ทั่วทั้งห้องทรงพระอักษรล้วนเงียบเป็เป่าสาก ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเื่แบบนี้ขึ้น
ไม่ช้าอวิ้นกุ้ยเฟยก็ะโเรียกร้องเสียงดัง “ฝ่าาถูกวางยาพิษ! ฝ่าาถูกวางยาพิษ! ใครก็ได้รีบเข้ามาเร็ว ตามไท่อีมา!”
แต่อย่างไรก็ตามเหมยกงกงที่อยู่ด้านข้างกลับไม่ขยับเขยื้อน ทางด้านของเทียนอู่ฮ่องเต้นั้นจับจ้องไปที่อวิ้นกุ้ยเฟยด้วยสายตาเ็าและไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั่วทั้งร่างของเขาราวกับแก่ขึ้นอีกหลายปีจนอ่อนเพลียอย่างไร้ที่เปรียบเปรย
อวิ้นกุ้ยเฟยเป็บุคคลที่สงบนิ่งและพบเห็นคลื่นลมที่ไม่สงบมามากมาย เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ทนไม่ไหวกับความใเช่นนี้! ทันทีที่เผชิญหน้ากับการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนและเฉียบขาดของฝ่าา นางถึงกับตกตะลึงและลนลานจนต้องรีบคุกเข่าลงกับพื้น
“ฝ่าาเพคะ หม่อมฉันถูกปรักปรำ! หม่อมฉันไม่ได้เป็คนทำ! ไม่ใช่หม่อมฉัน! ”
“ฝ่าาเพคะ มีคน้าให้ร้ายหม่อมฉันแน่นอน ใช่แน่ๆ ! ฝ่าาโปรดิเจียนนะเพคะ ฝ่าา…”
อวิ้นกุ้ยเฟยคิดเพียงแค่ว่าเทียนอู่ฮ่องเต้สงสัยในตัวนาง นางไม่ทราบจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้ำชาถ้วยนี้ อันที่จริงแล้วชาถ้วยนี้ไม่ได้จัดเตรียมโดยหวายหนิง แต่เป็นางที่จัดเตรียมไว้แทน นางชงด้วยตนเองพร้อมกับใส่ตังกุย [1] ที่ฝ่าาทรงชื่นชอบก่อนจะยกเข้ามา
การที่นางมาในวันนี้เป็เพราะ้าช่วยหวายหนิงพูดสิ่งดีๆ เพื่อให้ฝ่าาเกิดความเวทนาแล้วมอบรางวัลให้หวายหนิงเล็กน้อย
แม้ว่าตระกูลฉีจะไม่พอใจ แต่ในแง่ของมารยาทแล้วก็ไม่กล้าเมินเฉยต่อหวายหนิงอยู่ดี บัดนี้ตระกูลฉีกำลังจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่อยู่ภายในจวน พวกเขาเชิญขุนพล ตระกูลสูงศักดิ์ และราชวงศ์ในราชสำนักมามากมาย หากในเวลานี้ฝ่าาได้ให้คนนำสินเดิมหรือรางวัลของหวายหนิงไปให้ หวางหนิงก็จะสามารถกอบกู้เกียรติยศกลับมาได้เล็กน้อย ตระกูลฉีก็จะสามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับมาได้ ในอนาคตที่หวายหนิงอยู่ในตระกูลฉีก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น
อวิ้นกุ้ยเฟยคิดอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าเื่ราวจะแปรเปลี่ยนมาเป็เช่นนี้!
ทันใดนั้นเทียนอู่ฮ่องเต้ก็ไอออกมาราวกับหยุดไม่ได้ เขาไอติดต่อกันจนกระอักเืออกมาโดยที่เืนั้นยังคงเป็สีดำ!
“ไม่ใช่หม่อมฉัน! ไม่ใช่หม่อมฉัน! ”
อวิ้นกุ้ยเฟยลนลานอย่างถึงที่สุด นางหันหน้าไปมองเหมยกงกงแล้วร้องะโเสียงดัง “ตามไท่อี เร็วเข้า ตามไท่อีสิ! เ้ายังตกตะลึงอยู่ทำไม? ”
การที่เหมยกงกงไม่รีบร้อนเป็เพราะเขาทราบว่าฝ่าาไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่อาการประชวรได้กำเริบขึ้น
แม้แต่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็ยังไม่ทราบถึงอาการประชวรของฝ่าา ดังนั้นจะให้อวิ้นกุ้ยเฟยกับกูเฟยเยี่ยนรับรู้ได้อย่างไร?
สถานการณ์เช่นนี้ทำได้เพียงใช้เื่พิษมาปิดบังความจริงแล้ว!
เหมยกงกงเห็นว่าเทียนอู่ฮ่องเต้ไม่ทำการเคลื่อนไหว ดวงตาของเขาจึงทอประกายความชั่วร้ายขึ้น ทันใดนั้นก็ะโลั่น “กูเฟยเยี่ยนมีทักษะทางด้านพิษ คนที่วางยาพิษต้องเป็นางแน่ๆ ! ”
อวิ้นกุ้ยเฟยไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน [2] และเื้ัยังมีองค์ชายใหญ่ หากว่าใส่ร้ายอวิ้นกุ้ยเฟยโดยปราศจากหลักฐาน เมื่อถึงเวลานั้นองค์ชายใหญ่คงจะสงสัยในอาการประชวรของฝ่าาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
การใส่ร้ายกูเฟยเยี่ยนนั้นจะไม่เหมือนกันแล้ว กูเฟยเยี่ยนเป็เพียงแค่หญิงรับใช้ ปัจจุบันนี้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยออกไปทำธุระด้านนอกเมือง ไม่มีใครปกป้องนางได้อีก อีกทั้งการที่ใส่ร้ายว่ากูเฟยเยี่ยนเป็ผู้วางยาพิษมันก็จะสามารถอธิบายถึงเหตุผลที่ฝ่าากระอักเืออกมาเป็สีดำได้ ด้วยวิธีการนี้จะสามารถทำให้อวิ้นกุ้ยเฟยเข้าใจผิดและไม่เกิดความสงสัยในอาการประชวรของฝ่าาเป็แน่!
เมื่อเห็นว่าฝ่าาไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เหมยกงกงจึงยืนกระต่ายขาเดียว [3] “กูเฟยเยี่ยน เ้ากล้าวางยาพิษฝ่าาได้อย่างไร? เ้าไปเอาความกล้ามาจากที่ใด? ”
กูเฟยเยี่ยนมั่นใจว่าชาถ้วยนั้นไม่มีพิษมา นางกำลังจ้องไปยังเืสีดำที่เทียนอู่ฮ่องเต้อาเจียนออกมาและพอจะทราบเื่ราวโดยคร่าวแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดใส่ร้ายกะทันหันของเหมยกงกง นอกจากนางจะคาดไม่ถึงแล้วยังได้กลิ่นอายของแผนการร้ายอีกด้วย
“ฝ่าา…”
นางกำลังจะอ้าปากแต่ก็มีเสียงใของอวิ้นกุ้ยเฟยขึ้นมา “นาง นางคือกูเฟยเยี่ยน? นาง…นาง…ใช่! คนที่วางยาพิษจะต้องเป็นางแน่ๆ นาง้าใส่ร้ายข้า! ฝ่าาเพคะ นังคนชั้นต่ำคนนี้ทำร้ายหวายหนิงยังไม่พอยังจะมาทำร้ายหม่อมฉันอีก! ”
“ฝ่าาเพคะ นางมีทักษะทางด้านพิษ! ทักษะพิษของนางเก่งกาจมาก! นางเป็คนค้นพบห่อผงยาของอู๋กงกง! ”
อวิ้นกุ้ยเฟยนับได้ว่าเป็สุนัขจนตรอกที่กัดคนอื่นไปทั่วซึ่งตรงกับเจตนารมณ์ของเหมยกงกงพอดิบพอดี
เหมยกงกงเหลือบมองเทียนอู่ฮ่องเต้แวบหนึ่ง แต่เมื่อเห็นว่าเทียนอู่ฮ่องเต้อนุญาตโดยปริยายเขาจึงะโร้องทันที “ทหาร กูเฟยเยี่ยนวางยาพิษประทุษร้ายฝ่าา รีบมาลากนางออกไปแล้วลงโทษปะาชีวิตในสถานที่เกิดเหตุทันที! ”
เสียงะโร้องนี้ทำให้ทหารคุ้มกันที่อยู่ด้านนอกพุ่งเข้ามาทันที
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนอยากจะพูดจาดีๆ แต่เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้นางจึงเกิดโทสะขึ้นเป็อย่างมากจนต้องตำหนิเหมยกงกงด้วยความโกรธ “สุนัขนู๋ไฉ คนที่้าทำร้ายฝ่าาคือเ้าต่างหาก! เ้าบอกว่าตัวข้าเป็ผู้วางยาและจะนำข้าไปลงโทษปะาชีวิตในสถานที่เกิดเหตุ เหอะๆ ยาถอนพิษเล่า? เ้าไม่เอายาถอนพิษแล้วหรือ? เ้ามีเจตนาดีอะไรกัน? ”
คำพูดนี้ทำให้เหมยกงกงพูดไม่ออก ทหารองครักษ์ที่เข้ามาก็ไม่กล้าขยับเขยื้อนไปชั่วขณะ
กูเฟยเยี่ยนจึงได้พูดด้วยความจริงจัง “เหมยกงกง ชาของอวิ้นกุ้ยเฟยถ้วยนั้นคือชาตังกุย นับได้ว่าเป็ชาสมุนไพร มีประสิทธิภาพในการทำลายเื ถ้วยเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายประสิทธิภาพของเม็ดยาที่ฝ่าามักจะใช้ ดังนั้นฝ่าาจึงอาเจียนเป็เื…”
กูเฟยเยี่ยนพูดมาถึงตรงนี้ก็ถูกอวิ้นกุ้ยเฟยขัดจังหวะขึ้น “กูเฟยเยี่ยน เ้าเถียงข้างๆ คูๆ พูดจาเพ้อเจ้อ! ตังกุยเป็สมุนไพรที่สร้างเื มันจะทำลายเืได้อย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนตอบกลับไปอย่างจริงจัง “อวิ้นกุ้ยเฟย ข้าจะพูดเพียงครั้งเดียว ท่านโปรดจำไว้ให้ดี หัวของตังกุยมีประสิทธิภาพในการห้ามเื ลำต้นของตังกุยมีประสิทธิภาพในการบำรุงเื ปลายของตังกุยมีประสิทธิภาพในการทำลายเื! ยากระตุ้นการมีประจำเดือนที่สตรีใช้เป็ประจำมีสมุนไพรปลายตังกุยอยู่ด้านใน ชาของท่านใช้ปลายตังกุย ดังนั้นจึงมีประสิทธิภาพในการทำลายเื! ”
ทันทีที่อวิ้นกุ้ยเฟยได้ยินเช่นนี้ก็อ้าปากค้างด้วยความใ “อะ…อะไรนะ? ”
โดยปกติแล้วยาที่นางใช้ล้วนมาจากการจัดเตรียมของห้องยาสำนักหมอหลวง นางไม่เคยดื่มชาสมุนไพรมาก่อน การที่นางจัดเตรียมเป็พิเศษเป็เพราะฝ่าามักจะดื่มชาตังกุย นางมาด้วยความรีบร้อนจึงไม่ได้ให้คนไปนำยามาจากห้องยาสำนักหมอหลวง แต่ทำการคัดเลือกตังกุยที่อยู่ในห่อยากระตุ้นการมีประจำเดือนข้างกายออกมา นางจะไปทราบได้อย่างไรว่าตังกุยจะมีความพิถีพิถันเช่นนี้! พูดมาถึงท้ายที่สุดแล้วก็คือนางเป็ผู้ทำร้ายฝ่าาหรือ?
อวิ้นกุ้ยเฟยลนลานจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาชั่วขณะ
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายความซับซ้อน นางหันไปมองเทียนอู่ฮ่องเต้พลางเอ่ยอย่างจริงจัง “ฝ่าาโปรดอย่าเชื่อคำพูดใส่ร้ายของเหมยกงกง ฝ่าาโปรดเรียกตัวอาจารย์แพทย์เข้ามาเพื่อจัดเตรียมยาห้ามเื มิฉะนั้นแล้วผลลัพธ์จะอันตรายจนยากจะนึกถึง! ”
กูเฟยเยี่ยนที่เฉลียวฉลาดมองเห็นเจตนารมณ์ที่เหมยกงกง้าใส่ร้ายนางมาั้แ่แรกแล้ว บวกกับการวิเคราะห์เืสีดำเ่าั้ที่เทียนอู่ฮ่องเต้ทรงอาเจียนออกมา นางก็มั่นใจได้ว่าเทียนอู่ฮ่องเต้ทรงประชวรในระยะสุดท้ายแล้ว ยาที่ใช้ก็คือยาต่ออายุขัยในการประคองร่างกายเอาไว้
ชาของอวิ้นกุ้ยเฟยถ้วยนั้นได้ไปทำลายประสิทธิภาพของเม็ดยาต่ออายุขัยแล้วเปิดเผยความลับออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทางด้านของเทียนอู่ฮ่องเต้นั้นยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาจนกระทั่งบัดนี้ ดูเหมือนว่าพระองค์จะอนุญาตให้เหมยกงกงใช้วิธีการของตัวเองไปโดยปริยาย พระองค์้าใช้เื่ของการถูกวางยาพิษมาปกปิดความจริงเพื่อปิดบังอวิ้นกุ้ยเฟยอย่างแน่นอน! และเมื่อนางถูกฆ่าตายเื่นี้ก็จะไร้ซึ่งหลักฐาน! เดิมทีกูเฟยเยี่ยนมีความประทับใจในตัวของเทียนอู่ฮ่องเต้เล็กน้อย แต่ในตอนนี้หลงเหลือเพียงแค่ความเหยียดหยาม!
แน่นอนว่านางไม่ได้อวดอ้างความสามารถ นางมีทั้งอารมณ์ความโกรธและมันสมอง
ในเมื่อเทียนอู่ฮ่องเต้้าปกปิดอวิ้นกุ้ยเฟย นางจึงต้องพูดจาด้วยความนุ่มนวลและอ้อมค้อมเพื่อเหลือทางหนีทีไล่ให้กับเทียนอู่ฮ่องเต้ เมื่อเทียนอู่ฮ่องเต้ทรงมีทางออกแล้วนางถึงจะมีทางรอดชีวิต!
ก่อนหน้านี้ที่นางพูดว่า “ยาที่ฝ่าามักจะใช้” ถือเป็การเตือนสติเทียนอู่ฮ่องเต้ว่านางมองออกถึงความจริงแล้ว
และคำพูดที่นางเน้นย้ำไปเมื่อสักครู่นี้ว่า “จัดเตรียมยาห้ามเื” คือการเตือนเทียนอู่ฮ่องเต้ว่าอาการของพระองค์ไม่สามารถยืดเยื้อออกไปได้อีกแล้ว
เมื่อเห็นว่าเทียนอู่ฮ่องเต้ยังไม่เอ่ยอะไรออกมา กูเฟยเยี่ยนจึงพูดเสริมอีกหนึ่งประโยคอย่างไม่รีบร้อน “หากฝ่าาทรงเชื่อนู๋ปี้ก็สามารถให้นู๋ปี้จัดเตรียมยาได้”
จากความเข้าใจที่กูเฟยเยี่ยนมีต่อศาสตราจารย์แพทย์หนานกง ยาต่ออายุขัยของเทียนอู่ฮ่องเต้ต้องมาจากมือของศาสตราจารย์แพทย์หนานกงแน่นอน คำพูดที่นางเสริมไปอันที่จริงแล้วคือกำลังคุกคามเทียนอู่ฮ่องเต้ว่าหากเขาอยากมีชีวิตรอดต่อก็ไม่สามารถสังหารปิดปากนางได้!
เทียนอู่ฮ่องเต้ไอออกมาอีกครั้ง เขาทั้งไอทั้งจ้องมองไปที่กูเฟยเยี่ยน จิตสังหารภายในดวงตาไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มมากขึ้น
คำใบของกูเฟยเยี่ยนนั้นเขาฟังเข้าใจ…
———————
เชิงอรรถ
[1] ตังกุย หมายถึง สมุนไพรชนิดหนึ่งที่ใช้รักษามดลูกและบำรุงหัวใจ
[2] ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน หมายถึง เื่มาก เื่เยอะ
[3] ยืนกระต่ายขาเดียว หมายถึง ปากแข็งยืนยันคำพูดเดิม