เมื่อเห็นดังนั้น มู่เฟิงก็รีบวิ่งไปยังทะเลสาบแห่งนั้นทันที ไปถึงแล้วเด็กหนุ่มก็พบชายชราลอยแน่นิ่งอยู่บนผิวน้ำกลางทะเลสาบ
“เสี่ยวเทียน รีบช่วยชีวิตคนเร็วเข้า”
มู่เฟิงสั่งเสี่ยวเทียนทันที เ้างูน้อยเลื้อยออกมาจากแขนของมู่เฟิงอย่างไม่เต็มใจ มันขยายร่างให้ใหญ่ขึ้น ก่อนจะว่ายน้ำไปยังกลางทะเลสาบและประคองร่างของชายชราในชุดคลุมสีเทาขึ้นฝั่ง
มู่เฟิงอุ้มร่างของชายชราขึ้นมาบนชายฝั่งของทะเลสาบ ก่อนจะวางร่างอีกฝ่ายให้นอนราบลงไปบนพื้น และกดลงบนหน้าอกของชายชรา ไม่นานอีกฝ่ายก็กระอักเืออกมา
มู่เฟิงััชีพจรของอีกฝ่าย ก่อนจะพบว่ามันเต้นอย่างอ่อนแรง เด็กหนุ่มรีบนำยาอายุวัฒนะขั้นสองออกมาและป้อนใส่ปากชายชราทันที จากนั้นก็ช่วยส่งพลังปราณของเขาเข้าสู่ร่างของอีกฝ่ายผ่านหน้าท้อง เพื่อประคองอาการาเ็เอาไว้
“แค่กๆ”
จากนั้นไม่นานชายชราก็ไอออกมาสองสามครั้ง เขาค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนล้า
“ผู้าุโ ท่านเป็อย่างไรบ้างขอรับ?”
มู่เฟิงเอ่ยถามจากด้านข้าง
ชายชรารู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นเด็กหนุ่มแปลกหน้าผู้หนึ่ง อีกทั้งด้านข้างของเขายังมีัอีกหนึ่งตัวด้วย
“หนุ่มน้อย เ้าเป็คนช่วยข้าเอาไว้อย่างนั้นรึ?”
ชายชราถามอย่างอ่อนแรง
“เมื่อครู่ผู้าุโตกลงมายังทะเลสาบ บังเอิญว่าข้าอยู่ไม่ไกลจึงพบเห็นเข้าพอดีขอรับ”
“แล้วเ้าบุตรทรพีนั่นเล่า?”
ชายชราถามอีกครั้ง เขาพยายามขยับตัวเพื่อลุกขึ้น แต่กลับพบว่าตัวเองไม่มีแรงเหลือแล้ว
“เขาหนีไปแล้วขอรับ ดูเหมือนจะได้รับาเ็สาหัส”
มู่เฟิงกล่าวตามความจริง
“เฮ้อ เช่นนั้นก็ช่างเถิด ถือว่ายังมีชะตา เ้าเด็กทรพีนั่นยังไม่ถึงคราวตาย”
ชายชราถอนหายใจออกมายืดยาว
“ผู้าุโ ท่านได้รับาเ็สาหัส ข้าจะพาท่านกลับไปยังจวนของข้าก่อน จากนั้นจะให้หมอยาช่วยรักษาอาการของท่านนะขอรับ”
มู่เฟิงประคองร่างของชายชราขึ้น ขณะกล่าวอย่างอ่อนโยน
“ไม่จำเป็หรอก หนุ่มน้อย ข้าขอบคุณเ้ามาก อวัยวะภายในของข้าถูกสายฟ้าเผาทำลายไปหมดแล้ว เวลานี้ที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ได้เพราะอาศัยพลังปราณเท่านั้น ไม่อาจมีชีวิตต่อไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว เฮ้อ เลี้ยงดูบุตรทรพีมากว่าร้อยปี แต่เขายังดีเทียบเท่าเ้าที่เพิ่งพานไม่ได้ด้วยซ้ำ ชีวิตของตาเฒ่าผู้นี้ช่างน่าขันนัก”
ชายชราส่ายหน้า เขาสั่งให้มู่เฟิงวางตนลงบนพื้น ก่อนจะหัวเราะเยาะตัวเอง
มู่เฟิงยังคงเงียบไม่ได้กล่าวอะไร จากคำพูดของชายชรา ดูเหมือนว่าคนที่เพิ่งต่อสู้กับเขาเมื่อครู่จะเป็ญาติของเขาเอง
“หนุ่มน้อย เ้ามีนามว่าอะไร?”
ชายชราเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“เรียนผู้าุโ ผู้น้อยมีนามว่ามู่เฟิงขอรับ”
มู่เฟิงตอบ
“อืม มู่เฟิง เป็ชื่อที่ดี เ้าหนุ่ม การที่ข้าได้พบเ้าก่อนตาย ข้าคิดว่าบางทีนี่อาจเป็ประสงค์ของ์ ตาเฒ่าผู้นี้มีของบางอย่าง้ามอบให้เ้า”
ขณะที่ชายชรากำลังเอ่ยปาก แหวนเฉียนคุนบนนิ้วมือของเขาก็พลันส่องสว่างขึ้นมา ฉับพลันนั้นแผ่นหยกสีม่วงขนาดเท่าฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
บนแผ่นหยกนี้มีลายเส้นสลักเอาไว้ และมันกำลังเปล่งแสงสีม่วงออกมา
“หากจะให้อธิบายคร่าวๆ บนแผ่นหยกนี้ได้บันทึกทักษะวิชาลับที่ทรงพลังเอาไว้ เรียกว่าอสนีบาตย่ำแปดทิศ เป็วิชาที่ดึงดูดสายฟ้าเข้าสู่ร่างกาย ทำให้สามารถะเิการโจมตีที่ทรงพลังออกมาได้ เ้าเพียงหยดเืของเ้าลงไป จากนั้นเ้าก็จะสามารถเรียนรู้วิธีการฝึกฝนที่ถูกบันทึกเอาไว้ภายในนี้ได้ ตอนนี้ข้าขอมอบมันให้เ้า”
ชายชราวางแผ่นหยกไว้บนฝ่ามือของมู่เฟิง เมื่อได้ยินดังนั้น แน่นอนว่ามู่เฟิงย่อมรู้สึกยินดีเป็อย่างยิ่ง!
เขาสามารถใช้แผ่นหยกนี้เพื่อฝึกฝนทักษะวิชาลับได้!
เด็กหนุ่มเคยได้ยินซีเยว่กล่าวว่า ทักษะวิชาลับที่ถูกบันทึกไว้ในแผ่นหยกนั้นจะเหนือกว่าทักษะวิชาทั่วไป เพราะในตำราธรรมดานั้นไม่สามารถบันทึกทักษะวิชาลับที่มีผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์เหนือกว่าวิชาทั่วไปได้
“ขอบคุณในความเมตตาของผู้าุโ ทั้งที่ผู้น้อยไม่สมควรจะได้รับมัน”
มู่เฟิงคุกเข่าทั้งสองข้างลงทำความเคารพอีกฝ่ายในฐานะผู้าุโ
“ฮ่าๆ เ้าสมควรได้รับมัน เพียงแค่เ้าคุกเข่าลงก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ถึงอย่างไรตาเฒ่าอย่างข้าก็กำลังจะตายในไม่ช้า เ้าเป็คนสุดท้ายที่ข้าได้พบในชีวิตนี้ ถือว่าเ้าและข้ามีวาสนาต่อกัน”
ชายชราหัวเราะออกมาเสียงดัง แต่แล้วเขาก็กระอักเืออกมาอีกครั้ง
“เฟิงเอ๋อร์ เ้ามานี่”
ชายชราโบกมือเรียกให้มู่เฟิงเข้าไปใกล้ เมื่อเด็กหนุ่มขยับเข้ามา ชายชราก็วางฝ่ามือลงบนจุดตันเถียนของมู่เฟิง พร้อมกับดวงตาที่เป็ประกายขึ้น
ฉับพลันนั้นคลื่นพลังสายฟ้าสีม่วงก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างของมู่เฟิงอย่างรวดเร็ว มันไหลผ่านชั้นิัและเข้าสู่จุดตันเถียนโดยตรง
“อ๊าก!”
เมื่อพลังสายฟ้าหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของมู่เฟิง เด็กหนุ่มก็กรีดร้องออกมา เพราะความเ็ปที่ถาโถมเข้าสู่ร่างของเขาทันที
หลังจากพลังเ่าั้เข้าสู่ร่างกายของเขาแล้ว มันก็ค่อยๆ ควบแน่นสายฟ้าสีม่วงสายหนึ่งขึ้นมาภายในจุดตันเถียนของเขา
ชายชราวางมือลง ในขณะที่มู่เฟิงหอบหายใจอย่างหนัก เขาััได้ถึงพลังสายฟ้าที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างกะทันหัน เด็กหนุ่มมองไปยังชายชราด้วยสายตาคาดไม่ถึง
“ผู้าุโ ท่าน...”
“เมื่อครู่ข้าเพิ่งใช้แรงเฮือกสุดท้ายช่วยควบแน่นแหล่งกำเนิดสายฟ้าให้กับเ้า เมื่อเ้ามีแหล่งกำเนิดสายฟ้านี้อยู่ มันย่อมง่ายต่อการฝึกฝนอสนีบาตย่ำแปดทิศของเ้าในอนาคต ถือเป็ของขวัญชิ้นสุดท้ายจากตาเฒ่าผู้นี้ เฟิงเอ๋อร์ เมื่อวันหนึ่งวรยุทธ์ของเ้าบรรลุถึงระดับหยวนตาน ให้เ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าเหลยฉือ ตาเฒ่าอย่างข้าคงมีวาสนากับเ้าเพียงเท่านี้
จริงสิ ข้ามีนามว่าหลิ่วเชียนเย่ ส่วนคนที่ทำร้ายข้าคือหลิ่วฉิง เขาคือบุตรชายบุญธรรมของข้า เพื่อทักษะวิชาลับนี้แล้ว เขาไม่ลังเลที่จะสังหารข้าเลยแม้แต่น้อย นี่ถือเป็ความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของตาเฒ่าผู้นี้ หากวันหนึ่งเ้าแข็งแกร่งขึ้น โปรดช่วยข้ากำจัดบุตรทรพีผู้นี้ด้วยมือของเ้าด้วยเถิด”
ชายชราจับมือของมู่เฟิงเอาไว้แน่น หลังจากกล่าวประโยคสุดท้ายจบ เขาก็เอียงศีรษะและเสียชีวิตลงทันที
“ผู้าุโหลิ่ว ผู้าุโหลิ่ว!”
มู่เฟิงร้องเรียก เมื่อเห็นว่าชายชราเสียชีวิตแล้ว เขาก็รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
มู่เฟิงคุกเข่าลงต่อหน้าศพของชายชรา ก่อนจะโขกศีรษะคำนับอีกฝ่ายสามครั้ง และกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ผู้าุโหลิ่ว ท่านวางใจเถิด หากวันหนึ่งมู่เฟิงมีกำลังมากพอที่จะสังหารคนทรพีผู้นั้นได้ ข้าจะเป็คมมีดสังหารหลิ่วฉิงแทนท่านอย่างแน่นอน อย่างไรท่านก็ยกทักษะวิชาลับให้ข้า เช่นนั้นมู่เฟิงจะขอฝังร่างท่านในฐานะอาจารย์”
‘ฮ่าๆ ครั้งนี้นับว่าตาเฒ่าอย่างข้ามองคนไม่ผิดแล้ว เด็กดี ไว้พบกันใหม่ในภพหน้า’
ดวงิญญาสีฟ้าหม่นของชายชราลอยออกจากร่าง เขามองมู่เฟิงก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“อาจารย์ ขอให้ท่านไปสู่ภพภูมิที่ดีขอรับ!”
มู่เฟิงมองไปยังดวงิญญาของชายชราก่อนจะโค้งคำนับอีกครั้ง
‘ข้าฝึกฝนวรยุทธ์มานับร้อยปี การได้รับคนที่ดีเช่นเ้ามาเป็ศิษย์ก่อนจากไป อย่างน้อยก็นับว่าไม่ได้ตายเปล่า ข้าต้องไปแล้ว ข้าไปล่ะ…’
น้ำเสียงของหลิ่วเชียนเย่มีร่องรอยของความอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย แน่นอนว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตายย่อมต้องมีความรู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง ดวงิญญาของชายชราเปล่งประกายเป็ลำแสงก่อนจะเลือนหายไปบนฟ้า ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ดวงิญญาของเขาจะเดินทางไปสู่ปรโลกหรือว่าธารเหลือง*กันแน่
(*แหล่งสุดท้ายของดวงิญญาเพื่อไปเกิดในอีกภพภูมิหนึ่ง)
หลังจากดวงิญญาของหลิ่วเชียนเย่เลือนหายไป มู่เฟิงก็นำแหวนเฉียนคุนของอีกฝ่ายมาสวมไว้บนนิ้วมือของเขา ก่อนจะนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าศพและหยดเืลงไปบนแผ่นหยก
เด็กหนุ่มรวบรวมพลังจิติญญาของตนเข้าไปสำรวจในแผ่นหยก จากนั้นก็มีภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในหัวของมู่เฟิงอย่างรวดเร็ว เป็ฉากการเคลื่อนไหวของสายฟ้า เงาร่างหนึ่งกำลังดูดกลืนสายฟ้าเข้าสู่ร่างกาย สายฟ้าเ่าั้ไหลเวียนไปตามเส้นลมปราณภายในร่าง เพียงไม่นานข้อมูลอีกส่วนหนึ่งก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของมู่เฟิง
‘อสนีบาตย่ำแปดทิศ เป็ทักษะวิชาลับระดับโลกาขั้นสูง หากฝึกจนบรรลุระดับสมบูรณ์จะสามารถดึงดูดสายฟ้าเข้าสู่ร่างกายได้ เมื่อถึงเวลานั้นจะสามารถะเิพลังได้รุนแรงมากกว่าปกติถึงเก้าเท่า อานุภาพพลังเกือบจะทัดเทียมกับทักษะวิชาระดับ์’
ภายในภาพนั้นยังมีฉากัแปดตัวแผดเสียงคำราม อานุภาพพลังของมันน่าพรั่นพรึงเป็อย่างยิ่ง
มู่เฟิงถอนพลังจิติญญาของเขาออกมา ดวงตาของเขาแสดงออกถึงความใ
หลังจากทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดของทักษะวิชานี้แล้ว เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าตนเพิ่งได้รับโอกาสพิเศษมากเพียงใด
“อสนีบาตย่ำแปดทิศ”
มู่เฟิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะชำเลืองมองไปยังหลิ่วเชียนเย่และกล่าวอย่างจริงจังอีกครั้งว่า “อาจารย์ ขอบคุณท่านมากขอรับ”
ในขณะเดียวกัน มู่เฟิงก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย แม้ว่าพวกเขาเพิ่งจะได้พบกันไม่นาน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับชายชราทำให้มู่เฟิงรู้สึกเห็นใจอีกฝ่าย
เพียงเพื่อทักษะวิชาลับวิชาหนึ่ง บุตรชายบุญธรรมของเขาถึงกับ้าจะสังหารเขา คนเช่นนี้เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก
จากนั้นมู่เฟิงก็ส่งพลังจิติญญาเข้าไปสำรวจภายในแหวนของชายชรา และสิ่งที่เขาค้นพบก็ทำให้เขาต้องใเป็อย่างมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้