หลังจากผ่านการเดินทางอันยาวนานและเหน็ดเหนื่อยหลายวัน ในที่สุดเกาเฟยฉีและโจวฟางเซียนก็มาถึงชายแดนอันเป็ที่ตั้งของจวนแม่ทัพ จวนหลังใหญ่ที่เคยดูเรียบง่าย บัดนี้ถูกประดับประดาด้วยผ้าสีแดงสดสะดุดตา ตัดกับสีเขียวขจีของต้นไม้โดยรอบ ราวกับกำลังเฉลิมฉลองการมาถึงของนายหญิงคนใหม่
ทันทีที่เกาเฟยฉีควบม้าเข้าไปในเขตจวน สตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งก็รีบวิ่งออกมาต้อนรับด้วยความดีใจ ใบหน้าของนางเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี
"อาฉี เ้ากลับมาแล้ว!" สตรีผู้นั้นคือเกาฮูหยิน มารดาของเกาเฟยฉี นางมองไปที่โจวฟางเซียนที่นั่งอยู่บนหลังม้าด้วยสายตาเป็ห่วง "องค์หญิงเป็อย่างไรบ้างเพคะ เหนื่อยหรือไม่ เ้าลูกชายตัวดี เหตุใดจึงบ้าบิ่นพาองค์หญิงควบม้ามาเช่นนี้" เกาฮูหยินพูดจบก็ฟาดแขนลูกชายเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว
โจวฟางเซียนหัวเราะคิกคักก่อนจะพูดขึ้น "ท่านแม่ ต่อไปนี้ท่านเป็ท่านแม่ของข้าแล้ว ไม่ต้องเรียกข้าว่าองค์หญิงหรอกเ้าค่ะ เรียกข้าว่าเซียนเอ๋อร์ก็พอ ข้าไม่เหนื่อยเลยเ้าค่ะ" นางพูดจบก็รีบลงจากหลังม้าแล้วเข้าไปกอดแขนเกาฮูหยินอย่างออดอ้อน
เกาฮูหยินยิ้มรับอย่างเอ็นดู นางลูบหัวโจวฟางเซียนเบาๆ "เซียนเอ๋อร์ เ้าช่างน่ารักจริงๆ"
เกาเฟยฉีมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ เขาดีใจที่มารดาของเขาและโจวฟางเซียนเข้ากันได้ดีเช่นนี้
"ท่านแม่ ข้าพาเซียนเอ๋อร์ไปพักผ่อนก่อนนะขอรับ" เกาเฟยฉีบอกมารดา
"ได้สิ ไปเถอะ พวกเ้าคงเหนื่อยกันมากแล้ว" เกาฮูหยินตอบ
หลังจากพักผ่อนจนหายเหนื่อยจากการเดินทางอันยาวนาน เหล่าบ่าวไพร่ต่างช่วยกันเตรียมงานพิธีไหว้ฟ้าดิน ซึ่งเป็ธรรมเนียมสำคัญในการเริ่มต้นชีวิตคู่ของบ่าวสาว
เมื่อถึงเวลาอันเป็มงคล เกาเฟยฉีและโจวฟางเซียนในชุดแต่งงานเต็มยศ ก็เดินเคียงข้างกันมายังลานกว้างที่จัดเตรียมไว้สำหรับพิธี เหล่าญาติผู้ใหญ่ของเ้าบ่าวต่างมาร่วมเป็สักขีพยาน
เกาเฟยฉีและโจวฟางเซียนคุกเข่าลงเบื้องหน้าแท่นบูชา จุดธูปเทียนและกล่าวคำปฏิญาณต่อฟ้าดิน ขอให้ชีวิตคู่ของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข ความรัก และความเข้าใจกัน
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีไหว้ฟ้าดิน บ่าวสาวก็ถูกส่งตัวเข้าหอ ห้องหอถูกประดับประดาอย่างสวยงามด้วยผ้าไหมสีแดงและทองอร่าม สื่อถึงความโชคดีและความเจริญรุ่งเรือง
ภายในห้องหอที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ผสมกับกำยาน เกาเฟยฉียืนอยู่เบื้องหน้าโจวฟางเซียนที่ยังคงนั่งสงบนิ่งอยู่บนเตียง ก่อนจะค่อยๆ ยกผ้าคลุมหน้าสีแดงขึ้นเผยให้เห็นใบหน้างดงามของหญิงสาว
โจวฟางเซียนเงยหน้าขึ้นสบตาเขา แววตาของนางเต็มไปด้วยความประหม่าและหวั่นไหวเล็กน้อย
เกาเฟยฉียิ้มให้โจวฟางเซียนอย่างอบอุ่น ก่อนจะยกจอกสุรามงคลขึ้นมา "จงดื่มสุรานี้เพื่อเป็การเริ่มต้นชีวิตคู่ของเรา"
ทั้งสองคนจิบสุรามงคลร่วมกัน รสชาติหวานอมขมของสุรามงคลนี้เปรียบเหมือนของชีวิตคู่ของพวกเขาที่จะต้องพบเจอกับทั้งสุขและทุกข์
เกาเฟยฉีหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดปอยผมของตนเองและของโจวฟางเซียนอย่างเบามือ ก่อนจะนำปอยผมทั้งสองมาผูกเข้าด้วยกันอย่างแ่เบา "นี่คือพิธีผูกผม เป็สัญลักษณ์ของการรวมเป็หนึ่งเดียวของเราสองคน"
"เซียนเอ๋อร์ ยามนี้เ้าอาจจะยังไม่เปิดใจให้ข้ามากนัก แต่ยามนี้เราเป็สามีภรรยากันแล้ว ข้าให้สัญญาว่าจะดูแลเ้าเป็อย่างดี"
โจวฟางเซียนพยักหน้ารับ แม้ในใจจะรู้ดีว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่นางก็ยังคงมีความหวังเล็กๆ ว่าสักวันหนึ่งนางจะสามารถรักกับเกาเฟยฉีได้ หรืออย่างน้อยที่สุด นางก็หวังว่าจะสามารถใช้ชีวิตคู่กับเขาได้อย่างสงบสุข
เกาเฟยฉีค่อยๆ โน้มตัวเข้าหาโจวฟางเซียน เขาวางมือลงบนแก้มนวลของนางอย่างแ่เบา ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปจูบที่ริมฝีปากของนางอย่างนุ่มนวล
โจวฟางเซียนใเล็กน้อย นางไม่เคยถูกชายใดแตะต้องมาก่อน แต่ััของเกาเฟยฉีกลับทำให้หัวใจของนางเต้นแรงอย่างประหลาด ริมฝีปากของเขาอ่อนนุ่มและอบอุ่น ัันั้นช่างแตกต่างจากที่นางเคยจินตนาการไว้ นางค่อยๆ หลับตาลงและตอบรับััของเขาอย่างแ่เบา
เกาเฟยฉีรู้สึกถึงความหวานละมุนจากริมฝีปากของโจวฟางเซียน เขาค่อยๆ ถอดชุดแต่งงานของนางออกทีละชิ้นอย่างเบามือ เผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าเนื้อดี เขาจูบไล้ไปตามผิวเนียนของนางอย่างทะนุถนอม ทำให้นางรู้สึกวาบหวามไปทั้งตัว
โจวฟางเซียนเองก็เริ่มตอบสนองต่อััของเกาเฟยฉี นางโอบกอดเขาไว้แน่น ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน ราวกับว่าพวกเขาเป็หนึ่งเดียว ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยััมาก่อน ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสุขอย่างประหลาด
เกาเฟยฉีค่อยๆ บรรจงสำรวจเรือนร่างของโจวฟางเซียนด้วยความทะนุถนอม เขาจูบไล้ไปทั่วทั้งตัวของนาง ทำให้นางครางออกมาด้วยความสุข ััของเขาช่างอ่อนโยนและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน ทำให้นางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังละลายอยู่ในอ้อมกอดของเขา
โจวฟางเซียนเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าร่างกายของนางจะตอบสนองต่อััของชายหนุ่มได้มากมายขนาดนี้ นางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงแห่งความสุข ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังเอ่อล้นในใจของนาง
เกาเฟยฉีค่อยๆ เข้าหานางอย่างแ่เบา เขาเป็ห่วงว่านี่เป็ครั้งแรกของนาง เขาจึงพยายามเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้
โจวฟางเซียนรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในตอนแรก แต่ความเ็ปนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความสุขอย่างรวดเร็ว นางโอบกอดเกาเฟยฉีแน่นขึ้นเรื่อยๆ นางไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป นางปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา
เกาเฟยฉีเองก็รู้สึกถึงความสุขอย่างท่วมท้น เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าการได้เป็หนึ่งเดียวกับผู้หญิงที่เขาแอบหลงรักจะเป็ความรู้สึกที่ดีได้ถึงเพียงนี้ เขารักโจวฟางเซียนมากขึ้นในทุกขณะที่ผ่านไป
ทั้งสองคนร่วมรักกันอย่างดูดดื่มตลอดทั้งคืน พวกเขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ รู้เพียงแค่ว่าพวกเขา้ากันและกันมากแค่ไหน ร่างกายและจิติญญาของทั้งสองหลอมรวมเป็หนึ่งเดียว ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาอย่างอบอุ่น
เมื่อแสงแรกของวันใหม่สาดส่องเข้ามาในห้อง ทั้งสองคนยังคงนอนกอดกันกลมบนเตียง เกาเฟยฉีมองใบหน้าอันงดงามของโจวฟางเซียนที่กำลังหลับใหล เขายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากของนางเบาๆ
"ข้ารักเ้า เซียนเอ๋อร์ ไม่ว่าเ้าจะจำข้าได้หรือไม่ก็ตาม" เขาพึมพำ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้