เวลาประมาณห้าถึงหกโมงเย็นทั้งสองคนพ่อลูกก็เดินทางกลับมาถึงบ้าน
น้าและอาหลี่เอ้อร์ต่างกำลังพูดคุยกันสนุกสนานอยู่กับแม่ของหลินลั่วหรานในห้องบรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย เมื่อเห็นหลินลั่วหรานกลับมาผู้เป็แม่ดูนิ่งไปเล็กน้อย วันนี้เธอเข้าเมืองไปกดเงิน แต่เพราะใช้ตู้ ATM ไม่เป็จึงต้องไปเบิกเงินที่เคาน์เตอร์ เมื่อพนักงานธนาคารเห็นบัตรของเธอก็มีผู้จัดการลูกค้ามาต้อนรับนำเธอเข้าไปในช่องที่กว้างและสงบกว่า
แม่ของหลินลั่วหรานเบิกเงินหนึ่งแสนออกมาพร้อมการบริการที่ระมัดระวังของพนักงาน ด้วยมึนงงและไม่เข้าใจว่า “ลูกค้าบัตรทอง”คืออะไร ผู้เป็แม่กอดซองสีน้ำตาลเอาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะเอ่ยถามจำนวนเงินภายในบัตร
พนักงานธนาคารไม่ได้มีความเ็าอย่างปกติเวลาเจอกับสาวชาวบ้านธรรมดา เผยรอยยิ้มออกมาพร้อมบอกตัวเลขจำนวนเงินออกมาเบาๆ
เมื่อเดินออกมายังโถงใหญ่ของธนาคารผู้เป็แม่ยังคงอยู่ในอาการมึนงง ตัวเลขตัวหน้านั้นเธอจำไม่ได้ชัดนัก แต่กลับจำได้อย่างชัดเจนว่าด้านหลังมีตัวเลข “0” อยู่หกตัว! พระเ้าแบบนั้นลูกสาวของตัวเองก็มีเงินมากกว่าเศรษฐีในหมู่บ้านเสียอีกน่ะสิ?
แม่ของหลินลั่วหรานพยายามควบคุมสติของตัวเองเอาไว้โอบกอดซองสีน้ำตาลและบัตรเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างแแ่ ก่อนจะซ้อนมอเตอร์ไซค์ของอาหลี่เอ้อร์กลับบ้านไปแต่ทั้งวันจิตใจของเธอก็ไม่ได้สงบลง เพราะเอาแต่กังวลว่าจะมีคนมาแย่งชิงมันไป
หลินลั่วหรานเข้าใจแม่ของตัวเองเป็อย่างดีเมื่อเห็นท่าทางของแม่ตัวเองแล้ว ก็เดาได้ว่าคงถูกจำนวนของเงินในบัตรทำให้ใเข้าในบ้านมีคนนอกอยู่ หลินลั่วหรานจึงยังไม่ค่อยอยากจะพูดอะไรเท่าไรไม่อย่างนั้นก็คงดูเป็การโอ้อวดมากเกินไป และนั่นก็ไม่ใช่เื่ที่เธออยากจะทำนัก
หลังจากหลินลั่วหรานนำของขวัญที่เตรียมมาให้น้าอาหลี่เอ้อร์ไปแล้วก็ได้รับคำชมมากมาย ใบหน้าของผู้เป็พ่อต่างเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ผู้เป็แม่อยากจะให้หลินลั่วหรานนอนค้างอีกสักคืนแต่เมื่อหลินลั่วหรานนึกขึ้นมาได้ว่า ตกลงกันไว้แล้วว่าจะเริ่มทำงานในวันจันทร์ถ้าจะสายั้แ่วันแรกคงไม่ดีนัก จึงเอาเงินหนึ่งแสนไปให้ผู้ใหญ่หลี่ที่บ้านและกำชับพ่อกับแม่ให้กินผักจากพื้นที่ลึกลับ ก่อนจะรีบเดินทางกลับไปยังเมือง R
เมื่อเธอเคลื่อนรถออกมาไม่ว่าจะขับออกมาไกลแล้วก็ตามเธอก็ยังคงสามารถเห็นพ่อกับแม่ที่ยืนส่งเธออยู่นอกรั้วไม้ไผ่
ในใจของหลินลั่วหรานเศร้าขึ้นมาก่อนจะตัดสินใจโทรหาเพื่อนสนิทอย่างเป่าเจีย
“ไว้ถ้าว่างเราไปดูตึกที่เธอพูดถึงเมื่อวันนั้นกันนะ!”
“ทำไมอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจล่ะ?” เป่าเจียกำลังใช้แตงกวาที่หลินลั่วหรานให้มาในการมาส์กหน้าความเย็นสบายที่ได้รับทำให้เธอรู้สึกอยากจะฮัมเพลงออกมา
หลินลั่วหรานกดเสียงลงก่อนจะจัดการเล่าเื่ทั้งหมดให้เป่าเจียฟัง หลังจากฟังจบเสียงแหลมแสบหูของเป่าเจียก็ดังขึ้นจนทำเอาใบหูของเธอสั่นสะท้าน “พระเ้าเธอไม่เป็ไรใช่ไหม?”
ในใจของหลินลั่วหรานอุ่นวาบขึ้นมานี่แหละเป่าเจีย เพื่อนสุดที่รักของเธอ เธอไม่กังวลเื่อะไรทั้งนั้นขอเพียงแค่ไม่เป็อะไรนั่นก็พอใจแล้ว
หลินลั่วหรานบอกว่าจ่ายไปหนึ่งแสนแต่เป่าเจียกลับแสดงท่าทางไม่ได้ใส่ใจอะไร “ใช้เงินได้ดีนี่เสี่ยวหรานทำไมฉันถึงรู้สึกว่า่นี้เธอดูเปิดโลกกว้างขึ้นนะ?”
“ก็เป็เื่ดีใช่ไหมล่ะ?!” เมื่อได้คุยกับเป่าเจีย หลินลั่วหรานมักจะรู้สึกราวกับได้ปลดปล่อยอยู่เสมอ “ใช่แล้ว ผักพวกนั้นกินหมดแล้วหรือยัง? จะได้เอาไปให้อีก”
แม้จะยังไม่ได้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนนักแต่ผักที่หลินลั่วหรานให้มารสชาติดีมากเกินไปแล้ว เป่าเจียจึงหัวเราะออกมา “เตรียมไว้เยอะหน่อยก็ดีเตรียมให้คุณพ่อด้วยสักหน่อยนะ!”
หลินลั่วหรานรู้ว่าพ่อกับแม่ของเป่าเจียเสียไปั้แ่เธอเด็กๆคนที่เธอเรียกว่า “คุณพ่อ” ก็คือตาที่เลี้ยงเธอมานั่นเองได้ยินว่าเป็ทหารเก่าคนหนึ่ง หน้าที่การงานหลินลั่วหรานไม่ได้รู้แน่ชัดนัก
“ได้เลย พ่อของเธอก็เหมือนพ่อของฉันฉันนี่นะยังจะต้องให้เธอมาเตือนอีก!” หลินลั่วหรานลืมตาของเป่าเจียไปเสียสนิทจึงรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร
“โอเค เธอขับรถไปเถอะอย่าลืมนะว่าพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน ไว้ถึงตอนนั้นเราค่อยคุยกันอีกที!” ในครัวของเป่าเจียต้มซุปที่ใส่ผักของหลินลั่วหรานเอาไว้ตอนนี้กำลังส่งกลิ่นหอมออกมาเย้ายวน เธอจึงรีบวางสายจากหลินลั่วหรานไป
เวลาดีๆ มักจะผ่านไปไวเสมอ เพียงชั่วพริบตาก็เข้ามาถึงในตัวเมืองเมื่อถนนลู่ทางกว้างขึ้น หลินลั่วหรานก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากแล้ว
เมื่อนึกถึงดอกไม้ประหลาดสีดำที่ถูกทิ้งไว้ในพื้นที่ลึกลับขึ้นมาในใจของเธอรู้สึกไม่ค่อยสงบเท่าไร จนได้แต่ปลอบใจตัวเองถึงรอบนี้จะเสียเงินไปหนึ่งแสน แต่ก็ยังได้รับอะไรตอบกลับมาใช่ไหมล่ะ
แต่ว่า ดอกไม้นี่ มันมีประโยชน์อะไรกันนะ?
......
หลังจากจอดรถเรียบร้อยหลินลั่วหรานี้เีจะไปสนใจคำพูดของเหล่าคนแก่พวกนั้น จึงรีบจ้ำเท้าขึ้นตึกไปก่อนจะเรียกคนมาเปลี่ยนกลอนประตูด้วยความว่องไว แล้วจึงปิดประตูลงด้วยความระมัดระวังหาอะไรต้มกินสักหน่อย แล้วจึงรีบเข้าไปยังพื้นที่ลึกลับ
ผักต่างพากันสุกงอมแล้วต้นหญ้าก็สูงขึ้นมาเท่าเดิม หลินลั่วหรานี้เีเกินกว่าจะไปจัดการเพราะตอนนี้สิ่งที่เธอสนใจคือการปลูกสมุนไพร
ต้นไม้สีเขียวที่เติบโตอยู่ข้างบ่อน้ำหลังจากที่หลินลั่วหรานกินผลของมันเข้าไปแล้ว ก็ยังคงสงบนิ่งอยู่อย่างเคยแม้เวลาที่เติบโตอยู่ในพื้นที่ลึกลับจะยาวนานกว่าต้นอื่น อย่าพูดถึงดอกเลยแม้แต่ดอกตูมก็ยังไม่เห็น แต่ก็สมกับเป็สมบัติจากฟ้าจริงๆ นั่นแหละ
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีทางได้เก็บผลที่สองของมันในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
ใบของต้นห่อสิ่วโอวเริ่มแตกออกเถาของมันไม่ได้โตขึ้นสูงนักแต่กลุ่มหมอกสีเขียวที่บริเวณรากกลับหนาแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับๆ เวลาดูแล้วสิ่งที่หลินลั่วหรานปลูก มันคือสิ่งที่อยู่ในที่แห่งนี้มาเป็เวลานานที่สุดสิบกว่าวันที่ผ่านมาก็มีฤทธิ์ยาเท่ากับสิบปีแล้วการที่จะมีพลังขึ้นก็คงเป็เื่ปกติ
ต้นโสมทั้งเจ็ดเติบโตขึ้นอย่างดีอายุอาจจะเทียบไม่ได้กับต้นห่อสิ่วโอว แต่ว่าเพราะเป็สายพันธุ์ที่แปลกไปจากปกติเดิมทีก็ดีอยู่แล้ว ตอนนี้กลุ่มหมอกสีเขียวจึงมีมากกว่าต้นห่อสิ่วโอวอยู่เยอะทีเดียว
ส่วนสมุนไพรที่หลินลั่วหรานเก็บมาจากป่าเขาในวันนี้มีพลังอยู่พอสมควร พวกที่หลินลั่วหรานไม่รู้จัก ก็ถูกปลูกสุ่มๆไว้ตามช่องว่างระหว่างแปลงผักและสวนสมุนไพร หลังจากถูกรดน้ำแร่ลงไปแล้วก็เติบโตขึ้นมาอย่าน่าใ ดูไม่ออกเลยสักนิดว่าเธอเพิ่งจะลงมือปลูกลงไป
แต่สิ่งที่หลินลั่วหรานกำลังให้ความสนใจเป็อย่างมากก็คือดอกโบตั๋นสีดำที่เก็บมาจากหน้าผา
เธอใช้พลาสติกพันไว้หลายชั้นถึงได้กล้าจับมันปลูกลงไป มันไม่ได้ทำให้ต้นไม้รอบข้างตายอย่างที่เธอคิดแต่กลับส่งกลิ่นไปทั่วพื้นที่ ดอกโบตั๋นสีดำยังคงดูเฉื่อยชาเช่นเคยนอกจากกลิ่นของดอกไม้ที่คละคลุ้งไปทั่ว มันก็ยังคงดูเหมือนกับสิ่งไร้ชีวิตไม่มีผิด!
หลินลั่วหรานถือแก้วน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแร่ไว้ในมือเธอลังเลอยู่เล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าควรจะรดน้ำให้กับเ้าไม้นี่ดีไหมแต่เมื่อคิดดูแล้ว เธอก็รู้สึกว่าเ้าดอกโบตั๋นนี่ไม่ได้ต่างจากต้นไม้สีขาวที่อยู่ข้างบ่อน้ำแร่เท่าไร ครั้งก่อนที่รดน้ำให้ไปก็ได้รับผลไม้สุกงอมสีแดงนั่นมาหากครั้งนี้รดน้ำให้ดอกโบตั๋นสีดำบานออก อยากจะรู้จริงๆว่าเราจะได้อะไรกลับมากันนะ?
หลินลั่วหรานหวังว่าดอกโบตั๋นสีดำนี่จะสามารถผลิตผลไม้สีดำที่มีประโยชน์ออกมาให้เธอได้สักลูกตามทฤษฎีของที่นี่ตามที่เธอค้นคว้ามา พื้นที่ลึกลับสามารถร่นเวลาให้สั้นลงได้น้ำแร่ก็เป็ขั้นตอนที่ช่วยสร้างจุดสำคัญให้
หรือพวกที่มีฤทธิ์ยาก็ต้องรอให้โตจนถึงเวลาที่เหมาะสม หลังจากตัวต้นเริ่มออกดอกมาแล้วน้ำแร่ก็จะสามารถทำให้มันออกผล หลังจากออกผลแล้ว น้ำแร่ก็จะทำให้มันสุกงอม “ออกผล”จนถึง “ผลไม้สุกงอม” ่นี้เวลา ต้องใช้น้ำแร่ปริมาณเท่าไรหลินลั่วหรานไม่สามารถจะคำนวณออกมาได้
ถ้ามันมีพิษละก็ก็ต้องรอให้กินผลเข้าไปก่อนถึงจะตายใช่ไหมนะ? หลินลั่วหรานคิดคำนวณในใจดูแล้วยังคงห่างจาก่ออกผลอีกไกล เมื่อคิดได้อย่างนี้ เธอก็สบายใจขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ รดน้ำแร่ลงบริเวณรากของต้นโบตั๋นสีดำ
แน่นอน หลังจากนั้นนานแสนนานหลินลั่วหรานไม่ใช่เด็กฝึกหัดอีกต่อไปแล้ว เมื่อคิดกลับไปถึงความคิดของตัวเองในตอนนี้ก็รู้สึกอับอายขึ้นมา...พืชสมุนไพรบางประเภท สิ่งที่มีประโยชน์ก็ใช่ว่าจะเป็ผลเสมอไปเสียหน่อย!