หยางไท่ิและฟงเฉิงฮ่าว ได้เข้าพักในโรงเตี๊ยมผู่เฉิงเป็ที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งสองยังไม่ยอมพักผ่อน เนื่องจากรอฟังข่าวจากไห่หยุน ผู้รับคำสั่งจากฟงเฉิงฮ่าวไปสืบความเป็มา เกี่ยวกับสตรีที่เ้านายให้ความสนใจทันทีที่มาถึงเมืองผู่เถียน ซึ่งมิใช่ไห่หยุนที่แปลกใจแต่บ่าวที่ติดตามมาเ้านายทั้งสองคน ต่างก็รู้สึกแปลกใจไม่ต่างกัน
ไห่หยุนเดินสอบถามพ่อค้าแม่ค้า บริเวณที่เ้านายพบเจอสตรีทั้งสอง แต่รายละเอียดที่ได้ยังไม่เพียงพอ ทำให้ไห่หยุนต้องไปสอบถามเื่ตระกูลจิน จากท่านเ้าเมืองผู่เถียนที่ตอบคำถาม จากหลักฐานการโยกย้ายถิ่นฐานจากเมืองถู่หลาน มาตั้งรกรากเปิดร้านขายผ้าอยู่ที่นี่ รวมถึงการเปลี่ยนแซ่ของครอบครัวเล็ก ๆ เท่านั้น
เมื่อสืบเสาะเื่ราวได้เท่าที่มี ไห่หยุนจึงรีบกลับไปพบเ้านาย เพื่อรายงานในสิ่งที่ตนสืบได้ความมา
ก๊อก ๆ ๆ “คุณชายรองบ่าวไห่หยุนเองขอรับ”
พอได้ยินเป็เสียงคนของตน ฟงเฉิงฮ่าวรีบอนุญาตอย่างรวดเร็ว “รีบเข้ามา”
แต่เป็หยางไท่ิที่ให้ไห่หยุนรีบเล่าสิ่งที่รู้ออกมา “ได้ความเกี่ยวกับพวกนางว่าอย่างไร รีบเล่ามาให้พวกข้าสองคนฟัง อย่ามัวพิธีรีตองให้มากนัก”
“เรียนคุณชายหยางบ่าวได้สอบถามพ่อค้าแม่ค้าในเมือง รวมถึงขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากท่านเ้าเมือง ในประวัติที่บันทึกไว้บอกว่าเดิมทีพวกนางกับบิดามารดา เป็คนตระกูลหลิวจากเมืองถู่หลาน ถูกผู้นำตระกูลมอบหนังสือตัดขาด จึงเดินทางมาอาศัยที่เมืองผู่เถียน พวกเขาลงทะเบียนเป็ชาวเมืองแห่งนี้ พร้อมกับเปลี่ยนแซ่จากหลิวเป็แซ่จิน มีการซื้อจวนขนาดกลางและร้านค้ากลางเมือง และครอบครัวนี้เพิ่งเปิดร้านขายผ้าวันนี้เป็วันแรกขอรับ” ไห่หยุนได้แต่คิดในใจหากเ้านาย้ารายละเอียดมากกว่า เขาคงต้องไปสืบที่ตระกูลหลิวในเมืองถู่หลานแล้ว
ฟงเฉิงฮ่าวกอดอกขมวดคิ้วดูเคร่งเครียด ถึงสาเหตุที่ครอบครัวเล็ก ๆ นี้ถูกตัดขาดจากตระกูล “ถูกตระกูลเดิมตัดขาดงั้นหรือเกิดเื่ร้ายแรงถึงเพียงนี้ มิใช่ว่าพวกเขาทำอะไรผิดมาหรือไม่นะ เ้าคิดว่าอย่างไรอาิ?”
หยางไท่ิหันไปสบตากับสหาย และตอบด้วยความสงสัย “ในความคิดของข้ามีความเป็ไปได้อยู่สองทาง อย่างแรกเช่นที่เ้าพูดมา ส่วนอย่างที่สองพวกเขาอาจเป็ฝ่ายถูกกระทำ ความจริงอยู่ในข้อใดข้อหนึ่งนี้แน่นอน”
อู๋ซูเห็นว่าเ้านายให้ความสนใจตระกูลจินเป็พิเศษ จึงเสนอสิ่งที่ตนเองคิดออกไป “คุณชายขอรับหรือจะให้ข้ากับไห่หยุนไปสืบเื่คุณหนูทั้งสอง ที่ตระกูลหลิวในเมืองถู่หลานหรือไม่ หากขี่ม้าเร็วไปไม่กี่วันก็ถึงที่นั่นแล้วขอรับ”
สองสหายนั่งคิดทบทวนอยู่ไม่นาน หยางไท่ิจึงบอกกับฟงเฉิงฮ่าว “อาฮ่าวให้ไห่หยุนไปสืบเื่ราวของตระกูลหลิว ส่วนพวกเ้าอยู่ที่นี่เพื่อสืบข่าวพวกคนร้าย และเฝ้าดูร้านค้าตระกูลจินไว้ให้ดี ในเมื่อพวกเขาเป็ครอบครัวช่างทอผ้า ข้าเชื่อว่าถ้าคนร้ายย่อมลงมือลักพาตัวครอบครัวนี้แน่”
“อืม ข้าเห็นด้วยกับเ้านะอาิ เท่าที่เห็นผ่าน ๆ ร้านค้าตระกูลจินมีขนาดใหญ่พอสมควร และมันย่อมเข้าตาคนร้ายเช่นกัน เอาเช่นนี้ไห่หยุนเ้าพักผ่อนเสียก่อน ไว้พรุ่งนี้เช้าประตูเมืองเปิดจงเร่งเดินทางทันที เข้าใจหรือไม่” ฟงเฉิงฮ่าวก็คิดเช่นเดียวกับหยางไท่ิ เพราะคนที่พวกเขาไว้ใจได้มีเพียงคนติดตาม และสายลับบางส่วนในเมืองผู่เถียนเท่านั้น
“บ่าวทราบแล้วขอรับคุณชายรอง”
“พวกบ่าวจะทำตามที่คุณชายสั่งการขอรับ”
หยางไท่ิโบกมือเป็สัญญาณ บ่งบอกให้ผู้ติดตามกลับไปพักเอาแรงได้ พวกเขาเดินทางติดต่อกันมาหลายวัน วันนี้สมควรให้ร่างกายได้พักผ่อนให้เต็มที่ ก่อนจะเริ่มลงมือสืบหาผู้ร่วมขบวนทั้งหมดอย่างเป็ทางการ
เมื่อได้รับรู้รายละเอียดบางส่วนของสตรีทั้งสอง จึงได้เวลาพักผ่อนจากการเดินทางเสียที ระหว่างรอไห่หยุนกลับมา เขากับสหายคงทำได้เพียงจับตาดูอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น
ด้านซูอันกับเยี่ยนหลิงเมื่อกลับมาถึงจวน ภายหลังจบมื้ออาหารเย็นจึงขอตัวกลับเรือนของตน ด้วยความรู้สึกของนางยามเดินกลับจวน มันยังคงกวนใจนางจนถึงตอนนี้ พอมาถึงเรือนส่วนตัวของตน ซูอันเรียกอวี้เหลียนมาพบทันที
“คุณหนูรองเรียกพบข้ามีเื่อันใดให้รับใช้หรือขอรับ”
ซูอันคิดว่าเื่ที่กวนใจนาง ไม่ว่าจะจริงหรือไม่การป้องกันไว้ก่อนย่อมดีที่สุด “อวี้เหลียนั้แ่พรุ่งนี้เป็ต้นไป เ้ากับพาคนติดตามข้าไปที่ร้านด้วยสามคน อีกสองคนให้กลับไปเฝ้าดูที่หมู่บ้าน ว่าพักนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาบ้างหรือไม่ ส่วนที่เหลือให้อยู่ที่จวนดูแลท่านพ่อกับท่านแม่ของข้า”
อวี้เหลียนรู้สึกได้ว่าคำสั่งของคุณหนูรองครั้งนี้ คล้ายกังวลว่าจะเื่บางอย่าง “ข้าจะนำเื่นี้ไปบอกกับสหายคนอื่นให้ทราบขอรับ แต่เื่คนแปลกหน้าที่คุณหนูเป็กังวล ข้าได้ยินจากเจียนฉางเมื่อวันก่อน หลังจากที่กลับไปเยี่ยมท่านลุงเจียน ว่ามีคนไปที่หมู่บ้านของพวกเรา รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อสอบถามว่าแต่ละหมู่บ้านมีช่างทอจำนวนเท่าใด และคนที่มีฝีมือการทอผ้าได้เก่งกาจมีตระกูลใดบ้าง เมื่อผู้คนในหมู่บ้านตอบเท่าที่รู้พวกเขาก็ออกจากหมู่บ้านไปขอรับ”
คิ้วเรียวเริ่มขมวดมุ่นหลังจากฟังสิ่งที่อวี้เหลียนพูดออกมา “ดูท่าเื่นี้จะไม่ธรรมดาเสียแล้วกระมัง”
“คุณหนูรองั้แ่ข้าเติบโตมาในหมู่บ้าน ไม่เคยมีผู้ใดเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับช่างทอผ้าฝีมือเก่งกาจเช่นนี้ นี่เป็ครั้งแรกที่ผู้าุโได้พบเจอเช่นกันขอรับ”
เมื่อเื่ราวที่ได้รับรู้ดูผิดปกติ ซูอันจึงไม่อาจวางใจได้อีกต่อไป “อวี้เหลียนเ้ากำชับคนที่จะไปเฝ้าดูในหมู่บ้านให้ดี และบอกกับชาวบ้านว่า อย่าได้เล่าเื่ภายในให้คนแปลกหน้าฟังเด็ดขาด ข้ารู้สึกได้ว่าเื่นี้อาจร้ายแรงกว่าที่คิด”
อวี้เหลียนมีสีหน้าเคร่งเครียดตามผู้เป็นาย “คุณหนูรองวางใจเถิด ข้าจะบอกพวกเขาให้เตือนทุกคนในหมู่บ้านให้ระวังตัวขอรับ”
“อืม อีกเื่หนึ่งเ้าไปสอบถามบุรุษวัยเดียวกัน ตามหมู่บ้านใกล้เคียงว่ามีใครสนใจ มาสมัครเป็หน่วยคุ้มกันหรือไม่ ข้า้าคนเพิ่มจนกว่าจะครบหนึ่งร้อยคน
จากนั้นนำเงินในถุงนี้ไปซื้อที่ดินด้านหลังหมู่บ้านซานอี๋ ใกล้เชิงเขาเล็กน้อยประมาณสิบหมู่ แล้วไปติดต่อนายช่างโจวซุ่น ให้ไปสร้างเรือนพักของหน่วยคุ้มกันที่นั่น ข้าจะให้หยิ่งเจาเป็คนฝึกฝนพวกเขา เ้าช่วยเร่งมือหน่อยก็แล้วกัน” นางไม่มีทางให้กิจการที่เพิ่งเริ่มสร้าง ต้องพบเจอปัญหาจากคนไม่หวังดีได้แน่
“ข้าจะรีบจัดการทุกอย่างโดยเร็วขอรับ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับไปบอกกับคนอื่น ๆ ก่อนขอรับ”
“อืม ฝากเ้าด้วย” ซูอันรับคำเพียงสั้น ๆ
อวี้เหลียนถือถุงใส่เงินกลับไปยังเรือนพัก ซึ่งสหายที่เหลือยังคงนั่งรอเขา เนื่องจากอยากรู้ว่าซูอันเรียกอวี้เหลียนไปพบด้วยเื่อันใด หยิ่งเจาผู้เห็นสหายเดินกลับเข้ามาเป็คนแรก กำลังจะเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง จำต้องปิดปากของตนลงเมื่อเห็นสีหน้าของอวี้เหลียน
แต่เป็เว่ยโฉวที่กล้าเอ่ยปากถาม “อวี้เหลียนคุณหนูรองเรียกเ้าไปพบ มีเื่อันใดให้พวกเราไปทำหรือไม่? แล้วเหตุใดเ้าถึงทำสีหน้าคร่ำเคร่งผิดปกติกว่าทุกวันเล่า”
เหนียนจื่อพยักหน้าเห็นด้วยกับเว่ยโฉว “นั่นน่ะสิอวี้เหลียน หรือว่างานที่ต้องทำเป็งานที่ยากและซับซ้อนงั้นหรือ?”
“อืม นี่จะเป็การพิสูจน์ความสามารถของพวกเรา คุณหนูรองมีคำสั่งให้ข้ากับพวกเ้าอีกสามคน คอยติดตามไปที่ร้านค้า อีกสองคนไปสังเกตการณ์ที่หมู่บ้านของพวกเรา เพราะเื่ที่เจียนฉางพูดถึงคนแปลกหน้า คุณหนูรองจึงเป็ห่วงคนในหมู่บ้าน เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับทุกคน ส่วนคนที่เหลือคอยดูแลนายท่านกับฮูหยินอยู่ที่จวน”
เจียนฉางไม่คิดว่าเื่ที่เขาได้ฟังจากครอบครัว จะทำให้มีการเฝ้าระวังเกิดขึ้นทันที “อวี้เหลียน! ข้าขออาสาไปสังเกตการณ์ที่หมู่บ้านเอง ใครจะไปที่หมู่บ้านกับข้าบ้าง”
จ้าวถางที่เป็ห่วงมารดาและน้องสาว รีบยกมือขึ้นเพื่ออาสาไปกับเจียนฉาง “ข้าไปกับเจียนฉางเองพี่ชายอวี้เหลียน”
“เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าพวกเ้าสองคนรีบไปที่หมู่บ้าน หากพบเจอเื่ราวที่น่าสงสัยรีบกลับมารายงานคุณหนูรองทันที”
“ได้!/ขอรับ”
ในเมื่อมีคนรับอาสาไปที่หมู่บ้านซานอี๋แล้ว หยิ่งเจาจึงขอรับหน้าที่ดูแลจวน “อวี้เหลียนหน้าที่ดูแลจวนยกให้เป็หน้าที่ของข้าเถิด คนที่ควรอยู่กับข้าก็เป็เต๋อห้าว/ เซินสี่และเหนียนจื่อก็แล้วกัน”
อวี้เหลียนพยักหน้าตกลง ส่วนคนที่ต้องติดตามเขากับซูอัน ย่อมเป็เว่ยโจว/ เป่าโยวกับจงชิ่ง “ตกลง ถ้างั้นพวกเ้าที่เหลือสามคน ไปกับข้าคอยติดตามคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรอง อ้อ ยังมีอีกเื่วันพรุ่งนี้ข้าจะที่ศาลาว่าการ เพื่อทำเื่ซื้อที่ดินด้านหลังหมู่บ้านจำนวนสิบหมู่ คุณหนูรองจะสร้างเรือนพักและลานฝึกหน่วยคุ้มกันเพิ่ม โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ฝึกฝนคนที่มาใหม่ก็คือเ้าหยิ่งเจา”
หยิ่งเจาไม่คิดว่าตนเองจะได้รับหน้าที่ที่มีเกียรติ “คุณหนูรองจะให้ข้าเป็คนฝึกฝนหน่วยคุ้มกันกลุ่มใหม่จริงรึ! อวี้เหลียนข้าคงไม่ได้หูฝาดไปใช่หรือไม่”
“เ้าจะหูฝาดได้อย่างไรกันหยิ่งเจาก็อวี้เหลียนเพิ่งจะบอกเ้า พวกข้าล้วนได้ยินกันทุกคนนะ” เหนียนจื่อเอ่ยย้ำกับหยิ่งเจาว่าเขาไม่ได้หูฝาด
หยิ่งเจาลุกขึ้นยืนชูกำปั้น “ในเมื่อคุณหนูรองมอบหน้าที่สำคัญมาให้ ข้าจะทำมันอย่างเต็มที่ เพื่อฝึกฝนหน่วยคุ้มกันกลุ่มใหม่ให้แข็งแกร่งเช่นพวกเราได้แน่”
“เอาล่ะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้พวกเราต้องเริ่มทำภารกิจั้แ่เช้า อย่าลืมเด็ดขาดไม่ว่าจะเื่เล็กแค่ไหน ถ้าเกิดมันน่าสงสัยตามไปสืบให้แน่ชัดเสียก่อน” อวี้เหลียนคอยกำชับสหายในการทำหน้าที่อยู่เสมอ
“พวกข้าจะทำมันให้ดีแน่นอนอย่าห่วงเลย” เจียนฉางให้คำมั่นแทนสหายทุกคน
ทั้งสิบคนให้ความสำคัญกับหน้าที่จากซูอันเสมอ ในเมื่อเ้านายสั่งการมาเช่นนี้ นั่นหมายความว่าที่หมู่บ้านซานอี๋ หรือร้านค้าผ้าในเมืองผู่เถียน อาจเกิดเื่ไม่คาดฝันขึ้นได้ทุกเมื่อ จิตใจของคนที่อิจฉาริษยาผู้ทำอาชีพเดียวกัน มักจะไม่อยากเห็นผู้อื่นได้ดีไปกว่าตน
ทางด้านเ้านายอย่างซูอันยามนี้ได้ออกคำสั่งกับจี้หยกวิเศษ เพื่อให้การค้าของนางดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
“จีจี้! เดินหน้าผลิตสินค้าเต็มกำลัง”
“รับทราบเ้าค่ะนายหญิง!”
