เมิ่งอู่ยกนิ้วแตะริมฝีปากเป็เชิงส่งสัญญาณให้อินเหิงเงียบ จากนั้นนางจึงแอบย่องออกไปข้างนอก กรองยาสมุนไพรที่อุ่นไว้บนเตายา ก่อนยกเข้ามาในห้องให้อินเหิงดื่ม
นางมองอินเหิงดื่มยา ยิ้มตาหยีพินิจ รู้สึกพึงพอใจเกินบรรยาย
ความรู้สึกนั้นประหนึ่งเลี้ยงดูลูกเจี๊ยบอย่างขยันขันแข็ง มองดูมันเติบโตแข็งแรงขึ้น จากนั้น… มันก็ออกไข่ให้นางกินทุกวัน
ชามยาบดบังเสี้ยวหน้าด้านข้างของอินเหิง เขาดื่มยาไปพลางเลิกคิ้วเล็กน้อยไปพลาง
เพื่อไม่รบกวนนางเซี่ยจนตื่น เมิ่งอู่ทำได้เพียงต้องขยับเข้าใกล้อินเหิง ถามเสียงเบา "ขมหรือไม่? จะกินแกนข้าวฟ่างสักสองก้านหรือไม่?"
อินเหิงหลุบตามองนาง นางแบฝ่ามือออก เผยแกนข้าวฟ่างขาวสะอาดตาสองก้าน
อินเหิงก้มลงงับแกนข้าวฟ่างในมือเมิ่งอู่หนึ่งก้าน แล้วหยิบอีกก้านจ่อริมฝีปากนาง
ทั้งสองคนเคี้ยวแกนข้าวฟ่างลิ้มรสน้ำหวานเงียบๆ ให้ความรู้สึกกลมกลืนเป็หนึ่งเดียวกันอย่างอธิบายไม่ถูก
เมิ่งอู่คายกากที่เคี้ยวหมดแล้วออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนกวาดตามองทั่วร่างของอินเหิงอีกครา แล้วเอื้อมมือไปััขาของเขา
อินเหิงให้ความร่วมมือยินยอมให้นางััแต่โดยดี
นางไม่คิดจะเอาเปรียบเขา แต่ต้องยอมรับว่ารู้สึกดีมากเมื่อได้แตะต้องเขา
แม้ขาของเขาจะหัก แต่สองขาเรียวยาวงามจับใจ
เมิ่งอู่ลูบไล้จากต้นขาของเขาลงมาตรงๆ และราบรื่น พยายามัักระดูกขาของเขา ก่อนหยุดอยู่ที่หัวเข่าเนิ่นนาน แล้วค่อยเลื่อนลงไปััน่อง
นางบีบน่องของอินเหิงไปพลางถามเขาไปพลาง "รู้สึกบ้างหรือไม่?"
ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมาก ยามเขาพูดลมหายใจอ่อนโยนรินรดใบหูนาง เขาเอ่ยเสียงต่ำ "รู้สึก"
ใบหน้าของเมิ่งอู่ยามเอาจริงเอาจังมักไร้รอยยิ้มเหมือนเคย กลับสุขุมเยือกเย็น นางหลุบตาลงมอง แสงจันทร์พาดผ่านรูม่านตาของนางกึ่งหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะแบ่งแยกเป็สองสีแตกต่าง
เมิ่งอู่เอ่ยเสียงเบา “ไม่ว่าจะเ็ปหรืออันใดก็ตาม การที่เ้ารู้สึกนับว่าเป็เื่ดี แสดงว่ากระดูกของเ้าหัก แต่เส้นประสาทไม่น่าจะขาด ตราบใดที่เส้นประสาทไม่มีปัญหา ย่อมมีโอกาสฟื้นตัวเป็ปกติ”
เมิ่งอู่คลำเข่าของเขาช้าๆ ครู่หนึ่ง แล้วกล่าว "เ้าอดทนหน่อยนะ"
อินเหิงไม่ส่งเสียงใด แน่นอนว่าเมิ่งอู่ย่อมรู้ดีว่าเขาอดทนได้มากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า
เมิ่งอู่กล่าวกับเขาอย่างละเอียด "ยามนี้ข้ายังไม่มีหนทางรักษาขาของเ้า ยาหายากนัก ตัวข้าเองก็ไม่มีแม้แต่เข็มเงิน ได้แต่รอให้าแภายนอกของเ้าดีขึ้นก่อน จากนั้นค่อยรักษาขั้นต่อไป”
นางกล่าวไปตั้งมากมาย แต่กลับไม่ได้ยินคำตอบรับจากอินเหิง จึงเงยหน้ามองเขา
เพียงแต่ความสนใจทั้งหมดของนางอยู่ที่ขาของเขา จึงมองข้ามระยะห่างระหว่างทั้งสองคนไปชั่วขณะ ทันทีที่นางเงยหน้า อินเหิงไม่ทันเบี่ยงข้าง ริมฝีปากของนางจึงเฉียดผ่านเรียวปากของเขาอย่างไม่ทันระวัง
ลมหายใจพัวพันเกี่ยวกระหวัด ทั้งคู่ต่างตกตะลึง
จากนั้นทั้งสองคนมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วมาก อินเหิงถอยหลังเล็กน้อยโดยไม่ทิ้งร่องรอย รอยยิ้มเ้าเล่ห์นิดๆ ที่คุ้นเคยกระจายทั่ววงหน้าของเมิ่งอู่อีกครั้ง นางหัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าว “เ้าไม่จำเป็ต้องอาย อย่างไรข้าก็เคยจูบเ้าแล้ว”
อินเหิงหลุบตามองนาง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเมิ่งอู่ถึงรู้สึกว่าั์ตาของเขามีพลังที่มองไม่เห็นชวนให้คนลุ่มหลง เขาถาม "เ้าคิดว่าข้าอายหรือ?"
เมิ่งอู่ใจเต้นรัวแรง ย้อนถามว่า "เป็ข้าที่อายอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นเหตุใดเมื่อครู่ตอนข้าพูดกับเ้า เ้าถึงไม่ตอบข้าเล่า?"
อินเหิงกล่าว "เ้าเป็หัวหน้าครอบครัว ล้วนฟังเ้า"
ก่อนที่เมิ่งอู่จะกลับไปนอน ก็นึกอะไรได้ นางซักไซ้เขาอีก "จริงสิ เ้าชื่ออะไร?"
อินเหิงขบคิดชั่วครู่ค่อยกล่าว "หวังสิง"
นึกไม่ถึงว่าเมิ่งอู่จะกลับมาเป็ผู้รู้อีกครา นางถามมั่วซั่ว "หวังแบบเหล่าหวังที่อยู่ข้างบ้านใช่หรือไม่? สิงจากสิงเทียน [1] หรือสิงจากคำที่หมายถึงรูปร่าง?"
อินเหิงเหลือบมองนางแวบหนึ่ง จากนั้นจึงจับมือของนางเขียนอักษรสองตัว “หวังสิง” ลงบนฝ่ามือนางทีละขีดๆ
เมิ่งอู่พลันเข้าใจ กล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็สองตัวอักษรนี้ รวมกันแล้วไม่ใช่ตัวอักษร ‘เหิง’ [2] หรือ? เช่นนั้นต่อไปข้าจะเรียกเ้าว่าอาเหิง ชื่อนี้ฟังแล้วไพเราะกว่าอาสิง เสี่ยวสิง หรือสิงสิง ที่สำคัญคือไว้แยกคนของตัวเองออกจากคนนอก”
อินเหิงกระแอมกระไอก่อนเอ่ยเสียงต่ำ “เ้าช่างจับพลัดจับผลูจริงๆ”
เมิ่งอู่ "เ้าว่ากระไรนะ?"
อินเหิง "ข้าบอกว่าดีมาก"
เมิ่งอู่ยิ้มตาหยีก่อนกล่าว "อาเหิง นอนเร็วหน่อย"
อินเหิงขานรับอย่างคล้อยตาม "เ้าก็นอนเร็วเข้าเถิด"
จากนั้นเมิ่งอู่ก็ค่อยๆ ปีนกลับไปนอนบนเตียงฝั่งนางเซี่ยเงียบๆ
ภายในห้องเงียบสงบตลอดทั้งคืน แสงจันทร์ขาวนวลสาดกระทบบานหน้าต่าง ทิ้งไว้เพียงความเงียบและเยือกเย็นที่ปกคลุมพื้นดิน
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เสียงหวีดแหลมของนางเหอก็ดังไกลถึงครึ่งหมู่บ้าน ร่ำไห้คร่ำครวญว่าตนประสบคราวเคราะห์ไปพลาง ด่าทอหยาบคายระคายหูไปพลาง
……….
[1] สิงเทียน เป็ั์ไร้นามตนหนึ่งที่ต่อสู้กับหวงตี้เพื่อชิงตำแหน่งเทพ และถูกตัดหัว เมื่อมองไม่เห็น จึงใช้หัวนมเป็ดวงตาและใช้สะดือเป็ปากแทน แล้วต่อสู้กับหวงตี้ต่อไป
[2] เมื่อรวมคำว่าหวัง (王) กับสิง (行) แล้วจะกลายเป็เหิง (珩)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้