เล่มที่ 1 บทที่ 9 อสรพิษปักษา
ครึ่งชั่วยามถัดมา ศิษย์น้องซูโผล่ออกมาจากอุโมงค์หิน ใบหน้ายังแฝงไปด้วยอาการมึนเมา ก่อนจะเคลื่อนเส้นทางไปยังแม่น้ำหยินที่อยู่ไม่ไกล แค่คิดว่าอีกไม่นานจะผูกสัมพันธ์กับซ่งเทียนสิงได้ ในใจก็เกิดความยินดีขึ้นมาทันที
ขอแค่คว้าไม้ใหญ่นี้ไว้ เื่ออกจากถ้ำเสวียนปิงก็ง่ายแล้ว ขอแค่ตนเอาใจศิษย์พี่ซ่งให้ดี ไม่แน่วันหน้าอาจได้เลื่อนเป็ศิษย์สายในเลยก็ได้
อันที่จริงก็ต้องขอบคุณหลินเฟย ไม่เช่นนั้นคนอย่างศิษย์พี่ซ่งมีหรือที่จะ้าความช่วยเหลือจากเขา?
อนาคตจะรุ่งเรืองหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำในตอนนี้แล้วล่ะ เป็ศิษย์สายในแล้วอย่างไร ในเมื่อมาอยู่ที่ถ้ำเสวียนปิง ก็ไม่อาจทำอะไรตามอำเภอใจได้อีกแล้ว
หนึ่งเดือนให้หลังคงเชื่อฟังขึ้นมาก ต่อให้ใช้ไปขุดแร่ขุดเหมือง หรือแม้กระทั่งขัดส้วม ก็คงทำตามแต่โดยดี พอศิษย์พี่ซ่งมา จะได้ให้เขาโขกหัวขอขมาสารภาพผิดเสียที
“เอ๋ เ้านั่นล่ะ?” ในขณะที่กำลังคิดฟุ้งซ่าน ทันทีทันใดสายตาก็จับได้ว่าไม่เห็นหลินเฟยอยู่ที่แม่น้ำหยิน อาการมึนเมาก็เริ่มสร่างไปกว่าครึ่ง
‘ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่าตาย?’
ถึงแม้จะลั่นวาจาต่อหน้าศิษย์คนอื่นไปแล้ว แต่ดีร้ายอย่างไร นั่นก็คือศิษย์สายใน หากตายขึ้นมาล่ะก็ เื่นี้จะต้องรู้กันทั้งสำนัก หากเป็แบบนั้นเขาจะต้องแย่แน่...
คิดได้ดังนั้น ศิษย์น้องซูจึงเหยียบย่างย่างกรายเข้าใกล้ริมแม่น้ำหยิน...
'ซ่า!'
ทันใดนั้นน้ำในแม่น้ำหยินก็โหมซัดขึ้นมา สิ่งที่ตามมาคืออสรพิษปักษาที่พุ่งทะยานขึ้นมาจากผิวน้ำ
“ให้ตายเถอะ!” ศิษย์น้องซูใบหน้าถอดสี อาการมึนเมาหายเป็ปลิดทิ้ง นี่คืออสรพิษปักษาที่เป็หนึ่งในปีศาจที่ดุร้ายที่สุดของแม่น้ำหยิน มันดุร้ายและกินเืเป็อาหาร อีกทั้งยังมีปีกที่โบยบินได้อย่างว่องไว หากพลาดพลั้งขึ้นมา ก็จะถูกมันสูบเืหมดตัวจนตาย
‘บัดซบจริงๆ ปกติอสรพิษปักษามักอยู่ที่ธารน้ำใต้ผาปากเหยี่ยวนี่นา ทำไมวันนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?’
ศิษย์น้องซูได้แต่โอดครวญในความโชคร้ายของตน ไม่มีสติมากพอมาวิเคราะห์ว่าทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ สองขาขยับวิ่งสุดชีวิต ตอนนี้เขาได้แต่คิดโกรธบิดามารดา ที่ให้กำเนิดเพียงสองขาให้แก่เขา
อย่างไรก็ตาม อสรพิษปักษามความเร็วที่ไม่เป็รองใคร แล้วศิษย์น้องซูจะหนีพ้นได้อย่างไร พริบตาเดียวเ้าปีศาจร้ายก็ไล่ทัน กลิ่นเน่าเหม็นของมันก็ลอยมาพร้อมกัน และด้วยระยะห่างอันน้อยนิด ทำให้ได้ยินแม้กระทั่งเสียง “ ฟ่อๆ ” ที่ดังขึ้นพร้อมกับลิ้นสองแฉกที่แลบออกมา...
“จบกัน…”
ศิษย์น้องซูตระหนักขึ้นมาทันที หากรู้ว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้ ให้ตายเขาก็ไม่มาที่แม่น้ำหยินนี่ ไม่รู้ผีสางตนไหนเข้าสิง ถึงทำให้เขาพาตัวเองมาที่นี่ หากเมาก็ควรไปนอนเสีย จะวอนหาเื่มาลาดตระเวนเพื่ออะไร เป็อย่างไรล่ะ ดันมาเจอเ้าอสรพิษร้ายจนได้ จบสิ้นแล้ว… ”
ในขณะที่ศิษย์น้องซูกำลังสิ้นหวัง พลันกระบี่เล่มหนึ่งก็พุ่งมาด้วยความเร็ว
“ฮะ?” ศิษย์น้องซูหันไปมองกระบี่ที่พุ่งมาสะบั้นใส่ร่างอสรพิษปักษาเข้าเต็มๆ...
ศิษย์น้องซูยังไม่ทันตั้งสติดี เืก็สาดกระเซ็นไปทั่ว ก่อนที่หัวอันแสนอัปลักษณ์ของเ้าปีศาจจะลอยขึ้นกลางอากาศ ตามมาด้วยร่างของมันก็ร่วงกระแทกพื้นจนเกิดเสียงดังสนั่น
หลังจากที่ปลิดชีพเ้าปีศาจร้าย กระบี่เล่มนั้นก็ทะยานออกไปอีกนับสิบจ้างก่อนจะกลับคืนสู่มือของชายหนุ่มผู้หนึ่ง
เขาระลึกได้ทันที นั่นคือหลินเฟย คนที่เพิ่งถูกเขาไล่ให้ไปแม่น้ำหยินนั่นเอง
“เป็เ้า!” เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง จากเดิมที่คิดว่าเ้านี่จะทนไม่ได้ในสามวัน ต้องมาอ้อนวอนขอร้องเขาแน่ แต่ทว่าคนผู้นี้กลับสามารถปลิดชีพอสรพิษปักษาได้ในกระบวนท่าเดียว
‘ไม่มีทาง!’
ถึงแม้ว่าอสรพิษปักษาจะเป็แค่ปีศาจขั้นเยาปิง แต่ตบะพลังของมันนั้น สูงกว่าผู้บำเพ็ญทั่วไป ทว่าเ้านี่กลับสังหารมันได้อย่างง่ายดาย?
‘ช้าก่อน…’
ภาพต่างๆ ลอยเข้ามาในหัว ไม่ว่าจะเป็ลำแสงกระบี่ เืที่กระเซ็น และแม้กระทั่งหัว…
‘ใช่แล้ว กระบี่นั่น…’
ดูเหมือนเขาจะค้นพบอะไรบางอย่าง อานุภาพกระบี่เมื่อครู่ดูแข็งแกร่งมาก สามารถปลิดชีพอสรพิษปักษาได้อย่างง่ายดาย นี่ต้องไม่ใช่พลังจากผู้บำเพ็ญระดับขั้นแค่จู้จีแน่ๆ
เพราะเยี่ยงนั้น กระบี่นั่นย่อมคือศาสตราวุธ!
‘ต้องเป็ศาสตราวุธขั้นอิงฝูแน่นอน!’
การหลอมศาสตราวุธขั้นอิงฝู จะต้องหลอมให้ได้มนต์สะกดสิบแปดสาย ศาสตราวุธขั้นอิงฝูถึงเรียกได้ว่าหลอมรวมสำเร็จ เช่นนี้ถึงจะมีอานุภาพสังหารอสรพิษปักษาได้!
“ถึงกับมีศาสตราวุธขั้นอิงฝู...” เื่นี้อดทำให้เขาตะลึงไม่ได้ ถึงขนาดกลับมาคิดทบทวนเื่ที่เขาสังหารอสรพิษปักษาอีกครั้ง...
เื่ที่เกิดขึ้นทำให้ศิษย์น้องซูหน้าถอดสี ในอดีต หลัวอวี้เจินที่เป็เพียงศิษย์สายนอก ได้พบเหตุการณ์ประหลาดในป่าหมอก เขาได้นำศาสตราวุธาขั้นอิงฝูชิ้นหนึ่งออกมา พอเื่นี้ถึงหูเ้าสำนัก เขาก็ได้รับเลือกให้เป็ศิษย์สายตรง ทั่วทั้งสำนักเวิ่นเจี้ยน ย่อมไม่มีใครไม่รู้…
หากเื่ที่หลินเฟยมีอาวุธล้ำค่าไว้ในถูกแพร่งพรายออกไป บางทีก็อาจจะโชคดีเหมือนหลัวอวี้เจิน เกิดเป็เช่นนั้นจริง ตัวเขาที่เคยกลั่นแกล้งส่งหลินเฟยมาที่แม่น้ำหยิน ก็เกรงว่าจะถูกขยี้ให้ตายราวกับบี้มดตัวหนึ่ง
ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย…
เขาอดทนบำเพ็ญเพียรที่สำนักเวิ่นเจี้ยนมาั้แ่เด็ก สุดท้ายได้เลื่อนเป็ศิษย์สายนอก ทว่ากลับไม่อาจบรรลุเข้าขั้นจู้จี จึงต้องทนอยู่ที่ถ้ำเสวียนปิง ถึงแม้ภายนอกจะดูอิสระเสรี แต่หากเทียบกับเหล่าศิษย์ที่สามารถเหินกระบี่ไปไหนมาไหนก็ได้แล้ว ความอิสระของเขานั้นจะเทียบได้อย่างไร?
พอย้อนกลับมามองหลินเฟย...
อายุน้อยกว่าเขาก็ตั้งหลายปี แต่กลับมีศาสตราวุธขั้นอิงฝู หากพ้นโทษออกจากที่นี่ ย่อมมีอนาคตที่สดใส แม้แต่เื่ที่เขาเป็ศิษย์หุบเขาอวี้เหิง ก็คงไม่มีใครใส่ใจ คงมีผู้าุโมากมายที่พร้อมจะรับเขาเป็ศิษย์ ไม่แน่ว่าเื่นี้อาจถึงหูเ้าสำนักอีกก็เป็ได้
‘หากกระบี่นั่นเป็ของเขาก็คงจะดี...’
‘ใช่แล้ว มันจะต้องเป็ของเขา!’
ห้วงความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในหัว ความรู้สึกภายในใจของเขาก็กระตุกโดยพลัน...
‘ใช่แล้ว’ ต่อให้หลินเฟยมีศาสตราวุธขั้นอิงฝู แต่ที่นี่คือถ้ำเสวียนปิง ขอแค่ใช้กลอุบายแย่งชิงมาอย่างลับๆ เช่นนั้นแล้วศาสตราวุธล้ำค่านี้ ก็จะกลายเป็ของเขา ไม่แน่ว่าสิบปีให้หลัง อาจจะเป็หลัวอวี้เจินคนถัดไปก็ได้!
“หลินเฟย ช่างบังอาจนัก!" ทันใดนั้นศิษย์น้องซูก็ตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ
“เ้าช่างกล้าดีอย่างไร ถึงได้บงการปีศาจทำร้ายศิษย์ร่วมสำนัก!”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้