หุบเขาเสินหนง?
จวินจิ่วเฉินรู้สึกประหลาดใจ แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะสงสัยหุบเขาเสินหนง ทว่าสงสัยเพียงแค่ลิ่วตันซางลู่ถูกขายมาจากหุบเขาเสินหนงเท่านั้น ไม่ได้สงสัยไปถึงตัวของหุบเขาเสินหนงเลย
อย่างไม่ต้องสงสัย เบาะแสที่กูเฟยเยี่ยนเสนอขึ้นมานั้นใกล้เคียงกับความเป็จริงมากที่สุด สมุนไพรมาจากไหนไม่สำคัญแล้ว จิ้งจอกเฒ่าเป็ใครถึงจะสำคัญที่สุด
มีความเป็ไปได้แปดถึงเก้าส่วนว่าจิ้งจอกเฒ่าจะเป็คนของหุบเขาเสินหนง!
เมื่อกูเฟยเยี่ยนเห็นว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงเห็นด้วยกับการคาดเดาของนาง นางจึงรีบเอ่ยขึ้นมา “นู๋ปี้คิดได้หนึ่งวิธี เตี้ยนเซี่ยสามารถพิจารณาดูได้”
“พูดมา! ”
“เตี้ยนเซี่ย ลิ่วตันซางลู่ทั้งสามต้นกับลิ่วตันซางลู่ในผงยาต่างก็มีอายุเท่ากัน นู๋ปี้สงสัยว่าสมุนไพรตัวนี้ อาจจะมีการเพาะปลูกเป็จำนวนมากในหุบเขาเสินหนง พวกเราสามารถลองนำลิ่วตันซางลู่ทั้งสามต้นนี้ไปเป็ของรางวัลในหุบเขาเสินหนงเพื่อขอซื้อสมุนไพรที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการ! แล้วดูว่าหุบเขาเสินหนงจะมีปฏิกิริยาอย่างไร! ”
หลังจากที่กูเฟยเยี่ยนเอ่ยจบภายในใจของนางก็เกิดความรู้สึกผิดเล็กน้อยจนไม่กล้าสบตาจวินจิ่วเฉิน เพราะเมื่อสักครู่นี้นางพูดโกหก จุดประสงค์ที่แท้จริงของนางคืออยากจะถือโอกาสนี้ไปสำรวจหุบเขาเสินหนง
หากว่าสมุนไพรนี้ถูกจิ้งจอกเฒ่านำมาจากการข้ามผ่านทะเลน้ำแข็งปิงไห่มา เช่นนั้นจิ้งจอกเฒ่าเป็ใครกันแน่?
หากว่าจิ้งจอกเฒ่าได้รับสมุนไพรนี้มาจากคนอื่น เช่นนั้น “คนอื่น” จะเป็ใครกัน? ภายในหุบเขาเสินหนงจะสามารถตามหาลิ่วตันซางลู่ที่มีหน้าตาเหมือนกันทุกประการได้หรือไม่นะ?
การที่ให้อาจารย์แพทย์ของหุบเขาเสินหนงไปตามหา และให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยสืบสวนต่อไปเรื่อยๆ เป็เื่ที่ “นักสืบ” ของนางไม่อาจเทียบได้เลย
แม้ว่ากูเฟยเยี่ยนจะมีความเห็นแก่ตัว แต่วิธีการนี้เป็วิธีที่ยอดเยี่ยม จวินจิ่วเฉินเอ่ยน้ำเสียงเ็า “เ้าเฉลียวฉลาดมาก”
เมื่อได้รับคำชมจากจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย กูเฟยเยี่ยนจึงมีความสุขมาก แต่ในขณะเดียวกันนางก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น นางยังคงไม่กล้าสบตาเขา “เตี้ยนเซี่ยเห็นด้วยหรือเพคะ? เช่นนั้นพวกเราออกเดินทางเมื่อไหร่ดี? ”
จวินจิ่วเฉินสังเกตเห็นถึงความรีบร้อนของนาง เขาจึงชายตามองดู ขณะนี้เองกูเฟยเยี่ยนก็ตระหนักได้ถึงความตื่นเต้นของตนเอง นางจึงรีบอธิบาย “ศัตรูอยู่ในที่ลับ เราอยู่ในที่แจ้ง นู๋ปี้คิดว่าเื่นี้ไม่อาจยืดเวลาออกไปได้”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้สงสัยอะไร เขาเพียงแค่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “เตรียมตัวให้พร้อม ออกเดินทางคืนนี้”
คืนนี้!
เร็วจัง!
กูเฟยเยี่ยนดีอกดีใจมาก เห็นได้ชัดว่านางเพิ่งจะฟื้นจากการสลบไสลเมื่อสักครู่นี้ แต่เพียงครู่เดียวนางก็มีพลังงานเหลือล้น หญิงสาวโน้มกายแสดงความเคารพแล้วตอบกลับไป “เพคะ นู๋ปี้น้อมรับคำสั่ง! ”
จวินจิ่วเฉินจึงโยนใบสั่งยาบนโต๊ะไปให้นาง “นำยาไปทานระหว่างทางด้วย”
ดูเหมือนว่าเขาจะอยากพูดอะไรอีก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแล้วหันหลังออกไป เมื่อเห็นว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านอยู่ด้านนอกเขาก็เอ่ยถามแ่เบา “หญิงรับใช้จะมาเมื่อใด? ”
หากว่ามีหญิงรับใช้คอยปรนนิบัติอยู่เคียงข้าง นางก็คงไม่เกิดเื่แบบวันนี้ หากเขามาช้ากว่านี้นางจักต้องนอนบนพื้นไปอีกนานแค่ไหนกัน?
เซี่ยเสี่ยวหม่านตอบไปตามความจริง “นู๋ไฉคัดเลือกไว้แล้วสองสามคน ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาความเหมาะสมอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
อันที่จริงนอกจากกูเฟยเยี่ยนแล้ว บ่าวรับใช้ภายในจิ้งหวางฝู่ล้วนถูกเซี่ยเสี่ยวหม่านคัดสรรมาอย่างดี เขาตัวเล็กแต่จิตใจมีความเคร่งครัดรอบคอบ แม้ว่าจะใช้เวลาในการคัดเลือกที่ค่อนข้างจะนานแต่ก็คัดเลือกได้อย่างแม่นยำ!
จวินจิ่วเฉินพยักหน้าก่อนจะไปที่ศาลต้าหลี่
หลังจากที่จวินจิ่วเฉินจากไป กูเฟยเยี่ยนก็ออกมาจากห้อง ชั่วพริบตาเดียวนางก็เห็นว่าประตูถูกเตะออกไป หญิงสาวจ้องมองด้วยความสงสัย ในขณะที่กำลังจะอ้าปากถาม เซี่ยเสี่ยวหม่านก็เอ่ยออกมา “ข้าพเ้าเตะเอง! เลิกมองได้แล้ว ข้าพเ้าจะรับผิดชอบซ่อมแซมให้เอง! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านกำลังจะออกไป ทว่าเขาก็หันกลับมาพูดด้วยความรังเกียจอีกครั้ง “ผอมแห้งแรงน้อยขนาดนี้ วันหลังกินให้มันเยอะๆ หน่อย หากคนนอกเห็นเข้าจะนินทาว่าจิ้งหวางฝู่ดูแลเ้าไม่ดี! ”
กูเฟยเยี่ยนมองท่าทางพิลึก ของการวางมาดเป็ผู้สูงวัยของเซี่ยเสี่ยวหม่าน นางไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกอยากจะหัวเราะออกมา
ภายในจิ้งหวางฝู่ค่อนข้างมีความเบื่อหน่าย การที่มีขันทีน้อยเช่นนี้สามารถแก้อาการเบื่อหน่ายได้
วันพรุ่งนี้จะต้องออกเดินทางไกลแล้ว แน่นอนว่ากูเฟยเยี่ยนจะต้องออกไปซื้อของมาจัดเตรียม หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว นางก็กำลังจะไปเรียกเซี่ยเสี่ยวหม่านเพื่อออกไปต่อรองราคาด้วยกัน แต่กลับพบว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านกำลังซ่อมแซมประตูของนางด้วยตนเองอยู่ ท่าทางนั้นใช้ได้เลย เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่ด้อยไปกว่าช่างที่มีฝีมือแม้แต่น้อย
กูเฟยเยี่ยนอดสงสัยไม่ได้ว่าเ้ากระต่ายน้อยตัวนี้อาจจะเป็ผู้จัดการซ่อมแซมจิ้งหวางฝู่ด้วยตนเอง เขาขี้เหนียวจริงๆ เก่งกาจในการประหยัดเงินให้เ้านายเกินไปแล้ว?
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้รบกวนเซี่ยเสี่ยวหม่าน นางปลอมตัวอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ออกไป หญิงสาวไม่ทราบว่าจวินจิ่วเฉินมอบองครักษ์ลับของตนเองให้แก่นาง
จวินจิ่วเฉินไปมอบหมายงานให้ใต้เท้ากงที่ศาลต้าหลี่โดยไม่ได้พบศาสตราจารย์แพทย์ เขาไม่ได้เปิดเผยเื่ราวต่อใต้เท้ากงมากนัก เขาเพียงแค่บอกว่าจะไปที่หุบเขาเสินหนงด้วยตนเอง โดยที่ใต้เท้ากงห้ามเปิดเผยต่อสาธารณะ
่เวลาพลบค่ำ รถม้าถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย จวินจิ่วเฉินจึงออกเดินทางไปพร้อมกับกูเฟยเยี่ยน
การเดินทางในครั้งนี้ถูกปิดเป็ความลับ หมางจ้งเป็คนขับรถม้า องครักษ์ลับติดตามมาตลอด นอกจากนี้แล้วไม่มีบ่าวรับใช้คนอื่น แม้แต่เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ไม่ได้เดินทางมาด้วย เซี่ยเสี่ยวหม่านมองดูรถม้าที่ห่างออกไปไกลด้วยความอิจฉา ริษยา เกลียดชัง น้อยใจ และระทมทุกข์ เขาลอบบ่นพึมพำ “พวกท่านไปกันหมด ข้าพเ้าอนาถแน่! ”
เช้าวันรุ่งขึ้นก็มีคนจากในพระราชวังมาพาตัวเซี่ยเสี่ยวหม่านเข้าเฝ้าเทียนอู่ฮ่องเต้
เซี่ยเสี่ยวหม่านมักจะเข้าออกพระราชวังด้วยท่าทางยโสโอหังอยู่เสมอ แต่เมื่อเขาต้องเข้าเฝ้าเทียนอู่ฮ่องเต้ ร่างกายของเขาก็จะเกิดความกระสับกระส่ายและขี้ขลาดตาขาวขึ้นมา
สีหน้าของเทียนอู่ฮ่องเต้ดีขึ้นกว่าวันก่อนๆ เล็กน้อย พระองค์สวมใส่เสื้อคลุมสีลายัเหลืองบริสุทธิ์สดใส โดยประทับอยู่บนเก้าอี้ัขนาดใหญ่ด้วยท่าทีน่าเกรงขาม การแสดงออกทางสีหน้าสงบนิ่ง
พระองค์ซักถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “จิ้งหวางออกไปจากตัวเมืองั้แ่เมื่อใดกัน? เื่ใหญ่เช่นนี้เหตุใดจึงไม่มารายงาน? ”
ภายในใจของเซี่ยเสี่ยวหม่านเกิดความขมขื่น เห็นได้ชัดว่าเตี้ยนเซี่ย้าหลีกเลี่ยงเื่ของ “ประกาศ” โดยเจตนาออกไปจากตัวเมืองในชั่วข้ามคืนเพื่อจะไม่ต้องเข้าเฝ้าฝ่าา
เขาคุกเข่าลง แนบหน้าผากลงบนพื้นที่เย็นจัด “ทูลฝ่าา เหตุเกิดขึ้นกะทันหัน เตี้ยนเซี่ยเข้ามาในพระราชวังไม่ทัน เดิมทีมีรับสั่งให้นู๋ไฉเข้าวังมาทูลรายงานในชั่วข้ามคืน แต่ก็เกรงว่าจะเป็การรบกวนฝ่าา จึงตั้งใจรอให้ถึงเช้าวันนี้ หากว่าฝ่าาไม่เรียกตัวนู๋ไฉเข้ามา นู๋ไฉก็ต้องเข้ามาเองอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เทียนอู่ฮ่องเต้พยักหน้าพลางถามอีกว่า “ตระกูลฉีกับตระกูลเฉิงต่างก็ออกประกาศมาแล้ว จิ้งหวางวางแผนอย่างไรกัน? ”
นี่มัน…
เซี่ยเสี่ยวหม่านคิดอยากจะร้องไห้แล้ว เขาเค้นความคิดออกมาจากสมองแล้วตอบกลับไปว่า “ทูลฝ่าา เตี้ยนเซี่ย เดิมทีเตี้ยนเซี่ยจะออกประกาศ แต่นู๋ไฉทำการขัดขวางเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ”
เทียนอู่ฮ่องเต้เกิดโทสะแล้ว “เพราะเหตุใด! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านรีบร้อนเอ่ยออกมา “นู๋ไฉพิจารณาไปถึงชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของวัดต้าฉือ ปัจจุบันนี้ไม่เพียงแต่จะมีคนสร้างข่าวลือว่าเตี้ยนเซี่ยทรงมีความสัมพันธ์กับแพทย์หญิงกูแล้ว ยังมีคนสร้างข่าวลือว่าใบเซียมซีของวัดต้าฉือเป็ของปลอมอีกด้วย เื่แรกจงใจเหยียดหยามเตี้ยนเซี่ย เื่ที่สองจงใจเหยียดหยามวัดต้าฉือ หากว่าสองเื่นี้มาจากคนเดียวกัน เจตนาของคนผู้นั้นเรียกได้ว่าชั่วร้ายมาก! นู๋ไฉคิดว่าเมื่อเทียบกับการชี้แจงแล้ว เรารอสังเกตการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ ไม่ดีกว่าหรือ? คอยดูว่าผู้ที่อยู่เื้ัการกระทำในครั้งนี้้าทำไปเพื่อเหตุใดกัน! ”
เทียนอู่ฮ่องเต้ลูบเคราขึ้นลงและเห็นด้วยกับความคิดของเซี่ยเสี่ยวหม่าน เพราะถึงอย่างไรเขาก็ให้คนไปตรวจสอบผู้ที่อยู่เื้ัข่าวลือมาตั้งนานแล้ว คนอื่นเขาสามารถไม่สนใจได้ แต่วัดต้าฉือประจำราชวงศ์ เขาไม่อนุญาตให้ใครก็ตามมาดูถูกเหยียดหยาม!
เทียนอู่ฮ่องเต้ใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่พลันเอ่ยถามต่อ “เซี่ยเสี่ยวหม่าน เ้าคิดว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคิดอย่างไรกับกูเฟยเยี่ยน? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ลังเล “เป็ไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ! พระองค์คงทราบสายพระเนตรของเตี้ยนเซี่ยดี สิ่งที่เตี้ยนเซี่ยให้ความสำคัญมีเพียงแค่ทักษะยาสมุนไพรของแพทย์หญิงกูเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
ไม่อาจทราบได้ว่าเทียนอู่ฮ่องเต้เชื่อมากแค่เพียงใดกัน พระองค์ได้ให้คนปูนบำเหน็จให้เซี่ยเสี่ยวหม่านถึงสามหมื่นเหรียญทอง
หลังจากที่เซี่ยเสี่ยวหม่านออกมาจากห้องทรงพระอักษร แข้งขาของเขาก็ไร้เรี่ยวแรงทันที นี่เป็ครั้งแรกในชีวิตที่เขาไม่มีความสุขเมื่อได้รับเงิน สามหมื่นเหรียญทองเชียวนะ เขาทราบดีว่าการที่ฝ่าาให้รางวัลมากมายเช่นนี้ก็เพราะ้าซื้อตัวเขา ให้เขาคอยรายงานข่าวสำคัญให้ทราบ
ฝ่าาไม่เชื่อใจจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
หลังจากที่กลับมาถึงจิ้งหวางฝู่ เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ส่งข่าวไปบอกเ้านายด้วยความเป็จริง เตี้ยนเซี่ยไม่เพียงแค่รับเขาเข้ามาเท่านั้น พระองค์ยังมีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อเขาอีกด้วย ต่อให้เขาตายเขาก็จะไม่มีทางทรยศเตี้ยนเซี่ย!
ในคืนนั้นจวินจิ่วเฉินก็ได้รับจดหมายลับจากเซี่ยเสี่ยวหม่าน หลังจากที่เขาดูแล้วก็เผาทิ้งทันที เขาคิดว่าเมื่อกลับจากหุบเขาเสินหนง ร่างกายของฟู่หวงน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่?
การเดินทางไปยังหุบเขาเสินหนงในครั้งนี้มีอันตรายมากมายรออยู่
เขาไม่อยากจะเป็ศัตรูกับหุบเขาเสินหนง หวังเพียงว่าจิ้งจอกเฒ่าตนนั้นจะไม่ใช่คนที่ดูแลหุบเขาเสินหนง…