ทันใดนั้น คนสกุลหลี่ถูกคลื่นพลังจากหมัดพยัคฆ์ ซัดลอยออกไปไกลสองเมตร พรวด โลหิตสีแดงสดไหลออกจากปาก ส่วนอีกคนก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา บนตัวปรากฏรอยโลหิตจำนวนมาก สองคนเหลือลมหายใจรวยริน หลงเหยียนยืนอยู่ตรงกลาง สุดท้ายตำราหมัดสะท้านปฐีหล่นมาที่เท้าหลงเหยียน
“ไอ้หนุ่ม รีบมอบตำราให้ข้าเร็ว!”
“เ้ากล้าหรือ มันควรเป็ของข้าถึงจะถูก ไม่อย่างนั้น ข้าจะฆ่าเ้าซะ”
พวกเขาทั้งสองกัดฟันกรอด ทว่าหลงเหยียนในตอนนี้ประกายรอยยิ้มที่มุมปากมองพวกเขา จากนั้นก็ยื่นมือไปเก็บตำราหมัดสะท้านปฐีแล้วเก็บไว้ในถุงผ้าเฉียนคุนอีกครั้ง
“ไอ้หนุ่ม นี่เ้ากล้าดีอย่างไร กล้าหลอกเราหรือ…”
หลงเหยียนสบถเสียง “ควายกับหมู หากข้าไม่หลอกพวกเ้าแล้วจะหลอกใครเล่า?”
“เ้าว่าอะไรนะ?” ทันทีที่ได้ยิน พวกเขาสองคนก็ะเิโมโหทันที นึกไม่ถึงว่าชายหน้าตาใสซื่อ สุดท้ายจะทำให้พวกเขาทั้งสองบันดาลโทสะ ต่อให้ตอนนี้พวกเขาาเ็ก็ต้องสังหารชายหนุ่มคนนี้ให้ได้
พวกเขาพุ่งเข้ามาหาหลงเหยียนอย่างบ้าคลั่ง…
หลงเหยียนอมยิ้ม “ดูเหมือนถึงเวลาที่ข้าควรสร้างความประหลาดใจแก่พวกเ้าแล้ว! จิตใจคนช่างชั่วร้าย ดูเหมือนพวกเ้าต้องเรียนรู้อีกเยอะ!”
หลงเหยียนรวบรวมพลังปราณไว้ที่ฝ่ามืออย่างรวดเร็ว ข้างหนึ่งคือหมัดสายฟ้าแปดทิศ อีกข้างคือหมัดมายา ทั้งสองพุ่งเข้าไปปะทะกลางอกพวกเขาสองคน
แรงโจมตีที่รุนแรงทำให้ร่างพวกเขาทั้งสองกระแทกกับหินที่อยู่ทั้งสองด้าน โลหิตสาดกระจายเสียงดังพรวดๆ คนสกุลหลี่สิ้นลมหายใจทันที!
“อะไรนะ?” อีกคนที่เหลือมองหลงเหยียนด้วยความใ เขานึกไม่ถึงว่าหลงเหยียนที่มีพลังระดับเพียงชีพัขั้นที่เจ็ดกลับสามารถใช้พลังโจมตีรุนแรงเช่นนี้ได้ อีกทั้งพละกำลังยังเหนือกว่าพวกเขาที่มีพลังชีพัขั้นที่แปด
เขามองหลงเหยียนด้วยความใ ตอนแรกร่างกายาเ็หนักอยู่แล้ว ครั้งนี้ต่อให้ไม่ตายก็หมดกำลัง
เขาพูดด้วยความใ “เ้า เ้าเป็ใครกันแน่? เหตุใด เหตุใดเ้าถึงมีพละกำลังแกร่งเพียงนี้”
ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงตอนที่หลงเหยียนเพิ่งเข้ามาในถ้ำ เขาอธิบายตัวเองสั้นๆ ‘เสี่ยวเหยียน หรือจะเรียกว่าเสี่ยวหลงก็ได้?’
คล้ายในความคิดของเขาะเิ เหงื่อไหลท่วมตัว นึกถึงน้ำเสียงในการแนะนำตัวของหลงเหยียนอีกครั้ง เขามาจากเมืองั ทั้งยังมีชื่อว่าเสี่ยวเหยียน?
“หลงเหยียน? เ้า เ้าคือหลงเหยียน หนุ่มอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในตระกูลหลง ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน พลังเลื่อนขึ้นจากขั้นที่หนึ่งถึงขั้นที่เจ็ดงั้นหรือ?”
หลงเหยียนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้าไม่เคยปิดบังชื่อตัวเอง ข้าชื่อหลงเหยียน”
“อะไรนะ? นี่ นี่เ้าจริงหรือ…” บุรุษผู้นั้นล้มลงบนพื้นอย่างหมดแรง เขารู้ดีว่าหลงเหยียนสามารถสังหารเซียวกงเป้าที่มีพลังขั้นที่เก้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาเลย
“อย่า อย่าฆ่าข้านะ ข้า ข้าจะมอบของพวกนี้ให้เ้า ของพวกนี้ ข้าขโมยมาจากตระกูลใหญ่ที่อื่น!”
หลงเหยียนสบถเสียงเย็นเยียบ “ท่องพเนจรอยู่ด้านนอก จิตใจคนชั่วร้าย ฆ่าชิงทรัพย์ นี่เป็สิ่งที่เ้าสอนข้าเองนะ” ขณะที่พูด ในมือหลงเหยียนก็ปรากฏกริชเล่มหนึ่ง มันคือมีดเงาโลหิต
เมื่อเขาหันไปมองแผ่นเหล็กที่ส่องแสงเยือกเย็นในมือเขา หลงเหยียนก็ยื่นมือไปรับไว้ มันให้ความรู้สึกเย็นอย่างอธิบายไม่ได้
“นี่คืออะไร?”
“ข้า ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าขโมยมันมาจากตระกูลหยางแห่งเมืองฮวงหยาง ไม่รู้ว่ามันมีความลับอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า เพราะพวกเขาเฝ้าของชิ้นนี้ดีเป็พิเศษ”
หลงเหยียนสงบอารมณ์ เรียกราชสีห์หิรัณย์ออกมาจากถุงผ้าเฉียนคุน…
“สิงโตน้อย เ้ารู้จักแผ่นเหล็กชิ้นนี้หรือไม่?”
แผ่นเหล็กนั้นมีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ กว้างสองนิ้ว ทว่าลวดลายบนนั้นชัดเจนมาก คล้ายเป็ภาพวาดลับบางอย่าง ในนั้นยังหลอมไปด้วยพลังที่สามารถขับเคลื่อนได้ราวกับมีพลังที่แข็งแกร่งอยู่ในนั้น
ราชสีห์หิรัณย์มองอยู่นาน สุดท้ายก็พูดขึ้น “มัน มันเหมือนภาพวาดใหญ่ที่หลุดออกมาแค่บางส่วน ทว่าข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร”
หลงเหยียนเก็บมันไว้ในถุงผ้าเฉียนคุน “ไม่สนแล้ว ไม่แน่ อีกหน่อยอาจมีโอกาสรู้ก็ได้ หมู่บ้านฮวงหยางหรือ? ไว้มีโอกาสข้าจะลองไปดูสักหน่อย”
ตอนนี้สีหน้าของราชสีห์หิรัณย์กลับมาเป็ปกติแล้ว คาดว่ามันคงหลอมต้นหิมะแปดทิศเข้าไปช่วยอาการาเ็แล้ว
หลงเหยียนมองคนที่อยู่บนพื้น ใบหน้าไร้อารมณ์ เก็บมีดเงาโลหิตไว้กลางมือ
“เ้าว่าข้าจะปล่อยเ้าไปหรือฆ่าเ้าดีเล่า ก่อนหน้านี้ พวกเ้าสองพี่น้องยังอยากทำร้ายข้าอยู่เลย?”
“ไม่ๆ นายน้อยหลงเหยียน ท่านจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ ขอร้องท่าน อย่าฆ่าข้าเลย ข้ามีตาหามีแววไม่ ข้ารับรองว่าหลังจากนี้จะกลับตัวเป็คนดี ข้า…”
“เ้าไปเป็ผีที่ดีก็แล้วกัน” หลงเหยียนยื่นมือไปบีบคอเขา สีหน้าและท่าทางดูเืเย็นอย่างยิ่ง เขาค่อยๆ หลับตาลง แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ตอนที่เขาดิ้นรนเป็ครั้งสุดท้าย แม้แต่ราชสีห์หิรัณย์ยังรู้สึกลืมไม่ลง
“สิงโตน้อย เ้าคงคิดว่าข้าโหดร้ายมากใช่หรือไม่ ก่อนหน้านี้ เมืองัมีประกาศแปะไปทั่วเมือง บอกว่าผู้นำหมู่บ้านกำลังตามตัว พวกเขาทั้งสองฆ่าชิงทรัพย์ ข่มเหงสตรี บอกได้ว่าทำแต่เื่ชั่ว คนเช่นนี้ เก็บเอาไว้ก็มีแต่จะทำร้ายผู้อื่น เหมือนอย่างสุนัขนั่นละ สุดท้ายแล้ว สุนัขก็เลิกกินอุจจาระไม่ได้”
ขณะที่พูด หลงเหยียนก็เก็บทรัพย์สินของสองคนนั้นไว้ในถุงผ้าเฉียนคุนก่อนจะยิ้มร้ายๆ ของพวกนั้นมีมูลค่ามากถึงหมื่นตำลึงเชียว
ราชสีห์หิรัณย์ได้ยินคำนี้ ใจก็กระตุกวูบทันที “พี่เหยียน วางใจเถิด ข้าติดตามท่าน ข้ารู้จักวิถีการดำรงชีวิตของผู้คนหลายอย่าง เมื่อก่อนข้าทำร้ายคนมากมาย ทั้งยังกินไปไม่น้อย ทว่า…”
หลงเหยียนปล่อยพลังปราณออกไป ดึงวงล้อมสมดุลที่อยู่บนคอราชสีห์หิรัณย์ “ทว่าหลังจากเจอข้า เ้าก็ไม่เคยทำเช่นนั้นอีกแล้ว เ้าจะพูดแบบนี้ใช่ไหม คนเราก็มีทั้งดีและชั่ว ข้าไม่กล้าบอกว่าตัวเองเป็คนดี ทว่าข้าก็ไม่ใช่คนชั่วร้าย อย่างน้อยข้าก็ไม่เคยทำร้ายคนดี ครอบครัวมีผลต่อจิตใจนัก เราเติบโตในสภาพแวดล้อมแบบใด จิตใจก็จะกลายเป็แบบนั้น”
เมื่อหลงเหยียนพูดจบ เขาก็เดินไปที่ปากถ้ำก่อนจะะโตัวลอยออกไป
ราชสีห์หิรัณย์ส่ายหน้าเบาๆ “พี่เหยียน ท่านอายุสิบหกเอง กลับมีนิสัยโตเกินวัย ดูเหมือนเมื่อก่อนท่านต้องผ่านเื่ราวมากมาย วางใจเถิด มีข้าอยู่ข้างกาย ข้าต้องทำให้ดีที่สุด”
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ราชสีห์หิรัณย์ก็คำรามเสียงต่ำ มองศพคนชั่วที่อยู่บนพื้นแล้วอ้าปากกินคำละคน กลืนทั้งสองศพเข้าท้อง จะปล่อยทรัพยากรให้สูญเปล่าไม่ได้ หลังจากนั้นมันจึงเดินตามหลงเหยียนออกไป
อีกประมาณสองชั่วยามฟ้าก็สว่างแล้ว เวลานี้ ความรู้สึกของหลงเหยียนก็หมองหม่นลงเรื่อยๆ เป้าหมายเดียวในตอนนี้ก็คือใช้เวลาเพิ่มพลังปราณ รวมทั้งต้องช่วยสิงโตน้องสั่งสมพละกำลัง เลื่อนระดับพลังด้วย
นี่คือวิธีเดียวที่เขาจะปลดผนึกบนกระบี่สังหารัได้ ไม่ว่ากระบี่จะถูกผนึกด้วยพลังอะไร ทว่าหลงเหยียนก็ต้องสืบให้กระจ่าง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สบายใจ
หลังจากเดินไปอีก่หนึ่ง หลงเหยียนก็รักษาระยะห่างจากปีศาจอสูร ทันใดนั้น เขายื่นมือไปขวางราชสีห์หิรัณย์
“สิงโตน้อย เ้าััได้ไหม ดูเหมือนข้างหน้ามีปีศาจที่แกร่งยิ่งนัก เหมือนมันอยู่เพียงลำพัง”
เมื่อพบเช่นนั้น หลงเหยียนก็รู้สึกดีใจมาก
“เร็ว เรารีบตามไปเร็ว หากปล่อยให้มันหนีไปได้ ประสาทการรับรู้ของพลังิญญาข้าก็ไม่มีทางแกร่งขึ้น ข้าคิดว่าอย่างน้อยปีศาจอสูรตัวนั้นก็ต้องอยู่ระดับทองคำขั้นที่แปดแน่”
--------------------