เช้าวันที่สองของการฝึกฝน รังสีอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านยอดไม้เป็สายแสงสีทอง หลินเว่ยนั่งสมาธิอยู่บนก้อนหินใหญ่กลางลานฝึก ใช้ท่าัหลับใหล ควบคุมลมหายใจและรวบรวมพลังชิวเสวียน ตามคำแนะนำของอาจารย์เหลียงเจิน
"ลมหายใจเข้าช้า...ลึก..." อาจารย์เหลียงเจินเอ่ยเสียงเบา "รับพลังจากธรรมชาติเข้าสู่จุดชีพจร...ลมหายใจออกนุ่มนวล...ปล่อยความขุ่นมัวออกไป..."
หลินเว่ยรู้สึกถึงพลังชิวเสวียนไหลเวียนอย่างราบรื่นผ่านจุดชีพจรทั่วร่างกาย ต่างจากเมื่อก่อนที่มันมักจะติดขัดและควบคุมยาก ท่าัหลับใหลที่หลิวซินสอนให้นั้น เมื่อได้รับการชี้แนะจากอาจารย์เหลียงเจิน ทำให้เขาเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น
"ดี..." อาจารย์เหลียงเจินพยักหน้า "พลังของเ้าไหลเวียนได้ดีขึ้นมาก แต่ยังมีจุดติดขัดที่ชีพจรกลางหลัง ลองเพ่งความรู้สึกไปที่จุดนั้น"
หลินเว่ยทำตามคำแนะนำ เพ่งจิตไปที่บริเวณกลางหลัง และรู้สึกถึงความติดขัดของพลังชิวเสวียนที่นั่น เขาค่อยๆ จินตนาการว่าพลังค่อยๆ ละลายความติดขัด จนในที่สุดพลังชิวเสวียนก็ไหลผ่านจุดนั้นได้อย่างราบรื่น
"รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง" หลินเว่ยเอ่ยเบาๆ ยังคงหลับตา "เหมือนปลดล็อกอะไรบางอย่าง"
"จุดชีพจรนั้นเชื่อมต่อกับหัวใจและปอด" อาจารย์เหลียงเจินอธิบาย "มันถูกปิดกั้นด้วยความกลัวและความกังวลของเ้าเอง เมื่อเ้าปลดปล่อยความรู้สึกเ่าั้ พลังก็จะไหลเวียนได้อย่างเป็ธรรมชาติ"
หลินเว่ยลืมตาช้าๆ รู้สึกว่าประสาทััทั้งห้าแหลมคมขึ้นอย่างน่าประหลาด เขาได้ยินเสียงใบไม้ไหวในระยะไกล กลิ่นของดอกไม้ป่าที่บานอยู่หลังโขดหิน และรู้สึกถึงรังสีอุ่นๆ ของดวงอาทิตย์ที่ััผิวอย่างนุ่มนวล
"นี่คือประโยชน์ของท่าัตื่นกายที่ถูกต้อง" อาจารย์เหลียงเจินเอ่ย "ไม่เพียงแค่เพิ่มความไวในการรับรู้ แต่ยังทำให้เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างตัวเองกับสรรพสิ่งรอบตัว"
หลินเว่ยหายใจเข้าลึก รู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน "มหัศจรรย์มาก..."
"มาฝึกท่าต่อไปกัน" อาจารย์เหลียงเจินกล่าว ลุกขึ้นยืน "ท่าัสยายปีกและท่าัทะยานน้ำ สองท่านี้ สำหรับการเคลื่อนไหวและการต่อสู้ เ้าต้องเรียนรู้วิธีใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์"
ตลอด่เช้า หลินเว่ยฝึกฝนท่าัสยายปีกอย่างเข้มข้น การกางแขนและแผ่พลังออกจากร่างกาย อาจารย์เหลียงเจินสอนให้เขาเพ่งรวมพลังชิวเสวียนไปที่แขนทั้งสองข้าง แล้วปล่อยออกในรูปแบบของคลื่นพลังที่แผ่ขยายเป็วงกว้าง
"ัสยายปีกไม่ใช่แค่การโจมตี แต่ยังเป็การป้องกันด้วย" อาจารย์เหลียงเจินสอน "เมื่อใช้อย่างถูกต้อง มันสามารถสร้างโดมพลังงานปกป้องตัวเ้าและคนรอบข้าง"
หลินเว่ยพยายามทำตาม สร้างโดมพลังงานรอบตัว แต่มันยังไม่เสถียร พลังชิวเสวียนรั่วไหลจากจุดอ่อนหลายจุด
"อย่ารีบร้อน..." อาจารย์เหลียงเจินเตือน "ัสยายปีกต้องมาจากใจที่สงบนิ่ง จินตนาการว่าเ้ากำลังกางปีกปกป้องผู้ที่เ้ารัก"
หลินเว่ยหลับตา นึกถึงภาพของหลิวซิน เสวียนเหมย ประมุขเจิ้งลี่หัว และเพื่อนคนอื่นๆ ที่เขา้าปกป้อง ความตั้งใจที่แน่วแน่ทำให้พลังชิวเสวียนไหลออกมาอย่างสม่ำเสมอ โดมพลังงานสีฟ้าอ่อนค่อยๆ ก่อตัวรอบร่างของเขา แข็งแกร่งและเสถียรมากขึ้น
"ใช่แล้ว..." อาจารย์เหลียงเจินพยักหน้าด้วยความพอใจ "พลังที่แท้จริงมาจากความปรารถนาที่จะปกป้อง ไม่ใช่ทำลาย"
่บ่าย พวกเขาฝึกท่าัทะยานน้ำ ซึ่งเน้นการเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลดั่งสายน้ำ อาจารย์เหลียงเจินให้หลินเว่ยฝึกบนก้อนหินที่วางไม่เสถียรให้ได้เรียนรู้การรักษาสมดุลในสภาวะต่างๆ
"คิดเหมือนน้ำ..." อาจารย์เหลียงเจินแนะนำ "น้ำไม่มีรูปร่างที่แน่นอน แต่ปรับตัวให้เข้ากับภาชนะใดก็ได้ น้ำนุ่มนวลแต่สามารถกัดเซาะูเาได้เมื่อเวลาผ่านไป"
หลินเว่ยค่อยๆ ปรับลมหายใจและการเคลื่อนไหวให้เป็หนึ่งเดียวกัน เขาะโจากก้อนหินหนึ่งไปอีกก้อนหนึ่งอย่างเบาหวิว แม้บางก้อนจะโคลงเคลงไม่มั่นคง แต่เขาก็สามารถรักษาสมดุลได้ดี ร่างกายเคลื่อนไหวราวกับสายน้ำที่ไหลข้ามโขดหิน
เมื่อความมืดเริ่มปกคลุม อาจารย์เหลียงเจินให้สัญญาณหยุดพัก พวกเขากลับมาที่บ้านไม้ เพื่อรับประทานอาหารเย็นเรียบง่าย หลินเว่ยรู้สึกเหนื่อยแต่พึงพอใจกับความก้าวหน้าของตน
"ท่านได้ข่าวใหม่จากเพื่อนของผมบ้างไหมครับ?" หลินเว่ยถามระหว่างมื้ออาหาร
"ข้าได้ส่งนกเรเวนไปส่งข่าวถึงหมู่บ้าน" อาจารย์เหลียงเจินตอบ "พวกเขายังคงปลอดภัยดี เทียนซื่อกำลังตั้งด่านตรวจรอบหมู่บ้าน แต่ยังไม่ได้บุกเข้าไป"
"ผมอยากไปหาพวกเขาให้เร็วที่สุด" หลินเว่ยกล่าว
"อีกหนึ่งวัน" อาจารย์เหลียงเจินบอก "เ้าต้องฝึกท่าัพ่นไฟให้ชำนาญก่อน เพราะมันจะเป็อาวุธสำคัญของเ้า หากต้องเผชิญหน้ากับศัตรู"
หลินเว่ยพยักหน้ารับ แม้จะร้อนใจ แต่เขาเข้าใจว่าการเตรียมพร้อมเป็สิ่งสำคัญ
"เล่าให้ข้าฟังเกี่ยวกับเพื่อนของเ้าสิ" อาจารย์เหลียงเจินขอ "โดยเฉพาะหลิวซิน ผู้สอนวิชาัทะยานฟ้าให้เ้า"
หลินเว่ยเล่าเื่ราวของหลิวซิน ั้แ่การพบกันครั้งแรกในโรงพยาบาล ความช่วยเหลือที่หลิวซินมอบให้ตลอดการเดินทาง และการถูกพรากจากกันระหว่างการหนีจากทหารเทียนซื่อ
"น่าสนใจ..." อาจารย์เหลียงเจินพึมพำ "การที่เขารู้จักวิชาัทะยานฟ้าบ่งบอกว่าเขาอาจมีความเชื่อมโยงกับตระกูลโบราณบางตระกูล เพราะวิชานี้ไม่ใช่วิชาที่จะเรียนรู้ได้ง่ายๆ"
"หลิวซินบอกว่านี่เป็วิชาของตระกูลเขา" หลินเว่ยตอบ
"ถ้าเป็เช่นนั้น ตระกูลของเขาต้องมีประวัติยาวนาน" อาจารย์เหลียงเจินกล่าว "วิชาัทะยานฟ้าเป็หนึ่งในวิชายุทธ์ชั้นสูงที่ถูกสร้างขึ้นในยุคโบราณ... ยุคที่พลังชิวเสวียนยังเป็ที่รู้จักและศึกษากันอย่างแพร่หลาย"
"แปลว่าพลังชิวเสวียนมีมานานแล้ว?" หลินเว่ยถาม
"นับพันปี" อาจารย์เหลียงเจินตอบ "มนุษย์โบราณเข้าใจพลังนี้ดีกว่าคนสมัยใหม่มาก พวกเขาใช้มันรักษาโรค ต่อสู้ป้องกันตัว และแม้แต่เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในบางตำนาน" เขาถอนหายใจ "แต่เมื่อวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เริ่มเฟื่องฟู ความรู้เหล่านี้ถูกมองว่าเป็เพียงความเชื่องมงาย และค่อยๆ สูญหายไป"
"จนกระทั่งเทียนซื่อนำมันกลับมา" หลินเว่ยต่อประโยค
"ใช่" อาจารย์เหลียงเจินพยักหน้า "แต่พวกเขานำมันกลับมาในรูปแบบที่บิดเบี้ยว พวกเขาพยายามผสมผสานพลังโบราณกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผลลัพธ์คือหายนะที่เ้าเห็น" เขาชี้นิ้วไปที่หน้าต่าง ชี้ไปยังโลกภายนอกที่ตกอยู่ในความวุ่นวาย
คืนนั้น ก่อนเข้านอน หลินเว่ยนั่งสมาธิตามที่อาจารย์เหลียงเจินสอน พลางนึกถึงเพื่อนๆ ของเขา โดยเฉพาะหลิวซิน และเสวียนเหมย เขาหวังว่าพวกเขาจะปลอดภัย และเขาจะได้พบพวกเขาในไม่ช้า
วันที่สามของการฝึกฝน หลินเว่ยฝึกท่าัพ่นไฟอย่างเข้มข้น อาจารย์เหลียงเจินสอนให้เขารวบรวมพลังชิวเสวียนที่ท้อง แล้วนำขึ้นมาตามแนวกระดูกสันหลัง ก่อนปล่อยผ่านแขนและฝ่ามือ
"ัพ่นไฟเป็ท่าโจมตีโดยตรง" อาจารย์เหลียงเจินอธิบาย "แต่พลังงานไม่ได้มาจากความโกรธหรือความเกลียดชัง แต่มาจากความตั้งใจที่แน่วแน่ และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งที่เ้าเชื่อ"
หลินเว่ยฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งแรกๆ พลังที่ปล่อยออกมายังไม่เสถียร บางครั้งแรงเกินไปจนควบคุมไม่ได้ บางครั้งอ่อนเกินไปจนไร้ประสิทธิภาพ แต่ด้วยคำแนะนำของอาจารย์เหลียงเจิน เขาค่อยๆ เรียนรู้การควบคุมพลังให้พอเหมาะ
"ดีขึ้นมาก" อาจารย์เหลียงเจินกล่าวชม หลังจากหลินเว่ยสามารถปล่อยพลังชิวเสวียนออกมาเป็ลำแสงสีฟ้าอมม่วงที่เสถียร ไปกระแทกต้นไม้เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
"ขอบคุณที่สอนผมครับ" หลินเว่ยกล่าว โค้งคำนับอาจารย์ "ผมรู้สึกเหมือนเข้าใจวิชาัทะยานฟ้าลึกซึ้งขึ้นมาก"
"เ้าเป็ศิษย์ที่ดี" อาจารย์เหลียงเจินยิ้ม "และข้ามีข่าวดี นกเรเวนของข้ากลับมาพร้อมข่าวจากหมู่บ้าน ทหารเทียนซื่อถอนกำลังบางส่วนออกไปแล้ว ่พลบค่ำคืนนี้เราจะเริ่มเดินทางไปที่หมู่บ้านได้"
"จริงหรือครับ?" หลินเว่ยดีใจ
"ใช่ แต่เราต้องระวัง" อาจารย์เหลียงเจินเตือน "อาจยังมีทหารบางส่วนซุ่มอยู่ตามเส้นทาง"
หลินเว่ยพยักหน้า รู้สึกตื่นเต้นและกังวลในเวลาเดียวกัน "ผมจะเตรียมตัวให้พร้อม"
เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า หลินเว่ยและอาจารย์เหลียงเจินเตรียมตัวเดินทาง เสือิเฟยยังคงอยู่ที่บ้านเพื่อคอยเฝ้าระวัง หลินเว่ยพกคัมภีร์ครอบงำจิตติดตัวอย่างระมัดระวัง ส่วนอาจารย์เหลียงเจินนำสมุนไพรและเวชภัณฑ์จำเป็ใส่ย่ามเล็กๆ
"ท่านจะไปกับผมด้วยหรือ?" หลินเว่ยถาม
"หมู่บ้านนี้เป็พันธมิตรเก่าแก่ของข้า" อาจารย์เหลียงเจินตอบ "ข้าอยากพบผู้าุโของหมู่บ้าน และข้ายังอยากพบประมุขเจิ้งลี่หัวด้วย"
พวกเขาออกเดินทางใต้ผืนฟ้ามืดที่มีดวงดาวส่องประกาย เดินทางลงจากูเาตามเส้นทางลับที่อาจารย์เหลียงเจินรู้จักดี เส้นทางคดเคี้ยวผ่านหุบเขาและป่าทึบ บางครั้งแคบและชันมาก แต่หลินเว่ยสามารถใช้ท่าัทะยานน้ำช่วยให้เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว
ระหว่างทาง หลินเว่ยได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ไกลๆ อาจารย์เหลียงเจินให้สัญญาณหยุด พวกเขาหลบอยู่ใต้เงาของต้นไม้ใหญ่ รอจนกระทั่งเสียงเฮลิคอปเตอร์หายไป
เมื่อเดินทางมาถึงเชิงเขา พวกเขามองเห็นแสงไฟจากหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาด้านล่าง นั่นคือจุดหมายของพวกเขา
"ใกล้ถึงแล้ว" อาจารย์เหลียงเจินกระซิบ "แต่นี่คือ่ที่อันตรายที่สุด"
หลินเว่ยพยักหน้า เตรียมพลังชิวเสวียนให้พร้อม ตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อที่จะได้พบกับเพื่อนๆ อีกครั้ง
พวกเขากำลังจะก้าวออกจากแนวป่า ทันใดนั้น อาจารย์เหลียงเจินก็ยกมือให้หยุด สายตาจับจ้องไปยังพุ่มไม้ที่ไหวเบาๆ ไม่ไกลนัก
"มีคนอยู่ตรงนั้น" เขากระซิบเตือน