จ ทั่วทั้งห้องประชุมก็เงียบลงหลิ่วเยียนมองเฉินหลงตงยิ้มๆ เธอรู้จักคนคนนี้ เคารพ...หลิ่วเยียนเคารพผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเธอคนนี้
“สามพันล้านครั้งที่สามยินดีกับคุณเฉินหลงตงด้วยนะคะที่ประมูลยากระตุ้นปราณเม็ดที่สามมาได้ อีกอย่างนะคะคุณกัวไฮว่ ผอ. คลินิกไม่ให้ฉันมาบอกคุณอาเฉินว่าหนึ่งเดือนหลังจากนี้คลินิกไม่รอคอยให้คุณอาเฉินไปเยี่ยมเยียนนะคะ” หลิ่วเยียนพูดยิ้มๆ ในตอนที่เฉินหลงตงะโพูดว่าสามพันล้านเขาก็ได้ใช้วิชาอ่านจิตกับเฉินหลงตง ทำให้กัวไฮว่ใขึ้นมาผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่เลวเลยทีเดียวมีประสบการณ์การทำธุรกิจมาอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถคบค้าคนคนนี้ได้
“บอกพ่อหนุ่มกัวไฮว่คลินิกไม่ด้วยนะว่า หนึ่งเดือนหลังจากนี้เฉินหลงตงจะไปเยี่ยมเยียนที่อู่เฉิงแน่นอน” เฉินหลงตงพูดยิ้มๆ
“ของจากคลินิกไม่ขายไปทั้งหมดแล้วนะคะขอขอบคุณทุกท่านด้วยที่ให้การสนับสนุนคลินิกไม่ สนับสนุนงานประมูลหัวซย่าลำดับถัดไปก็จะเป็การประมูลของอย่างอื่นนะคะ เพื่อนๆที่ประมูลของไปไม่ได้เมื่อสักครู่นี้ต้องคว้าเอาไว้ให้แน่นเลยนะคะ” หลิ่วเยียนพูดยิ้มๆ นี่เป็ก้าวสำเร็จแรกในอาชีพงานประมูลของเธอทั้งยังเป็ก้าวสำเร็จแรกของงานประมูลหัวซย่าหรือจะงานประมูลไหนๆที่ไม่อาจเหนือกว่าได้
ราคาการประมูลลับดับถัดไปเทียบกับเมื่อก่อนแล้วสูงกว่าเกือบสองเท่าในระหว่างการประมูลเมื่อสักครู่หลายคนไม่สบายใจ ก็แค่เงินเอง พวกเราก็มีใครบ้างจะใช้เงินไม่เป็ เมื่อเห็นราคาสูงลิ่วของสิ่งของแบบเดียวกันในแต่ละครั้งทำเอาโม่เป่ยเฟิงหัวเราะร่าขึ้นมา
“อาเหลย หาเจอแล้วครับ ตอนนี้กัวไฮว่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านอวิ๋นหัวความสัมพันธ์สนิทชิดเชื้อกับตระกูลเซวียนหยวนมาก” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินไปยังด้านข้างของกู่เจิ้นเหลยพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆกู่เจิ้นเหลยขมวดคิ้วมุ่น มิน่าล่ะวันนี้เซวียนหยวนซยงเฟิงถึงได้ดูผิดปกติที่แท้ก็สร้างสัมพันธ์กับกัวไฮว่ผอ. คลินิกไม่ไว้แล้วนี่เอง คราวนี้ได้มีปัญหาแน่กัวไฮว่คนนี้นี่จะเก็บเอาไว้ไม่ได้
หลังจากที่งานประมูลสิ้นสุดลงหนึ่งชั่วโมงผู้ประมูลสินค้าทั้งหมดก็ใช้วิธีการโอนเพื่อนำเงินเข้าไปในบัญชีของห้างประมูลจากนั้นหลังจากที่ห้างประมูลหักค่าดำเนินงานก็จะโอนเงินไปให้ฝั่งผู้ขายทีมงานเล็กๆ ใต้บัญชาการของโม่เป่ยเฟิงทำงานได้ดีมาก งานเลี้ยงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นหลี่โม่หานก็พิมพ์รายงานงานประมูลในครั้งนี้ออกมาเรียบร้อยแล้ว
“เสี่ยวหาน กินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จเราค่อยคุยเื่งานประมูลกัน” โม่เป่ยเฟิงอารมณ์ดีมาก กัวไฮว่เองก็อารมณ์ดีมากคนที่ได้ของประมูลมาต่างก็มีความสุขสรุปแล้วงานประมูลในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็อย่างมาก
“ผอ. กัว เมื่อกี้ผมเพิ่งให้คนจากศูนย์ปฏิบัติงานอู่เฉิงไปที่คลินิกไม่คลินิกไม่จัดคิวไว้เจ็ดเดือนหลังจากนี้ คุณช่วยรักษาให้ผมก่อนได้ไหมครับ” เฝิงเจิ้งถือเหล้าเดินมาพูดยิ้มๆ ตรงหน้ากัวไฮว่
“ผอ.เฝิง ร่างกายคุณดูไม่เลวเลยนะครับ แต่ระวังเื่ห้องคนรับใช้หน่อยปัญหาเล็กๆ แบบนี้นี่ไม่ต้องต่อคิวหรอก ไปที่คลินิกไม่ได้เลยนักศึกษาที่คลินิกสั่งยาให้คุณก็เรียบร้อยแล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ได้ครับ ขอบคุณผอ. กัวมาก พรุ่งนี้ผมจะบินไปอู่เฉิง” เฝิงเจิ้งพูดยิ้มๆ ด้วยความละอายใจเล็กน้อย กัวไฮว่ดูได้แม่นยำมาก่นี้มีนัดกับนักธุรกิจชาวรัสเซียเพราะเื่การค้าก็เลยเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ไปเที่ยวเล่นที่รัสเซียสองสามวันไม่คิดเลยว่าจะถูกกัวไฮว่มองออกในปราดเดียว
“น้องไฮว่ เมื่อกี้ฉันโทรศัพท์คุยกับโยวโยว ในเมื่อมาเมืองหลวงแล้วฉันจะพานายไปเที่ยวเล่นเอง เพื่อเป็การขอบใจนาย” ฉื่ออวี้เชียนเดินไปตรงหน้ากัวไฮว่พร้อมกับพูดยิ้มๆ
“พี่ฉื่อเกรงใจกันเกินไปแล้วรอให้เื่ที่เมืองหลวงผมเรียบร้อยก่อนผมค่อยติดต่อพี่ไปพิษในร่างกายพี่ขับออกหมดแล้ว เดี๋ยวผมค่อยสั่งยาสร้างภูมิคุ้มกันให้พี่เองไว้ค่อยฝังเข็ม จากนี้ไปพี่ก็ไม่ต้องกังวลใจเื่ร่างกายอีกต่อไปแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ฉื่ออวี้เชียนยิ้มแฉ่งราวกับดอกไม้อีกนิดอุทิศร่างกายให้แล้ว ทว่ากัวไฮว่ไม่เห็นด้วยเมียของตัวเองแต่ละคนสวยอย่างกับดอกไม้เพียงแค่ยิ้มแฉ่งราวกับดอกไม้ไม่เข้าตากัวไฮว่หรอก
งานเลี้ยงดำเนินไปประมาณสองชั่วโมง คนทุกคนต่างก็มาทักทายกัวไฮว่และแน่นอนว่ารวมปู่หลานตระกูลกู่ทั้งสองคนด้วย กู่เลี่ยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาทว่าในขณะที่กู่เจิ้นเหลยจับมือกับกัวไฮว่นั่นเอง ดวงตาทั้งคู่ของกัวไฮว่ก็เบลอยังไม่ทันจะหาเหตุผลไปหาเื่พวกแกไม่คิดเลยว่าพวกแกก็ช่วยฉันหาปัญหามาให้เสียแล้ว
“พ่อหนุ่มกัวไฮว่ มีโอกาสก็มานั่งเล่นที่บ้านตระกูลกู่ของพวกเราสิเธอน่าจะรู้จักกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษหัวซย่านะไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องร่วมมือกันก็ได้” กู่เจิ้นเหลยพูดยิ้มๆ
“ถ้า่นี้มีเวลาจะไปเยี่ยมเยียนคุณปู่กู่แน่ครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“งานเลี้ยงที่หงเหมิน[1] ฉันอยากจะรู้นักว่าพวกแกเตรียมจะจัดการฉันยังไงฮ่าๆ” กัวไฮว่มองไปยังเงาหลังกู่เจิ้นเหลยที่เดินออกไปแล้วลอบพูดขึ้นในใจ
“พ่อหนุ่มกัวไฮว่ ฉันคือหนานกงโหมวเช่อ เป็ปู่ของหนานกงหลิงโม่เมื่อกี้ได้โทรศัพท์คุยกับเสี่ยวหลิงโม่แล้วเลยรู้ว่าพวกเธอมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันถ้ามีเวลามานั่งในบ้านได้นะ” หนานกงโหมวเช่อพูดยิ้มๆ
“ที่แท้ก็ผู้นำตระกูลหนานกงนี่เอง ตระกูลหนานกงของพวกคุณนี่น่าสนใจดีนะครับผมรู้จักกับหลิงโม่ เธอเคยพูดถึงคุณด้วยงานต่อสู้ผู้มีพลังวิเศษปีหน้าคุณปู่เป็คนให้หลิงโม่ไปร่วมเองไม่ใช่เหรอครับจะเป็ตายช่างมัน ใช่ไหมล่ะครับ ฮ่าๆ ถ้ามีเวลาผมจะไปที่บ้านตระกูลหนานกงนะครับจะว่าไปหนานกงเชี่ยนเองก็นับว่าเป็แม่ยายผมนิดนึงเหมือนกัน แต่เมียผมไม่ยอมรับแม่ยายคนนี้ผมก็ไม่กล้ายอมรับหรอก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆส่วนหนานกงโหมวเช่อก็หน้าแดงเผือดไปทั้งหน้า จากนั้นก็หันหลังจากไป
“เสี่ยวไฮว่ ตาแก่สองคนนี่ไม่ได้มาหาเื่เธอหรอกใช่ไหม” เมื่อเห็นว่ากู่เจิ้นเหลยกับหนานกงโหมวเช่อเดินไปไกลเซวียนหยวนซยงเฟิงก็เดินเข้ามาถามเสียงเบาๆ
“ไม่มีอะไรครับ เื่ของผมผมจัดการเองได้่นี้ตระกูลเซวียนหยวนไม่ต้องออกตัวมากรอให้ผมจัดการตระกูลกู่กับตระกูลหนานกงก่อนค่อยว่ากัน” คำพูดของกัวไฮว่เผยถึงความเ้าเล่ห์เซวียนหยวนซยงเฟิงผงกศีรษะเบาๆ “เสี่ยวไฮว่ถ้า้าให้ตระกูลเซวียนหยวนออกหน้าให้บอกมาเลยนะ ตอนนี้พวกเราเป็พันธมิตรกันและก็จะเป็พันธมิตรตลอดไป”
“ฮ่าๆ คุณปู่ ตอนนี้พวกเราเป็พันธมิตรแต่ผ่านไปอาจเป็ไปได้ว่าผมจะกลายไปเป็หลานเขยของปู่ไว้ถึงตอนนั้นก็รังแกผมด้วยความาุโได้แล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆเซวียนหยวนซยงเฟิงเองก็หัวเราะลั่นขึ้นมา
“ไอ้น้องๆ การ์ดนี่ให้นายนะ พี่ทำงานประมูลมาตั้งนานไม่เคยได้เงินเยอะเท่าเธอครั้งนี้เลย” โม่เป่ยเฟิงพูดพลางยื่นบัตรธนาคารสีดำไปให้กัวไฮว่
“ฮ่าๆ ได้เยอะขนาดนี้ก็ต้องขอบคุณพี่โม่มากๆอาหารค่ำคืนนี้ไปเรียกพนักงานห้างประมูลทุกคนมานะครับ เราไปกินข้าวที่แดนเซียนในแดนมนุษย์ด้วยกันผมเลี้ยงเอง อีกอย่าง จากกฎแล้วเนี่ย ผมต้องให้อั่งเปาคนในห้างประมูลด้วยคนละล้านแล้วกัน ส่วนของเมียผมเดี๋ยวผมจัดการเอง ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆโม่เป่ยเฟิงเองก็ไม่ได้เกรงอกเกรงใจ เขาพูดขอบคุณแทนพนักงานทุกคนในห้างประมูลจากนั้นทั้งสองก็เดินออกจากห้องอาหารไป
“ตาบ้า นายใจป้ำนักหรือไงทั้งห้างประมูลเรียกนายว่าบอสกัวไฮว่กันหมดแล้วเนี่ย” เมื่อกลับไปยังห้องทำงานของหลิ่วเยียนที่อาคารใหญ่เมืองหลวงหลิ่วเยียนเห็นกัวไฮว่เดินเข้าไปก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“ทำไม เมียหึงแล้วเหรอ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆจากนั้นก็โยนแบล็คการ์ดใบนั้นไปให้หลิ่วเยียน “ในนั้นน่าจะยังมีอีกหกเจ็ดพันล้านมั้งเื่เงินๆ ทองๆ นี่ให้เมียจัดการเถอะฉันบอกกับพี่โม่แล้วละว่าเธอถูกเลิกจ้างแล้ว ต่อไปก็จะมาเป็คนส่วนตัวของฉัน”
“นายจะให้ฉันจัดงานเงินพวกนี้จริงๆ เหรอ นายไม่กลัวเมียๆ นายหึงเอาเหรอ” หลิ่วเยียนไม่คิดเลยว่ากัวไฮว่จะเอาแบล็คการ์ดมาให้ตนเองท่าทางของกัวไฮว่เชื่อมั่นในตัวเธอเป็อย่างมาก
“ไว้เธอไม่หึงก็พอแล้วรอให้ฉันยุ่ง่นี้ให้เสร็จแล้วฉันจะพาเธอไปเจออวี้เอ๋อร์เมียหลวง ฮ่าๆแดนมนุษย์นี่ดีจริงๆ เลย” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็ดึงหลิ่วเยียนขึ้นมา ประตูห้องถูกล็อกเอาไว้จากนั้นก็ร่ายมนตร์กีดกันไปหน่อย ทั้งสองคนก็เริ่มทำอะไรสนุกๆ กันอีกครั้ง
[1] หมายถึงงานเลี้ยงที่มีเลสนัยแอบแฝง