เหมือนดั่งที่จ้าวจือชิงเข้าใจในตัวนาง นางก็มีความมั่นใจกับนิสัยของจ้าวจือชิง อีกทั้งลางสังหรณ์ได้บอกกับนางว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ของค่ายโจรเลี่ยหยาง คงได้ผลเก็บเกี่ยวอย่างสูง กลัวก็เพียงว่าจ้าวจือชิงจะแบกรับภาระหนักเกินไป ไม่ยอมบอกความจริงกับนาง
ลั่วจิ่งเฉินมองดูสีหน้าที่ค่อยๆ หนักแน่น ความคิดที่มีต่อจ้าวจือชิงก็ยิ่งกระจ่าง
จากคำพูดของท่านแม่ จ้าวจือชิงมีศีลธรรมความรับผิดชอบ เช่นนั้นเขาจะต้องเคลื่อนไหวและลงโทษกลุ่มโจรเลี่ยหยางแน่ การแจ้งความและทำลายล้างบางโจรกลุ่มนี้คือเื่แน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ว่าจ้าวจือชิงคิดอย่างไรกันแน่
ซึ่งเป็ดั่งที่ลั่วจิ่งเฉินคิด จ้าวจือชิงคิดจะกำจัดค่ายโจรเลี่ยหยางให้สิ้นซากจริงๆ เพียงแต่จากการจับตาดูค่ายโจรเลี่ยหยางในหลายวันนี้ เขาพบว่าคนส่วนหนึ่ง แม้พวกเขาจะอยู่ในค่ายโจรเลี่ยหยาง แต่พวกเขาไม่เคยทำเื่ชั่ว กลับกันคือถูกขู่บังคับให้อยู่ค่ายโจรนี้ เหตุใดจึงบอกว่าถูกขู่บังคับ มีบางคนเนื่องจากบ้านยากจน ไม่มีเสบียงอาหาร จึงเลี่ยงไม่ได้ต้องขึ้นเขามา จนจับพลัดจับผลูกลายเป็โจร มีบางส่วนเพราะก่อนหน้านี้อพยพและแล้วก็ถูกหลอกมายังค่ายโจร กระทั่งมีส่วนหนึ่งคือคนที่ถูกกองโจรขู่เข็ญทำร้าย ไม่มีที่ไป สุดท้ายจึงจำใจต้องอยู่ที่ค่ายโจร
เ้าสี่ที่อยู่ในเรือนประมุขค่ายโจรเดินวนเวียนอยู่ในห้อง
“เหตุใดยังไม่มา เหตุใดจึงช้าเพียงนี้?”
มารดาเถอะ ตนคงไม่ถูกจ้าวจือชิงหลอกหรอกนะ นานขนาดนี้แล้ว คงไม่ได้อาศัยจังหวะพาลั่วชีเหนียงหนีไปแล้วหรอกนะ
“ใครก็ได้!” ฉับพลันเ้าสี่ก็คิดจะสั่งลูกน้องให้ล้อมค่ายโจรเลี่ยหยางไว้ เพิ่งจะะโเสร็จก็เห็นจ้าวจือชิงเดินเข้ามาอย่างสบายใจเฉิบ
“พ่อทูนหัว ไฉนเ้าจึงมาช้าเพียงนี้ ตอนนี้เ้าสามตายไป สือเลี่ยหยางก็ถูกครอบครัวของเหยื่อก่อนหน้านี้จับตัวไป ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดี?”
เศรษฐีท้องที่ที่กล่าวถึงก่อนหน้านั้น อันที่จริงคือเ้าทุกข์ที่เคยถูกค่ายโจรเลี่ยหยางทำร้ายมาก่อน เพราะเ้าสี่เชื่อฟังคำพูดของจ้าวจือชิงและให้คนส่งป้ายพร้อมกับนำทางให้ เพื่อให้พวกเขามาแก้แค้นสือเลี่ยหยางที่ค่ายโจร ยาสลบในสุราก็เป็ฝีมือเขาที่หาคนไปช่วยคนกลุ่มนั้นวางยาสำเร็จ
เพียงแต่เมื่อมีคนของทางการมา กลับเป็เื่ที่เขาคาดคิดไม่ถึง ทว่าไม่รู้ว่าคนของทางการนั้นเป็มาอย่างไร เขาเพิ่งจะจัดแจงให้ลูกน้องไปซ่อนตัว คนกลุ่มนั้นก็สลายตัวไป รอจนเขาออกมาเก็บกวาด ก็เหลือไว้เพียงศพของเ้าสามกับข่าวที่สือเลี่ยหยางถูกจับตัวไป
เดิมทีเขา้าให้สือเลี่ยหยางตายไปพร้อมกับความวุ่นวายนี้ด้วย ใครจะรู้ว่าคนของทางการจะมา ตอนนั้นเขาหวาดกลัวและยังไม่ได้สังหารสือเลี่ยหยาง ก็รีบชิงหนีไปก่อน
“สือเลี่ยหยางถูกเศรษฐีท้องที่กลุ่มนั้นจับตัวไป ไม่รู้ว่าเขาจะหนีไปได้ระหว่างทางหรือไม่ คนในค่ายโจรนี้ ตอนนี้ข้ายังไม่มีอำนาจโดยสมบูรณ์ จึงไม่มีคนใช้งานได้” เมื่อเห็นจ้าวจือชิง เขาเหมือนเห็นพระผู้เป็เ้าและบอกเล่าสถานการณ์ตอนนี้ให้เขาฟัง
“เกิดเขากลับมาจะทำอย่างไร? เื่เมื่อวานผิดปกติเช่นนั้น เขาจะต้องสงสัยเป็แน่”
“เหตุใดเ้าจึงไม่พูด?” เ้าสี่เห็นเขาไม่ตอบสนองก็ร้อนใจ “ข้าขอบอกกับเ้า จ้าวจือชิง ตอนนี้เราคือมดที่อยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน เ้าอย่าคิดจะทิ้งข้าไว้! ข้าจะบอกเ้าให้ หากข้าถูกจัดการ เ้าก็หนีไม่รอดเช่นกัน”
“พูดจบหรือยัง?” จ้าวจือชิงก้มหน้าดื่มน้ำ ท่าทางสุขุมใจเย็นทำให้เ้าสี่ที่หัวร้อนได้แต่พยักหน้า
จ้าวจือชิงวางถ้วยชาลง “ในเมื่อเ้าพูดจบแล้ว เช่นนั้นถึงตาข้าบ้าง”
“ค่ายโจรเลี่ยหยางเดิมทีเป็สถานที่แห่งความชั่วร้าย ตอนนี้เ้ารับ่ต่อ คิดจะปกครองอย่างไร?”
“โอ้ พ่อทูนหัวของข้า! จนถึงตอนนี้ข้ายังไม่มีอำนาจนั้น แล้วจะถกเื่ปกครองได้อย่างไร?”
“หากจะให้พวกเขาเชื่อฟังเ้า ง่ายดายยิ่งนัก ตบหัวแล้วลูบหลังไม่เคยได้ยินหรือ หากไม่รู้จัก ก็ลองคิดดูว่าสือเลี่ยหยางทำเช่นไรบ้าง” เดิมทีจ้าวจือชิงไม่คิดจะสอนเขาเช่นนี้ แต่เ้าสี่ก็ยังหลักแหลม แม้ว่าจะเ้าเล่ห์ไปบ้าง แต่ก็เพราะถูกคนของกองโจรเลี่ยหยางบีบบังคับจนเข้าตาจน ถึงได้คิดใช้ความชั่วขจัดความชั่ว ใช้การฆ่าเพื่อหยุดยั้งการฆ่า
“ส่วนสถานการณ์ของสือเลี่ยหยาง เื่นี้ยกให้เป็หน้าที่ข้าก็พอ ข้าให้เวลาเ้าสามวันในการทำให้ค่ายโจรเลี่ยหยางฟื้นฟูกลับมา ค่ายโจรเลี่ยหยางในอนาคตต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ข้าคิดว่าเ้าควรเข้าใจความหมายของข้า”
เ้าสี่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ตอนนั้นจ้าวจือชิงเคยเอ่ยว่า ไม่ชอบที่ค่ายโจรเลี่ยหยางนั้นมีแต่ความโหดร้ายเกินไป หวังว่าสักวันจะสามารถกลายเป็สถานที่สงบสุข ตอนนั้นเขายังหัวเราะว่าเขาไร้เดียงสา แต่พอมองดูสภาพลูกน้องที่าเ็ยับเยิน บวกกับสภาพชีวิตในอดีตของตน บางทีค่ายโจรเลี่ยหยางคงถึงเวลาสมควรแก่การเปลี่ยนวิธีชีวิตแล้ว
“ดี ขอเพียงเ้าจัดการสือเลี่ยหยางได้สิ้นซาก ข้ายินดีพาคนที่เหลือสวามิภักดิ์ต่อทางการและเ้า เ้าให้พวกข้าทำอะไร ข้าก็จะทำสิ่งนั้น” เ้าสี่ตบหน้าอกรับประกัน เมื่อสิ้นสือเลี่ยหยางก็เท่ากับสิ้นขวากหนามชิ้นใหญ่ในใจเขา คนที่เหลือเ่าั้ก็เหมือนกับที่จ้าวจือชิงกล่าว รับมือง่ายนัก
…..
ทางด้านนี้เ้าสี่รวบรวมคนที่เหลือ เขายืนอยู่บนแท่นสูงและพรรณนาถึงความเ็ปทุกข์ทนต่างๆ นานาที่ผ่านมาในวันวาน
“เมื่อวาน ค่ายโจรเลี่ยหยางของเราพบเจอเคราะห์หนัก ตอนนี้ประมุขเป็ตายร้ายดีไม่ทราบ นายท่านทั้งหลายต่างก็สิ้นชีพ ตามหลักแล้ว ข้าเป็เพียงลำดับสี่ ผู้ที่มายืนพูดตรงนี้กับพวกเ้าไม่ควรเป็ข้า! แต่ตอนนี้ในค่ายไร้ซึ่งผู้ใด ข้า สิงเหล่าซื่อ ในฐานะนายท่านสี่แห่งค่ายโจรเลี่ยหยางมีหน้าที่รับผิดชอบต้องออกมาช่วยทุกคนขจัดความกังวลและความลำบาก!”
ตอนนี้เ้าสี่ถึงขั้นนำสมญานามของตนออกมาป่าวประกาศ ลูกน้องคนสนิทย่อมช่วยกันสนับสนุน “นายท่านสี่พูดอะไรกัน คนที่อยู่เบื้องบนตอนนี้เหลือเพียงนายท่านสี่ผู้เดียว หากนายท่านสี่ไม่มีสิทธิ์ แล้วผู้ใดในค่ายโจรเลี่ยหยางจะมีสิทธิ์พูดอีก?”
“ใช่แล้ว! นายท่านสี่มีสิทธิ์!”
“พวกเราเชื่อฟังนายท่านสี่!”
ค่ายโจรเลี่ยหยาง เดิมทียังมีลูกน้องที่แม้จะไม่ยอม แต่จากลำดับสถานะแล้ว ไม่มีผู้ใดเทียบนายท่านสี่ได้จริงๆ ส่วนคนที่เพิ่งมาเข้าร่วมภายหลังก็เพียงแค่เฝ้ามองอย่างใจเย็น เดิมทีพวกเขาคิดว่าสือเลี่ยหยางตายแล้ว คนเหล่านี้คิดว่าเมื่อัไร้ศีรษะ ถึงเวลานั้น พวกเขาอยากหนีก็สามารถทำได้ แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะเก็บสัมภาระเรียบร้อย คนกลุ่มนี้ก็รวมตัวกันอีกครั้ง
เพียงแต่เสี้ยววิถัดมา พวกเขาถึงกับจ้องมองสิงเหล่าซื่อบนแท่นสูงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“เมื่อวาน พวกเ้าหารู้ไม่ว่า นอกจากเ้าทุกข์ที่แกล้งเป็เศรษฐีท้องที่กลุ่มนั้นที่้ามาเพื่อแก้แค้นที่ค่ายโจรเลี่ยหยาง ก็ยังมีเ้าหน้าที่ทางการอีกหนึ่งกลุ่มที่ซุ่มอยู่ละแวกค่ายโจรเลี่ยหยางของเรา เมื่อคืนหากมิใช่เพราะข้าระมัดระวังและพาคนหลอกล่อเ้าหน้าที่ทางการไป เกรงว่าวันนี้ เราทุกคนคงจะอยู่ในคุกแล้ว ครั้นได้เจอกันอีกก็คงเป็ชาติหน้า!”
ภายใต้การคร่ำครวญของสิงเหล่าซื่อ “ใช่ว่าข้า สิงเหล่าซื่อ จะกลัวตาย แต่ว่าพี่น้องทั้งหลาย หลายปีมานี้พวกเรากองโจรเลี่ยหยางก่อเื่มากมายเท่าใด ข้าไม่พูด พวกเ้าก็คงรู้ดีแก่ใจ แต่ละเื่ที่เราทำล้วนเป็เื่ต่ำช้า หากเป็หลายปีก่อน ข้าคงไม่กลัว อย่างมากก็แค่หัวหลุดจากบ่า ตายก็ตาย! ตายแล้วเกิดใหม่ก็ยังเป็ข้าคนเดิม!”
“แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว พวกเราอยู่ในค่ายมานานหลายปี เหล่าพี่น้องไม่กล้ามีครอบครัว เมียของเอ้อร์หวาจื่อ หลายปีก่อน ไม่ง่ายดายกว่าจะมีลูก แต่สุดท้ายก็รักษาไว้ไม่อยู่ โก่วจือ ไม่ง่ายกว่าจะมีเมีย แต่ปรากฏว่าวันที่สองหลังจากเมียเขารู้ว่าเขาคือสมาชิกโจรเลี่ยหยางก็แขวนคอฆ่าตัวตาย!”
“เวลานั้น เราคิดแค่ว่าค่ายโจรเลี่ยหยางของเรานั้นเก่งกาจเพียงใด! นี่ล้วนเป็เื่เล็ก!แต่พี่น้องลองดูสิว่า ไม่ว่าเมียของใครที่ไม่ว่าจะสู่ขอมาด้วยวิธีใด แต่หลายปีมานี้มีใครตั้งครรภ์มีลูกบ้างหรือไม่! นี่มันเคราะห์กรรมชัดๆ! มันคือหนี้ของกรรม!”
เมื่อสิ้นเสียงของสิงเหล่าซื่อ ในกลุ่มคนก็มีเสียงสะอื้นไห้อย่างแ่เบาของสตรี ไม่เพียงแค่คนเก่าคนแก่ของค่ายโจรเลี่ยหยาง กระทั่งคนมาใหม่ภายหลังก็ไม่มีคนใดที่มีผู้สืบทอดรุ่นหลังแม้แต่คนเดียว ในอดีตทุกคนเอาแต่ข่มใจเกี่ยวกับเื่นี้และไม่ยอมพูดถึง แต่พอตอนนี้เขาสะกิดโดยตรงเช่นนี้ ใบหน้าของคนทั้งหมดก็แฝงด้วยความสำนึกผิดและเสียใจ
เมื่อเห็นทุกคนต่างก็ถูกกระตุ้น สิงเหล่าซื่อก็รีบตีเหล็กตอนร้อน
-----