เฉกเช่นคราแรกพานพบสบตาาาจิ้งจอกผู้นี้อย่างไร ลำคอขาวสะอาดในกำมือปีศาจนั้นเป็เช่นเดียวกัน
หางทั้งเก้าพลิ้วไหวเื้ัร่างสูงสง่า ฝ่ามือหนากำลำคอเพรียวระหงอย่างไร้ความปรานี เขาจับนางแน่นเสียจนโลหิตไหลซึมออกมาตามซอกเล็บสีนิล
พลังเทพจากไข่มุกแตกกระจายเป็เศษเสี้ยว คงเหลือเพียงไอปีศาจ ใต้จันทรากลมโตสีโลหิต สตรีเทพปัดป่ายมือไปมา ร้องขอชีวิตจากเ้าของแววตาเกรี้ยวกราด ที่เปล่งประกายจรัสจ้า
ในเมืองปีศาจจึงไม่มีผู้ใดได้วาดกระบี่ ลุกขึ้นต่อสู้จับกุมเทพผู้รุกล้ำเขตแดนปีศาจ ทันทีที่คมเขี้ยวจิ้งจอกฝังลงบนผิวขาวผ่องงามเหนือบ่าซ้าย พิษกระจายไปทั่วร่างดิ้นทุรนทุรายในพันธนาการาาจิ้งจอก
ฮุ่ยเฟินประกาศศักดาต่อฟ้าดิน เบื้องหน้าเหล่าลูกสมุนปีศาจ ทั่วทุกสารทิศในใต้หล้าเปี่ยมด้วยไอปีศาจมากมหาศาล ละอองเวหาสีนิลสลับสีชาดแผ่ไพศาล
สายตาทุกคู่มองเห็นกลุ่มเมฆาสีนิลชาด ราวกับว่าเพลิงพิโรธได้ครอบคลุมไปทุกแห่งหน ด้วยน้ำมือของาาจิ้งจอก เหล่าพลทหารส่งเสียงะโโห่ร้องสรรเสริญ สยบต่ออำนาจของบุรุษผู้นี้
“าาฮุ่ยเฟิน!”
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงการกระทำเหนือความคาดหมายของาาฮุ่ยเฟิน เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยสำแดงอิทธิฤทธิ์ใด ด้วยความเป็ผู้นำสุขุมเยือกเย็น ใช้สติไตร่ตรองก่อนกระทำเสมอ เขาเองก็มิได้ชื่นชอบการนองเืเช่นปีศาจตนอื่น ส่วนใหญ่แล้วมักใช้อารมณ์เป็ที่ตั้ง
ขนาดองครักษ์คนสนิทยังเข้าใจผิดคิดไปว่านายท่านเกรี้ยวโกรธเป็อย่างมากเมื่อถูกนางปักษาหลอกลวง เลยจะสังหารนางเสีย กลับกลายเป็ตรงกันข้าม
เฟยฟาตงหยางเข้ามาประท้วงถามนายท่านเสียอีก ไยไว้ชีวิตนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า มิหนำซ้ำยังนำยาจากเมืองเทพมารักษานางอีก
ยิ่งเมื่อพบนางเป็สตรีใบหน้างดงาม เขาแทบไม่ละวางไปจากนาง ร่องรอยเล็บคมที่ฝังลงในเนื้อปักษาเป็เครื่องยืนยันว่านางคือเ้าปักษาที่เขาเก็บมาจากโคลนพิษ ระหว่างที่นางยังไม่ฟื้นคืนสติ เขานำยาสมานาแมาเยียวยาให้ผิวขาวเนียนละเอียดกลับมางดงามดังเดิม
รุ่งอรุณนี้ทั่วทั้งดินแดนจิ้งจอก ท้องนภาปกคลุมด้วยไอหมอกสีนิล ใต้จันทราสีชาดทอประกายอร่ามงาม ไม่ปรากฏแสงตะวันแม้เป็่เวลากลางวัน
“ท่านาาจิ้งจอก ไว้ชีวิตข้าด้วย ข้ามิได้ตั้งใจหลอกลวงท่าน...” ในน้ำเสียงแหบพร่า นางพร่ำเพ้อละเมอหาเ้าของจวนบนฟูกขาวสะอาด กว่าที่เขาจะกลับเข้าห้องมาพบนาง
บุรุษร่างกำยำในอาภรณ์สีนิลสง่าปรากฏตัวขึ้นพร้อมไอปีศาจ กระทั่งบนพื้นเรือนไม้ ไม่สามารถมองเห็นรองเท้ากำมะหยี่ ขณะใบหน้าขึงขังดุดันเฝ้ามองนางฟื้นคืนสติ หลังจากที่นางหลับใหลไปถึงสามราตรี
“ธิดาปักษาผู้กล้าหาญ พึ่งเกรงกลัวความตายขึ้นมางั้นหรือ?”
ฮุ่ยเฟินเย้ยหยันนางด้วยยาสมานาแ ผ่านฝ่ามือที่โปรยลงบนผิวขาวผ่องงาม บัดนี้เหลือเพียงรอยแดงจาง ๆ ั์ตาสีชาดทอประกายจรัสใต้แสงจากเปลวเทียนวูบไหว หลุบมองรอยเขี้ยวเป็รูกลมบนบ่ามน อาภรณ์สีขาวที่เปรอะเปื้อนโลหิตได้รับการผลัดเปลี่ยนด้วยมือของเขาเอง
“ข้าเป็ผู้ช่วยชีวิตเ้าเอาไว้ ชีวิตเ้าเป็ของข้า เมื่อข้าอยากได้เ้าเป็ภรรยา เ้าย่อมจะต้องเป็ภรรยาข้า เว้นเสียแต่ว่าเ้าปรารถนาความตาย”
“ข้าเป็เพียงธิดาปักษาจากดินแดนสิ้นสลาย หาใช่ธิดาผู้ยิ่งใหญ่ไม่ ข้าไม่คู่ควรกับท่านแม้แต่น้อย”
“เช่นนั้นเ้ามีบ้านให้กลับหรือ?”
ใบหน้าสลดเศร้าส่ายไปมา “ไม่มี... เ้าค่ะ นายท่าน”
“เ้าพูดกับข้า ไม่จำเป็ต้องถือยศศักดิ์ เ้าเรียกข้าสามีหรือฮุ่ยเฟิน”
“สามี?”
ใบหน้าสดสวยเต็มไปด้วยคำถาม มิได้รู้ว่าไปเป็ภรรยาของเขาตอนไหนอย่างไร จำได้ว่าสตรีปีศาจมากหน้าหลายตาคัดสรรมาด้วยฝีมือของผู้าุโ มารอให้เขาชื่นชมความงาม เขากลับสนใจเพียงปักษา นางคิดว่าเขากำลังจะเลือกสรรภรรยาเป็หนึ่งในปีศาจ จากนั้นเขาก็กัดนาง...
“ว่าด้วยเื่เวทวิชาของาาจิ้งจอกโบราณ ข้ายังไม่ได้บอกเ้า การกัดภรรยานับเป็ถ่ายทอดพลังให้กับนาง ต่อไปนี้เ้าคือภรรยา พลังของข้าส่วนหนึ่งไหลเวียนอยู่ในร่างของเ้า เ้าจะมีเก้าชีวิต เช่นเดียวกับจิ้งจอกเก้าหาง...”
ใครเล่าจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน นางจ้องมองใบหน้าราบเรียบเ็าเพื่อค้นหาบางสิ่ง เกิดความคิดโง่เง่าขึ้นมาว่าเขาเกือบปลิดชีพนางด้วยพิษจากเขี้ยวคมที่ฝังลงบนเนื้อ จึงก้มหน้าลงมองบนบ่าแดงช้ำเป็รูคมเขี้ยว ปรากฏอักขระประหลาดบนบ่า ด้วยลักษณะคล้ายหางจิ้งจอกทั้งเก้า นางยกมือขึ้นลูบคอ ไม่พบร่องรอยเล็บคมที่เคยฝังลงในเนื้อนางถึงสองครา
“ในเมื่อข้าได้เลือกภรรยาของข้าแล้ว เ้าควรอยู่ข้างกายข้าทุกชั่วยาม ไม่คลาดห่างกันไป นี่เป็เื่สำคัญกับข้าและเ้าเป็อย่างมาก เ้าปักษาของข้า... เ้าตาย ข้าตาย... เ้าเข้าใจที่ข้าบอกเ้าหรือไม่?”
จือจือเบิกตากว้างใหน้าตาเหลอหลา หากพอสามีจิ้งจอกเอียงคอเป็นัยว่าเขาเอ่ยคำถามต่อนาง นางก็รีบตอบ “ข้าทราบแล้วเ้าค่ะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้